บทที่ 1514 ความลับแม่ลูก
หมิงตูจวิ้นจู่มักจะแสดงออกว่าชอบซูจือเยว่ต่อหน้าซูเฉี่ยนเยว่ และบางครั้งก็บอกซูเฉี่ยนเยว่ว่านางชื่นชมพี่ชายของซูเฉี่ยนเยว่มาก ซูเฉี่ยนเยว่จึงรู้สึกประทับใจมาก
ซูเฉี่ยนเยว่ชื่นชมผู้หญิงที่กระตือรือร้นและแสวงหาความรัก แต่แล้วท่านพี่ของนางล่ะ?
ท่านพี่มักจะซ่อนตัวหลบหน้าท่านจวิ้นจู่
แต่นั่นคือท่านจวิ้นจู่นะ
ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าถ้าเขาไม่ตอบรับต่อความรู้สึกของท่านจวิ้นจู่ ถ้าเขาทำให้ท่านหมิงตูจวิ้นจู่ขุ่นเคืองล่ะก็…
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูเฉี่ยนเยว่ก็พูดขึ้นก่อน “ท่านแม่ โปรดเกลี้ยกล่อมท่านพี่ด้วย ท่านพี่หมิ่นให้ความสำคัญและรักท่านพี่มาก ท่านพี่หมิ่นยังงดงามและสูงส่ง นี่คือพรของตระกูลซูของเรา”
“หุบปาก แล้วอย่าได้พูดอะไรอีก” ก่อนที่ซูเฉี่ยนเยว่จะพูดจบ ซูจือเยว่ก็ขัดจังหวะนางด้วยความหงุดหงิด และพูดกับฮูหยินซูว่า “ท่านแม่ ข้ารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”
เมื่อฮูหยินซูเห็นว่าพี่น้องเริ่มโต้เถียงกัน โดยรู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้มันจะยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ “ได้ หากเจ้าเหนื่อยก็ไปพักเถอะ ช่วงนี้เจ้าเหนื่อยมามาก ไปพักผ่อนให้เพียงพอ คืนนี้ท่านพ่อของเจ้าจะกลับมา เรามาทานอาหารเย็นอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันเถอะ”
ซูจือเยว่ตอบรับและไม่สนใจซูเฉี่ยนเยว่อีก เขาหันหลังและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ฝีเท้าของเขาค่อนข้างหนัก ทุกย่างก้าวที่เขาก้าวไปนั้นเต็มไปด้วยแรงกระแทกกระทั้น เขาเดินไวมากราวกับมีสัตว์ประหลาดไล่ตามเขาอยู่ข้างหลัง
เมื่อเห็นซูจือเยว่เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ฮูหยินซูก็ถอนหายใจและพยักหน้าให้ซูเฉี่ยนเยว่ที่เป็นเหมือนประทัดที่จุดไฟในขณะนั้นและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าก็รู้ว่าพี่ของเจ้าหน้าบาง จะพูดเรื่องแบบนี้ในที่สาธารณะได้อย่างไร”
“ท่านแม่ ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับท่าน พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ” ซูเฉี่ยนเยว่จูงมือฮูหยินซูเดินไปที่สวนหลังบ้าน เมื่อเห็นว่าลูกสาวมีท่าทีจริงจัง ฮูหยินซูก็ไม่ได้ถามอะไรและเดินตามหลังซูเฉี่ยนเยว่ไป
“ท่านแม่ ท่านพี่หมิ่นพูดอะไรกับข้ารู้หรือเปล่า ท่านอยากรู้ไหม” หลังจากถอยห่างจากฝูงชนและเข้าไปในห้อง ซูเฉี่ยนเยว่สูญเสียความอ่อนโยนไปในทันทีและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าหนักใจ ฮูหยินซูตกใจมาก “เกิดอะไรขึ้น ท่านหมิงตูจวิ้นจู่พูดอะไร”
“ท่านแม่ ท่านพี่หมิ่นชอบท่านพี่ นางบอกว่านางรักท่านพี่ ในชีวิตนี้นางจะชอบท่านพี่คนเดียวและไม่ต้องการแต่งงานกับใครอื่น” ซูเฉี่ยนเยว่พูดตามคำพูดของท่านหมิงตูจวิ้นจู่
เมื่อนึกถึงความแน่วแน่ในดวงตาของซูหมิ่นเมื่อเอ่ยคำเหล่านี้ เช่นเดียวกับความโหดร้ายในดวงตาของนาง ซูเฉี่ยนเยว่ก็รู้สึกตกใจและเป็นกังวล
“ท่านแม่ ท่านพี่หมิ่นชอบท่านพี่และคนทั้งเมืองหลวงก็เห็น แต่ท่านก็เคยเห็นท่าทีของท่านพี่ที่มีต่อท่านพี่หมิ่น ท่านพี่ของข้าปฏิบัติต่อท่านพี่หมิ่นอย่างเฉยเมยและไม่สนใจ ตอนนี้ท่านพี่หมิ่นไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าวันหนึ่งท่านพี่หมิ่นรู้สึกว่าท่านพี่ไม่สนใจนาง นางจะทำอย่างไร นางไม่สนใจชื่อเสียงและประกาศตัวว่าชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างเปิดเผย แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ชอบนาง ในอนาคตถ้าท่านพี่หมิ่นไม่ชอบใจแล้วเกลียดท่านพี่ขึ้นมาล่ะจะทำอย่างไร?” ซูเฉี่ยนเยว่กล่าว
คำพูดเหล่านี้ทำให้ฮูหยินซูประหลาดใจเช่นกัน
ถูกต้องแล้ว หมิงตูจวิ้นจู่ผู้เอาแต่ใจเป็นที่รู้จักของทุกคนในเมืองหลวง และตราบใดที่เป็นสิ่งที่นางชอบ นางก็ต้องได้มันมาเสมอ
เมื่อรู้ว่าหัวใจของหมิงตูจวิ้นจู่ตกหลุมรักซูจือเยว่ ฮูหยินซูก็มีความสุขมากและรู้สึกว่าเป็นพรจากชาติก่อนของตระกูลซูที่จะได้รับการสนับสนุนจากท่านจวิ้นจู่
ไม่ว่าจะไปที่ไหน บรรดาขุนนางระดับสูงต่างก็เข้ามาประจบสอพลอและชมเชยตัวเอง การเยินยอแบบนี้เพราะพวกเขาคิดว่าสักวันหนึ่งหมิงตูจวิ้นจู่จะกลายเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา
ฮูหยินซูยังคงคิดว่าไม่เป็นอะไร แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ซูเฉี่ยนเยว่พูดในวันนี้ ฮูหยินซูก็ตระหนักได้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้
หมิงตูจวิ้นจู่สนใจและชอบซูจือเยว่มาก แต่ถ้าซูจือเยว่ไม่ตอบสนองล่ะ?
หากหมิงตูจวิ้นจู่รู้สึกว่าตนมอบหัวใจให้ผิดคนและไม่มีวันได้รับการตอบสนอง เช่นนั้นนางจะทำอย่างไร?
นางได้ประกาศไปทั้งเมืองหลวงแล้วว่านางชอบซูจือเยว่ ถ้าซูจือเยว่ไม่ชอบนาง นางจะรู้สึกว่าเสียหน้า นางจะทำอย่างไร?
ด้วยนิสัยที่เย่อหยิ่งของท่านหมิงตูจวิ้นจู่
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ฮูหยินซูก็เหงื่อตก “เฉี่ยนเยว่ ท่านพี่ของเจ้าไม่ชอบท่านหมิงตูจวิ้นจู่จริงหรือ”
“ท่านแม่ ท่านพี่หมิ่นร้องห่มร้องไห้กับข้าเมื่อครั้งที่แล้ว บอกว่าท่านพี่เย็นชาใส่นางตลอด นางชวนเขาไปเที่ยวเล่น แต่เขาปฏิเสธด้วยท่าทางเย็นชา ท่านพี่หมิ่นจึงรู้สึกน้อยใจ นางจึงเล่าให้ข้าฟังและขอร้องข้าให้ไปเกลี้ยกล่อมท่านพี่มากกว่านี้ ท่านแม่เห็นไหมว่าข้าเกลี้ยกล่อมท่านพี่หลายครั้งแล้ว แต่เขาไม่ฟังเลย เมื่อครู่เขาก็โกรธข้า” ซูเฉี่ยนเยว่ก็โกรธเช่นกัน นางนึกถึงท่านพี่ของนางสุดหัวใจ แต่เขากลับไม่เห็นคุณค่าของนางเลย
ถ้าเป็นผู้หญิงธรรมดาก็ไม่เป็นไร ถ้าท่านพี่ไม่ชอบก็แค่ปฏิเสธไป แต่นี่นางเป็นถึงจวิ้นจู่
ฮ่องเต้แห่งต้าชิงยังเด็กและยังไม่ถึงวัยแต่งงาน ข้างกายจึงมีท่านจวิ้นจู่เพียงสองคนเท่านั้น บรรพบุรุษของท่านฮู้กั๋วจวิ้นจู่ได้ออกรบเคียงบ่าคียงไหล่กับราชวงศ์มานาน หากวันหนึ่งฮ่องเต้และไทเฮาไม่พอใจนาง พวกเขาอาจถอดยศของนางทิ้ง
แต่หมิงตูจวิ้นจู่แตกต่างกัน ท่านพ่อของนางคือหมิงอ๋อง เป็นท่านลุงแท้ ๆ ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน นางจึงมีสายเลือดเดียวกับฮ่องเต้
ฮูหยินซูอุทาน “พี่ของเจ้าไม่ชอบจวิ้นจู่เลยจริงหรือ”
“ถ้าเขาสนใจจวิ้นจู่ เขาจะไม่ปฏิเสธจวิ้นจู่ตลอดแบบนี้” ซูเฉี่ยนเยว่พูดด้วยความโกรธ “ท่านแม่ ข้าทำเพื่อท่านพี่ เพื่อตระกูลซู ตอนนี้ท่านพี่หมิ่นสนใจท่านพี่ ถ้านางแต่งงานเข้าตระกูลของเรา นั่นย่อมจะส่งผลดีต่ออาชีพการงานของท่านพ่อและท่านพี่ แต่ถ้าวันหนึ่งนางไม่สามารถเอาชนะใจท่านพี่ได้ และนางรู้สึกว่าเสียเวลาไปหลายปีโดยไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ ท่านคิดว่าตามนิสัยของท่านหมิงตูจวิ้นจู่ นางจะทำอย่างไรกับท่านพี่ล่ะ อาจพูดได้ว่านางจะทำอย่างไรกับตระกูลซูของเรา”
คำพูดของซูเฉี่ยนเยว่ทำให้ฮูหยินซูผงะถอยหลัง ดวงตาของนางเบิกกว้างและนางเดินโซเซไปที่เก้าอี้