หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 105 ยังไม่ได้เข้าเรือนหอ

บทที่ 105 ยังไม่ได้เข้าเรือนหอ

บทที่ 105 ยังไม่ได้เข้าเรือนหอ

เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนทำมาแสงเวลากลางคืนมืดมัว ผู้ชายที่ลงมาจากม้า มองหน้าตาไม่ชัด คนคนนั้นตอนแรกตั้งใจจะเดินตรงเข้าไปในวังเลย พอหันกลับมาแล้วเห็นเธอ

ร่างนั้นหยุดชะงักลง!

และเดินด้วยความเร็วข้ามาหานาง พร้อมพูดขึ้นว่า “หลานเยาเยา ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่?”

“เย่หลีเฉิน?”

คนคนนี้คือองค์ชายรัชทายาทไม่ใช่เหรอ

ค่ำมืดขนาดนี้เพิ่งกลับเข้ามาจากข้างนอก แถมตัวเขาเต็มไปด้วยกลิ่นสุรา อีกทั้งมีกลิ่นน้ำหอมกลิ่นแป้งของหญิงสาวโชยเข้ามาที่จมูก

ทำให้หลานเยาเยาต้องเอามือปิดจมูกและเอ่ยขึ้นมาว่า

“พระราชวังไม่ได้เป็นของเจ้า ทำไมข้าจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?”

“เจ้า……”

องค์ชายรัชทายาทมีความโกรธกลิ้วเล็กน้อย

เขาคิดไม่ถึงว่าหลานเยาเยาจะกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ อีกทั้งอย่างรักษาระยะห่างกับเขา ซึ่งทำให้เขายิ่งโมโหขึ้นไปอีก

เมื่อก่อนนางเคยอยากเจอตัวเขา แต่ตอนนี้นางแต่งงานกับอ๋องแย่แล้ว หน้าตาสระสวยขึ้น แถมยังรักษาระยะห่างกับเขาอีก?

หึ่ม!

เขาไม่เชื่อ ว่าหลานเยาเยาจะเปลี่ยนใจจากเขาไปแล้ว!

ต้องเป็นการแสดงของนางแน่นอน!

ในขณะที่เขากำหมัดแน่น หลานเยาเยาก็ยิ้มหวานให้เขา ทำให้จิตใจของเขาสั่นคลอนขึ้นมาทันที

เป็นอย่างที่คิดจริง!

นางยังชอบเขาอยู่

ทันใดนั้น รอยยิ้มของหลานเยาเยาหุบลง พร้อมกับพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า

“เจ้าเจ้าเจ้า เจ้าอะไรของเจ้า!ข้าจำได้ว่าพระตำหนักไท่จื่อไม่ได้อยู่นอกวังหนิ่!ท่านเป็นถึงองค์ชายรัชทายาท ในอนาคตอาจเป็นผู้สืบทอดของฮ่องแต่คนต่อไป กลางค่ำกลาคืนไม่กลับบ้าน ถ้าฮ่องเต้รู้เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!”

เวลานี้ องค์ชายรัชทายาทเริ่มเกิดความกังวลขึ้นมาทันที

ถ้าปล่อยให้ท่านพ่อรู้เรื่องนี้เข้า เขาต้องโดนลงโทษเป็นแน่

คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น แต่เหมือนเขาฉุดนึกอะไรขึ้นมาได้ สายตารีบเปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นทันที

และไม่มีอารมณ์ที่จะทะเลาะกับหลานเยาเยาต่อ ส่งเสี้ยงหึออกมาจากนั้นเดินเข้าไปในวังอย่างเร่งรีบ

“เช้ย!”

หลานเยาเยาหมุนตัวขึ้นไปนั่งบนรถม้า ขณะที่เธอเปิดม่านออก ก็เห็นโหลวเย่วกับเย่เจ๋หยิ่งมองมาที่นาง

“เป็นอะไรเหรอ พวกเจ้า?

สายตาของพวกเขาหมายความว่ายังไง?

คนหนึ่งมองมาด้วยสายตาเย็นชา ส่วนอีกคนมองมาด้วยความอึดอัดเกรงใจซึ่งมันหมายความว่ายังไง?

“คนเมื่อกี้คือเสด็จพี่ใช่หรือไม่?”โหลวเย่วถามขึ้นมาเบาเบา

“ใช่แล้ว คนเมื่อกี้คือเย่หลีเฉิน ทำไมเหรอ?”

เมื่อได้ยินนางเรียกชื่อขององค์ชายรัชทายาทออกมาตรงๆ โหลวเย่วรีบใช้มือปิดปากของนาง และกระพริบตาปริบปริบกับนาง

“ตาเจ้าเป็นอะไรเหรอ?เม็ดทรายเข้าตาเหรอ?”หลานเยาเยาถามขึ้นอย่างสงสัย

แล้วนางก็เดินเข้าไปนั่งข้างๆโหลวเย่

อย่างไรก็ตาม!

โหลวเย่วรีบเอามือไปวางตรงจุดที่หลานเยาเยาจะนั่ง แล้วเหลีอบตามองไปที่เสด็จอา จากนั้นพูดขึ้นมาว่า

“ข้ารู้สึกง่วงนอน เดี๋ยวข้าจะนอนที่นี่ เจ้าไปนั่งทางโน้นดีกว่า”

เยาเยาอ่ะ!ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้แหล่ะ

เมื่อกี้

ที่ได้ยินหลานเยาเยาพูดคุยกับเสด็จพี่ เสด็จอาเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคนทันที สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอความโกรธห้ามใครเข้าใกล้เด็ดขาด

คิดว่า เสด็จอาน่าจะไม่พอใจอย่างยิ่ง

องค์ชายรัชทายาทกับหลานเยาเยาเคยมั่นหมายกันมาก่อน!

อีกทั้งเคยได้ยินมาว่าหลานเยาเยาหลงรักในตัวเสด็จพี่มาก หลังจากที่โดนเสด็จพี่ถอนหมั้น ทำให้หลานเยาเยาเสียใจเป็นอย่างมาก!

ตอนนี้เยาเยากลายเป็นเพราะชายาอ๋องเย่แล้ว

ไม่รู้ว่าในใจยังรักเสด็จพี่อยู่อีกหรือไม่ แต่ฟังจากที่นางสนทนากับเสด็จพี่เมื่อกี้ ดูเหมือนว่า นางยังโกรธเสด็จพี่อยู่

จะเห็นได้ว่า……

แท้จริงแล้วในใจของเยาเยายังมีความรู้สึกที่ดีต่อเสด็จพี่อยู่

ไม่งั้นคงจะไม่แสดงอาการโกรธออกมา

โหลวเย่วมีความกังวลอยู่ในใจ ขนาดนางยังฟังออกเลย นับประสาอะไรกับเสด็จอาที่ฉลาดกว่าใคร จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?

หลานเยาเยาไม่รู้ว่าโหลวเย่วคิดอะไรอยู่ เพียงแต่งงกับพฤติกรรมของโหลวเย่ว แต่สำหรับเรื่องที่โหลวเย่วจะนอนนั้น นางก็เสนอความคิดเห็นออกไปว่า

“เจ้านอนหลับแบบนี้จะล้มลงไปได้ง่ายนะ!”

พูดจบนางก็ล้มตัวลงนั่งข้างๆเย่เจ๋หยิ่ง

แต่กลับสัมผัสได้ถึงบรรยกาศที่ผิดปรกติ

นางเหลียบมองเย่เจ๋หยิ่งช้าช้า สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอที่เย็นชา จึงรีบขยับตัวออกห่างเล็กน้อย

สถานการณ์แบบนี้ ทางที่ดีที่สุดก็คือเว้นระยะห่างกับเขาดีกว่า

ใครจะรู้……

เย่เจ๋หยิ่งลุกขึ้นทันที เดินลงไปจากรถม้า เสียงร้องคำรามของม้าดังขึ้น หลังจากนั้นได้ยินเสียงการควบม้าออกไป และไกลห่างออกไปเรื่อยๆ

เอ๋อ……

เย่เจ๋หยิ่งไปแล้ว?เพราะอะไรเหรอ?

“เขาเป็นอะไร?”หลานเยาเยาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

“เยาเยา เจ้าไม่รู้จริงๆหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่?เสด็จอาโกรธแล้ว ท่านกำลังโกรธเจ้ากับองค์ชายรัชทายาท”

โหลวเย่วนั่งลงข้างนาง และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโหเล็กน้อยที่นางอุตส่าห์สื่อสารให้เยาเยาทราบในความหวัดดีแต่นางกลับไม่รู้อะไรเลย

เมื่อกี้นางได้พยายามเตือนหลานเยาเยาแล้ว แต่นางก็ไม่ใส่ใจ

เฮ้อ!

ตอนนี้ลำบากล่ะ

ยังไม่เคยเห็นเสด็จอาโมโหโกรธเพราะเรื่องของผู้หญิงมาก่อน คืนนี้นับว่าเป็นครั้งแรก แล้วนางจะทำยังไงถึงจะให้เขาทั้งสองคืนดีกันได้?

“โกรธ……โกรธข้ากับเย่หลีเฉินเหรอ?เพราะอะไรเหรอ?พวกข้าคุยด้วยกันแค่ไม่กี่คำ อีกอย่างเราก็ไม่ได้คุยอะไรกัน!”

หลานเยาเยารู้สึกงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น

มีอะไรให้น่าโกรธด้วย จะว่าไปแล้วทำไมเขาถึงต้องโกรธหล่ะ?“เจ้าเรียกชื่อของเสด็จพี่ออกมา ”โหลวเย่วรีบอธิบายถึงประเด็นหลักให้ฟัง

“เรียกชื่อออกมาตรงๆไม่ได้เหรอ?ข้าก็เรียกเจ้าว่าโหลวเย่ว เรียกอ๋องเย่ว่าเย่เจ๋หยิ่งเหมือนกันหนิ่!”

มันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว!

นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรผิดปรกติ

“มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้เจ้าเป็นพระชายาของอ๋องเย่ เป็นภรรยาที่เสด็จอาแต่งงานด้วยอย่างถูกต้อง และยังเป็นสะใภ้อาของเสด็จพี่ด้วย

เจ้ากับเสด็จพี่ต่างเรียกชื่อของอีกฝ่ายออกมาตรงๆ มันไม่ถูกต้อง เจ้าจะให้เสด็จอาไม่คิดมากได้ยังไง?ถ้าท่านไม่โกรธสิถึงจะเป็นเรื่องแปลก!”

อะไรเนี่ยะ!

เรื่องแค่นี้เองนะ!

ทำข้าตกใจหมดเลย นางนึกว่านางทำความลับรั่วไหลต่อหน้าเย่หลีเฉิน จนสร้างความไม่พอใจให้เย่เจ๋หยิ่งเสียอีก

“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ข้ากับเย่เจ๋หยิ่ง

ไม่ได้มีอะไรกัน ดูแล้วเขาน่าจะมีธุระเลยไปทำธุระก่อน ”

เวลานี้

โหลวเย่วมองนางด้วยสายตาแปลกประหลาด พูดอย่างไม่น่าเชื่อว่า

“เยาเยา สิ่งที่เจ้าควรพูดน่าจะคือเจ้ากับเสด็จพี่ไม่ดีมีอะไรกัน?ทำไมถึงบอกว่าเจ้ากับเสด็จอาไม่ได้มีอะไรกัน?หรือว่าเจ้ากับเสด็จอา……”

ยังพูดไม่ทันขาดคำ

โหลวเย่วรีบดึงมือของนางมา ถลกแขนเสื้อขึ้นไปข้างบน เป็นไปตามอย่างที่คิดยังมีรอยแดงกลมๆอยู่บนแขนนาง ทำให้โหลวเย่วตกตลึงไม่น้อย

“เจ้า……พวกเจ้ายังไม่ได้เข้าหอเหรอ?”

เมื่อเผชิญกับสีหน้าที่ตกตลึงของโหลวเย่ว ในทางกลับกันหลานเยาเยากลับใจเย็นเหมือนไม่มีอะไร นางดึงมือของโหลวเย่วออก จากนั้นก็ทำการจัดแขนเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย

“มันน่าแปลกตรงไหน เย่เจ๋หยิ่งแต่งงานกับหลานเยาเยาเพียงเพื่อต้องการไม่ให้คนอื่นนินทา หาวิธีแก้ไขปัญหาเท่านั้นเอง!”

อีกอย่างหนึ่ง พวกเขาก็แค่……ร่วมมือกัน

ใช่ ร่วมมือกัน

นางเป็นพระชายาของเขามาสามปี เขาจะให้เงินนางก้อนหนึ่ง แล้วปล่อยนางให้เป็นอิสระ

ถ้านิ่ไม่ใช่การร่วมมือกันแล้วมันคืออะไร?

เขายังรับปากว่อีกว่าจะรักษาความบริสุทธิ์ของนางไว้ ถ้าสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวบนแขนนางหายไป จึงจะเป็นเรื่องแปลก

“แต่เสด็จอาดีกับเจ้ามาก!”โหลวเย่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

“ก็ถือว่าพอใช้ได้อยู่!”

อยู่ที่นี่ นอกจากตาเฒ่าเย่นที่ดีต่อนางแล้ว เหมือนว่ามีเขาอีกคนที่ไม่ปฏิบัตรุนแรงไม่ดีต่อนาง

“เจ้าไม่เคยชอบเสด็จอาเลยแม้แต่น้อยเหรอ?เสด็จอากำทหารไว้ในมือมากมาย แม้แต่เสด็จพ่อยังต้องให้ความเคารพ อีกทั้งเสด็จอาหน้าตาสง่างามดังเทพ

ที่ผ่านมา มีผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่ต้องพลาดชีวิตแต่งงานตลอดชีวิตเพียงเพราะเสด็จอาเป็นต้นเหตุ แต่ถึงกระนั้นเสด็จอาก็ยังไม่เคยหันมาเลี้ยวแลพวกนาง ยิ่งไปกว่างห้ามผู้หญิงเข้าใกล้เขาเกินภายในสามเก้าด้วยซ้ำไป

เจ้าถื่อว่าพิเศษกว่าใคร อีกอย่างข้ายังไม่เคยเห็นเสด็จอาใส่ใจผู้หญิงคนไหนเท่ากับเจ้ามาก่อน”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท