ตอนที่ 601 ผลวิเศษหมื่นปี
หลังจากพ่อของเฮ่อสี่กินผลหมื่นปีเข้าไปแล้วก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ ชีพจรก็ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้เท่าไร
แต่มู่เถาเยากับคนอื่นๆ ไม่รีบร้อน มีแค่ครอบครัวเฮ่อที่เครียด
หยวนเหยี่ยยิ้มพูด “ไม่ต้องเอาแต่จ้องแบบนั้นหรอก ต่อให้กินยาก็ไม่เห็นผลเร็วหรอก รอด้วยความอดทนนะ”
ครอบครัวเฮ่อได้ฟังก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงไม่เอาแต่จ้องพ่อเฮ่ออีกต่อไป
แม่เฮ่อสี่พูดกับลูกเขย “อาถู เดี๋ยวกินข้าวแล้วก็ไปเอายานะ จากนั้นก็พาอาสี่กลับบ้านก่อน ต้องไปดูแลครรภ์ ฮาเซินก็จะปล่อยไว้บ้านคุณครูตลอดไม่ได้นะ”
เฮ่อสี่ไม่เห็นด้วย “แม่คะ อาถูกลับไปคนเดียวก็พอแล้ว หนูจะอยู่กับทุกคน ไม่ได้ออกไปไหนเสียหน่อย หนูอยู่ที่นี่ก็ดูแลครรภ์ได้เหมือนกัน…จริงสิอาถู คุณยังไม่ได้โทรบอกพ่อกับแม่เลยใช่ไหม”
น่าซูถูตีหัวตัวเอง “ลืมไปเลย ผมจะไปโทรเดี๋ยวนี้”
เฮ่อฮวานพูด “พี่ครับ เดี๋ยวพี่กับพี่เขยกลับไปทั้งคู่นั่นแหละ ผมจะดูแลพ่อกับแม่เอง”
พ่อเฮ่อพยักหน้า “อาสี่ มีแม่กับอาฮวานอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว อันที่จริงลูกอยู่ที่นี่ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าพ่อมีความเปลี่ยนแปลงอะไรจะให้อาฮวานโทรบอกลูกทันที”
มู่เถาเยาพูดต่อ “พี่สะใภ้วางใจได้ค่ะ ต่อให้ไม่เกิดผล ผลลัพธ์ก็ไม่มีทางเลวร้ายไปกว่าตอนนี้ ลองสังเกตดูสักสองวัน อย่างช้าสุดวันมะรืนก็กลับไปได้แล้วค่ะ”
เฮ่อสี่ “ยังไงก็อีกแค่สองวัน ไว้ถึงเวลาค่อยกลับพร้อมกัน”
พ่อเฮ่อพูดเตือน “อาสี่ ลูกต้องกินยาบำรุงครรภ์ อยู่โรงแรมต้มยาไม่สะดวก”
ซูเฟยหลวนยิ้มพูด “ร้านยาต้มยาได้ก็จริง แต่ข้างนอกอุณหภูมิต่ำมาก แค่เอาออกมาก็แข็งตัวแล้ว…กลับไปบ้านสะดวกกว่าค่ะ”
หมอพูดขนาดนี้แล้ว เฮ่อสี่จำต้องฟังความเห็นของทุกคน
พอน่าซูถูคุยโทรศัพท์เสร็จหยางเค่อก็รับรุ่ยหรานกับรุ่ยเซวียนที่เลิกเรียนกลับมาพอดี พวกเขาจึงลงไปกินข้าวที่ห้องอาหาร
หลังกินเสร็จน่าซูถูก็เอาใบสั่งยาไปซื้อยาที่ร้านยาผิงคัง คนอื่นๆ ไปนอนกลางวันกันหมด
ตอนที่น่าซูถูกลับมาทุกคนก็เพิ่งตื่น
ปุ่มที่ 4 ใน 4 ตอนถัดไป
ปุ่มที่ 3 ใน 4 ตอนก่อนหน้า
ปุ่มที่ 2 ใน 4 ความคิดเห็น
ปุ่มที่ 1 ใน 4 สารบัญ
ตอนที่ 602 ไม่จำเป็นต้องหันหลังกลับ ตอนที่ 603 กินเสร็จแล้วจะหนี
ตอนที่ 602 ไม่จำเป็นต้องหันหลังกลับ
หลังจากนอนอีกหนึ่งคืน สีหน้าของพ่อเฮ่อก็มีเลือดฝาดจนแม้แต่เฮ่อฮวานที่อายุยี่สิบห้าก็สู้ไม่ได้ ร่างกายกับจิตใจรู้สึกสดชื่นมาก ราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง
มู่เถาเยาจับชีพจรเสร็จก็บอกพวกเขาว่าร่างกายฟื้นฟูกลับมาในสภาวะที่ดีที่สุดแล้ว กลับบ้านได้แล้ว
พ่อเฮ่อจึงถือโอกาสเชิญพวกหยวนเหยี่ยไปเป็นแขกที่บ้าน
หยวนเหยี่ยส่ายมือ “พวกเราก็ต้องกลับแล้วล่ะ พวกเด็กๆ รออยู่ อันนั่วก็ต้องทำงาน”
ครอบครัวเฮ่อก็ไม่ตื๊อ
แม่เฮ่อถาม “แล้วเสี่ยวมู่กับเสี่ยวลู่กลับเมื่อไรจ๊ะ ให้รอกลับด้วยกันไหม”
มู่เถาเยายิ้มตอบ “กลับกันก่อนได้เลยค่ะ พรุ่งนี้หนูส่งอาจารย์ขึ้นเครื่องเสร็จค่อยกลับค่ะ”
“งั้นไม่สู้พวกเราก็รออีกวันแล้วกลับด้วยกัน”
“คนในครอบครัวคุณป้าเป็นห่วงอยู่นะคะ กลับไปก่อนพวกเขาจะได้สบายใจค่ะ พี่สะใภ้ก็ท้องอยู่ด้วย”
“ก็ได้จ้ะ งั้นพรุ่งนี้เย็นพวกเราไปบ้านครอบครัวน่า กินข้าวด้วยกันนะ”
“ค่ะ”
เฮ่อฮวานยิ้มพูด “งั้นเดี๋ยวพวกเราไปซื้อของฝากจากเมืองเสวี่ยตูให้หมอเทวดาหยวนเอากลับไปนะครับ”
หยวนเหยี่ยส่ายมือ “อย่าเปลืองเงินเลย”
พ่อเฮ่อ “ก็แค่พวกเมล็ดสนเองน่ะครับ ไม่กี่ตังค์หรอก”
“งั้นก็ได้ พวกคุณทำอะไรเสร็จก็กลับบ้านซะนะ เดี๋ยวพวกเราจะออกไปเที่ยว กลางวันคงไม่กลับมากินข้าวที่โรงแรม ลาตรงนี้เลยแล้วกัน”
เฮ่อฮวานเสนอ “งั้นผมพาทุกคนเที่ยวเมืองเสวี่ยตูดีไหมครับ พ่อผมขับรถกลับไปได้”
หยวนเหยี่ย “ไม่ต้องหรอก ข้างนอกหนาวมาก แขนขาของฉันไม่ชินกับสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีแต่หิมะแบบนี้ เดินเล่นเดี๋ยวเดียว ไม่อยู่ข้างนอกนานหรอก พวกเธอกลับไปเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ครับ งั้นพวกเราคืนห้องเสร็จค่อยออกไป จะได้มีคนมาทำความสะอาด เดี๋ยวพวกเราซื้อของฝากเสร็จจะไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ หมอเทวดาหยวนอย่าลืมเอากลับไปนะครับ”
“อืม พวกเธอไปเถอะ”
ครอบครัวเฮ่อร่ำลาพวกมู่เถาเยาเสร็จก็กลับห้องไปเก็บของแล้วออกจากโรงแรม
ก่อนซื้อของฝากได้ไปบริจาคเงินที่โรงพยาบาลผิงคังก่อน
เหลือเงินแค่พอไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน กับสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ส่วนที่เหลือก็บริจาคหมด
ไม่ใช่แค่พ่อเฮ่อแม่เฮ่อที่ยินดีทำ เฮ่อฮวานก็ไม่เสียดายเลยสักนิด
ในสายตาของเขา เงินเหล่านี้ไม่มีทางพอซื้อผลหมื่นปี แต่หมอเสี่ยวมู่กับหมอเทวดาหยวนกลับไม่รับไว้เลย ให้เอาไปบริจาคหมด แล้วจะไม่น่าเลื่อมใสได้อย่างไร
คนที่ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนอย่างแท้จริง ควรได้รับการยกย่องจากผู้คน
เวลานี้มู่เถาเยากับพวกหยวนเหยี่ยที่กำลังอยู่ระหว่างทางไปแหล่งท่องเที่ยวไม่รู้แม้แต่น้อยว่าครอบครัวเฮ่อคิดอะไรอยู่
“อาจารย์ใหญ่ไม่อยู่พักที่บ้านศิษย์พี่เจ็ดนานหน่อยล่ะคะ”
“ไม่ล่ะ ศิษย์พี่กับพี่เขยของเธองานยุ่งมาก ถ้าอาจารย์อยู่ต่อ พวกเขาจะต้องเจียดเวลามาอยู่เป็นเพื่อนอาจารย์ด้วยแน่”
“งั้นไปเที่ยวกับพวกหนูไหมคะ”
ตี้อู๋เปียน “…” เขาไม่อยาก!
ไม่ใช่ว่าเขาไม่กตัญญู แต่การท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เขาจะมัดใจซาลาเปาน้อยให้อยู่หมัด เขาไม่อยากให้ใครเข้ามาแทรก
ดูเหมือนคนบนรถจะรู้สึกได้ถึงความไม่สบอารมณ์ของเขา หยวนเหยี่ยจงใจแกล้งเขา “เอาสิ งั้นอาจารย์ไปเที่ยวด้วย ให้อันนั่วกลับไปคนเดียวเลย”
ตี้อู๋เปียน “…!”
เฉิงอันนั่วกับหร่วนเหวินกลั้นขำ
มู่เถาเยาคิดว่าหยวนเหยี่ยจะอยู่เที่ยวด้วยจริงๆ จึงพูดด้วยความดีใจ “งั้นเดี๋ยวพวกเราไปซื้อเสื้อผ้าให้เยอะหน่อยกัน”
ไม่มีใครได้กินน้ำตาสีแดงของเจ้าขาวปุยนอกจากเธอ ตี้อู๋เปียน และเย่ว์จือกวง ต่อให้มีกำลังภายในก็ต้านทานอากาศหนาวเย็นเป็นเวลานานไม่ได้
ตี้อู๋เปียนเรียกอย่างอ่อนแรง “ซาลาเปาน้อย!”
มู่เถาเยาหันไปด้วยความไม่เข้าใจ “หืม?”
ตี้อู๋เปียน “…”
หยวนเหยี่ยหัวเราะเสียงดัง
เฉิงอันนั่วกับหร่วนเหวินก็กลั้นไม่อยู่แล้ว
หยวนเหยี่ยกลายร่างเป็นเด็กช่างฟ้อง “เสี่ยวเยาเยา อู๋เปียนไม่อยากให้อาจารย์ไปเที่ยวด้วย”
มู่เถาเยามีสีหน้าตะลึง “ตี้อู๋เปียน คุณคิดแบบนี้ได้ยังไง!”
คนอื่นๆ ขำยิ่งกว่าเดิม
หูของตี้อู๋เปียนเริ่มแดง
มู่เถาเยาเห็นหูของเขาแดงก็เข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร “แค่ก อาจารย์อุตส่าห์มาทั้งที…”
“ซาลาเปาน้อย ครั้งหน้าพวกเราค่อยพาพวกผู้ใหญ่ออกมาเที่ยวกันดีไหม” ในเมื่อทุกคนอ่านความคิดของเขาออกหมดแล้ว งั้นเขาก็พูดออกมาเลยแล้วกัน
“แต่ว่าอาจารย์มาถึงที่นี่แล้วนะ…”
หยวนเหยี่ยยิ้มเอ็นดูลูบศีรษะของลูกศิษย์คนเล็ก “เสี่ยวเยาเยาของอาจารย์โตแล้ว ต้องมีเวลาของตัวเองบ้าง จะเอาอาจารย์ไปทุกที่ไม่ได้”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกันคะ”
“อาจารย์รู้ว่าเธอกตัญญู แต่หนุ่มสาวก็ต้องมีชีวิตและแวดวงสังคมของตัวเอง ก็เหมือนที่เธอไปเรียนหนังสือข้างนอก ไม่ต้องไปที่ไหนก็ต้องเอาพวกอาจารย์ไปด้วย”
“อาจารย์ใหญ่…” มู่เถาเยาแอบสะเทือนใจ
“เมื่อไรที่เธอต้องการ พวกอาจารย์จะรออยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานเสมอ ดังนั้นจงเดินหน้าอย่างกล้าหาญ เดินไปตามความรู้สึกของตัวเอง ไม่ต้องกลัวบาดเจ็บ เพราะทุกคนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังตลอด”
“มันก็ไม่แน่หรอกนะ”
“ผมรับประกัน”
“ลมปากผู้ชายเชื่อไม่ได้”
“…ปู่หยวนก็เป็นผู้ชาย”
หยวนเหยี่ยเชิดหน้า “นายลองถามเสี่ยวเยาเยาดูแล้วกันว่าผู้ชายหน้าเหม็นอย่างพวกนายเหมือนกับฉันหรือไง”
มู่เถาเยาพยักหน้าทันที “อาจารย์ใหญ่ดีที่สุดแล้วค่ะ”
ตี้อู๋เปียน “…”
เฉิงอันนั่วที่อยู่ๆ ก็โดนด่าทางอ้อมเฉย “…”
ตอนที่ 603 กินเสร็จแล้วจะหนี
หลังกินอาหารเช้าเสร็จมู่เถาเยา ตี้อู๋เปียน และครอบครัวซูเฟยหลวนก็ไปส่งหยวนเหยี่ย เฉิงอันนั่ว และหร่วนเหวินขึ้นเครื่อง
ตอนไม่เจอกันก็พอไหว แต่พอได้เจอกันก็ไม่อยากแยกจาก
ซูเฟยหลวนแอบสะเทือนใจ แต่ถึงอย่างไรก็ช่วยไม่ได้
เดิมทีชีวิตคนเราก็มีพบมีจากกันตลอดอยู่แล้ว
“อาจารย์ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะคะ!” ซูเฟยหลวนคล้องแขนหยวนเหยี่ยไม่อยากให้ไป
หยวนเหยี่ยตบแขนลูกศิษย์คนที่เจ็ดเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “ไม่ต้องห่วงนะ อาจารย์สุขภาพดีมาตลอด ไม่เป็นโรคอะไรเลย ถ้าไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ยังอยู่ได้อีกหลายสิบปี”
เสี่ยวเยาเยาจะทำให้พวกเขาอยู่ได้ร้อยสองร้อยปี พวกเขาก็ย่อมต้องพยายาม!
“ค่ะ รุ่ยหรานกับรุ่ยเซวียนใกล้ปิดเทอมหน้าหนาวแล้ว ไว้ถึงตอนนั้นให้หยางเค่อไปส่งเด็กๆ ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานอยู่เป็นเพื่อนอาจารย์นะคะ”
“ได้ๆๆ”
เด็กน้อยสองคนดีใจพร้อมกัน พวกเขาชอบหมู่บ้านเถาหยวนซานที่สุดเลย!
หยางเค่อพาคนเอาของฝากขึ้นเครื่องเสร็จแล้วเดินมาได้ยินคำพูดนี้พอดี เขาจึงยิ้มพูด “ไว้ถึงตอนนั้นผมจะลาหยุดประจำปีอยู่กับอาจารย์ได้นานหน่อยครับ”
ทำงานแวดวงงานบริการจะงานยุ่งที่สุดช่วงเทศกาล ดังนั้นปกติช่วงวันหยุดปีใหม่ของเขาจะถูกเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนออกไป
“อืม พวกเรากลับแล้วพวกเธอก็รักษาตัวให้ดี มีอะไรก็โทรมา”
พวกมู่เถาเยาลงจากเครื่อง เดินออกไปไกลหน่อย เฮลิคอปเตอร์บินขึ้น ไม่นานก็หายกลมกลืนไปบนฟ้า
ซูเฟยหลวนคล้องแขนมู่เถาเยาเดินไป “ศิษย์น้องเล็กกับอู๋เปียนจะอยู่เที่ยวที่นี่อีกหลายวันไหม”
“ไม่แล้วค่ะ เดี๋ยวพวกเราจะกลับหมู่บ้านเหลิ่งจี๋ พรุ่งนี้ไปเมืองจี๋กวง จะเลาะตามเมืองชายขอบเดินทางกลับ ปลายเดือนมีนาอาจารย์สามของฉันจะคลอดเสี่ยวลู่ลู่แล้วค่ะ”
“เฮ้อ พี่อยู่ไกลจากพวกเธอมาก…ตอนนี้ชักนึกเสียใจที่แต่งมาอยู่ไกลขนาดนี้”
หยางเค่อ “…” ลูกอายุตั้งสิบขวบแล้ว เสียใจตอนนี้ยังจะทันอีกเหรอ
แต่ก็ดีกว่านึกเสียใจตอนเพิ่งแต่งงานหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นเกิดเธอหนีไปแล้วเขาจะอยู่ยังไง
ตี้อู๋เปียนได้ยินคำพูดของซูเฟยหลวนก็แอบหวั่นใจ กลัวมู่เถาเยาก็จะรู้สึกว่าแต่งไปอยู่ไกลๆ ไม่ดี
ระยะทางจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์มาประเทศเหยียนหวงไกลกว่าจากฝั่งตะวันออกของประเทศเหยียนหวงไปเหนือมากทีเดียว
มู่เถาเยาครุ่นคิดแล้วถาม “ไม่งั้นฉันให้เครื่องบินศิษย์พี่เจ็ดลำนึงดีไหมคะ”
ซูเฟยหลวนปฏิเสธทันที “ไม่เอาหรอก เงินของเธอเอาไว้ใช้เรื่องใหญ่ๆ อย่ามาเสียให้เรื่องเล็กน้อยพวกนี้เลย”
“ก็ได้ค่ะ งั้นศิษย์พี่เจ็ดไปทำงานนะคะ ฉันกับตี้อู๋เปียนเก็บของเสร็จก็จะไปเลย” พวกเขาไม่ได้เอาสัมภาระมาเยอะ มีแค่กล่องยากับพวกของใช้อย่างโทรศัพท์มือถือ
หยางเค่อ “พี่จัดรถไปส่งพวกเธอให้แล้ว พวกเธอเก็บของเสร็จก็มาหาพี่ที่เคาน์เตอร์โรงแรมนะ”
“ค่ะ”
คู่แฝดจับมือมู่เถาเยาคนละข้าง ไม่อยากให้ไป
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “รุ่ยหราน รุ่ยเซวียน รอทั้งสองคนเรียนจบประถมก็จะได้ไปเรียนมัธยมที่หมู่บ้านเถาหยวนซานแล้ว ไว้ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะได้เจอกันบ่อยแล้วจ้ะ”
หยางรุ่ยหราน “อาเล็กฮะ ผมกับน้องจะตั้งใจเรียนรู้จากพ่อกับแม่ จะได้ดูแลตัวเองกับคนในครอบครัวได้”
“อืม พวกเธอฉลาดแถมยังกตัญญู จะต้องช่วยดูแลอาจารย์ปู่แทนแม่ได้แน่จ้ะ”
เด็กน้อยทั้งสองคนพยักหน้าหงึกๆ
ทุกคนกลับเข้าไปในห้องโถงของโรงแรม มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนขึ้นไปชั้นบน ไม่นานก็หยิบของเดินลงมา
ทั้งสองคนนั่งรถที่หยางเค่อจัดไว้ให้ไปหมู่บ้านเหลิ่งจี๋ กลับถึงบ้านครอบครัวน่าก่อนกินข้าวเที่ยง
ชวนคนขับรถให้กินข้าวด้วยกันก่อน จากนั้นคนขับรถก็กลับไป
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนคุยกับครอบครัวน่าอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ต่อมาก็จับชีพจรให้เฮ่อสี่ ตรวจดูข้อเท้าของน่าเค่อเลี่ย เสร็จแล้วก็ขึ้นห้องกับตี้อู๋เปียนไปพักผ่อนก่อน
พอถึงห้องตี้อู๋เปียนก็พูดขึ้นชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว “ซาลาเปาน้อย ฉันว่าพวกเราจำเป็นต้องคุยกันหน่อย”
“…?”
“เมื่อไรเธอจะรับรองสถานะของฉันสักที”
“สถานะอะไร” มู่เถาเยามีสีหน้างุนงง
“ก็ประกาศในกลุ่มครอบครัวกับกลุ่มเพื่อนว่าฉันเป็นแฟนของเธอ” ทุกคนรับรู้อยู่แล้วมันก็เรื่องหนึ่ง ซาลาเปาน้อยยอมรับจากปากตัวเองมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
มู่เถาเยา “…” เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลย
เพราะเธอรู้สึกว่าปล่อยไปตามธรรมชาติดีกว่า ไม่จำเป็นต้องจงใจอธิบายให้ใครฟัง
ตี้อู๋เปียนเห็นสีหน้าของมู่เถาเยาก็รู้แล้วว่าเธอคิดยังไง ใบหน้าที่ผ่านการแปลงโฉมบึ้งลงทันที “ซาลาเปาน้อย เธอจะให้ฉันตามเธอไปแบบนี้โดยไม่มีสถานะเหรอ”
มู่เถาเยาเกือบสำลักน้ำลายตัวเองตาย “ไม่งั้นคุณก็ไม่ต้องตามฉันดีไหม”
ดวงตาของตี้อู๋เปียนแทบจะมีเปลวเพลิง โอบเธอเข้ามาด้วยความโมโหแล้วจับเธอกดลงบนเตียงอุ่นที่ปูไว้เรียบร้อยแล้ว “กินเสร็จแล้วคิดจะหนีเหรอ ใส่กางเกงเสร็จก็ลืมกันเลยเหรอ”
ไม่มีเรื่องแบบนั้นเสียหน่อย!
ก็แค่จูบแค่ลูบคลำเอง แถมเขายังเริ่มก่อน ไม่เกี่ยวกับเธอเลย!
“อ่อ งั้นถอดเลยตอนนี้” ตี้อู๋เปียนลุกขึ้น เอามือมู่เถาเยามาจับตรงเอว
มู่เถาเยาดิ้นหลุดจากมือตี้อู๋เปียนแล้วสกัดจุดเขาอย่างรวดเร็ว
ผลักเขาให้ล้มบนเตียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทั้งยังช่วยจัดมือเท้าให้ดีด้วย
“ซาลาเปาน้อย อันที่จริงเธอไม่ต้องบังคับฉันก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่…”
มู่เถาเยาสกัดจุดให้เขาหยุดพูด
เอาล่ะ คราวนี้ก็ไม่ต้องได้ยินคำพูดล่อแหลมแล้ว
ห่มผ้าให้เขา ส่วนตัวเองก็นอนห่มผ้าอีกฝั่ง หลับตาผล็อยหลับไป
ตี้อู๋เปียน “…”
จับสุดหล่อแบบเขานอนลง จัดท่าให้อย่างดี เธอยังจะหลับลงอีกเหรอ
จะต้องเป็นเพราะใบหน้านี้แน่ๆ เห็นทีต่อไปอยู่ในห้องต้องล้างออกแล้ว!
ตี้อู๋เปียนกะพริบตาปริบๆ มองมู่เถาเยานอนพลางเดินกำลังภายในคลายจุด
ขณะที่มู่เถาเยากำลังหลับลึก เขาก็คลายจุดที่ถูกสกัดไว้ได้แล้ว จากนั้นก็โอบโฉมงามมาไว้ในอ้อมกอดแล้วห่มผ้าผืนเดียวกัน
ระยะเวลาที่เขาใช้คลายจุดสกัดสั้นลงเรื่อยๆ ดังนั้นเรื่องปรับสมดุลหยินหยางที่เธอสัญญาไว้คงอีกไม่นานแล้ว!
ตี้อู๋เปียนแค่คิดร่างกายก็จะร้อนรุ่มขึ้นมาอีกแล้ว เขาพยายามสลัดภาพสิบแปดบวกในหัวออกแล้วนอนกอดหญิงงามอย่างสงบ