หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่122 นอนด้วยกันแล้ว

บทที่122 นอนด้วยกันแล้ว

บทที่122 นอนด้วยกันแล้ว

นี่มันได้เหรอ?

หลานเยาเยาถือมีดสนามรบตรงไปยังห้องนอนของเย่แจ๋หยิ่ง แต่หลังจากมาถึงห้องนอนเขาแล้วกลับไม่เห็นร่างของเย่แจ๋หยิ่งเลย เห็นเพียงแต่อาหารเย็นมากมายเต็มโต๊ะ

นี่ไม่ใช่อาหารที่พ่อครัวหมายเลข1ทำหรอกหรือ?

แม้จะไม่มีสัญลักษณ์อะไรแต่ตอนที่พ่อครัวหมายเลข1ทำอาหารนางได้ดูทุกขั้นตอนดังนั้นนางจึงรู้เค้าโครงอาหารแทบทุกจาน

ยกมาที่นี่ทั้งหมดจริงๆด้วย

ดูเหมือนเย่แจ๋หยิ่งจะไม่อยู่

นางจะยกอาหารไปทั้งหมดเลย?

หรือนั่งกินตรงนี้จนอิ่มแล้วค่อยไป?

ยังไงที่นี่ก็มีเหล้า ติ่มซำ ผลไม้

ดูเหมือนเหล้านั้นจะหอมมาก ติ่มซำนั้นก็งดงาม ผลไม้ก็ดูสดมากๆ

ถ้ากินสามคนสู้แบ่งกินกันสองคนจะดีกว่า

ทั้งฮัวหยู่อันและโหลวเย่วก็ตะกละทั้งคู่เป็นพวก ถ้าไม่กินจนท้องกลมก็จะไม่หยุด

ดังนั้น กินที่นี่ละกัน!

ที่จริง!

ฮัวหยู่อันกับโหลวเย่วนั้นไม่ได้ผิดอะไรเลย เดิมทีปริมาณการกินอาหารของพวกนางน้อยมาก แต่ตั้งแต่หลังจากคืนนั้นไป ความอยากอาหารก็เพิ่มๆขึ้น

ใครจะรู้ว่าตอนที่หลานเยาเยาเพิ่งนั่งลงเตรียมขยับตะเกียบนั้นหลังมือก็เจ็บขึ้นมาทันที แล้วก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งปรากฏตัวอยู่ข้างๆ

“ฮื่ม……”

“เจ้าตีข้าทำไมกัน?”

นางไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวใดๆจากการถูกตีโดยไร้เหตุผล หลานเยาเยาทำแก้มป่อง

“ก่อนกินอาหารไม่รู้จักล้างมือ ไม่ควรตีรึไง?”

นี่……

เพราะอย่างนี้เลยตีมือนาง?

เขาก็แค่เอ่ยเตือน นางก็จะไปล้างมือแล้วไหมนะ?

นี่ไม่พูดอะไรก็ตีนางเลย เป็นเพราะอยากตีนางมาตั้งนานแล้วใช่ไหมหล่ะ? เพียงแค่ยังไม่มีโอกาสก็เท่านั้น?

แต่ว่า!

คิดไปคิดมา นางลุกขึ้นไปล้างมือแล้วมากินข้าว

นางคิดออกแล้ว ที่เย่แจ๋หยิ่งสั่งให้คนนำอาหารของนางยกมาที่นี่น่าจะเป็นเพราะจะไม่ให้นางยกไป

นางไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ ยังไงก็สู้เขาไม่ไหว!

อย่างมากครั้งหน้าก็ค่อยหาพ่อครัวให้ทำอาหารอร่อยให้อีก แล้วค่อยเอากลับมาให้พวกนางกิน

อย่างไรก็ตาม!

ตอนที่นางเดินไปถึงปากประตูก็ได้ยินเสียงน่าดึงดูดดังมาจากด้านหลัง

“ในห้องมีน้ำ!”

“อ้อ!”

หลานเยาเยาหันกลับมาทันทีก็เห็นอ่างน้ำใสๆวางอยู่ตรงนั้นดูเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน

หลังจากล้างเสร็จอย่างรวดเร็วนางก็รีบมานั่งลงข้างโต๊ะ

“ข้ากินก่อนหล่ะ!”

“อื้ม!”

ที่จริงนางพูดประโยคนี้เป็นเพียงแค่การพูดตามมารยาท ไม่สนว่าเขาจะตอบรับหรือไม่นางก็จะเริ่มกินอยู่ดี

อันดับแรกสายตาของนางเริ่มเสาะหาเนื้อปลาที่นางชอบที่สุด

เอ่อ……

ปลาหล่ะ?

ทำไมในจานถึงเหลือแต่หัวปลากับหางปลาหล่ะ?

สายตานางก็เหลือบมองไปยังเย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ข้างๆก็ต้องพบว่าเนื้อปลาตัวอวบอ้วนไปอยู่ในจานเขาหมด

เป็นไปไม่ได้ เขาก็ชอบกินปลาเหรอ?!

ช่างเถอะ!

ยังไงนางก็ไม่ใช่พวกถ้าไม่มีปลาแล้วจะไม่กินข้าวซะหน่อย นางจึงไปคีบอาหารเลิศรสอย่างอื่น

กินไปกินไปจู่ๆหน้าของนางก็มีจานนึงเกินมา ในจานนั้นเป็นเนื้อปลาทั้งหมดแต่ก็ยังคงจ้องจับผิด

ดวงตาของนางเป็นประกายแล้วก็จางลงทันที มองไปยังเย่แจ๋หยิ่งอย่างระแวดระวัง: “เจ้ามีจุดประสงค์อะไร?”

ใครจะรู้……

ทันทีที่นางพูดจบ

มือเรียวยาวของเย่แจ๋หยิ่งก็ยื่นมาจะเอาเนื้อปลาจานนั้นไป หลานเยาเยายื่นมือมาจับจานนั้นไว้แล้วหัวเราะแหะๆให้เขา

“ท่านอ๋อง วันนี้เจ้าหล่อมาก ดูมีรสนิยมมากๆ หน้าตาดีสุดๆ ไปที่ไหนใครๆก็รักก็ต้อนรับ……”

“……”อีกแล้ว

หลานเยาเยาพูดไปแล้วก็พลางใช้แรงดึงจานนั้นกลับมา เมื่อเห็นว่าเขาไม่ปล่อยมือ นางก็รีบพูดชื่นชมอีก

สุดท้าย!

จากการพูดจาหว่านล้อม เนื้อปลาจานนั้นก็อยู่ตรงหน้านางอย่างราบรื่น ไม่รู้ว่าเพราะด้วยเหตุใดนางจึงรู้สึกว่าเนื้อปลาวันนี้พอกินเข้าไปแล้วไม่ค่อยจะเหมือนเดิม

แต่ว่า!

หลานเยาเยารู้สึกว่า ทำไมเย่แจ๋หยิ่งถึงปรารถนาดีให้นางเลาะก้างปลาให้นางต้องเป็นเพราะทำอะไรผิดแน่

ถึงอย่างไรทั้งโต๊ะนี้นางก็เป็นคนเอากลับมา

ดังนั้นพวกเหล้าติ่มซำอะไรพวกนั้นนางจึงกินอย่างเบิกบานใจ

หลังจากกินดื่มจนอิ่มแปล้ หลานเยาเยาก็หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาแกว่งอยู่ตรงหน้าเย่แจ๋หยิ่ง:

“มามามา หมดแก้ว!”

พูดจบ อีกแก้วก็ลงท้องไป

จนไม่รู้ว่าแก้วที่เท่าไหร่แล้วโดยรวมแค่รู้สึกว่ามึนๆงงๆ

ประมาณได้ว่าดื่มเยอะแล้ว!

จากนั้นนางก็รู้สึกถึงหนังตาที่หนักมากจนหลับฟุบไปกับโต๊ะอย่างไม่ทันรู้ตัว

เช้าวันรุ่งขึ้น ในช่วงกำลังสะลึมสะลือนางได้ยินเสียงนก “จ๊อกๆแจ๊กๆ” จนต้องขมวดคิ้วขึ้น

มันหนวกหู!

นอกหน้าตากมีนกอยู่กลุ่มนึงร้องกันอย่างร่าเริง แค่พวกมันบินไปเกาะกิ่งไม้แล้วร้องก็ถูกสายตาพิฆาตจากในห้องทำให้ตกใจหนีไป

เมื่อไม่มีเสียงพวกนกเอะอะแล้ว

คิ้วที่ขมวดเบาๆของหลานเยาเยาก็ค่อยๆคลายลง หลังจากนั้นก็หลับลึก ฝันหวานต่อไป……

จนกระทั่งตอนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

ตะวันก็โด่งขึ้นฟ้าแล้ว!

หลานเยาเยาพลิกตัวค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ

ทันทีที่ลืมตาก็เห็นแล้ว เห็นดวงตาคู่สวยอยู่ใกล้มากๆจนทำให้หลานเยาเยาสะดุ้งโหยง: “โหลวเย่ว เจ้าทำอะไรเนี่ย? วิ่งออกมาแต่เช้าทำคนตกใจ”

ใครจะรู้……

โหลวเย่วยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วจ้องนางอย่างสงสัย จนเห็นหลานเยาเยารู้สึกไม่สบายตัว ก็ไม่ได้พูดอะไร

“เจ้ามองข้าอย่างงี้ในใจข้าก็กลัวนะ”

หรือหลังจากที่นางเมาแล้วหลับไปเกิดอะไรขึ้น?

นางจึงรีบมองไปรอบๆก็พบว่าตนเองนอนอยู่ที่ลานซวนซีไม่ได้นอนอยู่ที่ห้องนอนของเย่แจ๋หยิ่ง ก็อดสงสัยไม่ได้

“ไม่ต้องกลัวๆ เป็นเรื่องดี ยินดีกับเจ้าด้วยเยาเยาในที่สุดเจ้าก็ได้เข้าห้องหอกับเสด็จอาแล้ว!”

เอ่อ……

นี่อะไรกับอะไรนะ?

ยังเข้าห้องหออีก! โหลวเย่วบ้าอะไรแต่เช้า?

ไม่สิ!

โหลวเย่วไม่สามารถพูดว่าเข้าห้องหอออกมาอย่างไม่มีเหตุผล เมื่อวานหลังจากนางกินเหล้าเมาจนหลับไปแล้วต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน

“มีอะไรหรอ? เมื่อวานข้าเมาแล้วหลับไปจำอะไรไม่ได้สักอย่าง เจ้าบอกข้าได้ไหม?”

ใครจะรู้……

ทันทีที่นางพูดจบโหลวเย่วก็จ้องนางราวกับเห็นผี

“เป็นไปไม่ได้! เรื่องพรรคนี้เจ้าจำอะไรไม่ได้จริงๆ? หรือร่างกายเจ้าไร้ความรู้สึก? พูดตามเหตุผล การมีอะไรกันครั้งแรกมันจะต้องเจ็บมากๆ เจ้ารู้สึกว่าตนเองปวดบ้างไหม?”

โหลวเย่วสงสัย

หรือหนังสือก่อนๆนั้นมันหลอกลวง?

“ปวดสิ! หัวก็ปวด เจ้ารีบพูดเร็วว่าเกิดอะไร?”

นางกลัวมากจนรีบไปดูระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บว่าเลื่อนขึ้นหรือยังก็ต้องพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ชิ!

นี่ครั้งแรกเลยนะ!

คาดว่าแม้แต่จูบก็ไม่จูบ

“เมื่อคืนเสด็จอาอุ้มเจ้ากลับมาจากห้องนอนของเขา เจ้าก็โอบเขาไว้แน่นแยกมือยังไงก็แยกไม่ออกแถมยังดึงเสื้อเขาออกไปครึ่ง

หลังจากนั้นพวกเจ้าก็หลับไปบนเตียง เจ้ายังบอกอีกว่าเจ็บให้เสด็จอาเบาๆหน่อย ถึงยังไงหลังจากนั้นก็เป็นคำพูดกระมิดกระเมี้ยน ข้าก็อายที่จะฟัง”

ที่จริงไม่ใช่เพราะนางอายที่จะฟัง

แต่เพราะถูกเสด็จอาไล่ไป!

เมื่อฟังนางพูดจบ หลานเยาเยาก็งับปาก เมื่อวานเย็นนางฝันว่าตนเองแทะขาหมูตุ๋น ในฝันยังมีอาหารเลิศรสกองใหญ่ดังนั้นนางจึงแทะไม่หยุด

ไม่ใช่ว่านางกอดเย่แจ๋หยิ่งแล้วแทะอยู่ตลอดนะ?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท