ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1510 หมิงอ๋องออกความคิด

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1510 หมิงอ๋องออกความคิด

ฟางเจิ้งสิงยืนอยู่ข้าง ๆ ประสานมืออย่างประจบสอพลอ “สิ่งที่ท่านอ๋องจะพูดคือไก่ตัวเล็กตัวนี้ประเมินค่าตัวเองสูงเกินไป มันจะเปรียบเทียบกับไก่ตัวใหญ่ได้อย่างไร เรื่องที่มันจะแพ้ก็เป็นเรื่องที่ควรรู้อยู่ก่อนแล้ว”

ซูห้าวพอใจกับคำพูดของฟางเจิ้งสิงมาก เขามองไปที่ฟางเจิ้งสิงพลางวางถ้วยชาในมือลงด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะยกขาไขว่ห้างและชี้บางอย่าง “ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินของท่านกำลังจะตายในไม่ช้า”

เมื่อฟางเจิ้งสิงได้ยินดังนั้น หัวใจของเขาพลันเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาไม่รู้ว่าว่าหมิงอ๋องหมายถึงอะไร ดังนั้นจึงรีบพูดว่า “ใช่แล้ว วันนี้ข้าไปที่จวนหลู นางมีสุขภาพไม่ดีมาตลอด และเกรงว่าคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน”

“ถึงนางตายก็ไม่เป็นไร นางเป็นเพียงแค่ลูกสาวของขุนนางระดับสี่เท่านั้น นางไม่คู่ควรกับท่านแม้แต่น้อย แต่ข้ากลัวว่าคนอื่นจะนินทาว่าท่านเป็นคนเนรคุณ”

ฟางเจิ้งสิงได้ยินดังนั้นก็รีบพูดอย่างจริงจัง “ข้าจำได้เสมอว่าการที่ข้าได้ตำแหน่งเป็นเพราะใคร และการเอ่ยซุบซิบนินทาด้วยความสนุกปาก มันช่างน่ารังเกียจจริง ๆ คราวหน้าข้าต้องสั่งสอนคนพวกนั้นให้หลาบจำ”

“ไม่จำเป็น” ซูห้าวโบกมือและพูดว่า “ถ้าตระกูลหลูไม่สนับสนุนท่านจนถึงจุดสูงสุด ข้าคงไม่สังเกตเห็นถึงความโดดเด่นของท่าน ดังนั้นความสำเร็จและชื่อเสียงในปัจจุบันของท่านก็มาจากตระกูลหลูเช่นกัน”

“ท่านอ๋อง” ฟางเจิ้งสิงได้ยินดังนั้นก็คุกเข่าลงพร้อมกับพูด “ในชีวิตนี้ ข้าจะจำแต่ความกรุณาของเขา ข้ายินดีที่จะเป็นวัวและม้าตลอดชีวิตเพื่อตอบแทนท่านอ๋อง”

“มันไม่ใช่เรื่องของการเป็นวัวหรือม้า วันนี้ที่ข้าเรียกท่านมาที่นี่ ข้าจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากใต้เท้าฟางจริง ๆ” ซูห้าวลุกขึ้นยืนก่อนจะประคองฟางเจิ้งสิงขึ้นยืนและพูดด้วยรอยยิ้ม

ฟางเจิ้งสิงรู้สึกปลื้มปีติและรีบพูดว่า “ท่านอ๋อง อย่าลังเลที่จะเอ่ยออกมาเลย ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะทำโดยไม่ลังเล”

ซูห้าวโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ถึงต้องบุกน้ำลุยไฟหรอก ไม่ต้องกังวลใต้เท้าฟาง เรื่องนี้ท่านไม่ต้องทำอะไร ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยเพิ่มแรงผลักดันให้กับใต้เท้าฟางอีกด้วย จากนี้ไปท่านจะสามารถก้าวหน้าได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น”

ช่วย

ฟางเจิ้งสิงไม่เข้าใจในทันที “ท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไร”

“หวงเจี่ยน รองเสนาบดีประจำกรมพิธีการมีลูกสาวคนที่สองซึ่งตอนนี้อายุสิบห้าสิบหกปีและยังไม่ได้แต่งงาน ข้าได้ยินมาว่าแม่นางหวงนั้นสง่างามและมีความงามเป็นเลิศ” หมิงอ๋องกล่าว

ฟางเจิ้งสิงเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ มองไปที่หมิงอ๋องและเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาที่ตัวเองด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าฟางเจิ้งสิงยังไม่เข้าใจ จึงกล่าวอีกว่า “ข้าได้ยินมาว่าใต้เท้าฟางชอบความสวยงาม แม่นางหวงคนนี้ต้องสวยกกว่านางบำเรอที่บ้านท่านเป็นแน่”

ใบหน้าของหมิงอ๋องเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย และเมื่อเป็นเช่นนี้ ฟางเจิ้งสิงก็เข้าใจ “สิ่งที่ท่านอ๋องหมายถึงคือการให้ข้าไปขอแม่นางหวงแต่งงานหรือ”

“ไม่ผิด ตอนนี้มีสองฝ่ายในราชสำนัก และหวงเจี่ยนเป็นกลาง หากเราสามารถดึงหวงเจี่ยนมาและทำให้เขาสนับสนุนเราได้ ความช่วยเหลือของเราจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” หมิงอ๋องกล่าว

ฟางเจิ้งสิงขมวดคิ้วและพูดอย่างเป็นกังวล “ตอนนี้แม่นางหวงอายุสิบห้าสิบหกปี ข้ากังวลว่าใต้เท้าหวงอาจไม่ยินยอม”

“ไม่ต้องกังวล เขาจะยอมตอบตกลง ถ้าแม่นางหวงแต่งงานเข้ามา แม้ว่าจะเป็นการแต่งงานหลังจากฮูหยินเสียชีวิต แต่ท่านก็เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงและอาจได้เป็นเสนาบดีฝ่ายขวาที่เหมาะสมในอนาคต จิ้งจอกเฒ่าหวงเจี่ยนตัวนั้นกำลังเฝ้ามองทุกอย่างด้วยความลังเล ข้าต้องการเอาชนะเขาและให้เขามาทำงานให้ข้า”

“แต่…ท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เขา…” เมื่อกล่าวถึงผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน ฟางเจิ้งสิงก็รู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าฟางเจิ้งสิงจะใช้เงินไปเท่าไรกับข้อมูลของท่านอ๋องผู้นี้ เขาก็ไม่สามารถหาข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลนี้ได้เลย แม้แต่หน้าตาของเขาเป็นอย่างไรก็เป็นความลับ

ท่านอ๋องลึกลับคนนี้เป็นมือขวาของฮ่องเต้องค์น้อย และเป็นคู่แข่งในราชสำนักกับท่านหมิงอ๋อง ทั้งสองฝ่ายเปรียบดังน้ำกับไฟที่เข้ากันไม่ได้

ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คนนั้นก็มีวิธีฆ่าศัตรูทั้งในสนามรบและในราชสำนัก เขาทั้งรอบคอบและเด็ดขาดในการฆ่า

เมื่อเทียบกับหมิงอ๋องก็มีแนวโน้มที่จะเหนือกว่าหมิงอ๋องเล็กน้อย

ไม่มีใครรู้เรื่องภายในราชสำนักในอนาคต

ในเกมนี้ทุกคนกำลังพิจารณาความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองและเดิมพันด้วยทรัพย์สมบัติและชีวิต ทุกคนต่างหมายปองที่จะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดในอนาคต

จะเจริญรุ่งเรืองและร่ำรวย หรือว่าจะศีรษะขาด

มีเพียงสองทาง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องอ่านเกมและชั่งน้ำหนักอย่างระมัดระวัง

เมื่อได้ยินว่าฟางเจิ้งสิงหวาดกลัวผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หมิงอ๋องก็เย้ยหยัน “ไม่สำคัญว่าเขาจะลึกลับแค่ไหน อาจเป็นเพียงฮ่องเต้น้อยองค์นั้นที่แสดงให้พวกเจ้าเกรงกลัว แต่ข้าผู้นี้ไม่เกรงกลัวหากเขาจะเล่นเล่ห์เพทุบาย”

“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะทำอย่างไรต่อไป?” ฟางเจิ้งสิงตัดสินใจ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องได้ตัวหวงหรูซื่อผู้นี้มาอย่างแน่นอน

หากมีเจ้าหน้าที่ระดับสองเพิ่มมา พลังของฝ่ายท่านอ๋องก็จะเพิ่มขึ้นอีก

“ในช่วงวันนี้ หากเจ้าไม่มีอะไรทำก็ให้ไปคุยกับหวงเจี่ยนให้มากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ ข้าจะให้คำพูดดี ๆ แก่หวงเจี่ยนเรื่องลูกสาวของเขา การให้ลูกสาวได้แต่งงานกับขุนนางระดับสูงเป็นสิ่งที่หวงเจี่ยนปรารถนา”

ในครอบครัวของหวงเจี่ยนมีลูกสาวหลายคน ฮูหยินหวงเพียงคนเดียวก็ให้กำเนิดลูกสาวสามหรือสี่คนแล้ว และหวงหรูซื่อก็เป็นเพียงหนึ่งในนั้น

ลูกสาวคนโตแต่งงานแล้ว และคนที่นางแต่งงานด้วยเป็นเพียงขุนนางระดับสาม หวงเจี่ยนเป็นขุนนางระดับสองจึงรู้สึกไม่สบายใจหลังจากที่ลูกสาวแต่งงานแบบนี้

ตอนนี้ฮ่องเต้น้อยมีอายุเพียงสิบสี่ปีและเขายังไม่ถึงวัยที่จะรับนางสนมได้ ในวังจึงมีเพียงฮองเฮาหนึ่งคนและกุ้ยเฟยสองคนเท่านั้น ไทเฮาเข้มงวดมากและบอกว่า เมื่อฮ่องเต้ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ก็อย่าไปคิดถึงเรื่องผู้หญิงมากนัก

ดังนั้นหากต้องรอให้ฮ่องเต้น้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อยสี่ปี หลังจากสี่ปี หวงหรูซื่อจะอยู่ในวัยยี่สิบ ซึ่งนางจะอายุมากเกินไปและไม่สามารถเข้าสู่พระราชวังได้ หากต้องการแต่งงานกับครอบครัวที่ดี ตระกูลฟางอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท