หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 110 พอเหมาะสมก็สมควรหยุด

บทที่ 110 พอเหมาะสมก็สมควรหยุด

บทที่ 110 พอเหมาะสมก็สมควรหยุด

เมื่อสิ้นคำพูดนาง!

เหมือนมีอะไรพุ่งออกมาจากอากาศ องครักษ์ลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านางทันที

“ข้าน้อยอยู่!”

องครักษ์ลับมองหน้านางด้วยความเคารพ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขาได้ยินชัดเจนทุกอย่าง และรับรู้ทุกอย่าง

เขาเกือบทนไม่ไหวแสดงตัวออกมาแล้ว!

“ในขณะที่ข้ายังเขียนบันทึกไม่เสร็จ ห้ามให้ใครออกจากที่นี่เด็ดขาด ถ้ามีใครกล้าฝ่าฝืน ฆ่าได้ทันที เกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้านายของเจ้ารับผิดชอบเอง”

องครักษ์ลับมองไปที่หลานเยาเยา ยกมือเคารพแล้วพูดขึ้นว่า “……รับทราบ!”

น่าจะไม่มีปัญหา!

ซึ่งตอนนี้ทุกคนสัมผัสได้ว่าหลานเยาเยาเริ่มจริงจังแล้ว ทุกคนคุกเข่าลงพร้อมกัน สำหรับคนที่ขี้ขลาดกว่าคนอื่นนั้นเริ่มมีอาการตัวสั่น

แม้แต่ถังมู่หวั่นก็คุกเข่าลงไปด้วย นางก้มหน้าลง ไม่สีหน้ามองไม่ชัด

ส่วนหลานจิ่นเอ๋อที่บดหมึกอยู่ข้างๆหลานเยาเยาก็ได้คุกเข่าลงแล้วเช่นกัน แต่มือก็ยังบดหมึกอยู่ปรกติ

“หึหึ!”

หลานเยาเยายิ้มออกมาเบาๆ!

นางไม่ได้พูดอะไร แต่นั่งลงมา จากนั้นสั่งกับองครักษ์ลับว่า “ให้นางประทับตรา!”

“รับทราบ!”

เมื่อได้ยินว่าต้องประทับตรา สีหน้าของฉินหลิงเจียวซีดขึ้นมา รีบขอร้องทันที

“พระชายาเย่ ข้าผิดไปแล้ว ข้ารู้ว่าผิดไปแล้ว ครั้งนี้ข้าขอร้องยกโทษให้ข้าเถิด ครั้งต่อไปข้าจะไม่ทำอีก ข้อร้องท่านเถิด ข้าไม่อยากประทับตรา ข้าขอร้องอย่าให้ข้าต้องประทับตราเลย……”

ถ้าประทับตราไปแล้ว ชื่อเสียงนางจะเสื่อมเสียทันที!

นางไม่เอา……

ฉินหลิงเจียวถือโอกาสที่หลานเยาเยาเพิ่งเขียนบันทึกเสร็จไปหนึ่งฉบับ อีกทั้งยังไม่ได้ประทับตรา ฉินหลิงเจียวอยากถือโอกาสนี้ขอร้องหลานเยาเยาดีๆ

ซึ่งทันใดนั้น!

มือของนางโดนองครักษ์ลับจับขึ้นมา วินาทีต่อมาดาบเล่มยาวบาดไปที่มือนาง ทำให้มีเสียงโอดครวญคราญออกมา แล้วโดนบีบบังคับให้ประทับมือลงไป

ตอนนี้……

ฉินหลิงเจียวอ่อนฮวบลงไปกองอยู่ที่พื้น!

พวกนางเพิ่งรู้ว่า หลานเยาเยานั้นน่ากลัวมาก

แต่ทำไมก่อนหน้านี้ ท่าทางของนางไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัยเลย?

สิ่งที่น่ากลัวทีสุดคือ องครักษ์ลับของอ๋องเย่รับฟังคำสั่งของนาง ซึ่งนั้นหมายความว่า หลานเยาเยาเป็นตัวแทนของอ๋องเย่ได้

“คนดีโดนรังแก ม้าดีโดนคนขี่ ถึงแม้วันนี้ข้าให้โอกาสพวกเจ้า ต่อไปนี้พวกเจ้าคงไม่กล้าทำอะไรข้าอีก

แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าอีกหน่อยพวกเจ้าจะไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าอีก เพราะฉะนั้นจะมาโทษข้าไม่ได้ ต้องให้พวกเจ้าได้รับบทเรียน”

พูดจบ หลานเยาเยายิ้มที่มุมปากอีกครั้ง

เมื่อนางนั่งลงอีกครั้ง นางหยิบภู่กันขึ้นมาอีกครั้งและเขียนต่อ คราวนี้เธอเขียนคำพูดและการกระทำของหลินเฟยหรัน เขียนทั้งแววตาและน้ำเสียงของนางลงไปด้วย

เขียนอย่างล่ะเอียดและลึกซึ้ง ทำให้หลินเฟยหรันที่คุกเขาอยู่ขาสั่นไปหมด หน้าผากก็เริ่มมีเม็ดเหงื่อไหลออกมา

ในใจนางคิดหลายทาง แต่ถ้าจะขอร้องไห้หลานเยาเยายกโทษให้น่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว!

เนื่องจากหลานเยาเยาใจแข็งมาก

เพราะฉะนั้นตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดคือไม่พูดอะไร ไม่ทำอะไร เรื่องราวจะได้ไม่ร้ายแรงเท่าฉินหลิงเจียว นางก็จะยังสามารถรักษาเกียรตินางไว้ได้ ไม่ถึงกลับชื่อเสียงเสื่อมเสียป่นปี้

รอจนนางเขียนเสร็จ องครักษ์ลับก็ถือดาบมายืนอยู่ข้างนาง หลินเฟยหรันยอมยื่นมือออกไปโดยดี

องครักษ์ลับยกดาบขึ้น รวดเร็วมาก

“ซื่อ······”

หลินเฟยหรันอดทนต่อความเจ็บปวดของแผลภายนอก ไม่รอให้องครักษ์ลับบังคับนาง นางลงมือประทับนิ้วมือด้วยตัวเอง

หลานเยาเยามองไปที่หลินเฟยหรันที่ไม่ร้องไห้ไม่อาละวาดยินยอมประทับลายนิ้วมือ แถมยังก้มหัวคำนับนางด้วย

“คำพูดของพระชายาเย่ ข้าจะจดจำขึ้นใจ หลังจากนี้ข้าจะไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าเด็ดขาด”

หึหึ!

ดูเหมือนจะรู้ว่าตัวเองทำผิดจริง และเหมือนจะแก้ไขปรับปรุงตัวใหม่ แต่สายตาที่แฝงไว้ด้วยความเกลียดชังนึกว่าหลานเยาเยาจะมองไม่เห็นเหรอ?

แต่ว่า!

หลินเฟนหรันก็ฉลาดกว่าฉินหลิงเจียวจริงๆด้วย

ยังมีหญิงสาวอีกหลายคนที่คุกเขาตามหลังหลินเฟยหรัน พวกนางรู้สึกโล่งใจลงเล็กน้อย

พระชายาเย่เขียนบันทึกคำพูดและกระทำของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแค่ยืนอยู่ข้างๆฉินหลิงเจียวกับหลินเฟยหรัน นางจะเขียนบันทึกยังไง?

พวกนางสามารถแก้ตัวได้ว่า พวกนางแค่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆเท่นนั้นเอง

ยืนดูเหตุการณ์มีความผิดด้วยเหรอ?

ใครจะรู้······

หลานเยาเยาพูดออกมาตรงๆว่า

“อย่าคิดว่าไม่ได้พูดอะไร ข้าจะทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้ สายตาของพวกเจ้าการกระทำของพวกเจ้า แถมตำแหน่งและระยะห่างทั้งหมด ข้าได้เขียนไว้อย่างชัดเจน”

หลังจากพูดจบแล้ว หลานเยาเยาเขียนบันทึกรายละเอียดทุกอย่างลงไป

ด้วยวิธีการนี้ สำหรับคนที่คิดว่าอาจจะโชคดีเหมือนลูกบอลที่โดนปล่อยลมออกมา สีหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

บันทึกคำพูดของหญิงสาวเหล่านั้นไม่เยอะเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ ฉะนั้น หลานเยาเยาใส่การกระทำของพวกเขาไว้ในกระดาษแผ่นเดียวกัน แล้วให้พวกนางประทับลายนิ้วมือลงไป

มีแต่ถังมู่หวั่นและหลานจิ่นเอ๋อไม่โดนบันทึก

พวกนางถึงแม้จะคุกเข่าอยู่ที่พื้น อีกคนสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนอีกคนตั้งหน้าตั้งตาบดหมึกอย่างเดียว!

ถือกระดาษที่ยังไม่แห้งดีไว้ในมืออยู่หลายใบ หลานเยาเยาลุกขึ้นมา จากนั้นยืนอยู่ข้างๆหลานจิ่นเอ๋อพูดขึ้นมาว่า

“ขอบคุณพี่สามที่ช่วยบดหมึก!”

หลังจากพูดเสร็จหลานเยาเยาก็เดินตามหลังนางและมองไปที่นางอีกครั้ง จากนั้นเดินไปหาถังมู่หวั่น เดินไปด้วยพูดไปด้วยว่า :

“ตอนแรกไม่ได้คิดจะมีปัญหากับใคร ข้าเป็นคนง่ายๆ เจ้าดีต่อข้า ข้าก็จะไม่สร้างความลำบากใจให้เจ้า แต่ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายข้า สร้างความเดือดร้อนให้ข้า ข้าก็จะไม่ยอมเด็ดขาด”

คำพูดนี้ทำให้เกิดความยามเกรง

นางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของถังมู่หวั่น พูดว่า:

“วิธียืมมีดฆ่าคนนั้นใช้ดี ใช้ดีมาก สมหวังการทั้งสองฝ่าย ถ้าใช้ไม่ดีชื่อเสียงก็จะเสื่อมเสียโดงดังไปทั่ว ข้าหวังว่าเมื่อพอเหมาะสมแล้วก็สมควรหยุด

พูดจบ หลานเยาเยาก็เดินออกไป

องครักษ์ลับเดินตามออกไปด้วย

“น้อมส่งพระชายาเย่ ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน

เมื่อเดินออกไปถึงข้างนอกแล้ว หลานเยาเยารู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที

ต้องใช้ความพยายามมากในการแสร้งทำเป็นเก่ง ตอนนี้เขาเหมือนคนขาดเลือด ต้องการพลังมาเติมเต็มชีวิต

ฉะนั้นแล้ว!

มองไปที่เรือลำใหญ่ที่ตอนนี้เล่นไปอยู่ที่กลางทะแลสาบ แล้วมองไปที่องครักษ์ลับ หัวสมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว

เพียงแค่พริบตาเดียว หลานเยาเยาก็คิดแผนการออกมาได้

จากนั้น นำกระดาษที่กำอยู่ในมือยื่นให้องครักษ์ลับแล้วพูดว่า “ตอนนี้เจ้ามีเวลาไหม?ถ้ามีเวลาช่วยข้าไปก๊อปปี้หน่อย ก๊อปปี้ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ยิ่งเยอะยิ่งดี

จีนแผ่นดินใหญ่นี้มีของใช้ที่ก้าวหน้าเยอะแล้ว น่าจะมีเครื่องปริ้นแล้วมั้ง!

“ข้าน้อยมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพระชายา”

องครักษ์ไม่ได้รับกระดาษมาจากมือนาง แต่พูดกับนางถึงหน้าที่ของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบให้นางฟัง

เอ๋อ······

รู้แล้วต้องเป็นอย่างนี้!

“เมื่อกี้ข้าก็ไม่มีอันตรายหนิ่ ข้าเรียกเจ้าออกมา แล้วเจ้าออกมาทำไม?”

ถึงแม้นางจะรู้ว่า องครักษ์ลับเหลือองครักษไว้ให้นางหนึ่งคน ไม่ใช้ให้นางสั่งงานเหรอ แต่คือมาเฝ้านาง เพื่อไม่นางขึ้นไปบนเรือ

“เนื่องจากมันมีความเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของเจ้านาย ข้าน้อยก็ต้องช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้ว”

หยี๋!

นางคิดแล้วไม่มีผิด ผู้หญิงพวกนั้นมีแค่นมไม่มีสมอง ทำให้ชื่อเสียงของอ๋องเย่เสื่อมเสีย องครักษ์ลับทนเห็นไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นนางถึงเรียกองครักษ์ลับออกมา

ถ้าองครักษ์ลับมีหน้าที่แค่ดูแลความปลอดภัยของนาง ถ้างั้นนางมีวิธีล่ะ

ผ่านไปชั่วครู่!

“ไอหย๋าหย่าหย๋า ข้าปวดท้อง ปวดมากเลย!น่าจะลำไส้อักเสบ”พูดจบหลานเยาเยาเอามือกุมไปที่ท้องแล้วนั่งลงกับพื้น สีหน้าซีเซีดลงทันที

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท