หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 146 ทรราชที่เห็นแก่ตัว

บทที่ 146 ทรราชที่เห็นแก่ตัว

บทที่ 146 ทรราชที่เห็นแก่ตัว

สีหน้าที่ดูเอาจริงเอาจังของนาง พร้อมการพูดอย่างรวดเร็วว่า :

“โหลวเย่วถูกฮองเฮาใช้หนอนพิษกู่ พิษกู่ชนิดนี้นั้นสามารถควบคุมพฤติกรรมของคนได้ ทั้งยังช่วยให้เพิ่มพละกำลังให้คนได้ด้วย และคนที่โดนตัวกู่นี้ ภายในใจนั้นต้องแบกรับความทุกข์ทรมานอยู่ทุกวินาที และอาจจะสามารถฟื้นขึ้นมาตอนไหนก็ได้

หลังจากที่ท่านซ่อนนางไว้ในที่ที่ปลอดภัย ก็ให้นางกินยา เพียงแค่หนอนพิษกู่ออกมา นางก็จะไม่เป็นไรแล้ว

อืม เป็นเช่นนี้แหละ นอกเหนือจากนี้ก็ฝากเจ้าจัดการละกัน!”

พูดจบ หลานเยาเยาก็ลากพลั่วแล้วจากไป ไม่รอให้ฮัวหยู่อันมีโอกาสได้โต้ตอบ

มองดูหลานเยาเยาที่จากไปอย่างสง่าผ่าเผย ฮัวหยู่อันยังคงอยู่ในวังวนของความมึนงง

ข้าเป็นใคร?

ข้าอยู่ที่ไหน?

ข้าต้องทำอะไร?

เมื่อฮัวหยู่อันดึงสติกลับมาได้ ก็มองเห็นคุณชายเหลียงเฉินมองนางแล้วอมยิ้ม นางจ้องมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์

“มองอะไรอยู่ได้? ยังไม่ยกพระราชธิดาจาวหยางขึ้นมาอีก ถ้าหลานเยาเยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านก็ไม่ต้องคิดว่าจะได้อยู่เป็นสุข”

แม้ว่าจะยังไม่ทันนึกออกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ว่า นางจะต้องดึงคุณชายเหลียงเฉินที่มีรอยยิ้มอันแสนร้ายกาจนี้ไว้ให้ได้ ดูท่าทางของเขา สมองน่าจะใช้งานได้ดี หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ผลักเขาออกไปรับแทน

“เกี่ยวอะไรกับข้าด้วยเล่า?”

“ห๊ะ? ไฟลนตูดขนาดนี้แล้ว ท่านยังจะทำหน้าบูดอยู่ได้? รีบแบก!” ฮัวหยู่อันไม่ได้คิดแม้แต่น้อย ก็เตะไปที่ก้นของคุณชายเหลียงเฉินทันที

แม้ว่าพระราชธิดาจาวหยางจะไม่หนัก นางสามารถแบกขึ้นมาได้ แต่พยุงคนไว้หนึ่งคน นางก็เหาะไม่ขึ้น!

โม่เหลียงเฉินเป็นนักฆ่า ดังนั้นถ้าเป็นนักฆ่าศิลปะการต่อสู้จะต้องเก่งกาจมาก ศิลปะการต่อสู้จะต้องเก่งกาจ วิชาตัวเบาก็ต้องเก่งกาจไม่แพ้กัน

ดังนั้น!

ไม่ใช่เขาแบกแล้วใครจะแบก?

“แม่นางฮัว ได้โปรดอย่าทำตัวป่าเถื่อนเช่นนี้ ข้าเป็นคนสุภาพ”

เตะนั่นของฮัวหยู่อันเป็นเตะที่ไม่เบาเลย คุณชายเหลียงเฉินแบะปาก ทั้งลูบก้นไป และพยายามพูดเหตุผล

แต่เมื่อเขาเห็นฮัวหยู่อันกำลังจะยกเท้าขึ้นอีกครั้ง ทำปากคว่ำ ก็รีบแบกพระราชธิดาจาวหยางขึ้นทันที

……

หลานเยาเยากลับมาถึงตำหนักของไทเฮาอย่างเงียบๆ จากนั้นก็นอนลงข้างๆเตียงของไทเฮา แสร้งทำเป็นนอนหลับ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่

ในที่สุดองครักษ์ก็มาค้นถึงตำหนักของไทเฮา แต่เพราะว่านางคือพระชายาเย่ ทั้งยังมีท่าทางที่ดูเหมือนว่านอนหลับอยู่นานแล้ว

ถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะมีรับสั่งให้ฆ่าได้ พวกเขาก็ไม่กล้าจับกุมคนมั่วซั่ว

ดังนั้นพวกเขาจึงได้ล้อมนางไว้ที่ตำหนักของไทเฮา และส่งคนไปกราบทูลฮ่องเต้ทันที

ต้องโทษความผิดฐานลอบฆ่าฮองเฮา นั้นจะต้องถูกตัดหัว ดังนั้นเมื่อเรื่องเกิดขึ้น จึงได้กระทบกระเทือนไปทั้งพระราชวัง

พวกบรรดาองค์ชายและบรรดาพระสนมทั้งหลายต่างก็ใช้ข้ออ้างว่าจะเข้าเฝ้าไทเฮา ทุกคนล้วนมาที่ตำหนักของไทเฮาด้วยข้ออ้างบังหน้าต่างๆ

แต่องค์ชายรัชทายาทได้ออกไปนอกวังแล้ว ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในพระราชวัง เขาจึงยังไม่สามารถรับรู้ได้ในตอนนี้

ฮ่องเต้ยังคงคิดไม่ถึงว่า เหล่าพระสนมและองค์ชายไปอัดแน่นกันอยู่ที่ตำหนักของไทเฮา เมื่อฮ่องเต้เสด็จมาถึง ก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงได้ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ

แต่ทว่า!

เป็นเช่นนี้ก็ดี มีทุกคนเป็นพยาน เพียงแค่พระชายาเย่ยอมรับโทษ เขาก็สามารถทำให้อ๋องเย่โดนโทษไปด้วย ถึงแม่ว่าจะล้มอ๋องเย่ไม่ได้ แต่เขาก็ยังสามารถยึดอำนาจกลับมาได้นิดหน่อย

ฮ่องเต้เดินไปด้านหน้า มองดูหลานเยาเยาที่กำลังหลับสนิท อดไม่ได้ที่จะมองวนไปมาที่ร่างของนาง

หน้าตาของประเทศของบ้านเมือง……

ผิวพรรณที่ขาวใสดุจหิมะ……

รูปร่างที่อรชรงดงาม……

แม้ในยามหลับก็ยังเสมือนสิ่งสวยงามหายากบนโลก แม้วังหลังของเขาจะมีสนมที่งดงามนับไม่ถ้วน หญิงงามอีกเป็นกอง แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่จะเอาชนะความงามอันเป็นที่สุดของหลานเยาเยาได้เลย!

ในดวงตาของเขามีแววแห่งกิเลสตัณหาปรากฏขึ้น

เมื่อเขาเห็นโส่วกงซา(จุดพรหมจรรย์)ที่แขนของหลานเยาเยา ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

อ๋องเย่ไม่มีความใคร่ในตัวผู้หญิงจริงๆด้วย หญิงงามขนาดนี้อยู่ตรงหน้าทุกวัน ยังทำให้หวั่นไหวไม่ได้อีก

ชั่งประเสริฐจริงๆ!

เขาจะต้องทำให้นางมาเป็นของตัวเองให้ได้……

แม้ว่าฮ่องเต้จะมีความคิดอย่างอื่น แต่เขาก็ยังแยกแยะความสำคัญได้

ดังนั้นแล้ว!

สีหน้าที่ดูจริงจัง

ทำให้สาวใช้ในวังคนหนึ่ง ขึ้นปลุกหลานเยาเยาให้ตื่น

หลานเยาเยาที่ตื่นขึ้นมา มองเห็นผู้คนเต็มไปหมด จึงทำให้รู้สึกงงงวย

“ถวายบังคมฮ่องเต้!”

การแสดงความเคารพที่นอบน้อมของนาง ไม่ได้แสดงออกถึงความตื่นตระหนกแม้แต่เล็กน้อย

ทุกคนต่างเกิดความงงงวย

จะดูยังไงหลานเยาเยาก็เหมือนคนที่เพิ่งจะตื่นนอน จะไปลอบสังหารฮองเฮาได้เช่นไร?

“หึ!”

ฮ่องเต้สะบัดแขนเสื้อ แววตาสีหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงที่ดุดันแซมด้วยว่ากล่าว : “พระชายาเย่ ข้าขอถามเจ้า ทำไมเจ้าจึงต้องลอบสังหารฮองเฮาของข้า?”

“ลอบ ลอบสังหาร? ฮองเฮาเป็นอะไรหรือเพคะ? ขอฮ่องเต้ได้โปรดไต่สวนอย่างถี่ถ้วน ข้าเข้าวังมาเพื่อเยี่ยมไทเฮา จากนั้นก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นมาก็เห็นพวกท่านอยู่กันมากมาย ข้าไม่รู้จริงๆว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพคะ”

หลานเยาเยาลดมือของนางต่ำลง จากนั้นก็หยิกขาอ่อนของตัวเองอย่างแรง ดวงตาที่สวยงามนั้นมีน้ำตารื้นขึ้นมาทันที

ท่าทีที่ดูเหมือนว่าน้อยใจเป็นที่สุดเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้เหล่าพระสนมที่เคยถูกฮองเฮากดขี่ข่มแหงนั้นรู้สึกเห็นใจเป็นอย่างมาก

แม้แต่องค์ชายบางคนก็ยังเกิดความรู้สึกสงสาร

ในใจของฮ่องเต้ก็เกิดความรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาแวบหนึ่ง แต่เพื่อจะยึดอำนาจอันน้อยนิดคืนมา เขาจึงอดกลั้นไว้ ดวงตาสีดำเข้มที่ดูเคร่งขรึม

“นำพยานและหลักฐานเข้ามา!”

ในไม่ช้า องครักษ์สามสี่คนก็นำตัวสาวใช้ในวังคนหนึ่งพร้อมมีดสั้นด้ามหนึ่งมาด้านหน้า

เมื่อสาวใช้ในวังเดินมาถึงด้านหน้า ก็คุกเข่าลงเสียงดังตุ๊บทันที : “ข้าน้อยถวายบังคมฮ่องเต้!”

“พูดสิ่งที่เจ้ารู้ออกมาให้หมด หากมีปิดบัง ให้ลากออกไปตัดหัวทันที “ฮ่องเต้เอามือทั้งสองไว้ด้านหลัง สายตาที่มองผ่านไป ทำให้สาวใช้ในวังหวาดกลัวจนตัวสั่น”

นางรีบพูดด้วยความสั่นเทาว่า : “ฮ่องเต้ ข้าน้อยเป็นสาวใช้ในวังอยู่ที่ตำหนักของไทเฮา ก่อนหน้านี้ข้าน้อยเห็นพระชายาเย่ทำตัวลับๆล่อๆตอนออกไปจากตำหนักของไทเฮา เกิดความสงสัยจึงได้ตามไปดู

แต่กลับพบว่าของพระชายาเย่ถือมีดสั้นในมือ มุ่งตรงไปยังตำหนักของฮองเฮา หลังจากเห็นพระชายาเย่เข้าไปทางด้านหลังตำหนักของฮองเฮาแล้วนั้น ข้าน้อยก็ไม่กล้าตามเข้าไปแล้วเจ้าคะ

จนถึงตอนที่ข้าน้อยได้ยินว่าฮองเฮาถูกลอบฆ่า จึงได้รีบมาเป็นพยาน หวังว่าฮ่องเต้จะให้ความเป็นธรรมแก่ฮองเฮา ลงโทษคนร้ายเจ้าค่ะ”

อืม……

สาวใช้ในวังคนนี้ก็คือพยานของฮองเฮางั้นหรือ?

ยังอยู่ในระดับต่ำเกินไป!

ทว่าพูดจามีเหตุมีผล แต่ถึงกระนั้นเพียงแค่ตรวจสอบ ก็จะพบว่าด้านหลังตำหนักของฮองเฮามีร่องรอยการเหยียบย่ำและร่องรอยฉุดกระชาก

ยังมีหน้าต่างหลังตำหนักของฮองเฮา มีบานที่ถูกปิดตายบานหนึ่งถูกเปิดออก สาวใช้บอกว่าเห็นกับตาของนาง นางคิดจะแก้ตัวก็แก้ตัวไม่ได้แล้ว

จากนั้นก็มีแม่นมผู้หนึ่งถูกนำตัวเข้ามา แม่นมผู้นั้นบอกว่านางเห็นกับตาว่าหลานเยาเยาแทงฮองเฮาให้ได้รับบาดเจ็บ และมีดสั้นด้านนั้นก็คือหลักฐาน

ดังนั้นมีพร้อมทั้งพยานหลักฐาน!

หลานเยาเยายังไม่ได้ทันได้แก้ตัว ฮ่องเต้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“มานี่ นำตัวพระชายาเย่ไปขังที่คุก ลง……ขังไว้ที่คุก รอคำตัดสิน”

เดิมทีฮ่องเต้จะพูดว่าลงโทษสถานหนัก แต่คิดไปคิดมา หากว่าทำให้ร่างกายหรือใบหน้านางเป็นแผล หลังจากนั้นเขาจะเสพสุขได้เช่นไร?

“พะยะค่ะ!” องครักษ์รีบเข้าไปรับคำสั่งทันที

มองดูองครักษ์ที่จะเข้ามาจับนาง หลานเยาเยาหัวเราะในใจด้วยความเยือกเย็น

ฮ่องเต้องค์นี้เป็นทรราชจริงๆ!

แม้จะรู้ว่าเรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ แต่เพื่อตัวเอง แม้แต่จะให้นางโต้แย้งก็ยังไม่มี ก็ให้คนจับนางขังในคุก

นางจะให้เขาทำตามที่หวังได้เช่นไร?

“ช้าก่อน ฮ่องเต้ไม่คิดจะให้ข้าโต้แย้งหน่อยหรือเพคะ?”

ต่อกรกับคนแบบนี้ แม้แต่จะแสร้งทำเป็นอ่อนแอหลานเยาเยาก็ยังไม่อยากที่จะทำ

เพราะว่านั่นไม่จำเป็นแล้ว!

เป็นตามคาด!

“หากพระชายาเย่คิดจะแก้ตัว ข้าขอแนะนำเจ้าว่าให้เลือกคิดซะเถอะ มีพร้อมทั้งพยานและหลักฐานขนาดนี้ แม้ว่าอ๋องเย่จะปรากฏตัว ข้าก็จะจับเจ้าขังไว้ที่คุกอยู่ดี”

เหอะเหอะ!

หลานเยาเยาส่ายหัวเล็กน้อย หยิบกระดาษออกมาจากแขนเสื้อ และเปิดปากพูดว่านางก็มีหลักฐานทันที

ใครจะรู้ มีเสียงแหลมสูงดังขึ้น : “อ๋องเย่เสด็จถึง!”

อ๋องเย่มาจริงๆด้วย

ฮ่องเต้ถอดสีหน้าเป็นแข็งทื่อไปโดยทันที……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท