รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 1058 หลี่จิ่วเตา ‘เช่นนั้นช่วยเสียสักครา!’

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 1058 หลี่จิ่วเตา ‘เช่นนั้นช่วยเสียสักครา!’

จั่วเหยียนคับข้องใจ ต้าเต๋อคือผู้ที่ถูกส่งมาเพื่อพิฆาตเขาโดยเฉพาะใช่หรือไม่?

เหตุใดเขาจึงถูกต้าเต๋อขุดหลุมใส่เสมอ!

ดวงตาของมารกู่มองไปทางจั่วเหยียน ทว่าไม่ได้สำรวจลึก เก็บสายตากลับไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้หยุดมองนานแต่อย่างใด ไร้ซึ่งความสนใจในตัวจั่วเหยียน

จุดสำคัญคือต้าเต๋อเรียกจั่วเหยียนว่าบ่าวจั่ว นั้นทำให้มารกู่หมดความสนใจ บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งจะมีอันใดให้น่าใส่ใจกัน?

เขายังสนใจหลี่จิ่วเต้ากับต้นหลิวมากกว่า!

นี่เขากำลังถูกมองข้ามใช่หรือไม่?

ภายในใจจั่วเหยียนไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

เดิมทีเขาต้องการถูกมารกู่มองข้าม ไม่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงตัวตนของเขา ทว่าเมื่อถูกมองข้ามเข้าจริง กลับรู้สึกไม่ดีใจ ทั้งยังไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง

หากเขานั่งลงเบาะจริง ๆ ก็ยากจะรับประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องใดขึ้นกับตนเอง!

เขาฟื้นคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว เปิดปากเอ่ยว่า “ขอบเขตข้าต่ำต้อยนัก อีกทั้งยังพัฒนาช้ายิ่ง ไม่คู่ควรแก่การพูดคุยกับจ้าวแห่งแสงอย่างทัดเทียม ข้าควรรอฟังด้านล่างดีแล้ว!”

‘ยังดี อย่างน้อยก็มีความตระหนักรู้ในตนเอง’

หลี่จิ่วเต้าที่ได้ยินคำตอบกลับของจั่วเหยียนพลันคิดขึ้นในใจ ‘ช่างเถิด ช่วยเขาเสียสักครา’

ชายหนุ่มกล่าออกมาว่า “จ้าวแห่งแสงไม่แบ่งแยกสูงต่ำ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล จ้าวแห่งแสงมอบเบาะให้แล้ว เจ้าเพียงแค่รับเอาไว้อย่างสบายใจ!”

จั่วเหยียนที่อยู่ด้านล่างอยากร้องไห้ออกมาจริง ๆ แล้ว

เหตุใดหลี่จิ่วเต้าต้องเอ่ยออกมาด้วย?

เขาไม่อยากรับก็จำต้องรับ!

“ตกลง ฟังคำคุณชาย!”

เบาะพาเขาขึ้นไปอยู่ระดับทัดเทียมจ้าวแห่งแสง

ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง สมาธิทั้งหมดจดจ่ออยู่กับเบาะนั่งด้านล่าง ป้องกันไม่ให้พวกกู่เข้ามาในร่างได้

“ใช่แล้ว ต่อหน้าข้า ไม่มีการแบ่งแยกสูงต่ำ”

มารกู่หัวเราะแผ่วเบา ยังคงมองข้ามจั่วเหยียน ความสนใจทั้งหมดอยู่บนร่างหลี่จิ่วเต้าและต้นหลิว

จากนั้นเขาก็เริ่ม ‘สั่งสอนเผยแพร่เต๋า’ เอ่ยถึงวิถีรูปแบบซับซ้อนลึกล้ำมากมาย สิ่งมีชีวิตด้านล่างราวกับตกในห้วงความเมา เต็มไปด้วยท่าทางตื่นตะลึง

แน่นอน เขาไม่ได้ ‘สั่งสอนเผยแพร่เต๋า’ จริง ๆ นี่เป็นเพียงเสียงถ่ายทอดไปยังหนอนกู่!

เขาหมายใช้โอกาสนี้จัดการกับพวกหลี่จิ่วเต้า!

ทว่าเรื่องกลับอยู่นอกเหนือความคาดหมายของมารกู่ ไม่มีใครในพวกหลี่จิ่วเต้าถูกกู่แม้สักคน!

ทั้งเสียงกู่ และกู่ในเบาะนั่งล้วนไม่ได้เข้าไปในร่างการของพวกหลี่จิ่วเต้า!

ต้นหลิวยิ้มเย้ยภายในใจ มองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน รู้ว่าสิ่งที่มารกู่เรียกว่า ‘สั่งสอนเผยแพร่เต๋า’ เป็นการแพร่กระจายกู่

ความล้มเหลวของมารกู่เองก็อยู่ในการคาดการณ์เช่นเดียวกัน

บนร่างของพวกเขาล้วนมีสมบัติที่คุณชายมอบให้ กู่เหล่านั้นจะประสบความสำเร็จในการเข้าไปในร่างของพวกเขาได้อย่างไร?

ไม่มีทางเป็นไปได้!

แต่ก็มีข้อยกเว้นเช่นจั่วเหยียน บนร่างของเขาไม่มีสมบัติที่คุณชายมอบให้

ทว่าจั่วเหยียนเองก็แข็งแกร่งยิ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่กู่เหล่านี้จะสามารถเข้าไปในร่างของจั่วเหยียนได้

“บัดซบ! กระทั่งบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งยังไม่สำเร็จหรือ?!”

มารกู่ตกตะลึง เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าพวกหลี่จิ่วเต้าไม่อาจจัดการได้โดยง่าย แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าจัดการได้ยากถึงเพียงนี้!

แม้ว่าเสียงกู่จะล้มเหลว ทว่าจุดสำคัญคือเขาไม่คาดคิดว่าจะล้มเหลวอย่างน่าสังเวชเพียงนี้ กระทั่งบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งยังไม่อาจทำสำเร็จ

เป็นไปได้อย่างไรกัน?!

เป็นเรื่องยากยิ่งที่เขาจะเชื่อได้ลง กระทั่งบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งยังจัดการได้อย่างถึงที่เพียงนี้?

“จั่วเหยียน เจ้ามาที่นี่ มีสิ่งใดไม่เข้าใจก็ถามจ้าวแห่งแสงเสีย”

ตอนนั้นเอง หลี่จิ่วเต้าพลันเรียกจั่วเหยียน

เขาต้องการช่วยเหลือจั่วเหยียนให้ได้รับผลประโยชน์มากขึ้น จึงเสนอให้จั่วเหยียนได้พูดคุยกับจ้าวแห่งแสงมากขึ้น

“!!!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่จิ่วเต้า จั่วเหยียนก็แทบร่วงลงจากเบาะ!

มารดาเจ้าเถิด เดิมทีเขาต้องการหลีกเลี่ยงมารกู่ แต่หลี่จิ่วเต้ากลับผลักเขาออกไปด้านหน้า!

เขาจะร้องไห้ออกมาจริงแล้ว อยากจะพูดกับหลี่จิ่วเต้าเหลือเกินว่า พี่ใหญ่ หยุดยุ่งกับข้าเถิด ข้าไม่อยากเสวนากับมารกู่แต่อย่างใด!

ตอนนี้แค่เขาประคับประคองตนเองได้ก็ยากลำบากแล้ว!

เสียงกู่และหนอนกู่ในเบาะ การถูกโจมตีจากทั้งสองด้านเช่นนี้ ไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะรับมือ!

เมื่อกู่เหล่านั้นเข้าร่าง ถึงยามนั้นคิดจะตายดีก็ยังยากยิ่ง

นี่ต้องการทำสิ่งใด?!

อีกด้านหนึ่ง มารกู่แย้มยิ้มเย็นเยียบในใจ ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

หลี่จิ่วเต้าผลักบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งออกมาต้องการทำสิ่งใดกันแน่? หมายท้าทายเขาด้วยบ่าวรับใช้อย่างนั้นหรือ?!

เขาโกรธนัก โกรธเป็นอย่างมาก!

ใช่ เขายอมรับว่าพวกหลี่จิ่วเต้านั้นไม่ธรรมดา รับมือยากกว่าที่คิดเอาไว้ แต่อีกฝ่ายกลับผลักบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งออกมาด้านหน้าเพื่อต่อกรกับเขา นี่มันดูแคลนกันมากเกินไปแล้ว!

‘คิดว่าต้านทานเสียงกู่ได้แล้วจะไม่เป็นอันใดหรือ?’

เขาเอ่ยในใจเสียงเย็นเยียบ “คิดจริงหรือว่าข้าจะเหมือนกับเหล่าสิ่งมีชีวิตในแดนเก่า?!”

ครั้งนี้เขาโกรธมากจริง ๆ หลังก้าวเดินบนเส้นทางการฝึกฝนก็ไม่เคยพานพบการยั่วยุดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อน!

ไม่คิดจะลงมือด้วยตนเอง แต่ส่งบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งออกมางั้นหรือ?

เขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!

‘เช่นนั้นก็มาเถิด!’

เขาไม่กลัว และก็ไม่มีอันใดต้องกลัว การ ‘สั่งสอนเผยแพร่เต๋า’ ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่การหยั่งเชิง เขายังไม่ได้ใช้วิธีการและฝีมือทั้งหมดออกมา

หากใช้ฝีมือทั้งหมดออกมา เขามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะต้องจัดการพวกหลี่จิ่วเต้าลงได้!

ในเมื่อหลี่จิ่วเต้าผลักบ่าวรับใช้ออกมาด้านหน้า เช่นนั้นก็ลงมือกับบ่าวรับใช้ผู้นี้ก่อน แสดงให้หลี่จิ่วเต้าเห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา!

“เจ้ามาเถิด ข้าจะสนทนากับเจ้า”

มารกู่มองไปทางจั่วเหยียนแล้วเอ่ยออกมา “เจ้ากล่าวว่าตนเองเรียนรู้ช้า นี่น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้ว ไม่มีผู้ใดในโลกเป็นคนหัวทึบ มีเพียงแค่ผู้ไม่รู้เท่านั้น คราวนี้ข้าจะช่วยให้เจ้าได้รู้ พบกับการแปลี่ยนแปลงสะท้านฟ้าดิน!”

หลังจากกล่าวออกมาแล้ว สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนที่คุกเข่าอยู่เบื้องล่างพลันมองจั่วเหยียนด้วยแววตาริษยา!

สวรรค์ จ้าวแห่งแสงกำลังสนทนาเต๋าเป็นการส่วนตัว นี่ช่างเป็นวาสนาการเปลี่ยนแปลงสะท้านฟ้าเสียจริง!

พวกเขาคิดว่าจะดีเพียงใดหากเปลี่ยนเป็นพวกเขาบ้าง!

‘ตกกลางคืนข้าควรนอนเช่นใดดี บางทีอาจสามารถฝันขึ้นมาได้!’

สิ่งมีชีวิตบางส่วนเอ่ยในใจด้วยความริษยาอย่างถึงที่สุด

สนทนาเต๋ากับจ้าวแห่งแสงเป็นการส่วนตัว ผลประโยชน์ที่ได้รับจะมากมหาศาลเพียงใด? สามารถเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตไปอย่างมาก!

‘ริษยาบ้าบออันใด!’

อีกด้านหนึ่ง จั่วเหยียนที่สัมผัสได้ถึงสายตาริษยาของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นสบถด่าในใจทันที

นี่เป็นการสนทนาเต๋าหรือวาสนาการเปลี่ยนแปลงที่ใดกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นหนทางสู่ความตาย!

แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้กลับไม่รู้อันใดแม้แต่น้อย!

ยามนี้เขาอยากจะร้องไห้เหลือเกิน

เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึง ‘ความเป็นศัตรู’ จากอีกฝั่ง มารกู่ต้องการจะลงมือกับเขาแล้ว!

เขาจะต้านทานได้อย่างไร?

เห็นได้ชัดว่ามารกู่ฟื้นฟูตัวเองได้ดีกว่า หากมารกู่ลงมือกับเขาจริง แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะต้านทานได้!

ราคาที่ต้องจ่ายหากไม่สามารถยืนหยัดได้ นั่นก็คือกู่จะเข้าร่างของเขา ถูกมารกู่ควบคุมเอาไว้!

จั่วเหยียนไม่คิดว่ามารกู่จะยอมปล่อยเขาไปเพราะดูจากตัวตนผู้ยิ่งใหญ่โลกใหม่

มารกู่นั้นโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด ย้อนกลับไปคราวนั้น เขาเองก็เข้าร่วมการปราบปรามมารกู่ด้วย อีกฝ่ายไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน!

หากต้องถูกกู่เข้าร่าง ทุกสิ่งจะถูกเปิดเผยออกมา หลังจากที่มารกู่ทราบตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะปล่อยเข้าไปอย่างแน่นอน!

‘พี่ใหญ่ ท่านกลับผลักข้าออกมาอยู่เหนือยอดพายุศึกของพวกท่าน!’

จั่วเหยียนร้องไห้โดยไร้น้ำตา ตัวเขาจะน่าเวทนาเกินไปแล้ว!

“จ้าวแห่งแสงเอ่ยปากแล้ว เจ้าก็รีบมาเสียเถิด คว้าโอกาสครั้งนี้เอาไว้ให้ดี!”

ขณะนั้นเอง เมื่อหลี่จิ่วเต้าเห็นว่าจั่วเหยียนไม่ได้เคลื่อนไหวใด พลันคิดว่าอีกฝ่ายดูแคลนตนเอง ไม่กล้าก้าวออกมาเบื้องหน้า เขาจึงเอ่ยปากอีกครั้ง เพื่อให้จั่วเหยียนเข้ามาสนทนาเต๋ากับจ้าวแห่งแสง

“ตกลง!”

จั่วเหยียนตอบกลับ ทำได้เพียงแต่ออกมาด้านหน้าเท่านั้น

ยามนี้ความหวังเดียวของเขาอยู่กับหลี่จิ่วเตา เช่นนั้นเขาจะกล้าไม่ฟังคำพูดของหลี่จิ่วเต้าได้อย่างไร!

ใช่แล้ว ความหวังของเขาคือหลี่จิ่วเต้า ขอเพียงแค่หลี่จิ่วเต้าคิดช่วยเหลือไม่ปล่อยไป เขาย่อมสามารถรับมือมารกู่ได้

หากหลี่จิ่วเต้าไม่ช่วยเหลือเขา ปล่อยให้รับมือกับมารกู่ด้วยตนเอง เขาย่อมไม่มีทางรับมือมารกู่ได้

“ไม่ต้องกังวล ข้าจะอธิบายเต๋าทั้งหมดให้เจ้าฟัง ช่วยให้เจ้าได้ตื่นรู้ ก้าวเข้าสู่ชีวิตใหม่”

จ้าวแห่งแสงเอ่ยกับจั่วเหยียนด้วยรอยยิ้ม

ทว่าเบื้องหลังรอยยิ้ม กลับเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

หลี่จิ่วเต้าผลักข้ารับใช้ผู้หนึ่งออกมา ทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก เขาตัดสินใจจะจัดการจั่วเหยียนเพื่อให้หลี่จิ่วเต้าประจักษ์ว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด!

ตื่นรู้?

ตื่นรู้มารดาเจ้าน่ะสิ!

ข้ายังจำเป็นต้องพึ่งเจ้าเพื่อให้ตื่นรู้ด้วยหรือ!

จั่วเหยียนสบถด่าสาปแช่งในใจ ไม่ต้องกล่าวเลยว่าเขาคับข้องมากเพียงใด

ทว่าเขาก็ไม่กล้าแสดงท่าทางออกมาภายนอกแม้แต่น้อย

เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณจ้าวแห่งแสงแล้ว!”

เขาลอบระดมพลังทั้งหมดในร่าง เตรียมพร้อมรับการลงมือครั้งต่อไปของมารกู่!

จั่วเหยียนแน่ใจเป็นอย่างยิ่ง การลงมือครั้งต่อไปของมารกู่จะต้องน่ากลัวมากแน่ หากเขาประมาทสักนิด ย่อมต้องถูกจัดการลงในพริบตา!

ผลออกมาเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ไม่ผิด การลงมือของมารกู่นั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าครั้งก่อน!

มารกู่อธิบายเต๋าทั้งหมดให้เขาฟัง ทั้งหมดล้วนเข้าใจได้ง่ายและชัดเจน ทว่าทั้งหมดล้วนไร้ความหมาย ไม่มีสาระสำคัญแต่อย่างใด

การอธิบายเต๋าในครั้งนี้ทั้งหมดมารกู่ล้วนปั้นแต่งขึ้นมา ไม่มีสาระอันใดอยู่ อีกฝ่ายไม่ได้อธิบายเต๋าอย่างแท้จริง แต่ใช้เสียงกู่เพื่อโจมตี!

ครั้งนี้เขาเสริมพลังของเสียงกู่ให้แข็งแกร่งขึ้น บังคับกู่ที่น่ากลัวกว่าเดิมโจมตีจั่วเหยียน!

‘จัดการบ่าวรับใช้ผู้นี้ไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด’

มารกู่มั่นใจเป็นอย่างมาก คิดว่าเสียงกู่ครั้งนี้ของเขาจะได้ผล ทำให้กู่เข้าไปในร่างของจั่วเหยียนได้

ทว่าผลลัพธ์กลับเกินความคาดหมายของเขา!

เขาล้มเหลว กู่ไม่อาจเข้าไปในร่างจั่วเหยียนได้!

‘มารดามันเถิด บ่าวรับใช้ผู้นี้ ข้าก็ดูแคลนมากเกินไป!’

เขาเอ่ยในใจด้วยเสียงเย็นเยียบ ไม่แปลกใจเลยที่หลี่จิ่วเต้าจะผลักบ่าวรับใช้ผู้นี้ออกมา บ่าวรับใช้เองก็ไม่ได้จัดการง่ายอย่างที่เขาคิด!

“เต๋าที่ข้าอธิบายไป ยังคงไม่ลึกซึ้งเพียงพอ ข้าจะขยายความอธิบายให้เจ้าฟังอีกครั้ง”

เขาเอ่ยกับจั่วเหยียนด้วยรอยยิ้ม ต้องการจะใช้กู่ที่แข็งแกร่งกว่านี้!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท