ตอนที่ 1560 ไม่สนว่าต้องแลกด้วยสิ่งใด
ซีผิงอ๋องนั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งทำจากหนังเสือ รองเท้าหนังกวางของเขาเหยียบลงบนหัวเสือ
“ก่อนหน้านี้เมืองต้าเยี่ยนซึ่งอยู่ในการปกครองของต้าโจวเกิดโรคระบาดจนชาวบ้านเริ่มก่อความวุ่นวาย จักรพรรดินีต้าโจวคงพากองทัพมาเพื่อปราบปรามความวุ่นวาย ได้ยินว่าต่อมาจงกั๋วอ๋องแยกเดินทางไปปลอบขวัญชาวบ้านกับจักรพรรดินีต้าโจว เมื่อจักรพรรดินีต้าโจวไปเยือนเมืองใดนางจะทิ้งทหารไว้ให้เมืองนั้นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือแม่ทัพคุ้มกันเมืองนั้นๆ ดูแลความเรียบร้อยในเมือง”
ที่ปรึกษาชุดดำกล่าวขึ้นช้าๆ
“ที่โรคระบาดในเมืองต้าเยี่ยนที่อยู่ในเขตการปกครองของต้าโจวควบคุมได้เร็วเป็นเพราะเสิ่นเทียนจือผู้นั้นรับมือกับสถานการณ์ได้ดี! ทหารที่จักรพรรดินีต้าโจวทิ้งไว้ตามเมืองต่างๆ ต้องไปรวมตัวกับจักรพรรดินีต้าโจวที่เมืองเส่อชวีเพื่อเดินทางกลับต้าโจวแน่”
“ใช่แล้ว พวกนั้นไม่มีทางทิ้งทหารที่ทำสงครามได้ไว้ที่เมืองซึ่งเป็นเพียงเมืองในการเดิมพันเช่นนี้แน่”
ซีผิงอ๋องยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นโน้มกายยื่นมือไปอังเตาผิงซึ่งวางอยู่ด้านหน้า
“นอกเสียจากว่าจักรพรรดินีต้าโจวจะวางแผนไว้แล้วว่าต่อให้แพ้การเดิมพันครั้งนี้ก็จะไม่ยอมรับผลแพ้ หากเป็นเช่นนั้นนางคงทิ้งทหารที่ทำสงครามได้ไว้ตามเมืองต่างๆ เพื่อรอโอกาสแน่…”
ที่ปรึกษาชุดคำก้มหน้าครุ่นคิด จากนั้นกล่าวขึ้น
“อาจเป็นไปได้อย่างที่ท่านอ๋องทรงคิดพ่ะย่ะค่ะ”
“ทว่า ไม่ว่าอย่างใดก็ห้ามให้จักรพรรดินีต้าโจวเดินทางไปถึงเมืองเส่อชวีหรือเข้าใกล้เมืองเส่อชวีเด็ดขาด!”
ซีผิงอ๋องเงยหน้ามองที่ปรึกษาชุดดำที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่าง
“หากจักรพรรดินีต้าโจวเดินทางใกล้ถึงเมืองเส่อชวีนางอาจส่งข่าวขอความช่วยเหลือได้ง่าย ไม่เป็นผลดีต่อพวกเราสักนิด”
“ท่านอ๋องจะสั่งให้เคลื่อนทัพไปดักซุ่มโจมตีตอนนี้เลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ที่ปรึกษาชุดดำเอ่ยถาม
“ข้าเลือกที่ดักซุ่มโจมตีไว้แล้ว”
ซีผิงอ๋องไม่ใช่คนโง่ที่ต้องคอยแต่พึ่งพาที่ปรึกษาของตัวเอง เขาชักมือที่อังไฟจนแดงก่ำกลับมา จากนั้นลุกขึ้นยืนช้าๆ
“เคลื่อนทัพเดี๋ยวนี้! ต้องไปถึงที่ดักซุ่มโจมตีก่อนเช้าวันพรุ่งนี้ สังหารจักรพรรดินีต้าโจวตอนที่นางตั้งตัวไม่ทัน”
ที่ปรึกษาจับขอบโต๊ะลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน
“ท่านอ๋องจะส่งทหารไปเท่าใดพ่ะย่ะค่ะ”
ซีผิงอ๋องกล่าวขึ้น
“ทั้งกองทัพซีผิง!”
ที่ปรึกษาชุดดำเบิกตาโพลง
“ท่านอ๋อง…จะส่งทหารสามหมื่นนายที่ไม่ได้รายงานให้ฝ่าบาทรับทราบไปด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นเท่ากับว่าพวกเรามีทหารถึงห้าหมื่นนายเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”
ซีผิงอ๋องพยักหน้า
“เผชิญหน้ากับบุคคลเก่งกาจอย่างจักรพรรดินีต้าโจวข้าจะประมาทได้อย่างไรกัน ยกไปทั้งกองทัพ! ครั้งนี้ข้าจะนำทัพไปด้วยตัวเอง ต้องสังหารจักรพรรดินีต้าโจวให้ได้ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม!”
ที่ปรึกษาชุดดำมองออกว่าซีผิงอ๋องต้องการสังหารจักรพรรดินีต้าโจวมาก เขาโค้งกายคำนับซีผิงอ๋อง
“ท่านอ๋องทำสงครามเพื่อแคว้นต้าเยี่ยน ดวงวิญญาณของจักรพรรดิองค์ก่อนต้องคอยปกป้องทหารของต้าเยี่ยน ท่านอ๋องต้องได้รับชัยชนะแน่พ่ะย่ะค่ะ!”
ซีผิงอ๋องเคยทำสงครามมาก่อน ตอนที่วังหลวงเกิดความวุ่นวายเขาเป็นคนคุ้มกันจักรพรรดิองค์ก่อนหนีออกมาจากวังหลวง ตอนที่หนานเยี่ยนยังไม่ได้กลับคืนสู่ต้าเยี่ยนซีผิงอ๋องคุ้มกันอยู่ที่เขตชายแดนของต้าเยี่ยน ซีผิงอ๋องทำสงครามกับหนานเยี่ยนอยู่หลายครั้ง ทว่า ต่อมาเมื่อซีผิงอ๋องเห็นเชื้อพระวงศ์คนอื่นที่ทำตัวเป็นปรสิตเอาแต่ได้ความคิดของเขาจึงเปลี่ยนไป เขายิ่งเสียดายทหารในสังกัดของตัวเอง ต่อมาเขาทั้งซุกซ่อนกำลังทหารและทำสงครามได้แย่ลงกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ
ทว่า ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน หากสังหารจักรพรรดินีต้าโจวและผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนได้ จักรพรรดิต้าเยี่ยนยังเล็ก เขาซึ่งมีกองกำลังทหารในมือสามารถขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการได้ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงเผยไพ่ตายของเขาออกมาอย่างหมดเปลือก
ชื่อเสียงของจักรพรรดินีต้าโจวยิ่งใหญ่เกินไป…นางคือแม่ทัพที่รบไม่เคยพ่ายแพ้!
คำนี้ทำให้เชื้อพระวงศ์เกือบทุกคนหวาดกลัวในตัวนาง หากเขาสามารถสังหารแม่ทัพผู้รบไม่เคยพ่ายแพ้ได้สำเร็จผู้ใดจะกล้าลุกขึ้นมาต่อกรกับเขาอีก!
ตกดึกไป๋จิ่นจื้อพลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย นางตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง ถือตะเกียงไว้ในมือแล้วเดินออกมาจากห้องนอน จากนั้นรินน้ำชาให้ตัวเองหนึ่งถ้วย
ชาเย็นหมดแล้ว ทว่า ไป๋จิ่นจื้อไม่ใส่ใจ ตอนทำสงครามอยู่ที่ภายนอกนางลำบากกว่านี้ไม่รู้ตั้งกี่สิบเท่า
ไม่รู้เพราะเหตุใดหลายวันมานี้ไป๋จิ่นจื้อจึงรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี นางไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย
ไป๋จิ่นจื้อเอื้อมมือแตะหน้าผากของตัวเอง
“คงไม่ได้ติดเชื้อโรคระบาดหรอกนะ”
เมื่อแตะแล้วว่าหน้าผากไม่ร้อนไป๋จิ่นจื้อที่นอนไม่หลับจึงตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องแต่งกายออกไปฝึกซ้อมยิงธนูที่พี่หญิงใหญ่สอนนางที่สนามฝึกซ้อม ตอนที่พี่หญิงใหญ่เดินทางไปยังหนานเจียงพี่หญิงใหญ่ก็ฝึกเช่นนี้จนยกธนูเซ่อรื้อขึ้นได้อีกครั้ง
เช้าวันต่อมากองทัพใหญ่ออกเดินทาง…
ไป๋จิ่นจื้อยังไม่ตื่นดี สาวน้อยหาวพลางขี่ม้าตามหลังรถม้าของพี่หญิงใหญ่ นางใช้มือขยี้ตาเป็นพักๆ รู้เช่นนี้นางควรดื่มชารสเข้มสักแก้วก่อนออกเดินทาง
“ไป๋จิ่นจื้อ เมื่อวานเจ้าไปทำอันใดมาถึงได้ลืมตาแทบไม่ขึ้นเช่นนี้…”
หลู่หยวนเผิงล้วงยาหม่องออกมาจากอกแล้วยื่นให้ไป๋จิ่นจื้อ
“ทาไว้ที่ขมับ มันช่วยให้ตื่นได้!”
ยาหม่องชนิดนี้คือของล้ำค่าสำหรับบัณฑิตที่เข้าร่วมการสอบจอหงวนของทุกปี มันมีส่วนผสมของพะยอม นิ่ววัว กวางชะมด อึ่งน้อย[1]และสารอื่นๆ อีกมาย เป็นยากระตุ้นให้สมองปลอดโปร่งที่ดีมาก
ไป๋จิ่นจื้อปล่อยมือออกจากบังเหียนม้า จากนั้นใช้นิ้วปาดยาหม่องขึ้นมาทาบริเวณขมับเล็กน้อยแล้วส่งคืนให้หลู่หยวนเผิง สาวน้อยบ่นพึมพำว่าไม่ได้ผล จากนั้นขี่ม้าไล่ตามรถม้าของไป๋ชิงเหยียนไป ไป๋จิ่นจื้อตัดสินใจขึ้นไปงีบหลับบนรถม้าของไป๋ชิงเหยียน
เมื่อเห็นไป๋จิ่นจื้อขึ้นมาบนรถม้าไป๋ชิงเหยียนซึ่งกำลังนั่งอ่านฎีกาที่ส่งมาจากต้าโจวเอ่ยถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองน้องสาวแม้แต่น้อย
“บอกว่าจะขี่ม้ารับลมมิใช่หรือ ตอนนี้ทิ้งม้าขึ้นมาบนนี้ได้แล้วหรือ”
“ช่วงนี้ข้าไม่รู้เป็นอันใดถึงนอนไม่ค่อยหลับเลยเจ้าค่ะ เมื่อคืนข้าลุกขึ้นไปซ้อมยิงธนู ตอนนี้ข้าง่วงมากเลยเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเหลือบมองดูไป๋จิ่นจื้อที่ยังคงทำตัวเหมือนเด็กแวบหนึ่ง นางดันนมแพะที่เว่ยจงเพิ่งนำมาให้ไปตรงหน้าไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นฝนพู่กันลงในแท่นหมึกพลางกล่าวขึ้นยิ้มๆ
“ดื่มแล้วนอนซะ”
หลิ่วผิงเกาส่งคนออกไปสำรวจเส้นทางก่อนออกเดินทางประมาณสองชั่วยาม อีกสักครู่พวกเขาต้องเดินทางผ่านภูเขา แม้ตอนนี้จะไม่ใช่ช่วงสงคราม ทว่า พวกเขาทำหน้าที่คุ้มกันฝ่าบาทดังนั้นต้องระวังให้มากที่สุด
ไม่นานทหารที่ส่งไปสำรวจเส้นทางก็ขี่ม้ากลับมา หลิ่วผิงเกาขี่ม้าไปด้านหน้าเล็กน้อย
“เป็นอย่างใดบ้าง”
“เรียนท่านแม่ทัพหลิ่ว พวกข้าขึ้นไปสำรวจบนภูเขามาแล้วขอรับ หิมะกองเป็นเนินสูง พวกข้าใช้มีดแทงเข้าไปในหิมะตลอดทางที่สำรวจ ไม่พบกับดักเลยแม้แต้น้อยขอรับ ไม่มีแม้กระทั่งโจรป่า ทว่า มีรอยเท้าซึ่งขนาดไม่เท่ากันระหว่างทางขอรับ”
ก่อนออกเดินทางหลิ่วผิงเกาสอบถามชาวบ้านในเมืองแล้วว่าแถวนี้มีโจรป่าหรืออันตรายอื่นใดที่ควรระวังบ้างหรือไม่ หลู่หยวนผิงกล่าวหยอกว่าหลิ่วผิงเการะวังตัวมากเกินไป ต่อให้เป็นโจรป่าที่เก่งกาจเพียงใดก็ไม่กล้าสู้กองทัพยอดฝีมืออย่างพวกเขาอยู่แล้ว พวกเขาจะออกมาหาที่ตายหรืออย่างใดกัน
ในเมื่อรอยเท้าที่พบมีขนาดไม่เท่ากันก็แสดงว่าไม่ใช่ทหารจากกองทัพเดียวกัน เป็นไปได้ว่าอาจเป็นกลุ่มโจรที่เตรียมออกปล้นชาวบ้าน ทว่า หากพวกเขาเห็นกองทัพนับหมื่นย่อมไม่กล้าออกมารนหาที่ตายอยู่แล้ว
[1] อึ่งน้อย เป็นพืชท้องถิ่นในจีน เปลือกสีน้ำตาล เนื้อในสีเหลืองทอง ตรงกลางมีลายแดงอมน้ำตาล