หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 69 ไปนอนในหลุมไป

บทที่ 69 ไปนอนในหลุมไป

บทที่ 69 ไปนอนในหลุมไป

หากเป็นแบบในหนัง ยมทูตหน้าขาว-หน้าดำคือเจ้าหน้าที่มารับวิญญาณไป

ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็สู้ยายเมิ่งไม่ได้

แต่ว่าที่ดูในตอนนี้ ทำไมเหมือนจะเหนือกว่ายายเมิ่งอีก?

“นี่ จื่อซี สองคนนั้นคือยมทูตหน้าขาว-หน้าดำใช่ไหม?”

“พวกเขาคือผู้กระชากวิญญาณของยิงจวน ยมทูตหน้าขาว-หน้าดำ พวกเขาคือนักฆ่าที่แท้จริงของยิงจวน พวกก่อนหน้านี้กับยายเมิ่ง ก็แค่ตัวประกอบของทางยิงจวนเท่านั้นแหละ ส่วนพวกเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของยิงจวน ฝีมือของเขาเหี้ยมโหด เทียบกับยายเมิ่งแล้วพวกเขาเหนือกว่ามาก”

เมื่อพวกเขาสองคนปรากฏตัว จื่อซีก็เกร็งขึ้นมา

เขาเอาเสียมปักลงบนดินทราบ แล้วชักกระบี่ออกมา เขาจ้องไปทางเจ้านายของเขาอย่างเคร่งเครียด

“จื่อซี คำพูดของเจ้าข้าฟังไม่ค่อยเข้าใจ เจ้าอย่าบอกนะว่าคนอย่างยายเมิ่งไม่ได้มีแค่คนเดียว ไม่อย่างนั้นข้าจะเชือดเจ้าซะ”

“รอบเมืองหลวงมีแค่คนเดียว แต่ทั่วทั้งประเทศก่วงส้าถูกยิงจวนแบ่งเป็นหลายพื้นที่ อีกทั้งทั่วทั้งแผ่นดินยังถูกแบ่งออกไปด้วย ทุกพื้นที่จะมียายเมิ่งหนึ่งคน ดังนั้น ยายเมิ่งมีหลายคน พวกนางต่างมีจุดเด่นที่เหมือนกัน ผมสีขาวยุ่งเหยิง อีกทั้งหลังค่อม ดูแก่และประหลาด”

พอพูดมาแบบนี้ ……

ก่อนหน้านี้ที่นางใช้ระเบิดมือทำให้มึนงง ก็ฆ่าไปแค่คนเดียวอย่างนั้นเหรอ?

โอ้ย

ต้องโทษฮัวหยู่อัน ท่าทางเหมือนเห็นผี ยังคิดว่าเป็นตัวใหญ่ของยิงจวน

คิดไม่ถึงเลยว่ามันเหนือกว่าศพแห้งมาแค่ระดับเดียวเท่านั้น

น่าเสียดาย เสียระเบิดของนางไปลูกหนึ่งเลย

“นี่ จื่อซี เจ้ารีบคลายจุดให้ข้าเร็ว หากสู้กันขึ้นมาเจ้าจะได้ไม่ต้องมาปกป้องข้า ไม่แน่ข้าอาจจะช่วยเจ้าได้ด้วย”

จื่อซีลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วก็ส่ายหน้า

“พระชายา นายท่านไม่ได้สั่งให้ข้าคุ้มครองท่าน”

“ …… ”

คุ้มครองนางคือประเด็นหลักหรือไง?

สิ่งที่นางอยากจะบอกคือมาคลายจุดชีพจรให้นาง โธ่เอ้ย

จะรับมือกับจื่อซี นางคงต้องลงมือเองแล้ว

“จื่อซี ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้นะ หากเจ้ายังไม่คลายจุดให้ข้าอีก อีกเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้านายของเจ้าว่า เจ้าลวนลามข้า”

พอพูดแบบนี้ออกมา จื่อซีก็ตาโต แล้วรีบโบกมือแล้วพูดว่า

“พระชายาจะใส่ร้ายข้าน้อยแบบนี้ไม่ได้นะ ข้าน้อยไม่ได้เข้าไปในหลุมด้วยซ้ำ จะไปลวนลามท่านได้ยังไงกัน?

“เจ้าจะมาคลายจุดไหม? ข้านับถึงสาม หากไม่คาย ข้าจะไม่ช่วยองค์หญิงจาวหยางคอยดู หนึ่ง ……”

พอได้ยินว่านางจะไม่ช่วยองค์หญิงจาวหยาง จื่อซีก็แทบจะไม่คิดเลย เขากระโดดลงไปในหลุม แล้วคลายจุดให้กับหลานเยาเยา

“พระชายา องค์หญิงจาวหยางคือผู้หญิงคนเดียวที่สนิทกับนายท่าน เพื่อช่วยนายท่านแล้ว นางถึงได้ตกอยู่ในสภาพนั้น ท่านจะต้องช่วยรักษานางให้หายนะ นางลำบากมาก”

เอ่อ ……

ก่อนหน้านี้นางเคยคิดว่าเรื่องพิษกู่ในโหลวเย่ว น่าจะเกี่ยวข้องกับเย่แจ๋หยิ่งแน่ แต่คิดไม่ถึงว่าเป็นเพราะต้องการช่วยเย่แจ๋หยิ่ง

แต่ว่า จื่อซีเหมือนจะให้ความสำคัญกับโหลวเย่วมาก

เรื่องนี้ง่าย

“ข้าบอกเมื่อไหร่ว่าจะไม่ช่วยองค์หญิงจาวหยางกัน?” หลานเยาเยาปีนขึ้นมาจากดินทราย น้ำเสียงของนางหนักแน่นมาก

“ท่านเพิ่งจะพูด ……”

เห็นหลานเยาเยากลับคำ จื่อซีก็รีบอธิบาย

“เมื่อกี้ข้าพูดอะไรเหรอ? ข้าไม่ได้พูดอะไรเลยนะ? เจ้าเองต่างหากที่พยายามจะช่วยคลายจุดให้ข้า ข้าไม่อยากก็ปฏิเสธไม่ได้ เฮ้อ ข้าเป็นคนใจอ่อนมากเกินไป”

“ …… ”

พระชายา ท่านพูดจะพูดแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม?

จื่อซีรู้สึกว่าเขาถูกหลอกเข้าให้แล้ว

ส่วนทางเย่แจ๋หยิ่ง บรรยากาศเริ่มคุกรุ่นมากขึ้น

ถึงแม้เหล่านักฆ่าของยิงจวนแต่ละคนไม่ต่างกับศพตากแห้ง

แต่ว่า นอกจากยมทูตหน้าขาว-หน้าดำแล้ว พวกเขาแต่ละคนเมื่อเห็นเงาของเย่แจ๋หยิ่ง ก็มีแต่สายตาที่หวาดกลัว

แต่ยมทูตหน้าขาว-หน้าดำ เพราะใบหน้าทาแป้งสีขาว ซึ่งมองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขาสองคนเลย สายตาของพวกเขาก็ไม่มีคำว่าหวาดกลัวอยู่เลยด้วย

“ท่านอ๋อง ยิงจวนกับจวนอ๋องเย่ปกติไม่เคยยุ่งเกี่ยวต่อกัน ในรายชื่อยมราชมีชื่อของหลานเยาเยา นางต้องตาย ท่านอ๋องทรงมอบตัวนางออกมาเถอะ จะได้ไม่เดือดร้อนไปด้วย”

คนที่พูดก็คือยมทูตหน้าขาว น้ำเสียงของเขาดูน่ากลัวมาก ผู้ชายผู้หญิงไม่รู้ อีกทั้งยังเข้มมากด้วย

ใครจะคิด ……

เย่แจ๋หยิ่งหัวเราะ

“นางเป็นชายาของข้า หากเจ้ากล้าทำอะไรนาง ข้าก็จะให้ยิงจวนหายไปจากโลกใบนี้ซะ”

น้ำเสียงที่ดูเย็นชา แต่คนที่ตอบยังคงยืนพิงต้นไม้แบบขี้เกียจ ท่าทางนิ่งมาก

เมื่อพูดมาแบบนี้ มันทำให้ยมทูตหน้าขาว-หน้าดำถึงกับสะดุ้ง สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที

พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมอ๋องเย่ถึงได้พูดแบบนี้ออกมา?

แต่ว่าชื่อเสียงของอ๋องเย่โด่งดังไปทั่ว เขาสามารถสังหารคนอย่างเลือดเย็น ไร้ความรู้สึก กองทัพที่มีเขาเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะไปที่ใดที่นั่นเท่ากับล่มสลาย เหมือนจะไม่มีใครสามารถเป็นศัตรูของเขาได้เลย

หลานเยาเยามาถึงด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่ง พอได้ยินคำพูดของเขาก็ตกใจ

ในใจเหมือนมีอะไรมาทุบอย่างแรก นางถึงกับสะดุ้ง

ในความเป็นจริง พวกเขาไม่ได้รักกันขนาดนั้นมั้ง?

เพื่อเล่นไปตามน้ำกับเขา หลานเยาเยายื่นหัวมาที่หูของเขา เหมือนจะพูดแบบรักกันมากว่า

“หากท่านไม่ผิดต่อข้า ข้าจะยอมตายเคียงข้างท่าน”

พอพูดมาแบบนี้

เย่แจ๋หยิ่งสะดุ้ง จากนั้นก็หันไปมองนาง อดไม่ได้ที่จะใช้มือจับไปที่หน้าผาก

ไม่ผิดอย่างที่คิด

ทิ้งจื่อซีอยู่ตรงนั้นนางไม่เป็นอะไรเลย เพียงแต่นางกล่อมให้จื่อซีคลายจุดให้นางมันเร็วกว่าที่เขาคิดไว้เยอะมาก

จื่อซีที่ตามมาติด ๆ เห็นเจ้านายของตัวเองกำลังมองมาที่เขา เขาก็รีบหดหัว เหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งทำความผิดมา

“ไปนอนที่หลุมเดี๋ยวนี้”

เย่แจ๋หยิ่งพูด

เอ่อ ……

นี่มันเวลาอะไรแล้ว เขายังคิดจะฝังนางอีกเหรอ

เสียแรงเมื่อกี้นางยังตื้นตันใจอยู่เลย ขอคืนแล้วกัน

“ท่านอ๋อง ตรงนี้จะชักกระบี่หากันอยู่แล้ว ไปนอนในหลุมไม่ดีหรอก รอจัดการพวกเขาแล้ว ข้าค่อยช่วยท่านขุดหลุมอีกทีดีไหม?”

“ ……. ”

ตอนที่พูดก็พลางจับไปที่ชายเสื้อของเขา แล้วโยกไปมาเหมือนคนกำลังอ้อน

หลานเยาเยาแทบจะอยากอ้วกออกมาอยู่แล้ว

ท่าทางรักใคร่ของพวกเขามันทำให้ยมทูตหน้าขาว – หน้าดำตกใจไม่น้อยเลย

มีแต่คนบอกว่าอ๋องเย่มีนิสัยเลือดเย็น ฆ่าคนเหมือนผักปลา อีกทั้งไม่เคยสนใจเรื่องผู้หญิง

แต่ว่านี่มันเรื่องอะไรกันเนี้ย?

เพื่อหลานเยาเยาแล้วเขากลับถึงกับยอมแตกหักกับยิงจวน อีกทั้งยังดูเหมือนจะรักและเอ็นดูหลานเยาเยามากด้วย

ใช่แล้ว

สำหรับพวกเขาแล้ว อ๋องเย่ทำแบบนี้ก็คือรัก

“อ๋องเย่ ถึงแม้ท่านจะฉลาด เชี่ยวชาญการทหาร แต่น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่สนามรบ ท่านไม่มีกองทัพ มีแค่คนอีกสองคนเท่านั้น”

หลานเยาเยาถูกพวกเขามองข้ามไป

เพราะพวกเขามองออกแล้วว่า หลานเยาเยาไม่มีกำลังภายใน ต่อให้พอจะเป็นหมัดมวยอยู่บ้าง แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันไม่ได้เป็นปัญหาเลย

พวกเขาคนมากกว่า ต่อให้อ๋องเย่จะร้ายกาจมากแล้วยังไง?

ยมทูตหน้าขาว – หน้าดำก็ไม่ได้กินหญ้า ต่อให้ฆ่าอ๋องเย่ไม่ได้ แต่ก็ทำให้เขาเกือบตายได้

ดังนั้น วันนี้ยังไงหลานเยาเยาก็ต้องตาย

“อยากตาย ข้าก็ไม่ห้าม”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท