บทที่ 1044 ดักรอ
ปี่หลิงหลงทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรงและเริ่มคร่ำครวญ “ข้านอนกับเจ้าโดยไม่สวมเสื้อผ้าเลยจนกระทั่งตื่น จากนั้นเจ้าทั้งคลำและจูบข้า ถ้าเจ้าเป็นข้า เจ้าจะทำอย่างไร? ข้าแบกชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลไว้บนบ่า! หากมีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนในตระกูลปี่จะถูกล้างโคตร ข้าจะยอมเสี่ยงได้อย่างไร? แน่นอนว่าการฆ่าเจ้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด!”
ในช่วงหนึ่งหรือสองชั่วยามที่ผ่านมา นางประสบกับอันตรายมามากกว่าทุกเหตุการณ์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมารวมกันเสียอีก จมดิ่งไปกับอารมณ์ที่ผกผัน และสุดท้ายนางก็เหมือนกับล้มลงในที่สุด
ซูอันยังคงเงียบ เขารู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะเลือกแบบเดียวกัน นี่คือธรรมชาติของมนุษย์
ยิ่งกว่านั้น วันนี้เขาได้ประโยชน์จากนาง ซึ่งทำให้เขาไม่อารมณ์เสียจนเกินไป อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่ยอมรับเรื่องนี้ง่าย ๆ “เจ้าเองก็ลูบคลำและจูบข้าเหมือนกัน ความบริสุทธิ์ของข้าไม่มีค่าอะไรเลยเหรอไง? แล้วเจ้าเห็นข้าร้องไห้เหมือนเจ้าไหม?”
องค์หญิงรัชทายาทไม่สามารถร้องไห้ได้อีกต่อไปเมื่อนางได้ยินคำพูดของซูอัน หลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน นางพูดอย่างเศร้าโศกว่า “เจ้ามันไร้ยางอายจริง ๆ!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงโห่ร้องข้างนอก เสียงหนึ่งดังขึ้นว่า “พวกเจ้าเป็นใคร? กล้าบุกเข้ามาในวังตะวันออกได้อย่างไร!”
จากนั้นมีเสียงของซือจวิ้นตอบกลับ “เราได้รับรายงานจากเหล่าทหารว่า องค์หญิงรัชทายาทถูกชายคนหนึ่งลักพาตัวไป จึงมาตรวจสอบความปลอดภัยขององค์หญิงรัชทายาท!”
ซูอันและปี่หลิงหลงได้แลกเปลี่ยนสายตากัน “พวกมันหาเราไม่เจอ จึงกลับมาที่นี่เพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าไม่ได้อยู่ในวังตะวันออก”
“สนมไป่ นังสารเลวนั่นต้องการจะฆ่าข้าจริง ๆ!” องค์หญิงรัชทายาทคำรามอย่างโกรธเคือง
“นี่พวกเจ้า ห้องส่วนพระองค์ขององค์หญิงรัชทายาทเป็นที่ที่ใครก็สามารถบุกเข้าได้อย่างนั้นเหรอ?” เผี่ยวตวนเตียวและเจียวซือกุนถาม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นคนที่หยุดผู้บุกรุกเอาไว้
“ฮึ่ม ข้ามีหน้าที่ตรวจสอบพระราชวัง ดังนั้นแน่นอนว่าข้ามีอำนาจที่จะทำอย่างนั้นได้! ทำไมเจ้าถึงมีปัญหากับข้ามากมายขนาดนี้? เป็นเพราะมีเรื่องน่าละอายที่เจ้าไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้ใช่ไหม?” ซือจวิ้นเย้ยหยัน เขามีสถานะสูงส่งและเกิดมาในตระกูลที่มีอิทธิพล เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สนใจทหารราชองครักษ์ผู้น้อยสองคนมากนัก
“ปกติแล้วท่านซือมีหน้าที่ตรวจสอบข้าราชสำนักภายนอกไม่ใช่เหรอ? ตำหนักของนายข้าเป็นส่วนหนึ่งในความควบคุมของท่านซือตั้งแต่เมื่อใดกัน?” เสียงผู้หญิงพูดขึ้น
ดวงตาขององค์หญิงรัชทายาทเป็นประกาย นั่นเป็นนางกำนัลส่วนตัวของนาง หรงโม่! ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะไม่โง่ เมื่อไม่พบข้าในวังร้อยดอกไม้ ดังนั้นนางจึงกลับมาเพื่อรักษาสถานการณ์ที่นี่
เสียงผู้หญิงอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ท่านซือกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงรัชทายาท ดังนั้นเราควรยืนยันเรื่องนี้ให้ชัดเจน เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าไม่ไว้ใจข้า”
สีหน้าขององค์หญิงรัชทายาทเปลี่ยนไป นางพูดเสียงเบา “นั่นเสียงสนมชูของฝ่าบาท เจ้ากลับเข้าไปในทางลับได้แล้ว” ความพยายามทั้งหมดของพวกเขาจะสูญเปล่าทันทีหากคนอื่นเห็นซูอันที่นี่
“ตกลง!” ซูอันไม่ลังเลเลย เขาเตรียมที่จะออกจากทางเดินข้างเตียงทันที
“เดี๋ยวก่อน!” องค์หญิงรัชทายาทคว้าเขาไว้ “คลายชีพจรให้นางกำนัลก่อน แต่อย่าให้พวกนางเห็นเจ้า”
ซูอันยกย่องความใส่ใจในรายละเอียดขององค์หญิงรัชทายาท เขาพยักหน้าและปลดผนึกของนางกำนัล จากนั้นจึงกระโจนเข้าไปในทางลับ
องค์หญิงรัชทายาทปิดผนึกทางลับอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ซูอันได้หันกลับมาและจูบนาง “ข้าจะถือว่านี่เป็นรางวัลของตัวเองสำหรับการช่วยเจ้า!” จากนั้นเขาก็จากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ปี่หลิงหลงจับริมฝีปากตัวเอง นางรู้สึกทั้งอับอายและตื่นตระหนก ผู้ชายคนนี้! ต่อไปข้าต้องเอาคืนให้ได้! นางรีบจัดผ้าปูที่นอนด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว
ประตูกระแทกเปิดทันทีที่นางจัดเตียงเสร็จ ชัดเจนว่าหรงโม่ เผี่ยวตวนเตียว และเจียวซือกุนไม่สามารถหยุดกลุ่มของสนมชูและซือจวิ้นได้
รัชทายาทก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่เป็นการอยู่อย่างไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง! ไม่เพียงแต่จะไม่หยุดผู้บุกรุก ยังติดตามมาอย่างตื่นเต้นราวกับว่ามีละครให้ดู องค์หญิงรัชทายาทโกรธจัดเมื่อเห็นท่าทีของเขา ไม่ว่าซูอันจะร้ายมากแค่ไหนก็ยังมีความน่าเชื่อถือมากกว่าไอ้อ้วนคนนี้!
สนมชูและซือจวิ้นดูมั่นใจในชัยชนะของพวกตัวเองแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งสองเห็นองค์หญิงรัชทายาทนั่งอยู่บนเตียง พวกเขาก็มึนงงไปหมด “ทำไม… อยู่ที่นี่”
องค์หญิงรัชทายาทตอบอย่างเย็นชาว่า “แปลกตรงไหนที่ข้าอยู่ในห้องของตัวเอง?”
…
ในขณะเดียวกัน ซูอันเพิ่งออกจากปลายอีกด้านของทางลับ สัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ทุกหนทุกแห่งในพระราชวัง เขารู้ว่าทหารทั้งหมดในพระราชวังกำลังค้นหาบุคคลที่น่าสงสัย ยิ่งกว่านั้นประตูวังได้ปิดไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงทิ้งความคิดทั้งหมดที่จะออกจากวัง
เขาพบที่เปลี่ยวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทูตยุทธ์เสื้อแพร กลายเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดอีกครั้ง
ข้าสงสัยว่าปฏิกิริยาขององค์หญิงรัชทายาทจะเป็นอย่างไรถ้านางรู้ว่าข้าคือทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ด
เขายิ้มเมื่อรู้สึกถึงความหวานที่ยังอ้อยอิ่งบนริมฝีปาก แม้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องไม่ดีหลายเรื่อง แต่โดยรวมแล้ว มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เขามุ่งหน้าไปยังลานบ้านพักของตัวเองและตัดสินใจที่จะพักค้างคืนหลบเลี่ยงพายุแห่งความวุ่นวายทั้งหมด
แต่ซูอันตกตะลึงทันทีที่เข้าใกล้ลานบ้าน มีคนรอซุ่มโจมตีเขาอยู่!
เมื่อซูอันสังเกตอย่างใกล้ชิด เห็นว่าเป็นกลุ่มของทูตยุทธ์เสื้อแพรที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ และหนึ่งในผู้นำคือจูเซี่ยฉือซิน
หัวใจของเขาเต้นแรง อยากจะหันหลังกลับวิ่งหนีโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าจะถูกใส่ร้าย แต่ความจริงที่ว่าเขาอุ้มร่างเปลือยขององค์หญิงรัชทายาทไว้ในอ้อมแขน นั่นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงเกินพอที่จะถูกประหารชีวิตเป็นสิบรอบ
อย่างไรก็ตาม ซูอันสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่ากลุ่มทูตยุทธ์เสื้อแพรจะรอซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีหลักฐานเสมอไป การหนีไป มันจะพิสูจน์ความผิดของเขาแทน ส่วนที่สำคัญที่สุดคือประตูวังปิดแล้ว เขาอาจจะหนีไม่พ้นด้วยซ้ำ
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปอย่างใจเย็น ทันทีที่เขาแสดงตัว กลุ่มทูตยุทธ์เสื้อแพรก็กรูเข้ามาล้อมเขาไว้
“ข้าขอถามได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” ซูอันแสร้งถามด้วยท่าทางตกใจ
จูเซี่ยฉือซินเดินเข้ามา สีหน้าของเขาค่อนข้างซับซ้อน “ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ด โปรดติดตามเรามา มีเรื่องที่ต้องสอบสวน”
“เรื่องอะไร?” ซูอันถามอย่างใจเย็น
จูเซี่ยฉือซินมองเขาอย่างลึกซึ้ง ไม่ตอบคำถาม แต่ชี้ไปที่ลูกน้องแทน “พาเขาไป!”
ซูอันไม่ขัดขืน เมื่ออยู่ต่อหน้าปรมาจารย์ การต่อต้านทั้งหมดก็ไร้ความหมาย