Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 751 ความร้ายกาจอันน่ายินดียิ่ง

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 751 ความร้ายกาจอันน่ายินดียิ่ง

บนหน้าจอ

เรื่องราวดำเนินต่อไป

เจียงอวี้เยี่ยนเข้ามาในตระกูลเซินถูในฐานะบุตรนอกสมรส ทว่าสิ่งที่รอนางอยู่กลับหาใช่เสื้อผ้าอาภรณ์และภักษาหารชั้นเลิศ หรือเกียรติยศและความมั่งคั่ง หากแต่เป็นความอัปยศอดสูของการตกเป็นทาสรับใช้…

ซักเสื้อผ้า

ล้างจาน

ทำอาหาร

กว่าจะได้อาหารกลางวันมาแสนยากเย็น ปรากฏว่าบ่าวรับใช้จอมโหดข้างกายนายหญิงกลับโยนชามบะหมี่เป ล่าลงบนพื้น และสายตามองลงมาที่นางซึ่งเอื้อมมือไปคว้าบะหมี่บนพื้นมากิน ว่ากันว่าสุภาพชนไม่รับอาหารจากโจร แต่นี่เป็นอาหารเพียงมื้อเดียวของนางตลอดทั้งวัน หากนางไม่กินเพียงเพื่อสิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรี นางอาจอดตายได้

……

ลงโทษด้วยการคุกเข่า

ปล่อยให้หิวโหย

เนื่องด้วยความผิด นางถึงขั้นถูกนายหญิงจับขังในเล้าหมู ทนทุกข์กับความอับอายและการหัวเราะเยาะเย้ย อย่างไรก็ตาม เจียงอวี้เยี่ยนซึ่งอ้อนแอ้นอ่อนแอแต่กำเนิดนั้นไม่กล้าต่อต้านแม้แต่น้อย ความดื้อดึงเพียงข้อเดียวของนางคือการขอให้เซินถูไห่ผู้เป็นบิดา สร้างป้ายวิญญาณในศาลบรรพชนให้แก่มารดาของนาง

เซินถูไห่รับปาก

แต่ถึงกระนั้น เมื่อนายหญิงล่วงรู้เรื่องนี้เข้า กลับโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ โยนป้ายวิญญาณลงเบื้องหน้าของเจียงอวี้เยี่ยน พร้อมทั้งสั่งให้เจียงอวี้เยี่ยนผ่าป้ายวิญญาณของมารดาออกเป็นสองซีก

เจียงอวี้เยี่ยนคุกเข่าบนพื้น

ไม่ว่าจะอ้อนวอนขอความเมตตาเพียงใดก็ไร้ผล นางก้มหน้าลง น้ำตาหลั่งริน บิดายืนอยู่หน้าประตูไม่เอื้อนเอ่ยวาจาใด ในเวลานี้นางสาบานในใจว่า “เซินถูไห่ นางหลิว ความอัปยศในวันนี้ อวี้เยี่ยนจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต”

มีลมพัดมา

นางยกมีดขึ้นทันใด ผ่าป้ายวิญญาณของมารดาตนเองออกเป็นสองส่วน ฉากหมุนรอบตัวนางอย่างฉับพลัน เมื่อใบหน้าของนางปรากฏต่อหน้ากล้องในระยะใกล้ ดวงตากลมโตซึ่งเคยน่าสงสารกลับเอ่อท้นด้วยทุกข์ระทมและสิ้นหวังสลักลึกลงในใจ!

……

เนื้อเรื่องหนึ่งตอนใช้เวลาออกอากาศเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ทั้งหมดล้วนบรรยายเรื่องราวของเจียงอวี้เยี่ยน และในขณะนี้ผู้ชมโกรธจนตัวสั่น แทบอยากกระโจนเข้าไปในโทรทัศน์เพื่อฆ่าวายร้ายให้รู้แล้วรู้รอด!

‘อห แม่เจ้าโว้ย!’

‘ภรรยาของเซินถูไห่น่าขยะแขยงจริงๆ ถ้าผมเป็นเจียงอวี้เยี่ยนผมจะหยิบมีดขึ้นมาฆ่าแม่เลี้ยงเลย จะได้ตายกันไปข้างหนึ่ง!’

‘สงสารเจียงอวี้เยี่ยนมาก!’

‘เจียงอวี้เยี่ยนโหดมาก!’

‘ดูแล้วปวดใจมาก เซินถูไห่นี่มันไร้ประโยชน์ เป็นขยะชั้นดีในบรรดาวายร้าย ลูกสาวตัวเองถูกรังแกขนาดนี้ยังไม่กล้าพูดสักแอะ ไม่มีศักดิ์ศรีในฐานะลูกผู้ชายเลยสักนิด!’

‘เจียงอวี้เยี่ยนจะร้ายแล้ว!’

‘นักแสดงคนนี้ฝีมือก็สุดยอดมาก แววตาในตอนสุดท้ายน่าทึ่งจริงๆ เธอควรต่อต้านมาตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าอ่อนแอก็มีแต่ถูกรังแก ฉันขอร้องละเจียงอวี้เยี่ยนร้ายสักทีเถอะ!’

……

ในบ้าน

หลินเซวียนก็โมโหจนควันออกหู หลังจากดูหนึ่งตอนจบลงไป ลำพังความอับอายสารพัดรูปแบบซึ่งเจียงอวี้เยี่ยนได้รับจากสกุลเซินถู บ่าวรับใช้ซึ่งมีหน้าที่กวาดพื้นยังกล้าล้อเลียนนางต่อหน้าด้วยซ้ำไป

“สารเลว!”

น้องสาวก่นด่า

แม้ชำเลืองมองต้าเหยาๆ สุดท้ายกลับไม่ได้ตำหนิที่ลูกสาวคนเล็กพูกคำด่าออกมา เธอเองก็โกรธจนอยากพนคำสบถออกมาเช่นกัน ตัวร้ายพวกนี้เลวจริงๆ พวกนางกำลังบีบบังคับให้เจียงอวี้เยี่ยนไปตายไม่ใช่หรือไง?

“เธอก็ด่าคนเป็นเหมือนกันเหรอ?”

หลินเซวียนมองน้องสาวด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนจะปรบมือเอ่ยชมเชย “ด่าได้ดี ตัวร้ายพวกนี้ไม่มีอะไรดี ฉากสุดท้ายน่าจะบอกใบ้ว่าเจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมาแล้วใช่ไหม?”

“ชัดเจนมาก”

แม่มองไปยังแววตาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงของเจียงอวี้เยี่ยนในโทรทัศน์ ฝีมือการแสดงของนักแสดงคนนี้ยอดเยี่ยมมาก เธอสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังและอาฆาตพยาบาทในดวงตาคู่นั้น แม้จะมองผ่านหน้าจอก็ตาม

ไม่รู้ว่าทำไม

เมื่อเจียงอวี้เยี่ยนแสดงแววตานี้ ผู้ชมนับไม่ถ้วนรู้สึกหนาวสั่นถึงสันหลัง แต่กลับรู้ถึงความคาดหวังที่ไม่อาจบรรยายได้!

ต้องเข้าใจว่า!

ปกติเมื่อดูซีรีส์ สิ่งที่ทุกคนกลัวที่สุดคือเมื่อตัวละครร้ายขึ้นระหว่างทาง ทว่าเจียงอวี้เยี่ยนกลับเป็นข้อยกเว้น เพราะทุกคนถึงขั้นคาดหวังให้เจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมา!

……

ฉากที่เจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมานั้นสั้นมาก ทว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงในแววตาของนาง ทว่าหลังจากเธอเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคร ทิ้งภาพจำอันลึกซึ้งให้กับผู้ชม เพียงแต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่านางไร้พลัง

ตอนที่ 14 ออกอากาศ

เจียงอวี้เยี่ยนถูกนายหญิงขายให้หอคณิกา เห็นได้ชัดว่านางถูกทรมานต่อไปเรื่อยๆ หญิงสาวที่งามพริ้งเพราเช่นนี้ ขุนนางและชนชั้นสูงจึงอยากเชยชม แม้แต่แม่เล้าหอนางโลมจะไม่มองว่านางเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำไป!

นางหนีออกจากห้อง

บ่าวในหอคณิกาไล่ตามนางไป เมื่ออับจนหนทาง นางตัดสินใจใช้ปิ่นปักผมซึ่งมารดามอบให้ปลิดชีพตนเอง ทว่าชั่วขณะนั้นฉินเทียนเกอซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเอกชายก็กระโดดลงมาจากฟ้า และต่อสู้กับกำลังพลที่สามมาประหนึ่งวีรบุรุษช่วยเหลือโฉมงาม

“ชายคนนี้…”

ทันใดนั้นเจียงอวี้เยี่ยนไม่อยากตายอีกต่อไป

เธอหลงรักชายหนุ่มคนนี้

เมื่อกลับมาถึงเรือนสกุลเซินถู เจียงอวี้เยี่ยนวางตนต้อยต่ำและอ้อนวอนขอความคุ้มครองจากบิดา ทว่าสุดท้ายแล้วบิดาทำใจดีสู้เสืออย่างหาได้น้อยครั้งนัก และไม่ยอมให้นางกลับไปยังหอคณิกาอีก เพียงแต่เจียงอวี้เยี่ยนรู้อยู่เต็มอก ว่าบิดาคนนี้ทำเช่นนี้เพื่อชื่อเสียงของตนเอง

สามวันผ่านไป

ราชสำนักคัดเลือกสาวงามเข้าวัง คุณหนูใหญ่สกุลเซินถูก็เข้าร่วมเช่นกัน คุณหนูใหญ่สกุลเซินถูคือบุตรีที่นายหญิงให้กำเนิด นับว่าเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในสกุลเซินถูซึ่งดีต่อเจียงอวี้เยี่ยน อย่างไรก็ตาม ในคืนเดือนแรมลมโหมกระหน่ำ เจียงอวี้เยี่ยนกลับหยิบกริชขึ้นมาสังหารพี่สาวด้วยมือตนเอง นางต้องการเข้าแทนที่ในการร่วมคัดเลือกสนมในวังหลวง!

ในราตรีอันมืดมิด

แสงเทียนวูบวาบ เงาคนลุกโชน หญิงสาวซึ่งครั้งหนึ่งเคยอ่อนโยนประดุจดอกไม้ขาวดอกเล็กนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป และถูกแทนที่ด้วยหญิงสาวผู้พยาบาทซึ่งได้ดับมโนธรรมดวงสุดท้ายของตนไปเสียแล้ว

……

ถึงแม้เรื่องราวจะไม่ได้บรรยายเกี่ยวกับเจียงอวี้เยี่ยนมากเกินพอดี ฉากของผู้กำกับก็หยุดอยู่ที่เจียงอวี้เยี่ยนตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่าผู้ชมกลับไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายเลยสักนิด หนำซ้ำยิ่งดูยิ่งรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่เมื่อเจียงอวี้เยี่ยนสังหารพี่สาวของตนเอง คอมเมนต์กระสุนก็ระเบิดขึ้นในทันที!

‘แม่เจ้าโว้ย!’

‘เจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมาแล้วโหดมากเลย ฆ่าพี่สาวของตัวเองอีก ต้องเข้าใจนะว่าทั้งเรือนสกุลเซินถูมีพี่สาวคนเดียวที่เมตตาและเห็นอกเห็นใจเธอ!’

‘โหดเกินไป!’

‘คุณเห็นแววตาตอนที่เจียงอวี้เยี่ยนฆ่าพี่สาวไหม ทั้งที่น้ำตาไหล แต่มุมปากกับกำลังหัวเราะ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นสีหน้าที่โหดเหี้ยมแบบนี้บนใบหน้าที่สวยขนาดนี้!’

‘ที่จริงจะโทษเจียงอวี้เยี่ยนก็ไม่ได้’

‘ถึงพี่สาวจะสงสารเธอ แต่แม่ของพี่สาวซึ่งเป็นนายหญิงของสกุลเสินถูก็ดูถูกเธอสารพัด สรุปแล้วความผิดอยู่ที่นายหญิง ที่ทำให้คนดีๆ คนหนึ่งกลายเป็นเพชฌฆาต’

‘ต่อให้เป็นแบบนั้นก็เกินไป’

‘คนที่บอกว่าเกินไปน่ะ ลองดูว่าเจียงอวี้เยี่ยนต้องทรมานมามากแค่ไหน เธอไม่ควรฆ่าพี่สาวก็จริง พี่สาวเป็นแค่คนเดียวในสกุลเสินถูไม่มีความผิด แต่เพื่อความอยู่รอด หนทางเดียวที่จะอยู่ในสกุลเซินถูกต่อไป ความหวังเดียวที่จะมีชีวิตรอดของเจียงอวี้เยี่ยนคือเข้าไปเป็นสนมในวังหลวง!’

……

หลินเซวียนซึ่งดูซีรีส์อยู่ที่บ้านขมวดคิ้วมุ่น ถึงแม้ตัวละครพี่สาวจะไม่ได้มีบทบาทมากนัก แต่พี่สาวก็ไม่เคยรังแกเจียงอวี้เยี่ยน ปรากฏว่าคนแรกที่เจียงอวี้เยี่ยนสังหารหลังจากนางร้ายขึ้นมากลับเป็นพี่สาว

“ตลกร้ายสุดๆ ”

น้องสาวเอ่ยขึ้นอย่างทนไม่ไหว

การที่เจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นนั้นเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม เพราะหลังจากที่เจียงอวี้เยี่ยนร้ายขึ้นมาก็สังหารพี่สาวของตนเองในทันที ก็เหมือนกับนายหญิงที่ไม่ได้ปล่อยเจียงอวี้เยี่ยนไปเพียงเพราะความดีงามเจียงอวี้เยี่ยน และนางไม่ได้แสดงความเมตตาต่อพี่สาวเพียงเพราะความดีของพี่สาว บางทีความดีอาจถูกนางทำลายล้างไปในชั่ววินาทีที่นางสังหารพี่สาวด้วยมือตนเองก็เป็นได้

ขณะเดียวกัน

ภาพลักษณ์ของตัวละครเจียงอวี้เยี่ยนกลับถูกสร้างขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ในรูปแบบของความขัดแย้งและเสียดสี ผู้ชมแทบหลงลืมไปแล้วว่าเธอคือตัวละครซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยนักเขียนบท และความสนใจของพวกเขาก็ติดตามผู้หญิงคนนี้ไปโดยไม่ทันตั้งใจ

ตัวเอก?

สองตอนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเอกเลย รู้สึกว่า เจียงอวี้เยี่ยนเหมือนกับตัวเอกของซีรีส์เรื่องนี้เสียมากกว่า การเปลี่ยนแปลงจากดีเป็นร้ายทำให้ตัวละครนี้สมบูรณ์ การสังหารพี่สาวทำให้นางกลายเป็นคนที่ตนเองเกลียดที่สุด

……

ตอนที่ 14 ออกอากาศจบ

หลังจากได้ดูสองตอนใหม่ในวันนี้ ทันใดนั้นบนโลกออนไลน์มีคอมเมนต์เกี่ยวกับหยางเสี่ยวฟานและฉินเทียนเกอเพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วย และแน่นอนว่าหัวข้อสนทนาของทุกคนล้วนเกี่ยวกับเจียงอวี้เยี่ยนซึ่งเปลี่ยนจากดอกไม้ขาวเป็นเพชฌาต!

‘สองตอนนี้สนุกมาก!’

‘ตัวละครอย่างเจียงอวี้เยี่ยนเข้ามาในโครงเรื่อง เพิ่มตัวแปรนับไม่ถ้วนให้กับเรื่องราวในชั่วพริบตา ฉันดูช่วงที่เธอร้ายขึ้นมาซ้ำหลายรอบมาก แววตาที่เปลี่ยนไปทำให้ฉันขนลุกซู่!’

‘ฝีมือการแสดงดีมาก!’

‘ใครเป็นคนแสดงนะ’

‘ผมรอมา 12 ตอนเต็มๆ ในที่สุดนักเขียนบทก็ตรัสรู้สักที ถึงเจียงอวี้เยี่ยนฆ่าพี่สาวของตัวเองจะเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ผมก็เกลียดตัวละครนี้ไม่ลง!’

‘นั่นสิ!’

‘เธอถูกบีบบังคับให้ทำแบบนั้น’

‘ปวดใจมาก!’

‘คนที่สมควรตายที่สุดคือนายหญิง สิ่งที่ฉันตั้งตารอตอนนี้ก็คือเจียงอวี้เยี่ยนฆ่านายหญิง แถมยังมีแม่เล้า เสมียน และบ่าวที่เคยรังแกเธอในหอคณิกาอีก เจียงอวี้เยี่ยนลุกขึ้นมาแล้ว!’

‘จินตนาการของนักเขียนบทคนไหนกัน’

‘รู้สึกว่าจู่ๆ นักเขียนบทก็เก่งขึ้นมา ในที่สุดก็ไม่เดินตามต้นฉบับอย่างสิ้นคิดอีก การใส่ตัวละครที่คิดขึ้นมาใหม่คือจังหวะอัจฉริยะมาก เธอตกทุกข์ถึงสองครั้งและฉินเทียนเกอก็ช่วยชีวิตเธอถึงสองครั้ง ตอนนี้เธอตกหลุมรักฉินเทียนเกอโดยสมบูรณ์ บวกกับตัวตนของพ่อ รู้สึกว่าหลังจากนี้จะต้องสนุกมากอย่างแน่นอน!’

‘ขอร้องละ อัปเดตตอนใหม่เร็ว!’

‘ต้องรอจนถึงพรุ่งนี้กว่าจะได้ดูสองต่อนต่อไป ฉายเรื่องเกี่ยวกับเจียงอวี้เยี่ยนต่อไปเถอะนะ ตัวละครใหม่นี้สุดยอดมาก!’

……

ทีมงานผู้ผลิตซีรีส์ก็พูดคุยกันในกลุ่มแช็ตเช่นกัน ทุกคนสังเกตเห็นว่าระดับความสนใจซีรีส์เรื่องนี้บนโลกออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น หัวใจหวิวๆ ราวกับแขวนอยู่บนเส้นด้ายก็ผ่อนคลายลงในที่สุด

‘ผลลัพธ์ไม่เลวเลย!’

‘ผมคิดว่าฉากที่เจียงอวี้เยี่ยนจะทำลายความเห็นอกเห็นใจที่ผู้ชมมีต่อตัวละครนี้อย่างสิ้นเชิง นึกไม่ถึงว่าฉากนี้ฉากเดียวจะกลายเป็นประเด็นถกเถียงใหญ่มาก ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบตัวละครเจียงอวี้เยี่ยน!’

‘ยากมากที่จะเดาใจผู้ชม!’

‘มิน่าล่ะฉู่ขวงถึงชอบส่งตัวละครกลับบ้านเก่า ที่แท้การส่งตัวละครกลับบ้านเก่าก็ใช้ได้ผลดีแบบนี้นี่เอง แค่ไม่รู้ว่าพอทุกคนเห็นตอนใหม่วันพรุ่งนี้แล้วจะทำหน้ายังไง’

‘ผมอยากเห็นเรตติงเลย’

‘เรตติงของสองตอนนี้เป็นยังไงบ้าง’

เมื่อทุกคนพูดคุยกันมาถึงตรงนี้ บรรยากาศจึงค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าจะมีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับเรื่องราวในสองตอนนี้ แต่ปัจจัยในการตัดสินอนาคตว่าซีรีส์จะเป็นอย่างไรนั้นยังคงเป็นเรตติง

‘เรตติง…’

ทันใดนั้นผู้กำกับก็โผล่เข้ามา เขานั่งยิ้มอยู่ที่บ้าน ก่อนจะกดพิมพ์ข้อความเต็ม แรง ‘เรตติงซีรีส์เรื่องนี้ของเราสูงขึ้นกว่าที่คาดหวังสองเท่า!’

‘โอ้โฮ!’

‘สุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ?’

‘ฉู่ขวงเทพมาก!’

‘เป็นไปได้ยังไง เดี๋ยวนี้ผู้ชมชอบดูของหนักๆ กันหรือ ผู้กำกับครับ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พวกเราถ่ายทำต่อไปตามนี้!’

‘…’

ทุกคนตื่นเต้นดีใจ!

ถึงแม้เรตติงนี้จะยังไม่นับว่ายอดเยี่ยมมากนัก เพราะถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็เคยเหลวแหลกไม่เป็นท่ามาก่อน ตอนนี้นับว่าไปวัดไปวาได้ กลุ่มสนทนาบนโลกออนไลน์จำกัดอยู่ในแวดวงของคนส่วนน้อยซึ่งติดตามซีรีส์ แต่เจียงอวี้เยี่ยนเพิ่งออกโรงได้สองตอนเท่านั้น ผลลัพธ์เช่นนี้ก็เหนือความคาดหมายของทุกคนแล้ว และยังทำความมั่นใจที่ทุกคนมีต่อตอนต่อๆ ไปหลังจากนี้ทวีคูณยิ่งขึ้น!

ในเวลานี้ผู้ชมไม่มีทางจินตนาการถึงจุดนี้!

ความบ้าคลั่งของเจียงอวี้เยี่ยนเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท