หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 131 นอนเตียงเดียวกัน

บทที่ 131 นอนเตียงเดียวกัน

บทที่ 131 นอนเตียงเดียวกัน

หลังจากที่หลานเยาเยากลับมาจากที่หลานจิ่นเอ๋อ สายตาดูเป็นกังวล

จากคำพูดของหลานจิ่นเอ๋อทำได้รู้ว่า ในบรรดาคุณหญิงทั้งหมด มีเพียงจ้าวซื่อเท่านั้นที่สนิทสนมกับท่านแม่

ขณะนั้นจ้าวซื่อ และท่านแม่ของนางคุณหญิงฉูมีชีวิตตกอับที่สุด เป็นคุณหญิงในจวนแม่ทัพที่มีชีวิตลำบากที่สุด

หลังจากนั้น หลานจิ่นเอ๋อยังพูดอีกว่าพวกนางเป็นพี่น้องที่มีความรักความผูกพันกันมาก

นางรู้ว่าจุดประสงค์ของหลานจิ่นเอ๋อคืออะไร เพราะคำพูดเหล่านี้ของนาง ทำให้นางนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นได้

หลังจากที่ท่านแม่ได้หายตัวไปและกลับมาได้ไม่นานก็เสียชีวิต จ้าวซื่อได้รับอำนาจอย่างกะทันหันในช่วงเวลาหนึ่ง และก็โดนส่งออกไปหลังจากนั้นไม่นาน

เรื่องนี้ยิ่งคิดยิ่งทำให้สับสน!

ทันใดนั้น!

“โอ๊ย!”

หลานเยาเยาชนเข้ากับกำแพงเนื้อ นางมึนหัวเล็กน้อย เอามือกุมตรงหัวของตัวเองที่ไปชนกับอะไรสักอย่าง

เอ่อ……

คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเงาแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของคนผู้หนึ่ง

ดูจากร่างนั้น น่าจะต้องเป็นชายที่สง่ามาก

ถุ้ยๆ!

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่รอดู

ชายผู้นั้นหันกลับมาด้วยความงงงัน หลังจากที่ได้เห็นนาง ก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “เจ้าเดินไม่ดูทางบ้างหรือ?”

น้ำเสียงที่เปล่งออกมา กลับทำให้หลานเยาเยามึนงง

นี่คือเซียวจิ่นหยู?

เซียวซื่อจื่อที่สุภาพเรียบร้อยท่านนั้นหรือ?

จำได้ว่าตอนอยู่ที่หน้าหลุมศพท่านแม่ เขายังเรียกนางว่าพระชายาเย่ด้วยความเคารพ ทั้งพยักหน้าเล็กน้อยทักทายนางทุกครั้ง

ตอนนี้ทำไม……

“กำลังคิดคำถาม ไม่ ไม่ได้สนใจ! ท่านมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร?”

ที่นี่คือจวนแม่ทัพ และก็ยังเป็นลานหลังจวนแม่ทัพ เขาเป็นถึงซื่อจื่อของจวนเจ้าพระยาซื่อสัตย์!

มาทำไม?

ตอนแรกคิดว่าเขาจะตอบคำถามนาง

แต่กลับไม่รู้ว่า……

เขายื่นมือมาปิดปากนางไว้ : “ฉู่ อย่าพูด!”

กลิ่นหอมอ่อนๆพัดโชยเข้าจมูกนาง หลานเยาเยามองไปตรงนิ้วมือที่ปิดปากนางไว้อย่างงงๆ โดยไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีในขณะนั้น

แย่แล้ว!

นี่นางกำลังโดนล่อลวงงั้นหรือ?

เอ๊ะ ไม่ถูก

นี่นางกำลังโดนลวนลาม และนางก็ยังโดนชายที่รูปงามมากทั้งยังอบอุ่นอ่อนโยนมากลวนลามซะด้วย ถุ้ยๆ สายตาที่แสนจะอ่อนโยนดูเอาใจใส่นั้น ทำให้หลานเยาเยาหลุดเข้าไปอยู่ในจินตนาการ

“อย่าทำผีเสื้อตกใจบินหนีสิ!”

น้ำเสียงที่อ่อนโยนน่าฟัง แซมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

อะไร?

ผีเสื้อ?

ฤดูใบไม้ร่วงแล้วทำไมยังมีผีเสื้อ?

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมอง

บนหัวของนางมีกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาพอดี ทว่าใบไม้ร่วงหล่นไปเกือบหมดแล้ว แต่กลับมีผีเสื้อตัวหนึ่งเกาะอยู่ตรงนั้น

ให้ตายสิ!

มีผีเสื้อจริงด้วย!

“ไปไปไป!”

ทันใดนั้นหลานเยาเยาก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ จึงเอามือปัดไล่ผีเสื้อ

คิดว่าจะมีชายรูปงามเข้ามาเกี้ยว กลับคิดไม่ถึงว่าเขาทำเพียงเพราะเห็นผีเสื้อตัวนั้น เพียงแค่เพราะผีเสื้อตัวนั้น

ไม่ได้พยักหน้าให้นาง

หึ้ย!

นางเกลียดผีเสื้อตัวนั้นที่ทำลายจินตนาการของนาง

ท่าทางที่ดูโกรธเคืองของนาง ยิ่งทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวจิ่นหยูมีมากขึ้น

“พระชายาเย่ ดูเหมือนว่าท่านจะโมโหง่าย โปรยเหรียญเงินครั้งก่อนก็เป็นแบบนี้ ครั้งนี้ก็เป็นแบบนี้? ทำไมถึงได้โมโห? “

น้ำเสียงที่เสมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกเพลิดเพลิน

“ท่านยังจะกล้าพูด ยังดีที่ครั้งนั้นตกใส่ข้าเป็นเหรียญเงิน ถ้าที่ตกโดนเป็นก้อนหินหล่ะก็ ข้าจะไม่จบกับท่าน” พูดจบ หลานเยาเยายังกำหมัดขึ้นยื่นไปที่เขา

“เหอะเหอะเหอะ……”

เมื่อเผชิญหน้าหลานเยาเยาในท่าทีตอนนี้ เซียวจิ่นหยูก็รู้สึกขำ หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆหุบยิ้มลง และถามต่อว่า “แล้วครั้งนี้ล่ะ?”

“ครั้งนี้ก็ไม่ใช่เพราะท่านหรือ……” ที่ทำลายจินตนาการของข้า

คำที่เหลือด้านหลังนางไม่ได้เอ่ยออกมา แล้วนางเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามาสนิทสนมกับนางขนาดนี้?

ทำไมอยู่ดีๆก็พูดคุยกันเหมือนเป็นเพื่อนกันมานาน?

หลานเยาเยาถอยหลังไปหนึ่งก้าว มือชี้ไปที่เขา พูดอย่างระวังว่า : “เปลี่ยนนิสัยกะทันหัน ต้องเป็นคนเจ้าเล่ห์แน่ๆ”

“……”

เขาเป็นคนพูดจาแบบนี้ตลอด จึงถามนางว่าทำไมถึงได้โมโห ทำไมจึงกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์?

มองดูมือของหลานเยาเยาที่ยื่นไปที่เขา ทำให้เห็นข้อมือขาวๆ ที่มือมีโส่วกงซา(จุดพรหมจรรย์)อยู่ ทำให้ดวงตาของเซียวจิ่นหยูเป็นประกายเล็กน้อย

เห็นดังนั้น !

หลานเยาเยาเก็บมือกลับไปทันที แอบชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง : “มองอะไร? ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยๆอย่างข้ามาก่อนหรือไง?”

“หึหึหึ……”

ใครจะรู้ เซียวจิ่นหยูหัวเราะเสียงต่ำอีกครั้ง

หืม……

หัวเราะอะไร?

นางน่าขำขนาดนั้นเลยหรือ?

“ข้ามีเรื่องต้องจัดการ ขอตัวก่อน!” หลังจากหยุดหัวเราะ เซียวจิ่นหยูก็ทำมือคำนับนาง

“เชอะ!”

เซียวจิ่นหยูยังไม่ทันได้ก้าวเดิน หลานเยาเยาก็เดินตัดหน้าออกไปก่อน

มองดูภาพด้านหลังของหลานเยาเยาที่ค่อยเดินไกลออกไป เซียวจิ่นหยูเลื่อนสายตาไปมองที่มือของตัวเอง เลื่อนสายตาไปมองตรงนิ้วมือที่ปิดโดนปากของหลานเยาเยา หลังจากนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันหลังเดินออกไป

หลานเยาเยาที่เดินอยู่บนทางหินลูกรัง คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก

แต่ว่า!

นางยังไม่ทันที่จะหัวเราะออกมา ก็ต้องพบกับเรื่องที่ไม่คาดคิดอีกครั้ง นางชนเข้ากับกำแพงเนื้ออีกรอบ

“โอ๊ย ใครอีกเนี๊ย!”

หลานเยาเยารู้สึกหงุดหงิด ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ก็ชนเข้ากับคนถึงสองคน

ครั้งนี้นางต้องการดูว่าใครกันที่เป็นผู้ขวางทางเดินนาง

ดังนั้น เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความผยอง สีหน้ากลับกลายเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาทันที

“ท่านมาที่นี่อีกทำไม”

จะมาเร็วเกินไปแล้ว!

เมื่อวานนี้เขาเจอกับหลานจิ่นเอ๋อแล้วไม่ใช่หรือ? วันนี้ก็มาเจออีกแล้ว ทำไมไม่อาศัยอยู่ที่นี่ไปเลย จะได้ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาให้เหนื่อยซะเปล่าๆ?

เมื่อเผชิญหน้ากับเย่แจ๋หยิ่งที่มีสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะแบะปาก ……

“ทำไมข้าจะมาไม่ได้?”

คำถามที่มีน้ำเสียงเยือกเย็นสุดจะพรรณนา

เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ เย่แจ๋หยิ่งเห็นทั้งหมด

หลังจากที่เซียวจิ่วหยูจากไป รอยยิ้มผ่อนคลายที่เป็นธรรมชาติของนาง สำหรับเขาแล้วมันชั่งดูขัดหูขัดตานัก และรอยยิ้มเช่นนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับเขา

เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แม้ว่านางจะไม่หวงรอยยิ้ม ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวาน หรือรอยยิ้มจางๆ แต่นั่นไม่ได้ออกมาจากใจจริงของนางเลย

ก็เหมือนกับเมื่อสักครู่ ที่อยู่ตรงหน้าเขา นางก็ไม่เคยมีให้สักครั้ง

ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ!

“ก็จริง ท่านมีมือมีเท้า มีอำนาจ หึ จะไปที่ไหนก็ย่อมได้ ข้าเพิ่งออกมาที่ของหลานจิ่นเอ๋อ สบายใจได้ ข้าไม่ได้ทำให้นางลำบากใจ”

หลายเยาเยาแทบอยากจะตีตัวเองให้ตาย เรื่องพวกนี้ เกี่ยวอะไรกับนางด้วย? ยุ่งเรื่องของคนอื่นมากไปเดี๋ยวจะโดนฟ้าผ่า

พูดจบ!

นางคำนับเขาแบบขอไปที แล้วเดินไปทางห้องของตัวเอง

“หลานเยาเยา เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”

วันนี้เขามาที่จวนแม่ทัพ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับหลานจิ่นเอ๋อ?

กลับเป็นนางซะอีก เดินชนกับเซียวจิ่นหยูกลับดีอกดีใจขนาดนั้นเชียวหรือ?

สายตาที่เย็นชาของเย่แจ๋หยิ่งค่อยๆจางหายไป หลังจากนั้นก็เดินตามหลานเยาเยาเข้าไปในห้อง หลังจากเข้าห้องแล้วเห็นหลานเยาเยาถอดรองเท้า ขึ้นนอนพักผ่อนแล้ว

เย่แจ๋หยิ่งทอดสายตาออกไปนอกห้องมองดูท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ทอแสง……

“ทำไมเจ้ายังไม่นอนอีก?”

เขาเดินมาถึงข้างเตียง ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเข้าห้องมาแต่หลานเยาเยาก็ยังแสร้งทำเป็นหลับตา ทำให้ความโมโหยิ่งเพิ่มพูนขึ้น

“ข้านอนแล้ว อย่าคุยกับข้า”

จะพูดจาต้องใช้ออกแรง ถึงแม้ว่านางจะกินขนมเข้าไปมากมาย แต่ก็พบว่าขนมเหล่านั้นไม่อร่อยเลยสักนิด

เมื่อก่อนทำไมถึงคิดว่าขนมเหล่านั้นอร่อยได้นะ?

ต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ!

กินยากจริงๆเลย

หลังจากที่นางพูดออกไปแบบนี้ ก็คิดว่าคนอวดดีอย่างเย่แจ๋หยิ่งจะออกไปจากห้องไปอย่างชาญฉลาด

ใครจะรู้……

เขาไม่เพียงแต่ไม่เดินจากไป แต่กลับถอดรองเท้าและขึ้นเตียง……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท