หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 88 ถึงเวลาเจ้าแสดงแล้ว

บทที่ 88 ถึงเวลาเจ้าแสดงแล้ว

บทที่ 88 ถึงเวลาเจ้าแสดงแล้ว

ก็เพียงเท่านี้หากฮองเฮายังสงสัยอะไรก็รอจนหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของพระราชินีเสร็จสิ้นข้าก็จะตอบท่านด้วยตนเอง ท่านถามอย่างไม่จบไม่สิ้นข้าก็จะตอบอย่างไม่จบไม่สิ้น

นี่ไม่ได้ทำให้เสียบรรยากาศใช่ไหม?

ดังนั้น ตอนนี้ก็ไม่รับการโต้แย้งใดๆ”

คนทั่วไปไม่กล้าพูดเช่นนี้กับฮองเฮาเพราะถึงอย่างไรฮองเฮาก็เป็นแม่ของแผ่นดินมีฐานะและอำนาจนับว่าสูง

แต่นาง หลานเยาเยา กล้าพูดขนาดนี้!

ถ้าฮองเฮายังไม่ยอมปล่อยพวกนางไปหล่ะก็ นี่จะเป็นการทำลายงานเลี้ยงที่พระราชินีจัดขึ้น นางอยากแกล้งให้พระราชินีทำไม่สำเร็จหรอ?

แม้หลานเยาเยาจะวาจาเฉียบคมแต่จากรอยยิ้มหวานๆที่อยู่บนหน้าก็มองความหมายที่พุ่งเป้าไปยังฮองเฮาไม่ออกเลยสักนิด

เหมือนกับมีก้อนฝ้ายก้อนนึงยัดเข้าไปในคอของฮองเฮา จะคายก็คายไม่ออกจะกลืนก็กลืนเข้าไปยาก

“ฮองเฮา น้ำชาในมือเจ้าใกล้จะเย็นหมดแล้วใช่ไหม? ข้าสั่งให้คนเอาแก้วใหม่มาให้”

ความหมายแฝงก็คือฮองเฮาพูดมากไปแล้วจนต้องใช้ชามาอุดปากนางไว้

แล้วคนที่นั่งอยู่ส่วนใหญ่ก็เป็นนักแสดง จะไม่เข้าใจความหมายแฝงของพระราชินีได้อย่างไร?

ฮองเฮาเองก็ต้องเข้าใจ!

นางหน้าซีดไปชั่วขณะ รีบขอบคุณพระราชินีที่ประทานน้ำชาให้จากนั้นก็มองหลานเยาเยาตาเขม่น นัยน์ตาก็ฉายความดุดันโมโห

หลังจากนั้น พระราชินีก็โบกมือมาทางพวกนางสองคนอีกครั้งพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตประจำวันทั่วไปของพวกนางแล้วก็มอบกำไลข้อมือให้แก่พวกนางคนละอัน

แต่ก็ทำให้เหล่าลูกสาวของขุนนางจำนวนมากที่นั่งอยู่ในโถงอิจฉาแทบตาย!

ครู่เดียว!

ฮ่องเต้เสด็จ กลุ่มนางสนมสองสามคนก็เดินตามเข้ามา เมื่อเห็นองค์หญิงจาวหยางไม่เป็นอะไรเขาก็ดีใจมากมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบนาง

แต่ตอนที่เขาเห็นหลานเยาเยานัยน์ตาก็อดไม่ได้ที่จะเป็นประกาย!

“ผู้นี้คือ……?”

มีหญิงงามเช่นนี้ปรากฏอยู่ในเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อใด? ทำไมเขาไม่เคยพบ?

“ฮ่องเต้ นางคือพระชายาของอ๋องเย่ที่เพิ่งแต่งงานเข้ามา——หลานเยาเยา!”

ผู้ที่ตอบเขาก็คือฮองเฮาที่พูดไม่ออกเมื่อครู่นี้ เมื่อเห็นสีหน้าของฮ่องเต้นางก็รู้สึกขัดหูขัดตา

หลานเยาเยาก็คำนับอย่างเหมาะสม: “เคยพบฮ่องเต้!”

ได้ยินดังนั้น!

ฮ่องเต้ก็หันไปมองหลานเฉินมู๋ที่นั่งอยู่ในห้องโถงก็เห็นว่าเขามีสีหน้าแค้นเคืองแล้วก็เอาสายตากลับมามองหลานเยาเยาอีกครั้ง

“อ้อ~ที่แท้ก็เป็นน้องสะใภ้นี่เอง! ฮ่าฮ่าฮ่า น้องของข้านี่มีโชคจริงๆ มามามาให้ที่นั่งแก่องค์หญิงจาวหยางกับพระยาเย่หน่อย”

พวกเขาสองคนได้ที่นั่งของฮ่องเต้ก็ไม่มีอะไร

ถึงอย่างไร!

คนนึงคือเจ้าหญิงที่ฮ่องเต้โปรดปราน อีกคนนึงคือพระชายาของอ๋องเย่ที่มีอำนาจ

เป็นเรื่องแน่นอนที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้

แต่ถ้าในสายตาของฮองเฮามันเหมือนกับมีเข็มแทงอยู่ในใจมองยังไงก็ไม่สบาย

งานเลี้ยงอีกครู่เดียวก็จะเริ่มแล้วแต่เย่แจ๋หยิ่งยังไม่มา

นี่ทำให้หลานเยาเยารู้สึกไม่แน่ใจ……

ถ้างานเลี้ยงธรรมดา เย่แจ๋หยิ่งก็คงไม่ให้นางมาร่วมงานคึกคักแบบนี้ แต่เขา

ในเมื่อเข้าวังมาแล้วแต่ทำไมไม่มาร่วมงานหล่ะ?

เขาไปไหนนะ?

ครู่เดียวก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว หลานเยาเยาก็รู้สึกเบื่อมาก

นอกจากดื่มชาพูดคุยแล้วก็มองนางระบำเต้นรำกับบรรดานักดนตรีบรรเลงเพลง แม้เหล่านางระบำเต้นได้อย่างสวยงาม นักดนตรีบรรเลงเพลงได้อย่างไพเราะประทับใจแต่พวกนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับยา,เงินหรืออาหารที่นางรัก นางไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย!

ก็ไม่รู้ว่าเป็นความคิดใคร คุณหนูแต่ละตำหนักและบรรดาคุณชายก็เริ่มแสดงความสามารถ

บางคนก็หวังได้รับคำชื่นชมจากฮ่องเต้

ส่วนมากก็หวังว่าจะได้รับคำชมจากเพศตรงข้าม!

แล้วก็ยังมีบางจุดประสงค์ที่ยิ่งซับซ้อน!

แต่ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ไหน พวกเขาก็เอาด้านที่ดีที่สุดของตนเองแสดงออกมา

ในนั้น!

ในหมู่ผู้หญิง ทักษะการเต้นของฉินหลิงเจียว เสียงดนตรีของหลินเฟยหรันโดดเด่นที่สุดแต่ก็เอาชนะถังมู่หวั่นที่เดินสามก้าวก็สร้างบทกลอนที่ไพเราะ

ทำให้ทุกคนไม่เพียงแต่ชื่นชม!

ด้านผู้ชาย ในบรรดาคุณชายหกคนของคุณชายทั้งเจ็ดของเมืองหลวงมีพรสวรรค์โดดเด่นที่สุด องค์ชายรัชทายาทโดดเด่นเรื่องรูปลักษณ์ เขียนพู่กันก็ออกมาได้สุดยอดเช่นกัน

แต่กลับสู้ภาพวาดทิวทัศน์ที่งดงามของเซียวซื่อจื่อที่แสนสุภาพไม่ได้

ด้วยอย่างนี้

ทุกคนก็ดันงานเลี้ยงนี้ไปถึงจุดที่สูงที่สุด

ณ ตอนนี้!

ก็มีสายตาไม่เป็นมิตรมองมาทางหลานเยาเยา แม้หลานเยาเยาจะไม่ได้มองที่เจ้านายแต่ไม่ต้องมองนางก็รู้ว่าใคร

เป็นอย่างนั้นจริงๆ!

คนคนนั้นเริ่มพูดแล้ว

“คุณหนูแต่ละตำหนักและบรรดาคุณชาย ด้วยจุ้นจู่และบรรดาโอรสต่างสร้างความสุขสนุกสนานให้กับงานเลี้ยงที่พระราชินีทรงจัดขึ้น ไม่ทราบว่าพระชายาเย่มีความสามารถพิเศษอะไรมาแสดงให้ทุกคนชมสักหน่อยหรือไม่?”

คนที่พูดก็คือฮองเฮาแม่ของแผ่นดิน

แต่ก่อนที่ยอมจำนนก็เพราะหลานเยาเยาใช้นามของพระราชินีปรามนางไว้

ตอนนี้นางก็จะใช้วิธีของคนอื่นมาทำให้ตนเองเช่นกัน!

หลานเยาเยาที่ถูกขีดว่าเป็นลูกสาวของเมียน้อย

แม่แท้ๆของนางตายนานแล้ว แต่ก่อนคนรับใช้ของจวนแม่ทัพ นิ่งซื่อปฏิบัติต่อนางอย่างทารุณ นางกลัวจนแม้แต่ข้าวก็กินไม่อิ่มแล้วจะให้นางไปเรียนรู้การเย็บปักและศิลปะทั้งสี่แขนงพวกนี้ได้อย่างไร?

ดังนั้นนางตั้งใจจะทำให้หลานเยาเยาขายหน้า

ทุกคนล้วนแสดงความสามารถ หลานเยาเยาจะยังหลบไปได้ไหม?

คำพูดของฮองเฮาออกมา!

ทุกคนก็หันไปทางหลานเยาเยา

แม้ทุกคนจะไม่ลืมว่ามีหลานเยาเยาอยู่แต่ก็จำเพียงหน้าตาที่สวยจนล่มเมืองสำหรับพรสวรรค์แล้ว……

นางมีพรสวรรค์ไหมนะ?

นางสามารถเย็บปักได้ก็ดีแล้ว

นี่ฮองเฮาตั้งใจทำให้นางขายหน้าหนิ!

แต่ว่า!

ข้อเสนอนี้ของฮองเฮาได้รับการสนับสนุนจากหลายคน

ไม่ว่าจะเป็นเหล่าขุนนางหรือคนที่อิจฉาในหน้าตาของหลานเยาเยาก็ล้วนปรบมือให้

หลานเยาเยาในฐานะพระชายาเย่ แน่นอนนอนว่าจะต้องเป็นตัวแทนหน้าตาของจวนอ๋องเย่ ถ้าหลานเยาเยาขายหน้าก็เท่ากับอ๋องเย่ขายหน้าด้วย

ตราบใดที่หลานเยาเยาขายหน้า

ทำให้อ๋องเย่ขายหน้า ถ้างั้นสิ่งที่รอนางอยู่ไม่ใช่เพียงแต่การหัวเราะเยาะของทุกคนแต่ยังมีการลงโทษของอ๋องเย่อีกด้วย!

“การแสดงของทุกคนเมื่อครู่นั้นยอดเยี่ยมมาก ข้าก็จะมอบความสุขให้แก่ทุกคนแต่ข้าไม่มีความสามารถพรสวรรค์ไม่สามารถแสดงได้!”

น่าสนใจมั้ย?

นางแค่อยากจบงานเลี้ยงนี้ไวๆ กลับไปนับเงิน วิจัยยา กินขนมอะไรที่มันเรียบง่ายเท่านั้น

น่าเสียดาย……

“พระชายาเย่ถ่อมตัวไปแล้ว แม้จะไม่มีศิลปะสี่แขนง ก็ให้ทุกคนได้เห็นทักษะการเย็บปักของเจ้าเป็นอย่างไร?” ฮองเฮากดดัน

“เยาเยา ข้ารู้ว่าท่านแม่เจ้ามีฝีมือการเย็บปักขั้นสูง ข้าอยากจะเห็นทักษะการเย็บปักของท่านแม่ที่ส่งต่อมาให้เจ้าสักหน่อย”พระราชินีสงสัยเล็กน้อย

“น้องสะใภ้ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าเจ้าจะแสดงอะไร ข้าก็จะไม่ให้ใครหัวเราะเยาะเจ้า”ฮ่องเต้รอชมการแสดง

“……”

เสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ อยากให้นางรีบแสดง รีบขายหน้า

โหลวเย่วที่นั่งอยู่ข้างๆนางก็ดึงแขนเสื้อนางไว้แล้วมองอย่างเป็นห่วง!

ไม่รู้ทำไม

เห็นๆอยู่ว่าทุกคนพูดกับเยาเยาอย่างอ่อนโยนแต่สิ่งที่นางได้ยินก็มีแต่ความลำบากใจ

ใบหน้าอ่อนโยนเป็นมิตรแต่ก่อนทำไมเปลี่ยนไปหมดแล้วหล่ะ?

มุมปากหลานเยาเยายกขึ้นแล้วส่งสัญญาณว่าไม่ต้องกังวล!

แน่นอนว่าที่ที่คนเยอะสายตาก็ต้องเยอะ!

นางค่อยๆลุกขึ้น ในห้องโถงก็สงบลงทันที

“ในเมื่อเช่นนั้น……”

เสียงของนางเพิ่งดังขึ้นก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงสูงของขันทีนอกห้องโถง: “อ๋องเย่เสด็จ!”

ทันทีที่อ๋องเย่ถึง!

ห้องโถงใหญ่ที่เงียบอยู่แล้วก็ยิ่งเงียบไม่มีเสียงเข้าไปใหญ่

อ๋องเย่ที่โหดเหี้ยม กระหายเลือดมาแล้ว……

ใครจะกล้าส่งเสียง?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท