บทที่ 110 พอเหมาะสมก็สมควรหยุด
เมื่อสิ้นคำพูดนาง!
เหมือนมีอะไรพุ่งออกมาจากอากาศ องครักษ์ลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านางทันที
“ข้าน้อยอยู่!”
องครักษ์ลับมองหน้านางด้วยความเคารพ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขาได้ยินชัดเจนทุกอย่าง และรับรู้ทุกอย่าง
เขาเกือบทนไม่ไหวแสดงตัวออกมาแล้ว!
“ในขณะที่ข้ายังเขียนบันทึกไม่เสร็จ ห้ามให้ใครออกจากที่นี่เด็ดขาด ถ้ามีใครกล้าฝ่าฝืน ฆ่าได้ทันที เกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้านายของเจ้ารับผิดชอบเอง”
องครักษ์ลับมองไปที่หลานเยาเยา ยกมือเคารพแล้วพูดขึ้นว่า “……รับทราบ!”
น่าจะไม่มีปัญหา!
ซึ่งตอนนี้ทุกคนสัมผัสได้ว่าหลานเยาเยาเริ่มจริงจังแล้ว ทุกคนคุกเข่าลงพร้อมกัน สำหรับคนที่ขี้ขลาดกว่าคนอื่นนั้นเริ่มมีอาการตัวสั่น
แม้แต่ถังมู่หวั่นก็คุกเข่าลงไปด้วย นางก้มหน้าลง ไม่สีหน้ามองไม่ชัด
ส่วนหลานจิ่นเอ๋อที่บดหมึกอยู่ข้างๆหลานเยาเยาก็ได้คุกเข่าลงแล้วเช่นกัน แต่มือก็ยังบดหมึกอยู่ปรกติ
“หึหึ!”
หลานเยาเยายิ้มออกมาเบาๆ!
นางไม่ได้พูดอะไร แต่นั่งลงมา จากนั้นสั่งกับองครักษ์ลับว่า “ให้นางประทับตรา!”
“รับทราบ!”
เมื่อได้ยินว่าต้องประทับตรา สีหน้าของฉินหลิงเจียวซีดขึ้นมา รีบขอร้องทันที
“พระชายาเย่ ข้าผิดไปแล้ว ข้ารู้ว่าผิดไปแล้ว ครั้งนี้ข้าขอร้องยกโทษให้ข้าเถิด ครั้งต่อไปข้าจะไม่ทำอีก ข้อร้องท่านเถิด ข้าไม่อยากประทับตรา ข้าขอร้องอย่าให้ข้าต้องประทับตราเลย……”
ถ้าประทับตราไปแล้ว ชื่อเสียงนางจะเสื่อมเสียทันที!
นางไม่เอา……
ฉินหลิงเจียวถือโอกาสที่หลานเยาเยาเพิ่งเขียนบันทึกเสร็จไปหนึ่งฉบับ อีกทั้งยังไม่ได้ประทับตรา ฉินหลิงเจียวอยากถือโอกาสนี้ขอร้องหลานเยาเยาดีๆ
ซึ่งทันใดนั้น!
มือของนางโดนองครักษ์ลับจับขึ้นมา วินาทีต่อมาดาบเล่มยาวบาดไปที่มือนาง ทำให้มีเสียงโอดครวญคราญออกมา แล้วโดนบีบบังคับให้ประทับมือลงไป
ตอนนี้……
ฉินหลิงเจียวอ่อนฮวบลงไปกองอยู่ที่พื้น!
พวกนางเพิ่งรู้ว่า หลานเยาเยานั้นน่ากลัวมาก
แต่ทำไมก่อนหน้านี้ ท่าทางของนางไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัยเลย?
สิ่งที่น่ากลัวทีสุดคือ องครักษ์ลับของอ๋องเย่รับฟังคำสั่งของนาง ซึ่งนั้นหมายความว่า หลานเยาเยาเป็นตัวแทนของอ๋องเย่ได้
“คนดีโดนรังแก ม้าดีโดนคนขี่ ถึงแม้วันนี้ข้าให้โอกาสพวกเจ้า ต่อไปนี้พวกเจ้าคงไม่กล้าทำอะไรข้าอีก
แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าอีกหน่อยพวกเจ้าจะไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าอีก เพราะฉะนั้นจะมาโทษข้าไม่ได้ ต้องให้พวกเจ้าได้รับบทเรียน”
พูดจบ หลานเยาเยายิ้มที่มุมปากอีกครั้ง
เมื่อนางนั่งลงอีกครั้ง นางหยิบภู่กันขึ้นมาอีกครั้งและเขียนต่อ คราวนี้เธอเขียนคำพูดและการกระทำของหลินเฟยหรัน เขียนทั้งแววตาและน้ำเสียงของนางลงไปด้วย
เขียนอย่างล่ะเอียดและลึกซึ้ง ทำให้หลินเฟยหรันที่คุกเขาอยู่ขาสั่นไปหมด หน้าผากก็เริ่มมีเม็ดเหงื่อไหลออกมา
ในใจนางคิดหลายทาง แต่ถ้าจะขอร้องไห้หลานเยาเยายกโทษให้น่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว!
เนื่องจากหลานเยาเยาใจแข็งมาก
เพราะฉะนั้นตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดคือไม่พูดอะไร ไม่ทำอะไร เรื่องราวจะได้ไม่ร้ายแรงเท่าฉินหลิงเจียว นางก็จะยังสามารถรักษาเกียรตินางไว้ได้ ไม่ถึงกลับชื่อเสียงเสื่อมเสียป่นปี้
รอจนนางเขียนเสร็จ องครักษ์ลับก็ถือดาบมายืนอยู่ข้างนาง หลินเฟยหรันยอมยื่นมือออกไปโดยดี
องครักษ์ลับยกดาบขึ้น รวดเร็วมาก
“ซื่อ······”
หลินเฟยหรันอดทนต่อความเจ็บปวดของแผลภายนอก ไม่รอให้องครักษ์ลับบังคับนาง นางลงมือประทับนิ้วมือด้วยตัวเอง
หลานเยาเยามองไปที่หลินเฟยหรันที่ไม่ร้องไห้ไม่อาละวาดยินยอมประทับลายนิ้วมือ แถมยังก้มหัวคำนับนางด้วย
“คำพูดของพระชายาเย่ ข้าจะจดจำขึ้นใจ หลังจากนี้ข้าจะไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าเด็ดขาด”
หึหึ!
ดูเหมือนจะรู้ว่าตัวเองทำผิดจริง และเหมือนจะแก้ไขปรับปรุงตัวใหม่ แต่สายตาที่แฝงไว้ด้วยความเกลียดชังนึกว่าหลานเยาเยาจะมองไม่เห็นเหรอ?
แต่ว่า!
หลินเฟนหรันก็ฉลาดกว่าฉินหลิงเจียวจริงๆด้วย
ยังมีหญิงสาวอีกหลายคนที่คุกเขาตามหลังหลินเฟยหรัน พวกนางรู้สึกโล่งใจลงเล็กน้อย
พระชายาเย่เขียนบันทึกคำพูดและกระทำของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแค่ยืนอยู่ข้างๆฉินหลิงเจียวกับหลินเฟยหรัน นางจะเขียนบันทึกยังไง?
พวกนางสามารถแก้ตัวได้ว่า พวกนางแค่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆเท่นนั้นเอง
ยืนดูเหตุการณ์มีความผิดด้วยเหรอ?
ใครจะรู้······
หลานเยาเยาพูดออกมาตรงๆว่า
“อย่าคิดว่าไม่ได้พูดอะไร ข้าจะทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้ สายตาของพวกเจ้าการกระทำของพวกเจ้า แถมตำแหน่งและระยะห่างทั้งหมด ข้าได้เขียนไว้อย่างชัดเจน”
หลังจากพูดจบแล้ว หลานเยาเยาเขียนบันทึกรายละเอียดทุกอย่างลงไป
ด้วยวิธีการนี้ สำหรับคนที่คิดว่าอาจจะโชคดีเหมือนลูกบอลที่โดนปล่อยลมออกมา สีหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
บันทึกคำพูดของหญิงสาวเหล่านั้นไม่เยอะเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ ฉะนั้น หลานเยาเยาใส่การกระทำของพวกเขาไว้ในกระดาษแผ่นเดียวกัน แล้วให้พวกนางประทับลายนิ้วมือลงไป
มีแต่ถังมู่หวั่นและหลานจิ่นเอ๋อไม่โดนบันทึก
พวกนางถึงแม้จะคุกเข่าอยู่ที่พื้น อีกคนสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนอีกคนตั้งหน้าตั้งตาบดหมึกอย่างเดียว!
ถือกระดาษที่ยังไม่แห้งดีไว้ในมืออยู่หลายใบ หลานเยาเยาลุกขึ้นมา จากนั้นยืนอยู่ข้างๆหลานจิ่นเอ๋อพูดขึ้นมาว่า
“ขอบคุณพี่สามที่ช่วยบดหมึก!”
หลังจากพูดเสร็จหลานเยาเยาก็เดินตามหลังนางและมองไปที่นางอีกครั้ง จากนั้นเดินไปหาถังมู่หวั่น เดินไปด้วยพูดไปด้วยว่า :
“ตอนแรกไม่ได้คิดจะมีปัญหากับใคร ข้าเป็นคนง่ายๆ เจ้าดีต่อข้า ข้าก็จะไม่สร้างความลำบากใจให้เจ้า แต่ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายข้า สร้างความเดือดร้อนให้ข้า ข้าก็จะไม่ยอมเด็ดขาด”
คำพูดนี้ทำให้เกิดความยามเกรง
นางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของถังมู่หวั่น พูดว่า:
“วิธียืมมีดฆ่าคนนั้นใช้ดี ใช้ดีมาก สมหวังการทั้งสองฝ่าย ถ้าใช้ไม่ดีชื่อเสียงก็จะเสื่อมเสียโดงดังไปทั่ว ข้าหวังว่าเมื่อพอเหมาะสมแล้วก็สมควรหยุด
พูดจบ หลานเยาเยาก็เดินออกไป
องครักษ์ลับเดินตามออกไปด้วย
“น้อมส่งพระชายาเย่ ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน
เมื่อเดินออกไปถึงข้างนอกแล้ว หลานเยาเยารู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
ต้องใช้ความพยายามมากในการแสร้งทำเป็นเก่ง ตอนนี้เขาเหมือนคนขาดเลือด ต้องการพลังมาเติมเต็มชีวิต
ฉะนั้นแล้ว!
มองไปที่เรือลำใหญ่ที่ตอนนี้เล่นไปอยู่ที่กลางทะแลสาบ แล้วมองไปที่องครักษ์ลับ หัวสมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่พริบตาเดียว หลานเยาเยาก็คิดแผนการออกมาได้
จากนั้น นำกระดาษที่กำอยู่ในมือยื่นให้องครักษ์ลับแล้วพูดว่า “ตอนนี้เจ้ามีเวลาไหม?ถ้ามีเวลาช่วยข้าไปก๊อปปี้หน่อย ก๊อปปี้ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ยิ่งเยอะยิ่งดี
จีนแผ่นดินใหญ่นี้มีของใช้ที่ก้าวหน้าเยอะแล้ว น่าจะมีเครื่องปริ้นแล้วมั้ง!
“ข้าน้อยมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพระชายา”
องครักษ์ไม่ได้รับกระดาษมาจากมือนาง แต่พูดกับนางถึงหน้าที่ของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบให้นางฟัง
เอ๋อ······
รู้แล้วต้องเป็นอย่างนี้!
“เมื่อกี้ข้าก็ไม่มีอันตรายหนิ่ ข้าเรียกเจ้าออกมา แล้วเจ้าออกมาทำไม?”
ถึงแม้นางจะรู้ว่า องครักษ์ลับเหลือองครักษไว้ให้นางหนึ่งคน ไม่ใช้ให้นางสั่งงานเหรอ แต่คือมาเฝ้านาง เพื่อไม่นางขึ้นไปบนเรือ
“เนื่องจากมันมีความเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของเจ้านาย ข้าน้อยก็ต้องช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้ว”
หยี๋!
นางคิดแล้วไม่มีผิด ผู้หญิงพวกนั้นมีแค่นมไม่มีสมอง ทำให้ชื่อเสียงของอ๋องเย่เสื่อมเสีย องครักษ์ลับทนเห็นไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นนางถึงเรียกองครักษ์ลับออกมา
ถ้าองครักษ์ลับมีหน้าที่แค่ดูแลความปลอดภัยของนาง ถ้างั้นนางมีวิธีล่ะ
ผ่านไปชั่วครู่!
“ไอหย๋าหย่าหย๋า ข้าปวดท้อง ปวดมากเลย!น่าจะลำไส้อักเสบ”พูดจบหลานเยาเยาเอามือกุมไปที่ท้องแล้วนั่งลงกับพื้น สีหน้าซีเซีดลงทันที