สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 1232 ตอนพิเศษ (92.1)

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 1232 ตอนพิเศษ (92.1)

ในวันที่ฝนตก ทั้งคณะติดอยู่อยู่ในหมู่บ้าน

ลู่จื่อชิงคว้ามือลู่อวี่เล่อไปกุมแล้วเอ่ยเสียงค่อย “เล่อเอ๋อร์ อาหญิงรองจะตายแล้วใช่หรือไม่?”

ลู่อวี่เล่อเป็นเพียงเด็กสามขวบเท่านั้น เมื่อเห็นลู่จื่อชิงเป็นเช่นนี้ก็ร้องไห้พลางเอ่ย “อาหญิงรอง ท่านอย่าทำให้ข้ากลัว ต่อไปข้าจะไม่แย่งถังหูลู่ท่านกินแล้ว รอท่านหายดี ข้าจะซื้อถังหูลู่ให้ท่านเยอะ ๆ ท่านอาเขยไปหาหมอตำแยแล้ว เขาบอกว่าใกล้ ๆ มีหมอตำแยมีชื่อ คนที่นี่ล้วนให้นางทำคลอดให้ ท่านรอประเดี๋ยว ตอนนี้ฝนตกหนัก ท่านคงต้องรออีกสักพักหนึ่ง”

“เจ้าเด็กโง่ ข้าจงใจทำให้เจ้ากลัว” ลู่จื่อชิงฝืนยิ้ม “ปกติเจ้าแย่งอาหารข้ากิน ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ ไม่กล้าแย่งข้าแล้วกระมัง? เจ้าต้องรักษาคำพูดเล่า!”

“ท่านอาหญิง ท่านไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้อาการของท่านดูน่ากลัว” ลู่อวี่เล่อกล่าว “ฝนนี้ไม่ดีจริง ๆ หากฝนไม่ตก พวกเราก็คงเข้าเมืองแล้วท่านก็จะได้คลอดลูกอยู่ในเมือง”

ลู่จื่อชิงรู้ดีว่าลู่อวี่เล่อกำลังกังวล

ในยามนี้ นางเพียงต้องพูดคุยกับเขา เขาถึงจะรู้สึกสงบลงบ้าง

“เจ้าตัวเล็กนี่ยังไม่ทันได้คลอดก็ทรมานข้าแล้ว เขาจักต้องเป็นเด็กดื้อเป็นแน่ รอเขาคลอดออกมาแล้ว ข้าจะต้องตีก้นเขาสักทีให้ได้เห็นดีกัน”

“อย่าขอรับ อย่าตีน้องชาย”

“ดีนี่ ลู่อวี่เล่อ เสียแรงที่ข้ารักเจ้า เจ้าเด็กคนนี้ทรมานข้าเพียงนี้ ไยข้าจะตีก้นเล็ก ๆ ของเขาไม่ได้เล่า?”

“เขายังเป็นเด็ก ไม่เข้าใจสิ่งใด ท่านอาหญิงรองดื้อเอง พุงท่านใหญ่โตเพียงนี้ยังจะออกมาเที่ยวเล่นข้างนอก เหตุใดต้องตำหนิเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเล่า? อาหญิง ท่านทำอย่างนี้ไม่ถูก ข้าจะฟ้องท่านพ่อ!”

ลู่จื่อชิงรู้สึกทรมานจริง ๆ เพียงแต่ตอนนี้นางไม่อาจนอนหลับไปได้ เพราะหากหลับไปจะอันตรายเป็นอย่างยิ่ง

ซ่งหานจือพาคนไปตามหาหมอตำแยแล้ว ผู้คุ้มกันที่อยู่ที่นี่ก็ไม่รู้เกี่ยวกับการทำคลอด ส่วนหมอหลวงทั้งสามคนนั้น พวกเขาล้วนอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน เพียงแต่ลู่จื่อชิงไม่ต้องการให้บุรุษมาทำคลอดให้ตนเอง

หากไม่จำเป็นจริง ๆ นางก็ไม่ต้องการให้บุรุษคนไหนมาแตะต้องร่างกายนอกจากสามี

“ฮูหยินซ่ง ข้าน้อยจะจับชีพจรให้ท่านอีกครั้ง” หมอหลวงหลี่ หมอรักษาสตรีเอ่ยขึ้นจากนอกประตู

“เข้ามา”

หมอหลวงหลี่จับชีพจรของลู่จื่อชิงและกล่าว “ฮูหยินปวดท้องรุนแรงแล้วใช่หรือไม่? ดูจากชีพจรของฮูหยิน นี่ก็จวนจะคลอดแล้ว หากรอหมอตำแยไม่ไหว เช่นนั้นข้าน้อยทำได้เพียงล่วงเกินท่าน”

“ท่านวางใจ หมอหลวงหลี่ หากถึงจุดนั้นจริง ๆ ข้าก็ไม่ใช่คนอวดดี ข้ารู้สึกว่าเจ็บท้องคลอดบ่อยขึ้น เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาจะคลอด ถูกหรือไม่?”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินคลอดบุตร เหตุใดจึงเข้าใจมากมายเพียงนี้?” หมอหลวงหลี่กล่าว “จนถึงบัดนี้ จริงอยู่ว่าฮูหยินจวนจะคลอด เพียงแต่คำนวณจากเวลา ควรต้องรออีกสักพักขอรับ”

“ข้าได้เห็นเด็กคลอดมาหลายคน แม้ไม่เคยกินหมูแต่ก็เคยเห็นหมูวิ่ง เอาละ ท่านหมอหลวงหลี่ ท่านกำชับพวกเขาให้ช่วยเตรียมอาหารให้ข้าหน่อย ข้ารู้สึกหิวเล็กน้อยแล้ว”

ซ่งหานจือรุดกลับมา

ลูกน้องคนสนิทของเขาแบกสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งกลับมาด้วย

สตรีวัยกลางคนผู้นั้นเห็นฉากนี้ก็ไม่กล้าบ่นสิ่งใด นางมาทำคลอดให้ลู่จื่อชิงทั้งที่เสื้อผ้าเปียกปอน

ซ่งหานจือกำชับให้คนของเขาดูแลลู่อวี่เล่อให้ดี ส่วนเขาเข้าไปในห้องทำคลอด ดูว่าลู่จื่อชิงคลอดลูกให้เขานั้นเจ็บปวดเพียงใดด้วยตาตนเอง

“เจ็บเหลือเกิน…” ลู่จื่อชิงกัดลงบนแขนซ่งหานจือ “ซ่งหานจือ เจ้าคนสารเลว เหตุใดคนที่คลอดลูกไม่เป็นเจ้าเล่า?”

“เจ้าคลอดคนนี้แล้ว พวกเราก็ไม่ต้องมีลูกอีก” ซ่งหานจือคว้ามือนางไปกุมอย่างเจ็บปวดใจ ปล่อยให้นางกัดแขนตนโดยไม่อิดออด สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

“ไม่คลอดแล้ว ข้าจะไม่คลอดอีกแล้ว” ลู่จื่อชิงกล่าว “เจ็บเหลือเกิน… โอ๊ย…”

หมอตำแยที่อยู่ข้าง ๆ มองสองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่รักกันปานจะกลืนกินคู่นี้แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ “นายท่าน ยามนี้ท่านอย่าได้มัววุ่นวายอยู่อีกเลย ฮูหยิน ท่านอย่าใช้กำลังทั้งหมดของท่านไปกับการกัดสามี ท่านออกแรงอีกหน่อยเถอะ…”

“ข้าออกแรงแล้วนี่…”

“ใช้แรงไม่ถูกที่ไม่ได้ผล ข้าให้ท่านใช้แรงเบ่งลูก เบ่งลูกออกมาจากข้างใน ไม่ใช่ให้ท่านใช้แรงกัดแขนสามี ท่านดูแขนสามีท่านสิว่าถูกกัดจนเป็นอย่างไรไปแล้ว?”

ลู่จื่อชิงเห็นแขนซ่งหานจือแล้วก็ปวดใจ

แขนของเขาถูกนางกัดจนช้ำแต่เขาก็ไม่ร้องว่าเจ็บสักนิด

ในตอนนี้เอง เกิดการบีบรัดอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดพุ่งพรวดขึ้น จากนั้นร่างกายนางก็ดูเหมือนจะว่างโหวง ทารกคนหนึ่งได้เกิดขึ้นมา

“อุ้แว้ ๆ…”

ลู่อวี่เล่อได้ยินเสียงร้องไห้จากข้างนอกจึงเอ่ยถามผู้คุ้มกันข้าง “ตอนที่ข้าเกิดก็ร้องไห้เช่นนี้หรือ?”

ผู้คุ้มกันเหล่านั้นเป็นคนของซ่งหานจือ เคยเห็นตอนลู่อวี่เล่อเพิ่งเกิดที่ใดกัน เพียงแต่พวกเขาก็ให้ความร่วมมือกับความอยากรู้อยากเห็นของลู่อวี่เล่อเป็นอย่างดี อย่างไรทารกแรกเกิดก็ไม่ต่างกันมาก ทุกคนจึงพยักหน้ายอมรับ

“ที่แท้ข้าตอนเด็ก ๆ ร้องไห้หนักเพียงนี้” ลู่อวี่เล่อกล่าว “ตอนนี้ท่านอาหญิงรองคลอดแล้ว ข้าเข้าไปดูได้หรือไม่?”

“คุณชายน้อย อีกประเดี๋ยวค่อยดูเถอะขอรับ!” ผู้คุ้มกันข้าง ๆ เอ่ย “ฮูหยินเพิ่งคลอดลูก ร่างกายกำลังอ่อนแอ ไม่อาจต้องลม หากท่านผลักประตูเข้าไป นำพาลมเย็นจากข้างนอกเข้าไปถูกนาง นางจะป่วยได้นะขอรับ”

“เช่นนั้นก็เอาเถอะ!”

ซ่งหานจือกุมมือลู่จื่อชิงแล้วเอ่ยถามหมอหลวงหลี่ที่อยู่ข้าง ๆ “เป็นอย่างไรบ้าง?”

หมอหลวงหลี่จับชีพจรแล้วเอ่ยขึ้น “ฮูหยินเพียงแค่เหนื่อยเกินจึงหลับไปแล้วขอรับ”

“ไม่มีอะไรร้ายแรงกระมัง?”

“เดิมทีนางกังวลจนเกินไปจึงเกิดอาการคลอดยาก แต่อันที่จริงร่างกายของนางแข็งแรงกว่าสตรีส่วนใหญ่มาก หากนางไม่กังวลมากเกินไปคงคลอดนานแล้วขอรับ”

หมอหลวงที่เชี่ยวชาญด้านเด็กเอ่ยกับซ่งหานจือ “ใต้เท้าวางใจ คุณชายน้อยก็สุขภาพแข็งแรงเช่นกันขอรับ”

“คุณชายน้อย?” ความผิดหวังแวบขึ้นมาในแววตาของซ่งหานจือ “นึกว่าจะเป็นแม่นางน้อยเสียอีก”

หมอหลวงหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ “…”

ใต้เท้าซ่งท่านนี้ช่างแปลกคนเสียจริง

ผู้อื่นตั้งตารอคอยลูกชายแต่เขากลับชอบแม่นางน้อยมากกว่า

ลมข้างนอกเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ

เป็นเพราะลมกระโชกนี้ พวกเขาจึงติดอยู่ในหมู่บ้านทำให้การเดินทางล่าช้า ตามแผนเดิมของซ่งหานจือ คืนนี้พวกเขาควรจะได้พบกับลู่อี้และมู่ซืออวี่แล้วจึงจะถูก

อย่างไรก็ตาม ลู่อี้กับมู่ซืออวี่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หากเดินทางด้วยความเร็วปกติ ภายในสองชั่วยามย่อมเดินทางไปถึงที่นั่นได้

ลู่จื่อชิงตื่นขึ้นมาพร้อมความหิวโหย

นางลืมตาขึ้นมองออกไปในความมืด

“ตาข้าเป็นอะไรไป?!” ลู่จื่อชิงร้องเสียงหลง “ซ่งหานจือ ข้าคลอดลูกผู้นี้จนทำให้ตาบอดแล้วหรือ? เหตุใดข้ามองไม่เห็น?!”

ซ่งหานจือหยิบผ้าสีดำออกจากตาภรรยา ดีดหน้าผากนางเบา ๆ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คนโง่ ข้ากังวลว่าแสงจะจ้าเกินไปจนรบกวนการพักผ่อนของเจ้าจึงใช้ผ้าปิดตาเจ้าไว้ให้ดวงตาเจ้าได้พักผ่อน”

“ท่านแม่ข้าบอกว่าสตรีคลอดลูกแล้วจะกลายเป็นคนโง่ เดิมทีข้าไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้ว” ลู่จื่อชิงหยิบผ้าสีดำขึ้นมามองแล้วเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เรื่องโง่ ๆ เช่นนี้ข้ายังทำออกมาได้”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท