บทที่ 1434 ไม่ยอมถอยทัพ

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,434 ไม่ยอมถอยทัพ

ความรุ่งเรืองไม่มีอีกแล้ว

หรือหากจะกล่าวให้ถูกต้อง บัดนี้ ไม่มีจักรวรรดิจี้กวงอีกต่อไป

ด้วยการสิ้นพระชนม์ขององค์จักรพรรดิและการสังหารหมู่เชื้อพระวงศ์ จักรวรรดิจี้กวงจึงล่มสลายอย่างรวดเร็ว ทางองค์ชายอวี่อ่านสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปร่งตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจึงยอมถวายตัวรับใช้ราชันย์แห่งเทพพงไพร สุดท้ายจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทหารจักรวรรดิจี้กวง และเป็นสมาชิกระดับสูงคนหนึ่งในกองทัพของวิหารเทพพงไพร

องค์หญิงอวี่เค่อผู้เป็นบุตรสาวก็ติดตามมาเข้าร่วมกองทัพเช่นกัน

แม้องค์หญิงจะเกิดมามีหน้าตางดงามไร้เดียงสา ลักษณะคล้ายกับสาวสวยไร้สมอง แต่ในความเป็นจริงนั้น องค์หญิงอวี่เค่อนั้นฉลาดเฉลียวเป็นอย่างยิ่ง และนางก็คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้บิดายังคงสามารถอยู่รอดมาจนเป็นแม่ทัพใหญ่ได้ในขณะนี้

แต่สิ่งที่น่าสงสารก็คืออดีตองค์หญิงผู้สูงศักดิ์กลับต้องมาทำงานเป็นสาวรับใช้ โชคดีที่อวี่เค่อไม่ใช่บุคคลธรรมดา นางมีสติปัญญาและความทะเยอทะยานมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงมีความอดทนมากกว่าสตรีทั่วไป มิหนำซ้ำ อวี่เค่อยังทำงานเป็นสาวรับใช้ด้วยความสนุกสนานอีกด้วย

ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!

เสียงย่ำกลองระดมพลดังขึ้น

“การโจมตีกำลังจะเริ่มแล้ว”

องค์ชายอวี่มีสีหน้าเคร่งเครียด รีบลุกขึ้นเดินออกไปจากกระโจมที่พัก

กองทัพวิหารเทพพงไพรไม่ต่างไปจากเครื่องจักรสังหารขนาดใหญ่ ที่มุ่งไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายเดียวคือการกวาดล้างศัตรู

เสียงฝีเท้าย่ำบนพื้นดินดังขึ้นจากรอบทิศทาง

กองทหารเดินขบวนบนพื้นดินไม่ต่างจากฝูงมด

การรวบรวมกองทัพจากหลายจักรวรรดิได้เริ่มขึ้นแล้ว

“นี่มันอะไรกัน?”

ในขณะนี้ องค์ชายอวี่กำลังเห็นสัตว์อสูรฉุดลากชิ้นโลหะขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับเรือเหาะที่กำลังขนส่งชิ้นโลหะอีกหลายส่วน รวมไปถึงผู้มีพลังขั้นเซียนก็ทำหน้าที่เป็นพนักงานขนส่งชิ้นส่วนโลหะเช่นกัน ซึ่งชิ้นส่วนเหล่านั้นกำลังถูกนำมาประกอบรวมกันเป็น…

หุ่นเหล็กขนาดใหญ่ยักษ์ที่ต้องแหงนมองคอตั้งบ่าตัวหนึ่ง

“นี่คือหุ่นจำลองขององค์ราชา”

องค์หญิงอวี่เค่อเดินออกมาจากกระโจมพลางกล่าวว่า “ลูกได้ยินมาจากทางเบื้องบนว่า องค์ราชาอยากจะสร้างหุ่นจำลองของตนเองขึ้นมาที่ริมแม่น้ำฝั่งตะวันตก เพื่อแสดงอานุภาพของเทพเจ้าที่แท้จริง”

หุ่นจำลองขององค์ราชาแห่งวิหารเทพพงไพร?

องค์ชายอวี่หัวใจกระตุกวูบ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาอีก

ในไม่ช้า กองทัพของจักรวรรดิจี้กวงก็รวมพลเสร็จสิ้นและมุ่งหน้าสู่สนามรบ

องค์ชายอวี่สวมใส่ชุดเกราะเต็มอัตราศึก

เขาตบไหล่บุตรสาวของตนเอง คิดจะพูดอะไรบางอย่างอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็โน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูบุตรสาวว่า “หากพ่อตาย เจ้าไม่ต้องคิดแก้แค้นแทนให้พ่อ.. ถ้ามีโอกาส รีบหลบหนีไปเข้าร่วมกับกลุ่มสัมพันธมิตร ที่นั่นเจ้าจะได้ใช้สติปัญญาของตนเองอย่างแท้จริง”

องค์หญิงอวี่เค่อยิ้มกว้าง ก่อนโบกมืออำลาบิดา

แม้ใบหน้ามีรอยยิ้ม แต่ดวงตากลับมีน้ำตารื้นขึ้นมา

โลกนี้เปรียบเสมือนแม่น้ำกว้างใหญ่

ในสายธารแห่งชีวิต มีผู้ใดบ้างสามารถควบคุมโชคชะตาของตนเองได้อย่างแท้จริง?

กองทัพของจักรวรรดิระดับสูงอีกหลายแห่งเคลื่อนผ่านไป

ทุกคนต่างก็เป็นเพียงเบี้ยในมือเทพอสูรทั้งสิ้น

ในไม่ช้า แม่น้ำซินเจียงก็ถูกย้อมเป็นสีแดง

เรือรบแล่นทะยานบนผิวน้ำ นายทหารฆ่าฟันกันอย่างดุเดือด มีร่างผู้คนตกลงสู่แม่น้ำอย่างต่อเนื่อง

อสูรทะเลขนาดใหญ่ยักษ์ระเบิดเสียงคำราม ก่อนจะพุ่งตัวขึ้นมาจากใต้ผิวน้ำ ทำให้เรือรบของกองทัพวิหารเทพพงไพรคว่ำไปหลายลำ หลังจากนั้น อสูรทะเลตัวเล็กตัวน้อยก็ปรากฏตัวออกมากัดกินนายทหารผู้ตกน้ำด้วยความโหดร้ายอำมหิต

วูบ!

ผู้มีพลังขั้นเซียนของวิหารเทพพงไพรชักกระบี่ออกมาตัดหัวอสูรทะเลยักษ์ตัวนั้น…

บนท้องฟ้าก็มีการต่อสู้ของบรรดาเรือเหาะเช่นกัน

แต่จำนวนเรือเหาะของฝ่ายสัมพันธมิตรเห็นได้ชัดว่ามีน้อยกว่าฝ่ายวิหารเทพพงไพร พวกเขาจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ยอดฝีมือเหาะเหินเดินอากาศ แสดงพลังของตนเองออกมาอย่างดุดัน มวลพลังระเบิดตัวราวกับดอกไม้ไฟ แต่ผู้ที่ตกตายส่วนใหญ่กลับเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร…

เกาเฉิงฮั่นควงกระบี่ยาวฟาดฟันครั้งแล้วครั้งเล่า

สำเนียงแห่งเสียงสังหารดังขึ้นไม่หยุดยั้ง

หมอกขาวที่ปกคลุมแม่น้ำยิ่งหนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ริมน้ำฝั่งตะวันตก หุ่นโลหะขนาดใหญ่ยักษ์ประกอบเสร็จสิ้น มันมีโครงร่างและใบหน้าเป็นมนุษย์ บัดนี้กำลังยืนทะมึนอยู่ในความเงียบ รอจังหวะออกอาละวาดของตนเอง

ดวงตาของหุ่นเหล็กส่องแสงเจิดจ้า ไม่ต่างจากดวงตะวันสีเลือดสองดวงลอยอยู่บนแผ่นฟ้า กำลังจ้องมองตรงไปที่สนามรบ…

“ฆ่ามัน”

บุรุษหนุ่มผู้สวมใส่ชุดเกราะมังกรยืนอยู่บนเรือเหาะของจักรวรรดิเจิ้งหลง มือตวัดกระบี่ น้ำเสียงสั่นเครือ ร่างกายสั่นเทา…

เขากำลังหวาดกลัว

บุรุษหนุ่มเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ดุเดือดและบ้าคลั่งเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง เขาเห็นศพคนตายตกลงสู่แม่น้ำมานับไม่ถ้วน ดังนั้น บุรุษหนุ่มจึงหวาดกลัว

ข้างกายบุรุษหนุ่มผู้นี้มียอดฝีมือของจักรวรรดิเจิ้งหลงนับสิบคนทำหน้าที่เป็นองครักษ์คอยพิทักษ์ปกป้อง

ขวามือของเขายืนไว้ด้วยเด็กสาวผู้มีเขางอกออกมาจากหน้าผาก นางมีอายุประมาณ 17 – 18 ปี สวมใส่ชุดเกราะลวดลายเปลวไฟ บนผิวของนางที่ขาวเนียนไร้ตำหนิปรากฏรอยสักมังกรน่าเกรงขาม

เด็กสาวผู้นี้หน้าตางดงาม รูปร่างเย้ายวนใจ ดวงตาร้อนแรงราวกับมีเปลวไฟปะทุอยู่ในนั้น…

ณ ค่ายชาวทะเล

เหยียนอิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน จ้องมองไปยังสนามรบที่อยู่ห่างไกลออกไป

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่ชายแดนของมณฑลเฟิงอวี่ มนุษย์แผ่นดินใหญ่และชาวทะเลต้องสูญเสียกำลังพลไปเกินครึ่ง การต่อสู้ในวันนี้ บรรดาผู้คนที่ออกไปสู้รบจึงเป็นแม่ทัพนายกองระดับสูงทั้งสิ้น

สถานการณ์ไม่สู้ดี

“กราบทูลองค์หญิง… กองทัพฉลามบินถูกกวาดล้างแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“กราบทูลองค์หญิง… กองทัพดาวทะเลต้องสูญเสียกำลังพลไปเกินครึ่ง จำเป็นต้องถอยทัพกลับมาตั้งหลักพ่ะย่ะค่ะ”

“กราบทูลองค์หญิง… เก้าจอมเวทแห่งเผ่าพันธุ์เงือกตกอยู่ในอันตราย ร้องขอกำลังสนับสนุนพ่ะย่ะค่ะ”

“กราบทูลองค์หญิง… บัดนี้กองทัพวาฬทะเลหลงเหลือกำลังพลเพียงน้อยนิดพ่ะย่ะค่ะ มีผลทหารอีกหลายส่วนหายสาบสูญไม่ทราบชะตากรรม…”

“กราบทูลองค์หญิง… กองทัพฉลามดำสูญสิ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

รายงานการสู้รบนำมาซึ่งข่าวร้ายที่โต๊ะบัญชาการของเหยียนอิงตลอดเวลา

นางมีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความโกรธแค้น

“องค์หญิง หากพวกเราสู้กันต่อไป เขตแดนของชาวทะเลก็จะต้องเกิดความเสียหายแน่ ๆ” เฒ่าทะเลผู้มีผมยาวรุงรังอดรนทนไม่ไหวต้องพูดออกมา “สั่งถอยทัพเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

เหยียนอิงถามกลับไปเสียงแผ่วเบา “ถอยทัพ? ถอยไปที่ใด?”

เฒ่าทะเลตอบว่า “กลุ่มสัมพันธมิตรได้เตรียมละทิ้งนครเจาฮุยแล้ว พวกเขากำลังจะอพยพไปที่เมืองหยุนเมิ่ง อย่างน้อยเมื่อเราถอยทัพไปถึงที่นั่น กองทัพชาวทะเลก็จะได้กำลังสนับสนุนจากมหาสมุทรใหญ่ เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวลอีก…”

“เมื่อถอยทัพแล้วก็ไม่ต้องเป็นกังวลอีกหรือ? ผู้อาวุโส ท่านแก่ชราเกินไปแล้วจริง ๆ”

น้ำเสียงของเหยียนอิงบอกถึงความผิดหวังเล็กน้อย “เทพอสูรเหล่านี้สามารถฆ่าคนได้ทั้งบนบกในน้ำ ไม่ทราบว่าเมื่อเราถอยทัพแล้ว จะไม่ต้องเป็นกังวลอีกได้อย่างไร?”

“แต่อย่างน้อย เมืองหยุนเมิ่งก็มีนักพรตหญิงชิน เยว่เว่ยหยางและผู้ที่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้อีกหลายคน บางทีพวกเขาอาจจะสามารถต้านทานเทพเจ้าเหล่านี้ได้บ้าง พวกเราสูญเสียกำลังพลมากเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ…”

เฒ่าทะเลพยายามเกลี้ยกล่อม

เหยียนอิงตอบด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ต้องเสียกำลังพลไปไม่น้อยเช่นกัน”

“แต่ว่า…”

ชายชรายังคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “พวกเราคือคนที่อยู่แนวหน้า พวกเราได้รับความเสียหายมากที่สุด นับตั้งแต่ที่องค์หญิงสั่งให้ร่วมมือกับฝ่ายสัมพันธมิตร กองทัพของชาวทะเลก็ได้รับความเสียหายเรื่อยมา…”

เหยียนอิงพลันถามด้วยเสียงเย็นชาว่า “ท่านกำลังจะกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของข้าอย่างนั้นหรือ?”

เฒ่าทะเลสะดุ้งเฮือก

เหยียนอิงหัวเราะออกมาเล็กน้อย “มีเพียงผู้ที่จิตใจมั่นคงเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จได้ในท้ายที่สุด เพราะเหตุใด หลินเป่ยเฉินจึงกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของฝ่ายสัมพันธมิตร? เพราะเหตุใด นักพรตหญิงชินจึงได้ชื่อว่าเป็นความหวังสุดท้ายของแผ่นดินตงเต้า? ผู้อาวุโสลองคิดดูให้ดีเถอะ เพราะเหตุใดทหารหลายสิบหมื่นนายถึงยอมทำตามคำสั่งของพวกเขา?”

เฒ่าทะเลไม่พูดคำใด

เหยียนอิงหันหน้ามองไปทางอื่นและกล่าวด้วยเสียงเนิบนาบ “ถ่ายทอดคำสั่งออกไป ปกป้องแม่น้ำซินเจียงเอาไว้ให้นานมากที่สุด แล้วเราค่อยถอยทัพตอนพระอาทิตย์ตกดิน”

เด็กสาวกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก

เฒ่าทะเลถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เขารู้ดีว่าองค์หญิงผู้นี้ไม่ได้คิดห่วงใยชีวิตของนายทหารเลย นางไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผู้คนบนแผ่นดินใหญ่หรือชาวทะเลจะเสียชีวิตไปมากน้อยเท่าใด

สิ่งเดียวที่สำคัญต่อองค์หญิงเหยียนอิงก็คือแผนการของนางต่างหาก

แม้ว่านางจะต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน แต่เหยียนอิงก็จะไม่ยอมก้มหัวให้กับเทพอสูรเหล่านั้นเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้เอง นางจึงไม่อยากสั่งถอยทัพ

เพราะเด็กสาวกำลังหวังให้เขาผู้นั้นปรากฏตัวออกมา!

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

Status: Ongoing

หืมมม วิชานี้น่าสนใจดี แชะ ! ติ๊งง คุณได้รับแอพพลิเคชั่นวิชากระบี่ทะลวงจันทร์ ต้องการติดตั้งหรือไม่ ! ด้วยสมาร์ทโฟนในมือของเจ้าแกะดำหลิวเป่ยเฉิน ทำให้เขาสามารถผงาดบนโลกจอมยุทธ์นี้ได้อย่างง่ายดาย…. แต่ข้าไม่เอาหรอก ใครมันจะอยากอยู่โลกแบบนี้กัน YouTube ก็ไม่มี Facebook ก็เข้าไม่ได้ ข้าขอกลับโลกเดิมไปนั่งเล่นเกมในห้องแอร์เย็น ๆ ดีกว่าโว้ยยย !!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท