หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่124 หนทางการไล่ตามเมียยังอีกยาวนาน

บทที่124 หนทางการไล่ตามเมียยังอีกยาวนาน

บทที่124 หนทางการไล่ตามเมียยังอีกยาวนาน

“เจ็บไหม?” เขาดูเหมือนถามอย่างห่วงใย

“ไม่เจ็บได้รึ? เลือดออกแบบนี้” หลานเยาเยากัดฟันตอบ

นางเช็ดๆรอยเลือดบนไหล่แต่พอเช็ดสะอาดเลือดก็ซึมออกมาอีกก็ยิ่งขุ่นเคือง

แม้เมื่อคืนวานนางจะทิ้งรอยจูบไว้ทั่วตัวเขาแต่นั่นก็แค่ดูดนะนางไม่ได้กัด

น่าโมโหจริงๆ!

ใครจะรู้……

คำพูดต่อไปของเย่แจ๋หยิ่งจะทำให้นางตะลึง

“เจ็บก็ถูกแล้ว!”

“……”หมายความว่าอะไรหล่ะ?

“เจ้ายั่วยุข้าก่อน” เขาพูดท่าทางนิ่งๆหลังจากนั้นก็เหลือบมองไหล่นางอย่างไม่ใส่ใจ บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ถ้ากล้ายั่วยุข้าอีกข้ากับเจ้าได้ตายกันไปข้าง!”

ไม่หรอกมั้ง!

รุนแรงขนาดนั้นเลย?

ดูท่าทางเย่แจ๋หยิ่งแล้วไม่ดูเหมือนล้อเล่น หลานเยาเยาก็รู้สึกสงสัย

คนนี้ช่างผูกพยาบาทเสียจริง

งั้นหลังจากนี้ไม่ดื่มเหล้ากับเขาก็พอ ถ้าอยากดื่มก็ไปดื่มกับคนอื่นเพื่อป้องกันทั้งไม่ให้เกิดการดื่มแล้วซี้ซั้วทำนู่นนี่และทั้งการไปยั่วยุเขา

“วางใจเถอะ! หลังจากนี้ข้าจะไม่ยั่วยุเจ้าอีก ใครยั่วยุคนนั้นเป็นหมา”

“……หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น!”

เมื่อเห็นความไม่เชื่อในสายตาของเย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาก็กลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ

ไม่ยั่วยุสิแปลก

ระบบของนางยังคงรอการเลื่อนขั้นอยู่นะ!

เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ งั้นนางก็จะมาเงียบๆ จะให้เขาคิดว่าไม่ใช่นางที่เป็นคนยั่วยุก่อน แบบนั้นเขาก็จะไม่พูดอะไรแล้ว!

“สามีชายชาตรี ข้าไม่ผิดคำพูดเจ้าไม่ต้องกังวลไป”

นางพูดอย่างงี้ ความผิดชอบชั่วดีนางไม่รู้สึกเจ็บปวดสักนิด

ถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่ชายชาตรีแต่เป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กๆก็เท่านั้น!

“เฮอะ!”

เย่แจ๋หยิ่งส่งเสียงฮึดฮัดเดินหมุนตัวไปทางโต๊ะ

หลานเยาเยาเหมือนกับคิดอะไรได้รีบเดินไปข้างหน้า แต่คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เย่แจ๋หยิ่งสวมเสื้อคลุมซ้ำยังลากพื้นอีกด้วย

นางเดินไปก้าวเดียวก็เหยียบไปบนเสื้อคลุมแล้ว หลังจากนั้นเสื้อคลุมก็ดูเหมือนอ่อนแรงมากถูกเหยียบหล่นไป

เหยียบหลุดไปก็ไม่มีอะไร

บางทีอาจเพราะเสื้อคลุมมันเรียบเนียนไป จนเท้าของนางลื่นถลาไปข้างหน้า

จากนั้นก็เคอะๆเขินๆ……

นางถลาไปจนถึงหลังของเย่แจ๋หยิ่ง ด้วยสัญชาตญาณนางก็จับเสื้อของเขาไว้

เย่แจ๋หยิ่งเดิมทีก็เปิดเสื้อคลุมไว้เพื่อให้นางดูรอยจูบบนร่างกายดังนั้นเสื้อคลุมก็ยังคงเปิดอยู่ หลังจากที่ถูกนางคว้า นางล้มลงก็ยังไม่เป็นอะไร แต่ยังลากเสื้อคลุมของเขาลงไปด้วยอีกพอดี……

“……”

“……”

นางไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!

ฮื่อฮื่อฮื่อ……

ทั้งหมดมันเป็นเหตุสุดวิสัยนะ

“หลานเยาเยา ยังไม่ทันได้ออกประตูไปเลย เจ้าร้อนใจไปหน่อยไหม?”

ดีมาก!

เขาเพิ่งพูดจบไปไม่นานก็เกิดเหตุสุดวิสัยแล้ว ดูท่าแล้วแม้แต่เทวดาฟ้าดินก็ล้วนจะช่วยพวกเขา

พูดว่าตายกันไปข้าง งั้นก็ตายกันไปข้างหล่ะ!

ชีวิตนี้……ข้าชดใช้ไหว

หลานเยาเยาอยากจะร้องก็ร้องไม่ออกแต่ก็แก้ตัวไม่ขึ้น เรื่องมันบังเอิญขนาดนี้ นางจะยังพูดอะไรได้?

ที่นางร้อนใจขนาดนั้นเมื่อครู่นี้ก็แค่อยากพูดว่า: “เจ้าส่งองครักษ์ไปส่งข้าที่จวนแม่ทัพนะ!”

นางต้องการวางมาดใหญ่ แล้วการกระทำก็ใหญ่หน่อย

ไม่ใช่เพื่อจิตใจที่ทะเยอทะยาน แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนนาง

“แล้วข้าจะส่งเจ้ากลับไปอย่างไร?”

ได้ยินดังนั้น!

นัยน์ตาหลานเยาเยาก็ประกายทันที

ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าคำพูดแบบนี้แล้ว แผนของนางก็จะยิ่งสมบูรณ์มากขึ้น แต่เย่แจ๋หยิ่งจะไปส่งนางอย่างไม่มีเหตุมีผลได้อย่างไร?

ต้องมีเล่ห์เหลี่ยม

ดังนั้นนางจึงปฏิเสธสีหน้าเรียบๆ

“ไม่ต้องแล้ว เจ้าสั่งให้องครักษ์ไปส่งข้าก็พอ”

“เมื่อวานข้าเพิ่งได้รับบัตรเชิญของจวนแม่ทัพพอดี ไม่ต้องคิดมาก ข้าไปจวนแม่ทัพเพื่อไปเยี่ยมคนคนหนึ่งแล้วก็รวดส่งเจ้า”

คนอื่นก็ล้วนพูดแบบนี้

แน่นอนว่าหลานเยาเยาหวังอยากจะให้ไปส่งจึงฮึดฮัดอย่างหงุดหงิดกลับไปลานซวนซี

ในห้องหนังสือ

เย่แจ๋หยิ่งกำลังจัดเสื้อผ้าตนเองอยู่แล้วก็มีชายรูปงามเดินออกมาจากที่มืด: “ดูแล้วเจ้าจะประสบความสำเร็จไวทีเดียว”

เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่เพราะเขาช่วย หลานเยาเยาจะเหยียบเสื้อคลุมเขาหลุดง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร

“หึ! เจ้ายุ่งมากไปละ”

เย่แจ๋หยิ่งพูดเรียบๆแต่ก็ไม่ได้ตำหนิเขา

“พวกเจ้าไม่ใช่เคยเจอกันแล้วหรือ? ทำไมต้องไปดูนางที่จวนแม่ทัพด้วย?” โม่เหลียงเฉินไม่เข้าใจอย่างมาก

“ข้าก็มีเจตนาของข้า!”

บางเรื่องแม้จะเกินมานานมากแต่ตอนนี้ก็อาจถึงเวลาแก้ไขแล้ว

ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทน ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก ข้าจะแนะนำเจ้าสักหน่อยว่า สิ่งเดียวบนโลกนี้ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ก็คือใจของผู้หญิง ถ้าให้นางเห็นว่าเจ้าเดินใกล้กับหญิงอื่น สาวงามที่มาจ่อยู่ตรงปากเจ้าแล้วอาจจะหายไปก็ได้”

ภายนอกของหลานเยาเยาดูแล้วไร้เดียงสาไม่มีอะไร

แต่กลับเป็นผู้หญิงที่มีเล่ห์เหลี่ยมมาก ผู้หญิงแบบนี้จะไม่แสดงจิตใจที่แท้จริงของตนเองออกมาง่ายๆ

ข้อนี้เขารู้ เย่แจ๋หยิ่งรู้ดีกว่าเขานัก

“ข้าเองก็รู้ขีดจำกัด!”

โม่เหลียงเฉินเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของเย่แจ๋หยิ่งก็อดหัวเราะไม่ได้

ในความเข้าใจของเย่แจ๋หยิ่ง ชีวิตมีทุกที่ในสนามรบ เขาคงมองหลานเยาเยาเป็นเมืองที่ต้องการจะยึด

แต่เขาลืมไป!

เมืองมันตายแต่คนนั้นมีชีวิต

เห้อ!

เขาคาดการณ์ว่าหนทางการไล่ตามเมียของเย่แจ๋หยิ่งยังอีกยาวนาน

……

ที่ปากประตูวัง

หลานเยาเยาเข้าไปนั่งรอในรถม้าของเย่แจ๋หยิ่งนานแล้ว รอจนหลังจากเย่แจ๋หยิ่งขึ้นรถม้าแล้ว รถม้าถึงออกตัว

หลานเยาเยาเหลือบมองเย่แจ๋หยิ่งที่นั่งอยู่ตรงข้าม เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วแต่ยังคงใส่เสื้อคลุมอยู่

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงถนนที่มีคนเดินขวักไขว่พลุกพล่าน

ประชาชนเมื่อพอเห็นว่าเป็นรถม้าของเย่แจ๋หยิ่ง ก็ทยอยกันเปิดทางให้พร้อมกับปากที่ต่างพากันพูดคุย

“ในที่สุดอ๋องเย่ก็ปล่อยพระชายาเย่กลับบ้านได้ หาได้ยากจริงๆ”

“พระชายาเย่ต้องโชคดีมากจริงๆ หลังจากสมรสกับอ๋องเย่แล้วก็ไม่เพียงแต่จะได้รับความรักจากอ๋องเย่แต่ก็ยังกลายเป็นสาวงามจนล่มเมืองอีก”

“นั่นสิ! น่าอิจฉาเสียจริง ข้าเองก็อยากจะแต่งงานกับผู้ชายแบบนั้นบ้าง”

“……”

เอ่อ……

พวกเขาเพิ่งไปได้แค่ครึ่งทางเองนะ ประชาชนก็พากันพูดคุยกันแล้ว

แม้นี่จะเป็นผลลัพธ์ที่นางต้องการ แต่ผลลัพธ์ก็ดีไปหน่อยนะ!

ดังนั้นนางอดไม่ได้ที่จะมองเย่แจ๋หยิ่งอีกครั้ง

คาดว่าน่าจะเป็นคนนี้ที่แอบประกาศให้คนรู้ทั่วอย่างลับๆ!

จนกระทั่งถึงจวนแม่ทัพ

หลานเฉินมู๋กับจ้าวซื่อที่เพิ่งมีตำแหน่งสูงขึ้นแล้วก็ยังมีหลานจิ่นเอ๋อรออยู่ที่ประตูใหญ่นานแล้ว จากท่าทางแล้วดูเหมือนจะต้อนรับการมาถึงของพวกเขามากๆ

พอพวกเขาลงรถม้า

หลานจิ่นเอ๋อก็พาทุกคนคำนับ: “คารวะอ๋องเย่ พระชายาเย่”

เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่โบกๆมือสั่งให้ทุกคนลุกขึ้น

หลังจากนั้นพวกเขาก็ถูกเชิญเข้าไปในตำหนัก ในห้องโถงหลานจิ่นเอ๋อลงมือยกน้ำชาให้พวกเขาด้วยตนเอง นางเดินมาข้างหลานเยาเยาแล้วส่งถ้วยชาให้นางถ้วยนึง

“พระชายาเย่เชิญดื่มชา!”

หลานเยาเยามองนางโดยไม่พูดอะไรเพียงแค่พยักๆหน้ารับน้ำชามา

จนกระทั่งตอนหลานจิ่นเอ๋อยกน้ำชาให้เย่แจ๋หยิ่ง หลานเยาเยาก็ได้พบเรื่องใหม่ๆ

ความเร็วการส่งน้ำชาให้เย่แจ๋หยิ่งของหลานจิ่นเอ๋อนั้นช้ากว่ามากๆ อีกทั้งแก้มทั้งสองข้างก็แดงเหมือนกับเขินอาย

นางรู้สึกว่าด้วยนิสัยที่แปลกประหลาดของเย่แจ๋หยิ่งที่ไม่ยอมให้ผู้หญิงเข้าใกล้เขาเกินกว่าสามก้าวนั้น คาดได้ว่าแม้เขาจะไม่ระเบิดอารมณ์ออกมาแต่ก็ต้องเย็นชาขึ้นทันทีแน่

แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือเย่แจ๋หยิ่งไม่แสดงท่าทางอะไรเพียงแค่รับน้ำชามานิ่งๆ……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท