บทที่ 1053 ชีวิตสำคัญกว่าศักดิ์ศรี บ่าวจั่ว!
จั่วเหยียนลุกขึ้นจากโต๊ะ ยกมือเรียกทวนออกมาพุ่งแทงไปยังหลี่จิ่วเต้า
เขาต้องการต่อสู้เพื่อหาหนทางรอด!
“เฮ้อ ไม่แปลกใจเลยที่โลกผู้ฝึกตนเต็มไปด้วยความวุ่นวายมากมาย ขอบเขตด้านจิตใจมีเพียงเท่านี้ หากไม่เกิดความวุ่นวายก็แปลกแล้ว!”
หลี่จิ่วเตาส่ายหัว ถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา
เมื่อเผชิญหน้ากับการมุ่งสังหารของจั่วเหยียน เขาราวกับไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
เหตุใดต้องใส่ใจด้วย บนร่างของเขาเต็มไปด้วยสมบัติ แม้จั่วเหยียนจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่อาจทำสิ่งใดกับเขาได้
ดูถูกเขามากเพียงนี้?
จั่วเหยียนเห็นท่าทีไม่แยแสของหลี่จิ่วเต้า ในใจก็พลันเกิดโทสะมากกว่าเดิม
ใช่ เขายอมรับว่าหลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่งกว่าเขา แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ ไม่ใช่ใครที่ไหน เหตุใดถึงจะทนกับการดูถูกเช่นนี้ได้!
ยามนี้เขาตัดสินใจว่าต่อให้ต้องตาย เขาก็ต้องทำให้หลี่จิ่วเต้าบาดเจ็บหนัก เพื่อชดใช้ที่หลี่จิ่วเต้าดูถูกเขา!
ชั่วพริบตานั้น จั่วเหยียนไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว ระเบิดพลังในร่างกายออกมาอย่างบ้าคลั่ง กระทั่งผลาญแก่นกำเนิดชีวิตของตนเอง!
เขากระจ่างแจ้งเป็นอย่างดี หากไม่ทำเช่นนี้ เขาก็ไม่อาจต่อกรกับหลี่จิ่วเต้าได้ กระทั่งคุณสมบัติจะต่อกรด้วยยังไม่มีเสียด้วยซ้ำ!
‘คนผู้นี้ไม่เพียงตัดหนทางให้แคบลง ถึงขั้นตัดหนทางรอดตนเองจนไม่เหลือ!’
ต้าเต๋อกล่าวในใจ
ตั้งแต่พริบตาที่จั่วเหยียนลงมือกับคุณชาย ชะตากรรมของเขาก็ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่มีทางที่จะจบลงด้วยดีอย่างแน่นอน!
คุณชายไม่ใช่คนที่ใครคิดลงมือตามใจชอบได้!
ชิ้ง!
ขณะที่ทวนจะแทงลงบนร่างของหลี่จิ่วเตา ร่างของหลี่จิ่วเต้าพลันเปล่งแสงกระบี่ออกมานับไม่ถ้วน เปี่ยมด้วยเจตจำนงกระบี่สูงสุดพวยพุ่ง กระบี่ฉุนจวินถูกชายหนุ่มเรียกออกมา!
จากนั้นทวนของจั่วเหยียนก็ถูกกระบี่ฉุนจวินสกัดไว้!
เคร้ง!
ตามด้วยเสียงแตกหัก ทวนในมือจั่วเหยียนพังทลายกลายเป็นชิ้น ๆ ทันที!
อันใดกัน!
จั่วเหยียนมองฉากนี้ด้วยดวงตาที่แทบถลนออกมาจากเบ้า!
ตั้งแต่ที่หลี่จิ่วเต้าเล่นหมากล้อมด้วย เขาก็รับรู้ว่าหลี่จิ่วเต้าน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก อาจแข็งแกร่งกว่าเขาตอนอยู่ในจุดสูงสุดเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ
ทว่าเขายังตัดสินใจลงมือกับหลี่จิ่วเตา เพราะคิดว่ายังมีโอกาสอยู่ริบหรี่!
อีกเหตุผลที่ทำให้เขากล้าลงมือกับหลี่จิ่วเต้า นั่นก็เพราะทวนในมือของเขา!
ทวนนี้เป็นศาสตราวิเศษประจำกาย ต่อสู้ร่วมกันมานานหลายปี หลังจากเขาตายลง เหล่าผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ก็ฝังทวนนี้ลงไปในโลงของเขาด้วย
ความพิเศษเหนือชั้นของดินแดนเก่าทำให้เขาฟื้นคืนชีพจากความตาย ส่วนทวนเล่มนี้ก็ได้รับผลประโยชน์มหาศาลเช่นเดียวกัน อยู่ในดินแดนเก่ามานานจนไม่อาจนับปี ผ่านการหล่อหลอมและพัฒนาขึ้นหลายครั้ง
เทียบกับแต่เดิม ทวนเล่มนี้มีพลังมากกว่าหลายเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
ความจริงแล้ว หากทวนเล่มนี้วาดออกไป กระทั่งผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ก็ไม่อาจต้านทานได้โดยง่าย ถึงขั้นสามารถสังหารผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ได้เสียด้วยซ้ำ!
เนื่องจากมีทวนเล่มนี้อยู่ในมือ เขาจึงกล้าโจมตีหลี่จิ่วเต้า หวังจะหาหนทางรอดได้
หากไม่มีทวนเล่มนี้ เขาคงไม่กล้าลงมือกับหลี่จิ่วเต้า
อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็ไม่อ่อนแอไปกว่าเขาตอนอยู่จุดสูงสุด ตอนนี้เขายังห่างไกลจากการฟื้นตัวกลับมาดี เช่นนั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่จิ่วเต้าได้อย่างไร!
แม้จะผลาญแก่นกำเนิดชีวิตจนความแข็งแกร่งพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ก็ไม่มีทางต่อกรกับหลี่จิ่วเต้าได้
ทว่าผลลัพธ์ที่ออกมาเล่า?
ทวนที่เขาฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้พังทลายลงภายในพริบตาหลังปะทะกับกระบี่ฉุนจวิน!
เขาหมดสิ้นความหวังในทันที!
ก่อนหน้านี้ เขาประเมินหลี่จิ่วเต้าว่าแข็งแกร่งกว่าตนเองตอนอยู่จุดสูงสุด แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเกินไปนัก
มาตอนนี้ เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว เขาประเมินหลี่จิ่วเต้าต่ำเกินไปอย่างร้ายแรง อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาอยู่บนจุดสูงสุดหลายเท่า!
จุดนี้มองได้จากการที่กระบี่ฉุนจวินทำลายทวนของเขาได้ในเสี้ยวพริบตา!
เขาสิ้นหวัง ดวงตาสูญเสียประกาย ลมหายใจอ่อนแอลง ราวกับว่ายอมรับชะตากรรมตนเองแล้ว เก็บพลังทั้งหมดกลับไป ล้มลงกับพื้น เฝ้ารอหลี่จิ่วเต้าลงมืออย่างเงียบงัน
‘สูญเสียความคิดจะต่อสู้แล้วหรือ?’
หลี่จิ่วเต้าส่ายหัว ภายในใจเอ่ยว่าการต่อสู้เพิ่งจะเริ่มขึ้น เพียงแค่ศาสตราวิเศษในมือถูกทำลาย จั่วเหยียนก็สูญสิ้นความคิดจะต่อสู้ บนร่างเผยออกมาเพียงความสิ้นหวัง ดูท่าหัวใจเต๋าจะเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง…
หากเป็นผู้ฝึกตนที่หัวใจเต๋ามั่นคง จะต้องไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดายเช่นนี้แน่นอน
การฝึกตนหากไม่พยายามก็มีแต่จะถอยหลังไม่ใช่หรือ?
การทำทั้งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้คือความหมายที่แท้จริงของการฝึกตน พยายามอย่างต่อเนื่อง ก้าวไปด้านหน้าทีละขั้น
เพียงปะทะกันครั้งเดียวจั่วเหยียนก็หมดสิ้นความหวัง สูญสิ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ ไม่แปลกใจเลยที่จั่วเหยียนจะพาลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้จากการแพ้เกมหมากล้อม หัวใจเต๋าของจั่วเหยียนเปราะบางมากโดยแท้
หลี่จิ่วเต้ามองจั่วเหยียนแล้วคิดในใจ
เขากำลังคิดว่าควรจะจัดการกับจั่วเหยียนเช่นไร
เดิมทีเขาต้องการปล่อยจั่วเหยียนไป แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนใจ
จั่วเหยียนมีจิตใจอ่อนแอ อีกทั้งนิสัยยังไม่ดี หากปล่อยไปเช่นนี้อาจไปสังหารคนเพราะแพ้หมากล้อมได้ นี่จะต้องกลายเป็นเรื่องเลวร้ายแน่นอน ไม่รู้ว่าสิ่งมีชีวิตมากน้อยเพียงใดต้องเผชิญเคราะห์จากจั่วเหยียน
สังหารจั่วเหยียนหรือ?
ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของเขา ก่อนจะถูกปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ใช่คนชื่นชอบการสังหาร ไม่ต้องการจะฆ่าจั่วเหยียนที่ตกอยู่ในสภาพนี้
‘เช่นนั้นเก็บเขาเอาไว้ก่อน ทำให้กลายเป็นคนรับใช้ ปรับปรุงหัวใจเต๋า เปลี่ยนให้นิสัยดีขึ้น หากสุดท้ายยังไม่เปลี่ยนนิสัยก็สังหารเสีย!’
ชายหนุ่มตัดสินใจ
เขาไม่ชื่นชอบการสังหาร แต่ก็ไม่มีทางปล่อยตัวอันตรายเอาไว้ ยามต้องสังหาร เขาจะไม่แสดงความเมตตา
ในมุมมองของเขา จั่วเหยียนไม่ได้ชั่วร้ายถึงเพียงนั้น จึงคิดว่าสามารถให้โอกาสกับจั่วเหยียนสักครั้งได้
ขึ้นอยู่กับว่าจั่วเหยียนจะคว้าโอกาสครั้งนี้เอาไว้หรือไม่
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็มองไปที่จั่วเหยียนแล้วเอ่ยว่า “สังหารเจ้านับว่าหนักหนาไป เพียงเพราะแพ้หมากล้อมจึงคิดสังหารคน ข้าไม่ได้ต้องการไว้ชีวิตเจ้า แต่ทุกชีวิตมีค่า ไม่ควรสังหารคนโดยง่าย ดังนั้นข้าจึงเต็มใจให้โอกาสเจ้าอีกสักครั้ง ติดตามข้าและกลายเป็นคนรับใช้ข้า เจ้าว่าอย่างไร?”
ล้อกันเล่นหรือ?
เพราะแพ้หมากล้อมจึงคิดสังหารคน?
เมื่อจั่วเหยียนได้ยินเช่นนี้ เดิมทีที่หมดหวังแล้ว สมองว่างเปล่าไม่อาจคิดสิ่งใดได้อีก ก็พลันเกิดโทสะจนแทบกระอักเลือด
มารดามันเถิด เขายอมรับว่าทักษะหมากล้อมไม่อาจเอาชนะหลี่จิ่วเต้าได้ การต่อสู้ก็ไม่อาจเอาชนะได้ แต่การสบประมาทเช่นนี้ก็ไม่สมควรหรือไม่!
อันใดคือกล่าวว่าเพราะแพ้หมากล้อมจึงคิดสังหารคน?
สวรรค์ลงโทษเถิด ทักษะหมากล้อมเขาเลวร้ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? จิตใจของเขาก็เปราะบางถึงเพียงนั้นเลย?!
หากเป็นเพียงหมากล้อมธรรมดาทั่วไปจริง ต่อให้เขาแพ้เป็นร้อยกระดาน เขาก็ไม่มีทางอยากสังหารคนเพราะความพ่ายแพ้!
ทว่าความจริงแล้ว นั่นหาได้เป็นเพียงแค่การเล่นหมากล้อม เห็นได้ชัดว่าหลี่จิ่วเต้าใช้ข้ออ้างว่าเล่นหมากล้อมเพราะต้องการสังหารเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลือกจะต่อสู้อย่างสุดกำลังจนตัวตาย!
สุดท้ายกลับถูกหลี่จิ่วเต้าสบประมาทเช่นนี้!
มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังต้องการให้เขากลายเป็นคนรับใช้!
ความตั้งใจจะสบประมาทเขาไม่มีทางชัดเจนไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นถึงผู้ทรงอำนาจในโลกใหม่ สามารถใช้มือปิดแผ่นฟ้าโลกใหม่ได้ สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนเคารพเลื่อมใส เป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างถึงที่สุดโดยแท้จริง!
หลี่จิ่วเต้ากลับต้องการให้เขาเป็นคนใช้!
มารดาเจ้าเถิด การสบประมาทเช่นนี้ร้ายแรงเสียยิ่งกว่าการสังหารเขาโดยตรงเสียอีก!
แม้ว่าจั่วเหยียนผู้นี้จะตาย เขาก็ไม่อาจกลายเป็นคนรับใช้ได้!
จั่วเหยียนเตรียมจะผรุทสวาทออกมา เขายอมตายดีกว่ากลายเป็นคนรับใช้!
แต่หลังจากเห็นกระบี่ฉุนจวิน เขาพลัน…ขี้ขลาดขึ้นมา!
‘มีคำกล่าวว่าลูกผู้ชายยืดได้หดได้ ตายไม่สู้อยู่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตก็ยังมีความหวัง! การยอมแพ้เป็นเพียงกลยุทธ์หนึ่ง!’
เขาเอ่ยปลอบตัวเองในใจ
สุดท้ายเขาก็เอ่ยกับหลี่จิ่วเต้าด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณคุณชายที่ไม่สังหาร ข้ายินยอมเป็นคนรับใช้ของคุณชาย!”
ยอมง่ายเช่นนี้เลยหรือ?
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ หัวใจเต๋าของจั่วเหยียนผู้นี้ช่างอ่อนแอนัก ไม่มีความมั่นคงเอาเสียเลย
คนรับใช้?
อีกด้านหนึ่ง เมื่อพวกลั่วสุ่ยเห็นว่าคุณชายรับจั่วเหยียนเป็นคนใช้ สีหน้าของพวกเขาพลันแปลกประหลาด
เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนรับใช้ปรากฏออกมา!
ก่อนหน้านี้คุณชายไม่เคยมีคนรับใช้มาก่อน!
ใครก็ตามที่ถูกคุณชายเก็บเอาไว้ ทั้งหมดล้วนถูกคุณชายยอมรับ ปฏิบัติด้วยอย่างดี
เฉกเช่นพวกเขา
จั่วเหยียนเป็นข้อยกเว้นอย่างไม่ต้องสงสัย ถูกเก็บเอาไว้ แต่เป็นฐานะคนรับใช้
‘สหาย ข้าบอกแล้วว่าหนทางของเจ้าถูกตัดสินไว้แล้ว ดูเสีย เจ้าจบลงไม่สวยจริง ๆ’
ต้าเต๋อพูดในใจ
เห็นได้ชัดเป็นอย่างมาก คุณชายไม่ได้ยอมรับจั่วเหยียน แต่ก็ไม่ได้สังหารและเก็บเอาไว้ อาจเพราะจั่วเหยียนยังมีประโยชน์บางอย่างอยู่
ไม่เช่นนั้นคุณชายคงไม่เก็บจั่วเหยียนเอาไว้เป็นคนรับใช้
“จำเอาไว้ นายของเจ้าไม่ได้มีเพียงข้า พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นนาย เจ้าจะต้องเชื่อฟังและรับใช้พวกเขาให้ดี!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยเสียงเรียบกับจั่วเหยียน
เขากำลังขัดเกลาหัวใจเต๋าของจั่วเหยียน หัวใจเต๋าของจั่วเหยียนเปราะบางเกินไป ทนรับแรงกระแทกไม่ไหว เขาจึงไม่หยุดโจมตีจั่วเหยียน ปล่อยให้จั่วเหยียนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ให้เขาแข็งแกร่งขึ้นทีละน้อย
ส่วนเรื่องนิสัย เขาจะฝึกฝนจั่วเหยียนแยกออกไป หากจั่วเหยียนไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม เขาไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไปแน่
หากสุดท้ายไม่ว่าอย่างไรจั่วเหยียนก็ยังไม่อาจเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงได้ เขาก็ไม่เกี่ยงที่จะต้องสังหารจั่วเหยียน
เพราะเขาไม่อาจปล่อยตัวอันตรายทิ้งไว้ได้!
บัดซบ!
รับใช้เจ้าก็แล้วไป แต่ยังอยากให้รับใช้คนทั้งกลุ่มด้วย?
จั่วเหยียนสบถด่าสาปแช่งในใจ
ให้คนกลุ่มหนึ่งโขกสับตามใจชอบ เขาจะยอมรับสิ่งนี้ได้อย่างไร?
“เข้าใจแล้ว ข้าจะเป็นบ่าวรับใช้ของทุกท่าน!”
เขาเอ่ยอย่างโอนอ่อนผ่อนตาม
ใช่ แม้ไม่อาจยอมรับก็ต้องยอมทน!
อย่างไรก็ดีกว่าแข็งข้อแล้วตาย!
“คว้าเอาไว้ให้ดี เจ้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากทำพลาด ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้อีก และจะจัดการเจ้าอย่างแน่นอน!”
หลี่จิ่วเต้าข่มขู่
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว”
จั่วเหยียนเอ่ยด้วยรอยยิ้มประจบประแจง
“นี่ บ่าวจั่ว ไปนวดให้อสูรทั้งเก้าเสีย พวกมันต้องลากรถม้าประจำ ยากลำบากยิ่งนัก”
ต้าเต๋อกล่าวขึ้นมา สั่งการในฐานะเจ้านายของจั่วเหยียนอย่างรวดเร็ว
อันใดกัน?
นวดอสูรทั้งเก้าหรือ?!
มารดาเจ้าเถิด เขานวดไม่เป็น แต่สังหารอสูรได้ อยากลองดูหรือไม่?
จั่วเหยียนสบถด่าในใจ เมื่อใดกันที่ผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่ต้องมานวดให้สัตว์อสูร?
เขาโกรธมาก!
“ทราบแล้วนายท่าน!”
ทว่าเขาก็ยังคงตอบกลับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า รีบตรงไปนวดอสูรทั้งเก้าอย่างรวดเร็ว
อ่า ศักดิ์ศรีไฉนจะสำคัญเท่าชีวิต!
คนเราไม่อาจทิ้งกระทั่งชีวิตเพื่อศักดิ์ศรี ใช่หรือไม่!