ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 608 หลบซ่อน(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 608 หลบซ่อน(2)

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ ก็ไปขึ้นรถไฟกลับเมืองหลวง

“ต่อไปถ้ามีโอกาส พวกเรานั่งเครื่องบินกันก็ได้นะ”

ฉินมู่หลานนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้มีเครื่องบินแล้ว หากเป็นไปได้ก็อยากโดยสารเครื่องบิน เพราะการเดินทางด้วยรถไฟล่าช้าเกินไป

หลี่เสวี่ยเยี่ยนได้ยินแบบนี้ ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าอยากรู้ “นั่งเครื่องบินได้จริงเหรอ แต่ฉันได้ยินว่ายังไปนั่งเฉย ๆ ไม่ได้นะ”

“เดี๋ยวครั้งต่อไปฉันจะลองถามเรื่องนี้ดูค่ะ ลองดูว่ามีอะไรจำเป็นต้องใช้บ้าง”

“ดีเลย ๆ ถ้ามีโอกาสอย่างที่ว่า ฉันก็อยากลองนั่งเหมือนกัน”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนยังอายุไม่มาก จึงอยากลองสิ่งแปลกใหม่ทุกสิ่งอย่าง แต่ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือกลับรู้สึกว่านั่งรถไฟดีกว่า

หลายคนพูดคุยและหัวเราะกันตลอดทาง เวลาผ่านไปเร็วมาก ในวันรุ่งขึ้นพวกหล่อนก็กลับถึงเมืองหลวงกันแล้ว

เมื่อลงจากรถไฟและเห็นบรรยากาศคุ้นเคย ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็อดพูดไม่ได้ “ถึงไห่เฉิงจะเจริญมาก แต่ที่ปักกิ่งก็ยังดีกว่าเยอะเลย”

ถึงอย่างไรพวกหล่อนก็ยังชอบสถานที่ที่ตัวเองอยู่อาศัยมากกว่า

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วกล่าว “ใช่ค่ะ ไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านตัวเองแล้ว”

หลังจากกลับถึงบ้าน คุณปู่และคุณย่าฉินก็ดีใจกันมาก

“มู่หลาน ในที่สุดพวกหลานก็กลับมาแล้ว หลายวันนี้ที่พวกหลานไม่อยู่ ที่บ้านเงียบเหงามาก รู้สึกจำนวนคนลดลงไปเยอะมาก”

“ใช่แล้ว พวกหลานกลับมาแล้วดีมากเลย” คุณนายเหยาที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดถอนหายใจไม่ได้ จากนั้นก็เอ่ยถามพวกเธอเรื่องที่ไปไห่เฉิงมา

หลี่เสวี่ยเยี่ยนมีคารมคมคายอยู่เสมอ จึงพูดเรื่องการไปไห่เฉิงได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

หลายคนได้ฟังก็รู้สึกตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามนู่นนี่นั่น หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็ตอบทีละอย่าง นอกจากนี้ยังเอาของฝากให้หลายคนด้วย พวกหล่อนไม่ได้ไปเดินช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังซื้ออาหารท้องถิ่นของไห่เฉิงมามากมายด้วย

นายท่านเหยาและพวกคุณนายเหยาต่างมีความสุขมาก

แต่ฉินมู่หลานไม่เห็นถวนถวนและหยวนหยวน หลังจากทราบว่าพวกเขากำลังหลับ จึงเข้าไปดูหนุ่มน้อยทั้งสองในห้อง ไม่ได้เจอลูกมาหลายวัน เธอคิดถึงมากเหลือเกิน เฝ้ามองใบหน้าแสนน่ารักของพวกหนุ่มน้อยที่กำลังหลับไหล ก็รู้สึกถึงความน่ารักเต็มไปหมด

ถวนถวนและหยวนหยวนราวกับรู้ว่าแม่ของพวกเขากลับมาแล้ว ทั้งสองจึงตื่นขึ้นหลังจากนั้นในไม่ช้า ฉินมู่หลานคิดว่าเธอเป็นคนปลุกพวกเขา หลังจากคุณนายเหยาได้ยินเสียงวุ่นวายจึงเดินเข้ามา ก่อนจะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พวกเขานอนเกือบจะเต็มอิ่มแล้ว ถึงเวลาตื่นแล้วล่ะนะ”

“หม่าม้า…”

เด็กน้อยทั้งสองเห็นฉินมู่หลานกลับมา ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแสนตื่นเต้น

“ถวนถวน หยวนหยวน พวกลูกคิดถึงหม่าม้าไหม”

“คิด…คิดถึงมาก…”

เมื่อได้ฟังคำพูดของลูกทั้งสอง สีหน้าของฉินมู่หลานก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่เด็กทั้งสองแต่งตัวและออกไปข้างนอก ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือก็ผลัดกันกอดอีกครั้ง พวกหล่อนก็คิดถึงเด็ก ๆ เหมือนกัน

หลี่เสวี่ยเยี่ยนเห็นถวนถวนและหยวนหวนแล้วก็นึกถึงเสี่ยวอวี่เหมือนกัน จึงอดหันไปมองผู้อาวุโสหลายคนแล้วกล่าวเสียไม่ได้ “วันนี้เสี่ยวอวี่มีคนไปรับที่โรงเรียนหรือเปล่าคะ?”

“ไม่ต้องห่วง เสี่ยวอวี่กับชิงชิงและเฉินเฉินมีคนไปรับกันหมดแล้ว พวกหลานไม่ต้องออกไปข้างนอกกันหรอก”

อันที่จริง…ทั้งสามไปถูกไปรับตัวหลังจากเลิกเรียน และคนที่ไปรับก็คือเซี่ยเจ๋อเหว่ย เขานึกไม่ถึงว่าวันนี้แม่และภรรยาจะกลับมากันแล้ว ดังนั้นเมื่อกลับถึงบ้านจึงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

หลังจากหลายคนทักทายเขา ทุกคนก็หันไปมองเสี่ยวอวี่และชิงชิงเฉินเฉินพร้อมรอยยิ้ม

เมื่อถึงเวลากินมื้อเย็น อาหารก็มากมายเป็นพิเศษ แม้แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็กลับมาที่บ้าน ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อช่วยกันต้อนรับฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ ทุกคนจึงทานกันอย่างเต็มที่

หลังจากกินเสร็จ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็พาฉินมู่หลานและเด็ก ๆ กลับห้อง

“มู่หลาน ครั้งนี้พวกคุณไปที่นั่นกันหลายวันเลย”

“ใช่แล้ว มันใช้เวลาค่อนข้างนาน มีหลายอย่างที่ต้องทำเยอะแยะมาก ก็เลยล่าช้าไปน่ะค่ะ”

หลังจากพูดจบ เธอก็เล่าเรื่องตอนที่พวกเธออยู่ที่ไห่เฉิงให้ฟัง เซี่ยเจ๋อหลี่จึงทราบว่าครั้งนี้พวกเธอประสบความสำเร็จหลายอย่างมาก “พวกคุณทำงานหนักมากเลย”

“ไม่หนักหรอก จริง ๆ แล้วพวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย”

ตอนแรกเซี่ยเจ๋อหลี่อยากจะคุยกับฉินมู่หลานให้มากกว่านี้ แต่เมื่อเห็นว่าเธอง่วงนิดหน่อยแล้ว จึงปล่อยให้เธอนอนหลับ และเขาก็พาพวกเด็ก ๆ เข้านอนด้วย

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็ไปเรียน เพียงแต่ยังไม่ทันได้ออกจากบ้าน ก็เห็นคังอันเหอมาหา

“อันเหอ เธอมาทำไมเหรอ?”

คังอันเหอเห็นว่าฉินมู่หลนอยู่บ้านจริง ๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยสีหน้าตื่นเต้นแล้วกล่าวว่า “มู่หลาน ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว เธอคงไม่รู้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มีคนมาหาเธอที่ซิงหลินถัง ถึงฉันจะบอกว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่ปักกิ่ง แต่เขาก็ยังมาหาที่หน้าประตูทุกวันเลย รอวันที่เธอจะกลับมา”

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “ใครมาหาฉันคะ?”

“คนที่เธอเคยตรวจชีพจรให้เขาก่อนหน้านี้น่ะ”

คังอันเหอบอกอาการของชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว วันนั้นที่ซิงหลินถังเปิดทำการ ฉินมู่หลานได้ตรวจชีพจรให้ชายคนหนึ่งฟรี “เป็นคนไข้ผู้ชายที่เธอบอกให้เขาไปหาหมอหลี่ที่โรงพยาบาลปักกิ่ง”

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็นึกขึ้นได้

“ฉันจำเขาได้แล้ว แต่ฉันบอกให้เขาไปโรงพยาบาลหาหมอหลี่ปิ่งฉวนแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงยังมาที่ซิงหลินถังอีก”

“ดูเหมือนว่าเป็นเพราะหมอหลี่ไม่ค่อยมั่นใจในการผ่าตัด ขณะเดียวกันก็ได้ยินมาว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยผ่าตัดคนไข้ที่มีอาการคล้ายคลึงกัน เขาก็เลยมาหาเธอ อยากจะให้เธอช่วยผ่าตัดให้”

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท