ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 810 สูญสิ้นแล้ว

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 810 สูญสิ้นแล้ว

จากมุมมองของอิงอิง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง สัตว์ หรือผู้ชายคนใดก็ตามที่หน้าตาดีโผล่เข้ามาในร้านหนังสือ ล้วนเป็นคู่แข่งของเธอทั้งสิ้น

เพียงเพราะสาเหตุจากพิษจริยธรรมระบบศักดินาที่ฝังลึก เมื่อก่อนอิงอิงไม่มีโอกาสกำจัดสิ่งขวางหูขวางตาประเภทนี้อย่างนี้ ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอถูกบีบบังคับให้เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ใช่การอิจฉาริษยา ดังนั้นก่อนจะทำร้ายจึงต้องตะโกนสโลแกนออกมาก่อน

“น้องจิ้งจอกเอ๋ย เจ้ารีบอ้อนวอนขอความเมตตาจากเถ้าแก่สิ!”

‘ผัวะ!’ อิงอิงต่อยหมัดตรงปากของจิ้งจอกขาว

“…” จิ้งจอกขาว

“น้องจิ้งจอกเอ๋ย เจ้ารีบทักทายเถ้าแก่เร็วเข้า เถ้าแก่เป็นคนแสนดี ไม่ว่าเจ้าทำผิดอะไรก็จะไม่ตำหนิติเตียนเจ้าจริงๆ”

ชั่วพริบตานั้นอิงอิงคว้าแขนทั้งสองข้างของจิ้งจอกขาวกระชากอย่างแรง ‘กึก!’ แขนทั้งสองข้างหักทันที

“น้องจิ้งจอกเอ๋ย เจ้ารีบคุกเข่าขอความเมตตากับเถ้าแก่สิ เจ้าเป็นเช่นนี้ข้าลำบากใจมาก!”

‘ตุ้บ!’ อิงอิงเตะเข่าทั้งสองข้างของจิ้งจอกขาว จนจิ้งจอกขาวล้มลงไปกองกับพื้นทั้งตัว

เด็กชายมองดูฉากนี้อย่างเงียบสงบอยู่อีกด้าน เขายิ้มอย่างเงียบๆ ส่วนในใจกลับคิดว่า โชคดีที่เขาไม่สนใจจะหาแฟนสาวที่เป็นผีดิบเหมือนกันสักคนหนึ่ง

“กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!!”

“อ๊ากกกกกกกกก!!!!!!!!!”

ตอนนี้เอง จู่ๆ ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงข้ามทนายอันก็ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน และข้างในมีเสียงร้องของผู้ชายปะปนอยู่ด้วย

เห็นได้ชัดว่า ทนายอันเล่นงานคู่ต่อสู้ระหว่างการประลองสะกดจิตจนอยู่หมัด

“โฮก!” จิ้งจอกขาวส่งเสียงคำราม เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ผีดิบสาวถึงได้น่ากลัวขนาดนี้

บางทีตัวอิงอิงเองก็ไม่ทันได้ตระหนักว่า หลังจากที่ร่างกายครอบครองมรดกที่ฮั่นป๋าทิ้งไว้ให้ ผลที่มีต่อตัวเธอเองไม่ได้มีเพียงเรื่องง่ายๆ อย่างการละลายน้ำแข็งที่ร่างกายท่อนล่างเท่านั้น

ร่างของจิ้งจอกขาวพองตัวขึ้นจนถึงขีดสุด สูญเสียรูปร่างมนุษย์ไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวใหญ่ยักษ์ ดวงตาขนาดเท่าโคมไฟเปล่งประกายส่องแสงสีแดงแวววาว มันกระโดดขึ้น ยังอยากจะช่วยน้องสาวของตัวเอง ความรักอันลึกซึ้งระหว่างพี่น้องมีอยู่จริงในเวลานี้

แม้แต่เถ้าแก่โจวที่ยืนเฝ้าดูการต่อสู้อยู่ในความมืดอย่างเงียบๆ ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ด้วยนิสัยของจิ้งจอกขาว มีคนไม่กี่คนในโลกนี้ที่เธอเต็มใจที่จะปกป้องถึงขนาดนี้จริงๆ แต่โจวเจ๋อไม่ได้ประทับใจสิ่งนี้แล้วเตรียมแสดงความเมตตา ความจริงแล้วมันกลับทำให้ไม่พอใจยิ่งขึ้น

เมื่ออันปู้ฉี่กับคนอื่นๆ ลงมือและแสดงท่าทีของตัวเองออกมาแล้ว จิ้งจอกขาวตัวนี้กลับยังดื้อรั้นขนาดนี้

ได้ เช่นนั้นก็จะช่วยสงเคราะห์ให้เอง

เด็กชายลงมือพร้อมกับอิงอิง ผีดิบยิ่งใหญ่ทั้งสองจับขาจิ้งจอกขาวคนละข้างแล้วออกแรงพร้อมกัน แม้ว่าตอนนี้จิ้งจอกขาวจะกลายร่างเป็นสัตว์อสูรได้รับพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ระดับนี้ก็ยังดูเหมือนจะจนปัญญาอยู่ดี!

‘ตู้ม!’ จิ้งจอกขาวถูกดึงกลับมา

“เจ้าเบาหน่อยสิ!” อิงอิงตะโกนบอกเด็กชาย จากนั้นตัวเองก็ย่ำเท้าลงไปเหยียบหน้าท้องของจิ้งจอกขาว ต่อมาใช้เล็บแทงเข้าไปในร่างของจิ้งจอกขาว พลังปราณพิฆาตทั่วร่างกายราวกับของฟรีหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของจิ้งจอกขาวอย่างบ้าคลั่งจนทำลายพละกำลังและโครงสร้างร่างกายของเธอจนสิ้น

เด็กชายเบ้ปากอยู่ข้างๆ ในเมื่อเถ้าแก่ไม่ออกปากบอกให้หยุด เขาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดียอมออมมือให้ เขาก้าวไปข้างหน้าใช้สองมือจับคอจิ้งจอกขาวเอาไว้แล้วบีบมันอย่างแรง!

‘วืด!’ ยาบำรุงเยาตันถูกบีบบังคับดึงออกมา

นี่แทบจะเป็นรากฐานของเผ่าปีศาจ เป็นแหล่งกำเนิดพลังกายภาพของเผ่าปีศาจ

ครู่ต่อมา

จิ้งจอกขาวที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดทั้งตัวกลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง นอนกองอยู่กับพื้น อารมณ์ผสมปนเปหลากหลาย ทั้งเศร้า สับสน โกรธแค้น ไม่พอใจ และกลัว

เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ในความคิดของเธอ ต่อให้เธอจะมาที่นี่เพียงคนเดียวมันก็ไม่มีอะไรเสียหน่อย เหตุใดคนพวกนี้ถึงได้หันหลังให้และใจร้ายกับเธอได้ถึงขนาดนี้ หรือว่าน้องสาวของเธอคนนี้เคยทำอะไรในหรงเฉิงมาก่อน จนทำให้เถ้าแก่โมโหโกรธา

อันที่จริงเข้าใกล้ความจริงมากแล้ว

เดิมทีต่อให้จิ้งจอกขาวจะถ่อมาถึงที่นี่คนเดียว มันก็ไม่มีอะไรจริงๆ เธอไม่นับว่าเป็นพนักงานของร้านหนังสือจริงๆ ด้วยซ้ำ และแม้ว่าจะเป็นพนักงานจริงๆ แต่ก็มีอิสระเป็นของตัวเอง และมีวันหยุดด้วย เพียงแต่ว่าเหตุผลที่ทุกคนไม่ค่อยได้ลาพักร้อน ก็เพราะว่าการทำงานในร้านหนังสือเหมือนกับการได้หยุดพักผ่อนทุกวันอยู่แล้ว

ความผิดของเธอในตอนนี้อยู่ที่การปกป้องคนที่ทำให้โจวเจ๋อรังเกียจมาก และด้วยพื้นฐานความรู้สึกส่วนตัวเช่นนี้ ไม่ว่าจิ้งจอกขาวจะทำอะไรก็ตาม ความผิดของเธอในใจของใครบางคนจะถูกขยายออกไปสิบเท่า

“อ๊ากกกกก!!!!!

ทนายอันลืมตาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขากลับคุกเข่าลงบนพื้น และบนหลังมีใบหน้าของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น เพราะเวลานี้วิญญาณได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เดิมทีวิญญาณสองดวงผสานอยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ตอนนี้มีแนวโน้มที่จะแตกแยกออกจากกัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นวิญญาณของชายหนุ่มในนั้นที่ต้องการแยกจากไปก่อนอีก ขณะเดียวกันก็ตะโกน

“ข้าถูกนางจิ้งจอกจับตัวมา!”

“ข้าถูกปีศาจทำร้าย!”

“ข้าไม่รู้เรื่อง มันไม่เกี่ยวกับข้าเลย!”

ไกลออกไป

จิ้งจอกขาวที่นอนจมกองเลือดมีสีหน้าขุ่นเคือง ทำไมน้องสาวของเธอถึงตาบอดตกหลุมรักนักแสดงแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก!

และทั้งๆ ที่อายุขัยของชายคนนี้สิ้นสุดลงแล้ว ก็ยังไม่ลังเลที่จะทำลายตบะของตัวเองเพื่อยืดอายุขัยให้เขา แต่น่าเสียดาย จิ้งจอกขาวหมดเรี่ยวแรงตะโกนแล้ว ไม่อย่างนั้นเวลานี้ต้องตะโกนด่าอย่างแน่นอน

แต่หญิงสาวคนนั้นกลับมีสีหน้าคับแค้นใจ เพียงแต่เธอไม่ได้ต่อว่าชายหนุ่มที่พยายามจะแยกวิญญาณออกจากเธอในตอนนี้ แต่กลับคำรามว่า “ข้าโปรดปรานวิญญาณชายหนุ่มหล่อเหลา แล้วอย่างไร! ข้าชอบเล่นงิ้วเปลี่ยนหน้า แล้วอย่างไร! พวกเจ้าเก่งนักก็ฆ่าข้าสิ ทำลายข้าให้สิ้นซากไปเสีย! ที่รัก ข้ากักขังเจ้ามาหลายสิบปีแล้ว เจ้าคิดว่าตอนนี้เจ้าจะหนีไปได้หรือ ต่อให้ข้าจะตายก็จะลากเจ้าตายไปกับข้าด้วย!”

“ฮู่ว…” ทนายอันถอนหายใจยาวๆ และทอดถอนใจ “โอ๊ยๆ ซึ้งใจมาก”

ในตอนนี้เอง โจวเจ๋อเดินออกมาจากความมืดมิด

“เถ้าแก่ คุณมีความเห็นว่ายังไง” ทนายอันถาม

“ทำลายไปพร้อมกันเลย”

“ไม่…อย่า…” เมื่อได้ยินดังนั้น จิ้งจอกขาวที่นอนอยู่ตรงนั้นตกใจจนร่างกายเริ่มกระตุก

“ได้เลยครับ เถ้าแก่” ทนายอันประสานมือทำท่ามุทรา “ยมโลกมีกฎ กฎแห่งความตายไร้ความปรานี ทำลาย ดับสูญ สลาย!”

“อ๊ากกกกกกกก!!!!!!”

วิญญาณสองดวงตรงหน้าถูกตัดขาดและฉีกทึ้งออกจากกันในชั่วพริบตา จากนั้นกลายเป็นเปลวไฟเริ่มลุกไหม้ ความสัมพันธ์รักใคร่ผิดเพี้ยนนี้พัวพันมานานกว่าหกสิบปีแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาบังคับให้มันจบสิ้นเสียที

น้ำตาอุ่นๆ ไหลพรากจากหางตาของจิ้งจอกขาวที่จมกองเลือดอยู่ไกลออกไป

เธอและน้องสาวคนนี้ของเธอไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน แต่เป็นหลังจากที่เธอแปลงกายแล้วท่องเที่ยวไปทั่วทุกสารทิศ จึงได้รู้จักและพบกันที่หรงเฉิง มันคล้ายกับความรู้สึกของไป๋ซู่เจินและเสี่ยวชิงเล็กน้อย ตอนนั้นปีศาจจิ้งจอกที่หรงเฉิงยังไม่สามารถแปลงกายได้ เธอได้ติดตามจิ้งจอกขาวเป็นเวลานาน ถึงขนาดที่ต่อมาหลังจากเธอแปลงกายได้ รูปลักษณ์ที่เธอเลียนแบบก็คือพี่สาวจิ้งจอกขาวของเธอเอง

พวกเธอเคยอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เหมือนเงากับตัวไม่แยกจากกัน

เพียงแต่ต่อมา เป็นเพราะเธอตกหลุมรักนักแสดงงิ้วเสฉวนคนนั้นจึงจมปลักด้วยเหตุผลนี้ กระทั่งแตกคอกับพี่สาวจิ้งจอกขาวอย่างไม่ลังเล หลังจากนั้นจิ้งจอกขาวก็แยกทางกับเธอ แต่ความสัมพันธ์ในอดีตถึงอย่างไรก็ตัดไม่ขาด และครั้งนี้หลังจากได้รับข่าวจากเผ่าปีศาจใกล้หรงเฉิง จิ้งจอกขาวก็ตระหนักได้ทันทีว่าไม่ดีแล้ว

หนึ่งเป็นเพราะถ้าน้องสาวของเธอยังคงทำตัวแบบนี้ต่อไปอาจจะได้รับการลงโทษจากสวรรค์

สองเป็นเพราะเธอรู้ว่าพวกเถ้าแก่ร้านหนังสืออยู่ที่หรงเฉิงในเวลานี้ด้วย จะยั่วยุทัณฑ์สวรรค์หรือไม่ยังต้องดูชะตาชีวิต แต่หากดันไปยั่วยุพวกเถ้าแก่เข้า แค่คนใดคนหนึ่งลงมือก็ไม่ใช่สิ่งที่สิ่งมีชีวิตครึ่งๆ กลางๆ ที่เป็นปีศาจก็ไม่ใช่เป็นผีก็ไม่เชิงอย่างเธอในตอนนี้จะสามารถต้านทานได้

แต่ผลลัพธ์เลวร้ายที่สุดก็ยังเกิดขึ้นจนได้ เธอหยุดมันไม่ได้ และไม่มีทางหยุดมันได้ หลังจากไฟมอดดับแล้ว ณ จุดนั้นเหลือเพียงขี้เถ้ากองเล็กๆ เท่านั้น

โจวเจ๋อหาวหวอดๆ เขาไม่สนใจวิเคราะห์เรื่องราวความรักอันน่าประทับใจนี้ และขี้เกียจเกินกว่าจะเห็นใจปีศาจจิ้งจอกผู้ยอมทำทุกอย่างเพื่อความรัก และยิ่งไม่มีแรงจูงใจที่จะวิจารณ์ต่อว่าเจ้าคนเลวนั่นด้วยซ้ำ แม้แต่ในช่วงเวลาก่อนที่จะถูกกำจัด ปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นยังแสดงละครปกป้องเจ้าสวะนั่นอยู่เลย

แต่พวกคุณควรจะเล่นบทบาทสมมติอยู่ที่บ้านสิ ออกมาเดินเล่นข้างนอก พวกคุณทำไม่ถูก

เวลานี้เถ้าแก่โจวก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสาธยายอะไรบางอย่าง เช่น ‘ยายบ๊องหลับสบายอยู่ใต้ดินได้แล้วนะ’ ในสถานการณ์เช่นนี้ ขี้เกียจทำแม้กระทั่งยกแก้วเหล้าเคารพหรือจุดบุหรี่เคารพ เขาขี้เกียจสนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก เพียงแต่การรวมกันของหลายปัจจัยทำให้เกิดสถานการณ์นี้ขึ้นก็เท่านั้นเอง

ต่อมา โจวเจ๋อเดินมาด้านหน้าจิ้งจอกขาว จิ้งจอกขาวจ้องโจวเจ๋อที่อยู่ตรงหน้าและเผยอปากเล็กน้อย

“ฉันฆ่าน้องสาวของเธอไปแล้ว ก็คงไม่จัดการเธออีก” โจวเจ๋อพึมพำกับตัวเอง

จริงๆ แล้วนี่เป็นการปูพื้นอย่างหนึ่ง

จิ้งจอกขาวอึ้งเล็กน้อย เธอเคยบอกสาวน้อยโลลิว่าควรประจบเถ้าแก่คนนี้อย่างไร ควรเอาใจเถ้าแก่คนนี้อย่างไรตอนอยู่ที่บ้านหวังเคอมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง แต่สาวน้อยโลลิกลับเอาแต่เมินเฉยมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ได้ยินเธอพูดคำเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าสุดจะทน

ตอนนั้นเธอยังคิดว่าสาวน้อยโลลิคนนี้ดื้อรั้นดึงดันจนเกินไป ตอนนี้เธอถึงได้เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง บางทีสาวน้อยโลลิอาจจะมองขาดและเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงนิสัยของเถ้าแก่ในช่วงปีที่ผ่านมาได้ดียิ่งกว่าเธอเสียอีก

ใช่ เขาขี้เกียจ เขาเป็นปลาเค็ม เพราะเขาเต็มใจที่จะอยู่ในสภาพชีวิตที่เกียจคร้านและเป็นปลาเค็มแบบนี้ แต่กลับยิ่งทำให้กลายเป็นคนเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ แก่นแท้ก็ไม่ต่างจากผู้ที่ทำทุกอย่างโดยไม่ลังเลเพื่อนั่งบนบัลลังก์เหล่านั้น!

“เถ้าแก่” เด็กชายยื่นยาบำรุงเยาตันให้โจวเจ๋อ

โจวเจ๋อรับยาบำรุงเยาตันมาและถาม “กินเจ้านี่เข้าไปจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ไหม”

“ใช่แล้ว เถ้าแก่ แต่สำหรับคนที่มีร่างกายแข็งแรงมากอยู่แล้วก็เป็นแค่อาหารเสริมธรรมดาๆ เท่านั้น ถ้าให้คนที่อ่อนแอมากกินเข้าไปจะเห็นผลชัดเจนกว่า!”

ทนายอันรู้สึกตื่นเต้น

ใช่แล้ว

ในที่สุดการรอคอยก็มาถึง การรอคอยมาถึงแล้ว!

ที่นี่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสี่คน ถ้ารวมเถ้าแก่ด้วยผีดิบก็มีตั้งสามตัว ล้วนมีร่างกายแข็งแกร่งไร้เทียมทานกันทั้งนั้น!

เหลืออีกหนึ่งที่ยังอ่อนแออยู่!

ยาบำรุงเยาตันควรเป็นของเขาแล้วไม่ใช่หรือไง

ส่วนจะคืนมันให้กับเจ้าจิ้งจอกตัวนี้น่ะเหรอ เป็นจริงไปไม่ได้หรอก ในเมื่อเลือกทางผิด ในเมื่อให้โอกาสแล้ว คุณก็ยังไม่เห็นค่ามัน อย่างนั้นก็ออกไปเถอะ

เป็นไปตามคาด เด็กชายพูดถูก ปรับความคิด เป็นเครื่องประดับอย่างสบายใจ แล้วโชคดีจะมาเอง!

โจวเจ๋อโยนยาบำรุงเยาตันให้ทนายอัน ขณะเดียวกันก็เอ่ยว่า “ให้คุณ…”

“ให้คุณเอาไปให้เดดพูลกินหลังจากกลับไปแล้ว แม้ว่าเขาจะตายยาก แต่พอโดนโจมตีเมื่อไรก็เละเทะตลอด แบบนี้ไม่ดีเลย”

“ร้านหนังสือ…” ทนายอัน

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท