Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 750 ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 750 ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน

สามวันผ่านไป

แผนกซีรีส์

ทีมงานผู้ผลิตซีรีส์เรื่องหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอเปิดประชุม ในเวลานี้สีหน้าของทุกคนไม่สู้ดีนัก

โปรดิวเซอร์ส่ายหน้า

“เพิ่งเห็นว่าคะแนนของผู้ชมในเว็บไซต์สตาร์เน็ตลดลงอีกหนึ่งจุด แถมปริมาณการกดรับชมวีดิโอในสองวันนี้ก็ลดลงเรื่อยๆ ”

“งานรีเมกนี่มันกับดักครั้งใหญ่จริงๆ ”

“ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่สู้พวกเราผลิตซีรีส์ขึ้นมาเอง อย่างน้อยผู้ชมคงไม่ถึงขั้นคุ้นเคยกันเนื้อเรื่องขนาดนี้”

“บางทีถ้าปรับแก้พล็อตเรื่องอาจมีความหวังอยู่ บ้าง”

“แน่นอนผมรู้ว่าแก้พล็อตเรื่องแล้วอาจมีความหวัง แต่คำถามคือจะแก้ยังไง พวกเราใช่ว่าจะไม่ได้ใส่ตัวละครใหม่เข้าไป”

“น่าเสียดาย นักแสดงดีขนาดนี้ คอสตูมเมกอัปพร็อปก็ทำถึง!”

“เงินทุนมหาศาลแบบนี้จะเสียเปล่า”

ทุกคนรู้สึกจนใจ

ผู้กำกับถอนหายใจ “อาจารย์นักเขียนบทเตรียมเขียนให้จบภายในห้าตอนเถอะ นับว่าเป็นการหยุดความเสียหายให้ทันท่วงที”

“อย่าเพิ่ง!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากหน้าประตู

ทุกคนหันไปมอง และพากันเอ่ยขึ้น

“หัวหน้าจ้าว!”

จ้าวเจวี๋ยพักหน้า

เธอเพิ่งกลับมาจากห้องทำงานของหลินเยวียน พร้อมกับบทใหม่ในมือ “ลองดูบทนี้…”

ทุกคนจ้องมองบทในมือของจ้าวเจวี๋ย

จ้าวเจวี๋ยอธิบาย ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้บอกทุกคนเรื่องที่เธอไปขอความช่วยเหลือจากเซี่ยนอวี๋ เพราะเธอไม่มั่นใจว่าทางเซี่ยนอวี๋จะทำได้หรือไม่ ตอนนี้ทำสำเร็จแล้วเธอจึงกล้าพูดเรื่องนี้ออกมา นับว่าเป็นการปลอบขวัญกำลังพล

เมื่อทุกคนฟังจบต่างก็มีสีหน้าแปลกพิลึก

“คุณหมายถึงคุณไปหาอาจารย์เซี่ยนอวี๋เพื่อให้เขาช่วยเขียนบทหลังจากนี้ของหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอ แต่อาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่มีแรงบันดาลใจชั่วคราว จึงไหว้วานให้ฉู่ขวงที่เป็นเพื่อนสนิทช่วยเขียนบทตอนต่อๆ ไปของซีรีส์…”

ชื่อเสียงของคนประหนึ่งร่มเงาของต้นไม้ใหญ่

ฉู่ขวงหรือเซี่ยนอวี๋ ไม่ว่าใครจะเขียนบทก็ล้วนมากพอที่ทีมงานจะให้ความสำคัญ!

สีหน้าของทุกคนจริงจังขึ้นมา

แววตาสิ้นหวังของพวกเขา แลดูคาดหวังขึ้นมาหลายส่วน

บางทีเรื่องนี้อาจมีความหวังก็ได้?

ถึงอย่างไรคนที่ออกโรงคือฉู่ขวงเชียวนะ!

พวกเขาพิมพ์บทซีรีส์ออกมาสิบกว่าชุดและแจกจ่าย

รวมไปถึงนักเขียนบทอีกหลายคนก็ได้รับบทซีรีส์เช่นเดียวกัน

ทุกวันนี้ภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีรีส์มักมีนักเขียนบทมากกว่าหนึ่งคน

ประจวบเหมาะกับจ้าวเจวี๋ยเองก็อยากฟังความคิดเห็นซึ่งนักเขียนบทดั้งเดิมมีต่อบทที่ฉู่ขวงปรับแก้

ไม่ทันไร

ห้องก็เงียบลง

ทุกคนกำลังอ่านบท

จ้าวเจวี๋ยไม่ได้อ่าน เธอเพิ่งมาดูแลแผนกซีรีส์ อยู่ในระดับผู้บริหารสูงสุดของที่นี่ ไม่ได้มีแนวคิดใดเกี่ยวกับบทซีรีส์

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน

จู่ๆ นักเขียนบทคนหนึ่งก็กระโดดโหยง และโพล่งออกมาว่า

“เชี่ยย!”

จ้าวเจวี๋ยตกใจจนสะดุ้ง

เกิดอะไรขึ้น

ทันใดนั้น

นักเขียนบทอีกหลายคนซึ่งอยู่ด้านข้างใบหน้าแดงก่ำ

“เจ้าแก่ฉู่ขวงร้ายมาก!”

“นี่คือฝีมือเจ้าแก่ฉู่ขวง”

“นอกจากเขาก็ไม่มีใครกล้าเขียนแบบนี้แล้ว!”

“ถ่ายทำแบบนี้ผู้ชมก็ลุกฮือน่ะสิ!”

“การปรับแก้ครั้งใหญ่นี้รุนแรงมากนะ คนดูได้ด่าพวกเราตายเลย!”

“…”

จ้าวเจวี๋ยสีหน้าตกใจ

เรื่องราวหลังจากนี้อุกอาจมาก?

เธอมองไปยังผู้กำกับ “ในนั้นเขียนว่ายังไง”

ผู้กำกับไม่ตอบ

ในขณะนั้นจ้าวเจวี๋ยถึงสังเกตเห็นว่าผู้กำกับซึ่งถือบทอยู่นั้นคล้ายกับกำลังตกตะลึง มองบทซีรีส์อย่างนิ่งอึ้งอยู่เช่นนั้น

“สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นคะ”

จ้าวเจวี๋ยรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกชอบกล

ในที่สุด

ผู้กำกับก็เงยหน้าขึ้น มองไปยังจ้าวเจวี๋ยด้วยสีหน้าที่ยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อย

“ตายแล้ว”

“ตายอะไร”

“ผู้หญิงคนนี้ฆ่ายับ…”

“ฉันฟังไม่เข้าใจ ขอถามประโยคเดียว ถ่ายทำได้ไหม!”

จ้าวเจวี๋ยร้อนรน!

ผู้กำกับลังเลอยู่นาน ทันใดนั้นก็กัดฟันพูดขึ้น

“แม่*เอ๊ย!”

“ผู้กำกับ!”

ทุกคนสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “บทนี่…”

“พยายามทั้งที่รู้ว่าไม่มีความหวัง!”

ผู้กำกับถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ส่งบทให้นักแสดง พรุ่งนี้ถ่ายทำตอนต่อไป ไม่ต้องใช้บทก่อนหน้านี้ ใช้บทที่ฉู่ขวงเขียนแทน!”

……

ในวันนี้

เมื่อเหล่านักแสดงอ่านบทตอนต่อไปของหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอจบ ในหมู่ทีมงานก็เกิดความโกลาหลตั้งแต่เช้าตรู่!

“ฉันตายแล้ว?”

“ผมก็ตายเหมือนกัน”

“บังเอิญมาก เราตายกันหมด?”

“ตัวเอกชายอันดับสามก็เหมือนจะตายแล้วเหมือนกัน!”

“พล็อตนี้ไม่เหมือนต้นฉบับแฮะ!”

“อาจารย์นักเขียนบท คุณมีความแค้นกับต้นฉบับหรือเปล่า?”

“ถ้าถ่ายทำไปตามนี้ผู้ชมจะไม่ด่าเราฉ่ำเลยเหรอ?”

นักแสดงล้วนตะลึงงัน

หลังจากได้รับบทมาอ่าน หลายคนคิดว่าตนเองตาลาย อ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าจะยืนยันว่าตนเองถูกตัวละครหญิงซึ่งโผล่มาอย่างกะทันหันปลิดชีพเสียแล้ว ต้องเข้าใจว่าพวกเขาทุกคนล้วนเป็นตัวละครสำคัญจากงานต้นฉบับ โดยพื้นฐานแล้วจะมีชีวิตอยู่กันอย่างสามัคคีไปจนจบ ผู้ชมจึงมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งต่อตัวละครเหล่านี้!

น่าเสียดายที่ความคิดเห็นของพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้กำกับได้

ถ่ายทำ

ตัดต่อ

ออกอากาศ

การทำงานของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์บนบลูสตาร์มีประสิทธิภาพสูงมาก ผ่านไปไม่นาน เรื่องราวก็ปรากฏแก่สายตาของผู้ชม

……

ในบ้าน

แม่นั่งอยู่ที่โซฟาเพื่อนรอเรื่องหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอออกอากาศ ถึงแม้ปากจะบอกว่าเทซีรีส์เรื่องนี้แล้ว แต่แม่ก็คล้ายกับว่ายังไม่หมดความอดทนเสียทีเดียว ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นผลงานที่ผลิตโดยบริษัทของลูกชาย

“ดูซีรีส์กำลังภายในเรื่องนี้อีกแล้ว”

พี่สาวเอ่ยขึ้นขณะกำลังถ่ายเซลฟีอยู่ที่ริมระเบียง

“อื้อ”

แม่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

น้องสาวกำลังนั่งกินผลไม้กับแม่อยู่บนโซฟา สายตากลับไม่ได้จับจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ เธอไม่สนใจซีรีส์กำลังภายใจ

หลินเยวียนกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้อง

เขารู้ว่าบริษัทได้ถ่ายทำตามบทที่เขามอบให้ แต่เขากลับไม่มั่นใจว่าการปรับแก้ของเขาจะทำให้ชาวเน็ตซื้อได้หรือไม่ อย่างไร เสียสถานการณ์ในครั้งนี้ก็ค่อนข้างพิเศษ

ถ้าผู้ชมซื้อ ก็จะมีการประกาศว่าผู้เขียนบทตอนต่อไปคือฉู่ขวง

ถ้าผู้ชมไม่ซื้อ ก็ทำทีเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างมากก็เพียงแค่บังคับโครงเรื่องให้กลับสู่เส้นทางเดิม

ในเวลานี้

ซีรีส์ออกอากาศแล้ว

และขณะที่ซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศ

ชาวเน็ตจำนวนมากซึ่งติดตามซีรีส์เรื่องนี้ต่างคลิกเข้ามายังแพลตฟอร์มวิดีโอ มีการพูดคุยซึ่งมาพร้อมกับคอมเมนต์กระสุนเพียงเล็กน้อย

‘ตามตอนที่ 13 ด้วยความลำบากใจ’

‘ไม่มีซีรีส์อะไรจะดูแล้วจริงๆ ทำได้แค่ดูเรื่องนี้ ทำไมฉันถึงต้องชอบหยางเสี่ยวฝานขนาดนี้ด้วย’

‘ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับการดูฆ่าเวลา’

‘เคยดูฉบับรีเมกมาเจ็ดแปดรอบแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดเนื้อเรื่องตรงไหนไป มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าหน้าและหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น’

‘แรงจูงใจเดียวที่ทำให้ฉันดูต่อไปคือเบ้าหน้าฟ้าประธานของฉินเทียนเกอ’

‘ฉินเทียนเกอเวอร์ชันนี้หล่อจริง’

‘พล็อตเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ ผมน่าจะใกล้เทซีรีส์แล้ว’

‘ไม่น่าสนใจเลยจริงๆ ผมกดข้ามๆๆ ’

……

ท่ามกลางการสนทนา ตอนที่ 13 ก็ออกอากาศ

ฉินเทียนเกอซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเอกชายได้บังเอิญช่วยเหลือหญิงสาวงามสะคราญคนหนึ่งซึ่งตกทุกข์ได้ยาก

ท่ามกลางแสงจันทร์

ฉินเทียนเกออุ้มหญิงสาวกระโดดข้ามกำแพง

หญิงสาวจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาและเย็นชา แววตาสะท้อนแสงดาวพร่างพราย ราวกลับเสียสติไปก็มิปาน

“ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน ผู้มีพระคุณมีนามว่าอะไรหรือ?”

“ดูแลตัวเองด้วย”

หลังจากแตะถึงพื้น หญิงสาวชวนคุย แต่ฉินเทียนเกอกลับยังคงเย็นชาดังเคย

แม้ว่าเขาจะทำความดีด้วยจิตใจที่อบอุ่นก็ตาม

ก่อนคำพูดจะจบลง ชายคนนั้นได้จากไปเสียแล้ว ทิ้งให้หญิงสาวจ้องมองแผ่นหลังของเขาอย่างเหม่อลอยเพียงลำพัง

……

ชาวเน็ตประหลาดใจ

‘ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร’

‘เจียงอวี้เยี่ยน?’

‘ไม่รู้จักแฮะ’

‘ในต้นฉบับมีด้วยหรือ?’

‘เหมือนว่าจะเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาใหม่’

‘นักแสดงหญิงคนนี้สวยมาก’

‘นางเอกมาดูเร็ว มีคนจะแย่งฉินเทียนเกอแล้ว!’

‘ฮ่าๆๆ ฉินเทียนเกอเดินไปไหนก็ครองใจสาวๆ ได้’

‘รู้สึกว่านักแสดงหญิงคนนี้สวยไม่เป็นรองนางเอกเลย’

……

ผู้ชมก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเช่นกัน

การรีเมกซีรีส์กำลังภายในมักเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามา แต่โดยรวมแล้วยังคงเป็นไปตามงานต้นฉบับ โครงเรื่องที่ซึ่งสร้างขึ้นใหม่นี้โดยมากไม่ได้สำหลักสำคัญอะไร

อย่างไรก็ตาม ไม่นานผู้ชมก็พบว่า

ตัวละครหญิงคนนี้มีแอร์ไทม์เยอะเหลือเกิน

นางลายเป็นบุตรีนอกสมรสของวายร้ายคนหนึ่ง มาพร้อมกับของแทนใจเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันกับบิดาของตน ด้วยความบังเอิญ จึงได้รับความช่วงเหลือจากฉินเทียนเกอ

เอ๊ะ?

ยังไม่ต้องบอกว่าฉินเทียนเกอในต้นฉบับเคยช่วยหญิงสาวคนนี้หรือไม่

ตัวร้ายชื่อเซินถูไห่คนนี้ในต้นฉบับไม่มีลูกสาวด้วยซ้ำไป…

การเปลี่ยนแปลงนี้ยิ่งใหญ่มาก

ผู้ชมเองก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างเช่นกัน

ต้องเข้าใจว่าเซินถูไห่ คือหัวโจกวายร้ายในช่วงต้นและกลางในนิยาย

บิดาและมารดาของตัวเอกทั้งสองเซินถูไห่สังหาร

การปรากฏตัวของตัวละครนี้ได้เชื่อมโยงฉากต่างๆ ในเรื่องเข้าหากัน

และในเวลานี้ฉินเทียนเกอไม่รู้ว่าตนเองช่วยบุตรสาวของศัตรูไว้

แน่นอนว่าตัวละครใหม่เจียงอวี้เยี่ยนคนนี้ไม่ได้ล่วงรู้ถึงความแค้นของคนรุ่นก่อน

นางตามหาเซินถูไห่จนพบ

ใช้หลักฐานเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก

และยังเปลี่ยนชื่อของเจียงอวี้เยี่ยนเปลี่ยนชื่อเป็นเซินถูอวี้เยี่ยนตามคำขอของบิดา

เจียงเป็นนามสกุลฝั่งแม่ของนาง

ท้ายที่สุดแล้วนางยังคงต้องการใช้แซ่ของพ่อ

……

ในบ้าน

แม่กล่าวกลั้วหัวเราะ

“ผู้หญิงคนนี้สวยมาก!”

“สวยเท่าหนูหรือเปล่า?”

พี่สาวขยับเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“ไปเลย”

แม่ไม่สนใจเธอ

พี่สาวเบ้ปาก

น้องสาวคล้ายกับว่าเงยหน้ามองโทรทัศน์ด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน

……

ในขณะนี้เจียงอวี้เยี่ยนเข้าสู่สกุลเซินถูแล้ว

แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่า เซินถูไห่จะยังมีภรรยาอีกหนึ่งคน ซึ่งเป็นนายหญิงแห่งสกุลเซินไห่

“นี่คือลูกสาวของข้า เซินถูอวี้เยี่ยน”

เจียงอวี้เยี่ยนบอกกับเจียงอวี้เยี่ยนด้วยรอยยิ้ม “เรียกท่านแม่”

“ท่านแม่…”

เจียงอวี้เยี่ยนเอ่ยอย่างขวยเขิน

นายหญิงคลี่ยิ้ม ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงเต็มแรง

“เรียกอะไรนะ”

เจียงอวี้เยี่ยนถูกตบหน้าจนตะลึงงัน

เซินถูไห่หน้าถอดสี แต่เขากลับไม่กล้าพูดอะไรสักคำ

“ฮูหยิน…”

เจียงอวี้เยี่ยนไม่ใช่คนโง่เขลา เธอกุมใบหน้า เปลี่ยนคำพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ

“เจ้าชื่อว่าอะไร”

“ข้าน้อย…ข้าน้อยเจียงอวี้เยี่ยน”

เพี้ยะ

นายหญิงตบเธออีกครั้ง แววตาเย็นเยียบ “นับแต่นี้ ชื่อของเจ้าคือโก่วเอ๋อร์[1] สาวใช้ชั้นต่ำที่สุดในสกุลเซินถู”

……

พี่สาวรู้สึกโมโห “ร้ายเกินไปแล้วไหม!”

น้องสาวนึกสงสัย “ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”

ต้องบอกว่า

เจียงอวี้เยี่ยนรูปโฉมงดงามน่ามองราวกับบุปผาสีขาวดอกเล็ก ให้ความรู้สึกน่าเห็นอกเห็นใจ

เธอตัวสั่นหลังจากถูกตบ ท่าทางหวาดกลัว แม้แต่เด็กผู้หญิงยังสงสารเมื่อได้เห็น

“ลูกนอกสมรสของเซินถูไห่ ผู้หญิงคนนั้นคือแม่เลี้ยง”

แม่อธิบาย พลางกล่าวเสริม “นี่ก็คือเหตุผลที่พวกลูกไม่มีพ่อเลี้ยง”

พี่สาวสับสน “เซินถูไห่ไปมีภรรยาเพิ่มขึ้นมาได้ไง แถมยังมีลูกนอกสมรสอีก?”

น้องสาวครุ่นคิด “เป็นตัวละครที่คนเขียนบทใส่เพิ่มขึ้นมา”

หยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอไม่ใช่เรื่องราวที่แปลกใหม่สำหรับทุกคน ผลงานชิ้นนี้หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ทุกคนสามารถมองออกถึงตัวละครและเรื่องราวที่ผิดแปลกไปจากต้นฉบับเล็กน้อย

เรื่องราวหลังจากนั้นวนเวียนอยู่รอบเจียงอวี้เยี่ยน

และจากการแนะนำในเรื่องราวต่อจากนั้น ทุกคนจึงได้รู้ว่าเพราะเหตุใดเซินถูไห่ถึงได้ยำเกรงภรรยาของตนถึงเพียงนั้น ลูกนอกสมรสถูกทำรายเช่นนี้ยังไม่กล้าส่งเสียง

ปรากฏว่าภรรยาของเขาเป็นบุตรบุญธรรมของขันทีระดับสูงในวังหลวง

ขันทีระดับสูงคนนี้มีอำนาจมาก ตำแหน่งของเซินถูไห่ อีกฝ่ายก็เป็นผู้มอบให้

“เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปมาก”

พี่สาวคล้ายกับจะสนใจเพิ่มขึ้น นั่งบนโซฟาโดยไม่ขยับไปไหนด้วยซ้ำ

น้องสาวก็ดูโทรทัศน์เช่นเดียวกัน

แม้แต่หลินเยวียนยังดูซีรีส์อยู่ในห้องกับหนานจี๋

เอาเถอะ

เขายอมรับว่าตนเองมีเจตนาไม่ดี ไม่ได้เปลี่ยนแม้แต่ชื่อ และให้สตรีคนนี้ใช้ชื่อว่าเจียงอวี้เยี่ยน

ก็ใครให้เจียงอวี้เยี่ยนในซีรีส์เรื่องนี้ของหวังจิงได้รับการขนานนามจากผู้ชมว่า ‘จักรพรรดินีเยี่ยน’ กันล่ะ

“หลังจากนี้จะเป็นเรื่องราวของการเติบโตของจักรพรรดินีเยี่ยนแล้ว”

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท