ตอนที่ 1,448 คุกเข่า
หุ่นเหล็กมีพลังทำลายล้างน่าหวาดกลัว
ชวนให้ผู้คนรู้สึกหมดหวัง
แม้แต่เทพอสูรก็ยังทำให้ผู้คนหวาดกลัวถึงขั้นนี้ไม่ได้
เมื่อเทียบกับพลังทำลายล้างที่มันเพิ่งแสดงออกมา แม้แต่หลินเป่ยเฉินในสภาวะที่ร่างกายสมบูรณ์พร้อมที่สุด ก็ยังไม่น่าจะรับมือหุ่นเหล็กตัวนี้ได้
แต่บางครั้งเรื่องราวที่ไร้เหตุผลก็เกิดขึ้น
แม้ว่าหลินเป่ยเฉินไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของหุ่นเหล็กตัวนี้ แต่เพียงเขาปรากฏตัวขึ้นมา ผู้คนก็รู้สึกมีความหวังแล้ว
ดังนั้น เมื่อพวกเขาเห็นหลินเป่ยเฉินยืนอยู่บนหลังคารถม้าทองคำ แม้แต่หลิงฉือก็ยังต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกโดยไม่รู้ตัว
เพราะในอดีต เด็กหนุ่มผู้นี้เคยสร้างปาฏิหาริย์มากมายนับไม่ถ้วน
เพราะเด็กหนุ่มผู้นี้ ไม่เคยทำให้ผู้คนผิดหวังมาก่อน
และเพราะว่า…
หลินเป่ยเฉินเกิดมาเพื่อเป็นผู้ชนะ!
คลื่นแรงสั่นสะเทือนที่แผ่ออกมาจากรถม้าทองคำและคมกระบี่ที่ตัดมือหุ่นเหล็กขาดกระเด็น ได้ทำให้จิตใจของทุกคนกลับมามีความหวังอีกครั้ง
ครืน!
รถม้าทองคำเคลื่อนที่ผ่านท้องฟ้ามาถึงบริเวณเหนือสมรภูมิรบในที่สุด
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
หลินเป่ยเฉินกวาดสายตามองรอบแม่น้ำซินเจียงและอดตกตะลึงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้
พื้นดินแตกระแหง แม่น้ำกลายเป็นทะเลเพลิง ซากศพปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง…
เป็นฝีมือของหุ่นเหล็กยักษ์ตัวนี้หรือ?
หุ่นตัวนี้มีพลังต่อสู้ไม่มาก แต่กลับมีพลังทำลายล้างน่ากลัวจริง ๆ
“ฮ่า ๆๆ…”
หุ่นเหล็กระเบิดเสียงหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาและคลุ้มคลั่ง
ดวงตาขนาดใหญ่สีแดงทั้งสองดวงนั้นจ้องมองมาที่หลินเป่ยเฉิน โลหะเหลวไหลซึมออกมาจากมือที่ขาดหาย เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น มือข้างใหม่ก็งอกยาวออกมา นิ้วทั้งห้าขยับเขยื้อนได้อย่างอิสระและพลังกดดันน่าสะเทือนขวัญก็แผ่ออกมาอีกครั้ง
หืม?
งอกมือใหม่ได้ด้วยหรือนี่?
หลินเป่ยเฉินพลันนึกถึงเจ้ากิ้งก่าทะเลทรายทองคำขึ้นมาทันที
หางของมันที่นำมาย่างไฟนั้นมีรสชาติอร่อยมาก
ทว่าการที่หุ่นเหล็กตัวนี้สามารถงอกมือออกมาได้ใหม่ ย่อมทำให้ผู้คนในกองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตรรู้สึกตื่นกลัวขึ้นมาอีกครั้ง
เพียงพลังทำลายล้างของหุ่นเหล็กก็ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรด้วยได้แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะยังสามารถงอกอวัยวะกลับออกมาใหม่ได้อีกด้วย เป็นเช่นนี้ยังจะมีผู้ใดสามารถเอาชนะมันได้อีกหรือ?
“คุณชายหลิน ได้โปรดระวังตัว หุ่นตัวนี้เคยฆ่าผู้มีพลังขั้นเซียนสำเร็จมาแล้ว”
หลิงฉือตะโกนเตือนเสียงดัง
เกาเฉิงฮั่นก็แอบสื่อสารผ่านทางพลังจิตว่า “น้องชาย หากเจ้าเอาชนะมันไม่ได้ จงรีบล่าถอยออกมาซะ หุ่นตัวนี้ร้ายกาจเกินไป แม้แต่ผู้มีพลังขั้นเซียนของจักรวรรดิต้าเกี๋ยนก็ยังถูกมันฆ่าตายแล้ว”
เกาเฉิงฮั่นรู้จักหลินเป่ยเฉินเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “เจ้าอาจจะเอาชนะมันไม่ได้”
แต่ในน้ำเสียงของนายทหารวัยกลางคนนั้นแฝงความรู้สึกห่วงใยอยู่ไม่น้อย
เห็นได้ชัดว่าบรรดานายทหารที่คอยพิทักษ์รักษานครเจาฮุยขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าหลินเป่ยเฉินสามารถทำอะไรได้บ้าง
เพราะในระยะเวลาสั้น ๆ การถล่มภูเขาไป๋ฝ่าเจี้ยนและการสังหารเทพเจ้าที่เมืองหยุนเมิ่งยังไม่ล่วงรู้ถึงหูผู้คนในวงกว้าง
เก้าอี้ล้อเลื่อนขององค์หญิงเหยียนอิงค่อย ๆ ลอยขึ้นมาในอากาศ นางเองก็กำลังพูดว่า “เจ้าไม่ต้องต่อสู้ถวายชีวิตหรอก แค่ยื้อเวลาไว้สักหนึ่งก้านธูป ให้ทหารถอนกำลังกันหมดก็พอ”
เด็กสาวเป็นกังวลว่าหลินเป่ยเฉินอาจเสพติดการต่อสู้และอาจมีความคิดหักล้างเอาชีวิตกับหุ่นเหล็กมฤตยู ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรอดชีวิตกลับมา
คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเป่ยเฉินกลับส่งเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ
“ยื้อเวลาหนึ่งก้านธูปอย่างนั้นหรือ?”
เขาเงยหน้าขึ้นสี่สิบห้าองศา ยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบว่า “ไม่ต้องนานถึงเพียงนั้นหรอก… ขอแค่ห้าลมหายใจเท่านั้น ข้าจะส่งหุ่นเหล็กตัวนี้ลงไปนอนกองอยู่บนพื้นเอง”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
หลินเป่ยเฉินพลันกระโดดลงจากหลังคารถม้าทองคำและพุ่งตรงเข้าไปหาหุ่นเหล็กมรณะตัวนั้น
เท้าของเขาเหยียบลงไปบนศีรษะของหุ่นเหล็ก
“หนึ่ง”
เสียงของหลินเป่ยเฉินดังกังวานทั่วแผ่นฟ้าและแม่น้ำ
การโจมตีที่น่าขบขันเช่นนี้ทำให้หุ่นเหล็กโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น
มันระเบิดเสียงคำรามสั่นสะเทือน ยกมือขึ้นพยายามจะจับตัวหลินเป่ยเฉิน
นิ้วมือของหุ่นเหล็กพลันมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา นี่คือเปลวไฟแห่งความตาย ห้อมล้อมร่างกายของหลินเป่ยเฉินจากรอบทิศทาง…
ก่อนหน้านี้ แม้แต่ผู้มีพลังขั้นเซียนตอนปลายก็ยังหนีเงื้อมมือของมันไม่รอด
เปรี้ยง!
หลินเป่ยเฉินกระทืบเท้าลงไปบนนิ้วมือของหุ่นยักษ์
แต่ไม่ว่ามองอย่างไร นี่ก็ไม่ต่างจากการนำไม้จิ้มฟันไปทิ่มใส่ต้นไม้อายุพันปี
แต่ไม้จิ้มฟันกลับไม่แตกหัก
สิ่งที่แตกหักกลับเป็นต้นไม้พันปี
แผ่นดินไหว
นิ้วมือของหุ่นเหล็กที่ถูกเด็กหนุ่มกระทืบระเบิดตู้ม
เศษโลหะกระจัดกระจาย
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้
หลินเป่ยเฉินกระทืบเท้าลงไปอีกครั้ง ส่งผลให้แขนขวาของหุ่นเหล็กบิดงอเก้าสิบองศา ก่อนที่แขนข้างนั้นจะฟาดเข้ากับต้นขาของมันเอง หุ่นเหล็กร้องคำราม ได้ยินเสียงการปะทะกันระหว่างแขนเหล็กและขาเหล็กดังสนั่น
“สอง”
เสียงของหลินเป่ยเฉินดังขึ้นอีกครั้ง
พลัน เด็กหนุ่มหมุนตัวตีลังกา
พลั่ก!
เขาหมุนตัวขึ้นไปเตะใส่ศีรษะของหุ่นยักษ์
ลำคอซึ่งมีขนาดใหญ่มากกว่าร่างกายของหลินเป่ยเฉินหลายร้อยเท่าเกิดเสียงดัง ‘แกร๊ก’ แล้วลำคอของมันก็เอียงเก้าสิบองศาไปติดกับหัวไหล่เหล็ก
“สาม”
หลินเป่ยเฉินหมุนตัวเจ็ดร้อยยี่สิบองศากลางอากาศและตวัดขาของตนเองฟาดใส่ต้นคอหุ่นเหล็กยักษ์เต็มแรง
เปรี้ยง!
เสียงโลหะถูกกระแทกดังสนั่นหวั่นไหว
หุ่นเหล็กยักษ์สั่นสะเทือนอย่างควบคุมไม่ได้ เท้าของมันติดลงไปในร่องลึกบนพื้นดิน หัวเข่าของมันงอโค้งเพราะไม่อาจทนรับน้ำหนักได้อีก ทันใดนั้น หุ่นเหล็กมฤตยูก็ทรุดกายลงนั่งคุกเข่าบนพื้นดิน
“สี่”
หลินเป่ยเฉินลอยตัวขึ้นสูงและรัวหมัดใส่แผ่นหลังของหุ่นเหล็ก
เปรี้ยง!
หลังจากนั้น หุ่นเหล็กยักษ์ก็ล้มลงใบหน้าฟาดกับพื้นดินอย่างแรง
“ห้า… เรียบร้อย ดูเหมือนข้าจะประเมินพลังมันสูงเกินไปหน่อย ใช้เวลาไม่ถึงห้าลมหายใจด้วยซ้ำ”
หลินเป่ยเฉินกระโดดขึ้นไปยืนบนศีรษะของหุ่นเหล็กและเหยียบเท้าลงไปกดเอาไว้ไม่ให้มันเคลื่อนไหวได้อีก เรียบร้อยดีแล้วเขาจึงเงยหน้าขึ้นสี่สิบห้าองศาจ้องมองไปทางเหยียนอิงและกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “พี่หญิง ไม่ทราบว่าข้าหล่อเหลาหรือไม่? ข้าเป็นผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานแล้วหรือยัง?”
เหยียนอิงผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนเบิกตาโต ริมฝีปากสั่นระริก แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
การต่อสู้จบลงแล้ว
บนท้องฟ้า บนแม่น้ำ บนพื้นดิน มีแต่ความเงียบงัน
ไม่ว่าจะเป็นหลิงฉือ เหยียนอิง เกาเฉิงฮั่น หลิงอู๋หรือแม่ทัพผู้มีพลังขั้นเซียนคนอื่น ๆ ของฝ่ายสัมพันธมิตร ทุกคนล้วนเบิกตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
นี่ไม่ใช่ภาพหลอนใช่ไหม?
ใช่หรือไม่ใช่?
หุ่นเหล็กมฤตยูที่ฆ่าผู้คนนับล้านชีวิตและเกือบจะทำลายล้างกองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตร เหตุไฉนจึงได้มีสภาพกลายเป็นกระสอบทรายถูกทุบตีเอาแต่ฝ่ายเดียวเช่นนี้เล่า?
ทุกคนตกตะลึงและมึนงงสับสน
จากนั้นจึงค่อย ๆ ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
เมื่อสติสัมปชัญญะกลับคืนมา หัวใจของพวกเขาก็พองโตอย่างมีความสุข รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ชนะแล้ว!
หลินเป่ยเฉินชนะแล้ว!!
คุณชายหลินผู้สูงส่งคือผู้ชนะเสมอ
เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณไม่ต่างจากคลื่นสึนามิซัดถล่ม
ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์บนบกหรือชาวทะเล ทุกคนต่างก็โห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ พวกเขาส่งเสียงตะโกนฟังไม่ได้ศัพท์ กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจสุดขีด
หลิงฉือหันมามองหน้าหลินเป่ยเฉิน
ค่อย ๆ สูดลมหายใจ
น่าแปลก แม้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะมีปัญหาทางสมอง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ยิ่งหลิงฉือมองหน้าหลินเป่ยเฉินมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความเหมาะสมที่จะเป็นน้องเขยของเขามากเท่านั้น!