บทที่ 586 รับอาฉือหลังเลิกเรียน
ในช่วงต้นเดือนเก้า พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าอยู่บนท้องฟ้า ทว่าทุกคนในสำนักศึกษากลับมีอาการง่วงงุน
เมื่อวานนี้เสิ่นเยี่ยนชิวเกือบจะเป็นโรคลมแดดเนื่องจากมองดวงอาทิตย์นานเกินไป และตอนนี้ก็ได้อ้าปากหาวขึ้นมา
แต่คราวนี้โหลวเฉิงเย่ไม่ได้ว่านางทำตัวตุ้งติ้งอีกแล้ว
เพราะตัวเขาเองก็ง่วงนอนจนกรนออกมาแล้ว
เวลานี้นับว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการนอน โดยเฉพาะมีเสียงนกร้องผสมกับเสียงพูดพล่ามของอาจารย์ หัวจึงค่อย ๆ ก้มต่ำลงทีละนิด ทีละนิด
โอ๊ย ง่วงนอนอะไรอย่างนี้
ไหนเลยจะยังเรียนเข้าหัวอีก!
อาฉือหยิบน้ำมันสมุนไพรออกมาทาที่ขมับของตัวเอง เมื่อเห็นว่าเปลือกตาของเสิ่นเยี่ยนชิวค่อย ๆ ตกลง เขาจึงเอื้อมมือไปทาให้นางด้วย
โชคดีที่ทนอีกหน่อยก็ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว
และจากนั้นไม่นานเสียงฆ้องก็ดังขึ้น บทเรียนวันนี้นับว่าจบลงแล้ว
กลุ่มคนที่เมื่อครู่ยังมีท่าทางง่วงงุนรีบแยกย้ายกันทันที บางส่วนก็กลับห้องพัก และบางส่วนก็ได้กลับบ้าน
อาฉือเก็บของลงในกระเป๋าหนังสือ เสิ่นเยี่ยนชิวลุกขึ้นยืนและพูดขึ้น “จบกัน เมื่อครู่อาจารย์พูดอะไรบ้าง ข้าลืมไปหมดแล้ว เมื่อคืนก็นอนไม่เต็มอิ่ม”
เมื่อวานนี้เสี่ยวเจียนที่อยู่ในหมู่บ้านได้หมั้นหมาย กำลังจะแต่งงานกับเจ้าของร้านคนหนึ่งในตำบลฉาซู่ การแต่งงานครั้งนี้คนทั้งหมู่บ้านต่างก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี
เพราะมีไท่ซ่างหวงอยู่ด้วย ตอนนี้หมู่บ้านจึงเป็นเหมือนสุนัขระกาเยี่ยมวิมานไปแล้ว ใครบ้างจะไม่อยากเกี่ยวดองด้วย แต่ผู้ชายในหมู่บ้านนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะขุนนางเหล่านั้นไม่มีทางให้ลูกสาวของตัวเองมาแต่งกับชาวนาอย่างแน่นอน
แต่หากว่ามีตำแหน่งก็แล้วไป
ทว่าน่าเสียดายที่คนหมู่บ้านตระกูลเฉินไม่ใช่พวกวิชาการ! ไม่มียอดอัจฉริยะอะไร
ดังนั้นคนเหล่านั้นจึงหันมาสนใจบรรดาผู้หญิงในหมู่บ้านตระกูลเฉินแทน
แต่จะเป็นภรรยาเอกนั้นย่อมไม่มีทางอยู่แล้ว แค่พวกเขาสัญญาว่าจะให้เป็นอนุชั้นสูงก็นับว่าดีมากแล้ว
แต่ว่าไท่ซ่างหวงและองค์หญิงใหญ่กลับไม่พอใจ ตระกูลผู้ดีมีเงินคิดว่าจะสามารถอยู่ได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ อีกอย่างคนดี ๆ เรื่องอะไรต้องไปเป็นอนุคนอื่นด้วย อนุคืออะไร แตกต่างจากคนรับใช้ที่ใดกัน?
คนหมู่บ้านตระกูลเฉินต่างก็ตระหนักดีว่าที่พวกเขาร่ำรวยได้ทุกวันนี้เพราะอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดถึงเรื่องเพ้อฝันพวกนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นในอดีตพวกเขาแค่อยากให้ลูกสาวได้แต่งงานดี ๆ ก็เพื่อให้มีเนื้อกินทุกมื้อ ลูกได้ไปเล่าเรียน และมีชีวิตที่ดีไม่ใช่หรือ
ตอนนี้ครอบครัวมีเงินแล้ว สามารถทำการค้าได้แล้ว ออกไปก็เชิดหน้ายืดอกได้ แต่งไปเมืองหลวงมีอะไรดีกัน ในจวนใหญ่มีกฎระเบียบมากมาย ไม่สามารถทำทุกอย่างตามที่ต้องการได้ ใครขาดข้าวสารอย่างนั้นหรือ?
และเมื่อลองสืบดูอย่างละเอียดแล้ว โอ้โฮ เบี้ยหวัดยังสู้พวกนางหาเงินในหมู่บ้านไม่ได้ด้วยซ้ำ!
อย่างน้อยพวกนางก็เป็นหุ้นส่วนโรงงานเครื่องประทินผิวของตระกูลเซียวเชียวนะ!
ให้แต่งไปเป็นอนุอย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ
การหมั้นหมายของเสี่ยวเจียนที่ถูกกำหนด ก็ได้ให้คนไปตรวจสอบแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงยินดีอย่างมาก และจุดดอกไม้ไฟกันทั้งคืน เสิ่นเยี่ยนชิวก็ช่วยทำไข่สีแดง และขนมมงคลด้วย จึงทำให้นอนไม่เต็มอิ่ม
อาฉือพูดขึ้นมา “เจ้าซบไหล่ข้าก็ได้ ขึ้นไปบนรถม้าแล้วค่อยหลับ”
เสิ่นเยี่ยนชิวพยักหน้ารับ เอามือจับแขนเสื้อของเขาเอาไว้ และยังง่วงงุนอยู่
ทันทีที่มาถึงหน้าประตูสำนักศึกษา รถม้าที่มารอรับก็จอดอยู่ข้างถนน ทว่าเหล่าองครักษ์กลับหายตัวไปหมด
อาฉือรู้สึกสงสัย ขณะที่เขากำลังจะตะโกนเรียกก็เห็นม่านรถม้าขยับ จุกผมเล็ก ๆ จุกหนึ่งโผล่ออกมา อาชิงที่ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีก็โผล่ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาออกมา
อาฉือเห็นดังนั้นก็ตกตะลึงเล็กน้อย
จากนั้นอาชิงก็ใช้ทั้งมือและเท้ารีบกระโดดลงมา และวิ่งไปหาเขา “พี่ใหญ่!!!”
อาอินเองก็เปิดม่านรถม้าออก เมื่อเห็นอาฉือก็กระโดดลงมาในครั้งเดียว การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วอย่างมาก ทำให้นางมาถึงตัวอาฉือเร็วกว่าอาชิงหนึ่งก้าว
อาฉือตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ขนาดถูกอาชิงกับอาอินมาเกาะแข้งเกาะขาก็ยังไม่ได้สติ จนกระทั่งมือที่แข็งแรงคู่หนึ่งเปิดม่านรถม้าออก เผยยวนกับจี้จือฮวนมองเขาด้วยรอยยิ้ม
อารมณ์ของเขาจึงเปลี่ยนจากสับสนระคนประหลาดใจเป็นปีติยินดีแทน!
“พี่ใหญ่ ๆ ท่านดูสิขอรับ ข้าสูงขึ้นหรือไม่!” อาชิงวิ่งวนเป็นวงกลม หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมากว่าครึ่งปี จากจุกเล็ก ๆ สองจุกก็กลายเป็นผมหางม้าพวงใหญ่เสียแล้ว รูปร่างสูงขึ้น แม้แต่เนื้ออ้วน ๆ ที่หลังมือก็น้อยลงด้วย ประกอบกับตอนอยู่ชายแดนพวกเขาได้วิ่งและกระโดดทั้งวัน และระหว่างทางกลับมาเมืองหลวงการเดินทางก็ไม่ได้เร่งรีบ ดังนั้นเมื่อไม่มีอะไรทำเขาจึงไปฝึกวรยุทธ์กับอาอิน
ทำให้ตอนนี้อาชิงเริ่มมีท่าทางของเด็กหนุ่มแล้ว!
ส่วนอาอินที่เมื่อก่อนสูงกว่าอาชิง แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกลับดูไม่ค่อยต่างกันแล้ว
แต่ยังเตี้ยกว่าเขาอยู่ดี
“รีบมาให้พี่ใหญ่อุ้มเร็วเข้า!” อาฉืออุ้มอาอินขึ้นมาลองกะน้ำหนักดู เด็กน้อยดีใจอย่างมาก ผมยาว ๆ ถูกมัดด้วยเชือกมัดผมสีแดง โดยรวบเป็นหางม้าไว้ด้านหลังอย่างเรียบง่ายเหมือนกับจี้จือฮวน
เวลานี้เผยยวนได้ลงจากรถม้าแล้ว จากนั้นก็ประคองจี้จือฮวนลงมาอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้ท้องของนางเกือบเจ็ดเดือนแล้วจึงนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด อาฉือวางอาอินลง ก่อนจะรีบเดินไปตรงหน้าจี้จือฮวนอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ท่านแม่! ท่านพ่อ!” เขาไม่ใช่คนที่จะแสดงความรู้สึกออกมาง่าย ๆ แต่เมื่อเห็นหน้าจี้จือฮวนเขาก็อดไม่ได้จริง ๆ
อยากจะกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของนาง แต่ก็กลัวว่าจะทำให้เด็กในท้องบาดเจ็บ
ทว่ากลับเป็นจี้จือฮวนที่กางแขนออก “ทำไม ไม่เจอแม่นานไม่ยอมให้แม่กอดแล้วอย่างนั้นหรือ?”
อาฉือสูดน้ำมูกเล็กน้อย ก่อนจะเข้าไปกอดนางอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ น้องสาวมีคนเดียวหรือว่ามีสองคนขอรับ?”
“คนเดียวก็ทำให้แม่เจ้าทรมานจะแย่แล้ว สองคนมิต้องขึ้นสวรรค์ก่อนหรอกหรือ?” เผยยวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หมอหลวงตรวจชีพจรแล้ว เจ้าได้น้องสาวแค่คนเดียว”
“เช่นนั้นครอบครัวเราก็ครบสองคู่พอดี!”
ลูกชายสองคนลูกสาวสองคน พวกเขาจะรักน้องสาวคนนี้ให้มาก ๆ
จี้จือฮวนมองผ่านลูก ๆ ไปหยุดที่เสิ่นเยี่ยนชิวที่ยืนอยู่ตรงนั้น เด็กคนนี้จดจำได้ง่ายมาก เพราะไฝเม็ดเล็กที่กลางหน้าผากของนางนั้นเด่นชัดอย่างมาก
“นี่คงเป็นเยี่ยนชิวที่เจ้าพูดถึงในจดหมายกระมัง”
จี้จือฮวนกวักมือให้สาวน้อยพร้อมรอยยิ้ม
เสิ่นเยี่ยนชิวตื่นเต้นเล็กน้อย อาฉือจึงรีบเดินไปจูงมือนางมา “ท่านแม่ขอรับ นางคือเยี่ยนชิว ตอนนี้มาเรียนที่สำนักศึกษากับข้าขอรับ แล้วก็พักอยู่ที่เรือนของเราด้วย”
เสิ่นเยี่ยนชิวจะคารวะให้กับพวกจี้จือฮวน แต่เผยยวนกลับพูดขึ้นมาเสียก่อนว่า “ข้ากับแม่เจ้ารู้ตั้งนานแล้ว”
เจ้าเด็กแสบ พวกเขาไม่อยู่ก็รู้จักหาภรรยาแล้ว
“ขึ้นรถม้าแล้วค่อยคุยกันเถอะ”
เผยยวนประคองจี้จือฮวนขึ้นไปบนรถม้า พวกเด็ก ๆ ต่างก็ตามขึ้นมา โดยอาอินเบียดอยู่ข้างเสิ่นเยี่ยนชิว “พี่เยี่ยนชิว คืนนี้นอนกับข้านะเจ้าคะ!”
อาชิงเกาหัว “นอนด้วยกันไม่ได้หรือขอรับ?”
อาฉือใบหน้าแดงเรื่อ “พูดเหลวไหลอะไรของเจ้า! เหตุใดออกไปครึ่งปีแล้วถึงยังไม่รู้ความอีก”
อาชิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะสิ่งที่เขาทำเป็นตอนนี้มีตั้งเยอะแยะ!
“พี่ใหญ่ ๆ ท่านรู้หรือไม่ว่าแกะที่ชายแดนตัวอ้วนและน่ารักเพียงใด!”
แค่อาฉือคิดว่าอาชิงจะเล่าสิ่งที่ได้ไปเห็นที่ชายแดนมาให้เขาฟัง เขาก็รู้สึกอิจฉาจนจะตายอยู่แล้ว แต่แล้วน้องชายที่โง่เง่าของเขากลับเลียริมฝีปากแล้วพูดว่า “เนื้อแกะนั่นอร่อยมาก! ไม่เหมือนกับของพวกเราเลยขอรับ”
อาฉือ “…”
ไม่ควรคาดหวังจริง ๆ!
“พี่ใหญ่ ข้าจะเล่าเรื่องการทำศึกของพวกเราให้ท่านฟัง น่าตื่นเต้นมากเลยขอรับ!”
อาฉือจึงได้สติขึ้นมา “กองทัพทหารเกราะเหล็กกลับมาหมดแล้วหรือขอรับ แล้วท่านพ่อกับท่านแม่ไปพบท่านทวดกับท่านย่าองค์หญิงใหญ่มาหรือยังขอรับ?”
“แน่นอน ยังมีเหล่าทหารกองหนุนที่อยู่ต่างถิ่น ข้าก็ให้พวกเขาหยุดพักและกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวแล้ว และวันนี้พวกเราก็ตั้งใจมารับเจ้าโดยเฉพาะ”
อาฉือตอนนี้อุ้มอาชิงไม่ไหวแล้ว เขาจ้องไปที่ท้องของจี้จือฮวน ดีใจจนไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง “ข้ารู้สึกว่ายังตั้งชื่อให้น้องสาวไม่มากพอ กลับไปถึงบ้านแล้วข้าจะคิดชื่อเพิ่มอีก!”
.
.
.
เมื่อเข้าสู่หน้านิยายที่ถูกล็อกด้วยเหรียญระบบจะใช้เหรียญปลดล็อกตอนต่อไปโดยอัตโนมัติ
• เมื่อเหรียญทองหมด สามารถเติมเงินแล้วอ่านต่อได้เลย ไม่สะดุด