หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่138 บาดเจ็บเพื่อข้า ?

บทที่138 บาดเจ็บเพื่อข้า ?

บทที่138 บาดเจ็บเพื่อข้า ?

” ความรู้สึกเช่นนี้ดีมากใช่หรือไม่? ” เย่แจ๋หยิ่งถามด้วยเสียงทุ้ม

หากรู้ว่าริมฝีปากของนางจะทำให้เขาหลงไหลได้ถึงเพียงนี้ เขาก็คงไม่หากห้ามตัวเองเพียงเพราะนางจูบเขาด้วยจุดประสงค์อื่นหรอก

” ดีอะไรกัน ! ปล่อยข้านะ ”

หลานเยาเยาเลียริมฝีปากที่บวมแดงเล็กน้อยของตัวเองแล้วกัดปากตัวเองด้วยความหดหู่

ทั้งที่จูบได้ย่ำแย่ขนาดนั้น แล้วทั้งที่ตอนยังมีสติก็สร้างเกราะกำบังในใจแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังหลงเข้าไปในกับดักนั่นอยู่ดี

แย่แล้ว !

ไหนพูดแล้ว ว่าจะเป็นสหายร่วมต่อสู้ที่บริสุทธิ์ใจต่อกัน ตอนนี้ดันจูบกันเสียแล้ว

จะทำยังไงดี?

“······”

เย่แจ๋หยิ่งไม่เข้าใจเล็กน้อย แต่ก็ยังปล่อยนางออกแต่โดยดี

เขารู้สึกได้ชัดเจนเลยว่านางเองก็ให้ความร่วมมือ ทำไมพอหยุดถึงได้เปลี่ยนสีหน้าเป็นคนละคนเสียแล้วเล่า?

ในขณะที่เขายังงงงวยอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นคราบแดงๆบนไหล่ เขาก็ไม่ได้ที่จะตะลึงงัน

เขาจึงรีบหันไปยังหลานเยาเยาที่กำลังขึ้นไปยังหลังม้าโดยทันที

ก็เห็นว่านางขมวดคิ้วแน่น ทั้งยังใช้แรงของมือข้างเดียวดึงตัวเองขึ้นม้าไป แต่แขนอีกข้างกลับถูกบดบังด้วยร่างเล็กของนาง

เขามิได้ถามอะไรทั้งสิ้นก็กระโดดขึ้นไปยังหลังม้า จากนั้นก็ดึงนางเข้ามายังอ้อมแขนของตัวเอง พลันเอาบังเหียนออกจากมือของนาง ทั้งยังหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสของแขนที่ได้รับบาดเจ็บของนางอีกด้วย

“ย่าห์······”

หลานเยาเยารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการกระทำอันกระทันหันของเขา จึงอดมิได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองเขา แต่ก็ได้เห็นว่าเขาเองก็ละสายตาจากทางข้างหน้าลงมายังร่างของนาง

แล้วยังโน้มลงมาจูบเบาๆบนผมที่เปียกปอนของนางด้วยความรวดเร็วอีก พร้อมด้วยแววตาที่เอาแต่ใจ

แม่เจ้า !

นี่เป็นเพราะนางไม่ปกติ หรือเย่แจ๋หยิ่งไม่ปกติกันแน่ ?

ในขณะเดียวกันในใจของนางก็ถูกบางสิ่งบางอย่างอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด จนทำให้ยิ่งรู้สึกขึ้นมามากยิ่งขึ้น

เดิมทีนางนั้นรู้สึกกังวลหดหู่มากอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ทำให้นางกังวลจะยังมาอยู่ตรงหลังของตัวเอง

หลังจากที่ควบม้ามาหยุดยังหน้าประตูจวนอ๋องเย่ ในขณะที่หลานเยาเยายังมิได้ตอบสนองสิ่งใด นางก็ถูกเย่แจ๋หยิ่งอุ้มลงจากหลังม้าเสียแล้วพร้อมทั้งยังพานางไปยังลานซวนซีอีกเสียด้วย

พ่อบ้านที่เห็นก็รีบยิ้มออกมาด้วยความปลาบปลื้ม

เหล่าองครักษ์เองที่พอเห็นเข้าต่างพาการลืมหน้าที่การลาดตระเวนไปเสียแล้ว ล้วนพากันมองไปยังท่านอ๋องของตัวเองอุ้มพระชายาเดินผ่านไป ก่อนจะตะโกนให้กำลังใจ

ครู่ต่อมา ณ ลานซวนซี

หลานเยาเยาและเย่แจ๋หยิ่งยืนเผชิญหน้ากัน สายตาของทั้งสองต่างก็แฝงด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

” ท่านกล่าวอะไรนะ ? ”

เมื่อสักครู่ตอนที่เข้ามาในห้อง เย่แจ๋หยิ่งกล่าวบางอย่างที่แปลกๆออกมาประโยคหนึ่ง ซึ่งทำให้นางยอมรับไม่ได้ จึงอดไม่ได้ที่จะถามอีกครา

” เมื่อคราก่อนข้าเคยกล่าวไว้ว่าไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้ เป็นเพราะข้าไม่สามารถปกป้องความบริสุทธิ์ของเจ้าได้ มิได้คิดที่จะหย่ากับเจ้าเลย ”

” จากนั้นเล่า? ” เพียงเท่านี้?

หลานเยาเยากระตุกมุมปากอย่างอดไม่ได้ ในตอนกลางวันได้กล่าวไว้เสียเป็นทางการเช่นนั้น คงไม่ได้อยากจะกล่าวเพียงเท่านี้หรอกสินะ !

” ไม่มีสิ่งใดจากนั้น รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย! ”

” ท่านไม่ออกไปรึ? ” หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง

คนที่ตัวเปียกชุ่มไปทั้งร่างก็ไม่ได้มีนางคนเดียวเท่านั้น เขาเองก็เปียกเช่นกันมิใช่หรือ?

ไม่เป็นไรหากเขาไม่คิดจะไปเปลี่ยนเสื้อ แต่จะมายืนนิ่งอยู่ตรงนี้ นี่เขาคิดจะอยู่ดูนางเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือไงกัน?

” ดูแล้วเหมือนเจ้าจะไม่ถนัด ให้ข้าช่วยแล้วกัน! ”

ห๊า?

หมายความว่าอันใดกัน?

นางที่ยังไม่ทันได้ตอบกลับสิ่งใดก็เยแจ๋หยิ่งเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าจากนั้นก็หยิบเอาชุดๆหนึ่งออกมาทั้งยังมีผ้าคลุมหน้าอกและกางเกง

ง้องั้นหรือ….

หลานเยาเยาหน้าแดงขึ้นมาทันทีพลางพูดอย่างระมัดระวัง

” ท่านจักทำสิ่งใดกัน ? ”

ทันทีที่เข้ามาในห้องก็อธิบายสิ่งที่กล่าวไว้ในตอนกลางวัน แล้วในเวลานี้ยังจะมาดูนางเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำให้ไม่สามารถที่จะอดคิดไปในทางที่ไม่ดีได้เลย

” ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้า! ” คำตอบของเขานั้นดูมีเหตุผล ไม่เป็นดังที่นางคิดไว้เสียเลยอย่างนั้น

” ไม่ต้องๆ ข้าทำเอง ท่านจะไม่ออกไปก็ไม่เป็นไร อย่าแอบดูก็พอ ”

นางหยิบเสื้อผ้าจากมือของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบไปยังด้านหลังที่กั้น

แต่ทว่า !

นางที่กำลังจะถอดเสื้อผ้าก็ได้ยินเสียงอันเรียบเฉยดังแทรกเข้ามา

“เจ้านาย ยามาแล้วขอรับ! ”

” อืม! ”

จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเย่แจ๋หยิ่งที่ยิ่งฟังก็ยิ่งใกล้นางเข้ามาทุกที ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

และแล้วไม่กี่วินาทีต่อมา เย่แจ๋หยิ่งก็มาถึงยังด้านหลังที่กั้น ไม่มีแม้แต่เวลาที่ให้นางได้หลบเลยเขาก็ตรงไปดูไหล่ที่ได้รับบาดเจ็บของนาง

” บาดเจ็บเพราะข้างั้นหรือ? ”

บาดแผลบนแขนของนางนั้นลึกอย่างมากแล้วยังมีเลือดไหลอยู่ตลอด

ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจสาเหตุที่นางรีบร้อนกลับมาแล้ว แต่เขายังจะไปสกัดนางไว้กลางทางอีก แล้วยังทำเรื่องเช่นนั้นกับนางอีก เมื่อพิจารณาดูแล้วก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย

” ท่านเลิกหลงตัวเองได้แล้ว ข้าไม่ทันได้ระวังจึงถูกฟันเอา”

” เจ้าได้รับบาดเจ็บก็เพื่อข้า! ”

ในคราก่อนที่หลานจิ่นเอ๋อจะได้รับบาดเจ็บ นางยังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น แต่หลังจากที่หลานจิ่นเอ๋อได้รับบาดเจ็บ ความสนใจของเขาก็เพ่งไปยังร่างของหลานจิ่นเอ๋อ ฉะนั้นคงจะได้รับบาดเจ็บในเวลานั้นเป็นแน่

“แขร๊ก······”

เย่แจ๋หยิ่งเอื้อมมือมาฉีดแขนเสื้อข้างที่ได้รับบาดเจ็บ แต่พอฉีกครั้งหนึ่งก็ฉีกไปทั้งเสื้อเสียแล้ว

การฉีกเสื้อนั้นถึงกับทำให้นางตะลึงงัน ในขณะที่นางกำลังจะเอ๋ยปากถาม องครักษ์ลับที่อยู่ข้างนอกก็ปรากฎตัวขึ้นอีกครา เพียงแต่ครานี้เขาไม่ได้กล่าวสิ่งใด

หลังจากที่เย่แจ๋หยิ่งหันหลังออกไป ในไม่ช้าเขาก็กลับมาพร้อมกับเตาไฟอันหนึ่ง จากนั้นก็วางมันลงยังข้างเท้าของนาง

แม่เจ้า!

อยู่ๆเย่แจ๋หยิ่งก็ช่วยก่อไฟในนาง พรุ่งนี้พระอาทิตย์จะขึ้นมายังทางทิศตะวันตกหรือไม่นะ ?

” ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าท่านคือเย่แจ๋หยิ่ง? ”

คนที่อยู่สูงและน่าเกรงขามอย่างเย่แจ๋หยิ่ง จุดไฟในนางงั้นรึ ?

หากประกาศออกไป คนอื่นคงจะคิดว่านางเป็นบ้าแล้วเป็นแน่

แต่แล้ว เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้ตอบคำถามของนาง ใช้เพียงสายตาที่เย็นชามองไปยังนาง ก่อนที่จะตวาดลงมายังร่างของนาง

เสื้อชั้นในสีขาวบริสุทธิ์และผ้าคลุมหน้าอกสีแดงสด ล้วนแต่เปียกชุ่มไปหมดทำให้ผ้าติดแนบกับร่างกายของนาง เป็นเหตุให้ยามที่นางขยับตัวดูแล้วน่าดึงดูด

เขาถึงกับกลืนน้ำไหลอย่างอดไม่ได้ จึงทอดสายตาไปทางอื่นแทน

เสื้อคลุมที่เปียกชุ่มก็ถูกฉีกจนขาดแล้ว แต่เสื้อชั้นในและผ้าคลุมหน้าอกเองก็เปียกหมดแล้วเช่นกัน แล้วเขาควรที่จักช่วยถอดให้นางด้วยหรือไม่ ?

ท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะช่วยนางทำแผลเสียก่อน ดังนั้นแขนเสื้อจึงถูกเขาฉีกออกจนขาดวิ่นแล้ว

“······”ช่างโหดร้ายเสียจริงที่ทำเช่นนี้ต่อเสื้อผ้าของนาง

นางต่อต้าน !

แววตาของเย่แจ๋หยิ่งก็ปรากฏให้เห็นความเจ็บปวดเล็กน้อยที่เห็นแผลลึกๆนั้นของนาง จากนั้นก็นำน้ำร้อนมาล้างทำความสะอาดแผลให้นาง

ในคราที่เขาเตรียมตัวจะทำแผลให้ หลานเยาเยาก็หยิบยาฆ่าเชื้อขึ้นมาขวดหนึ่ง

” นี่คือยาแก้อักเสบ ให้ทาก่อนที่จะทำแผล ”

ยังไงเสียเขาก็เคยเห็นนางหยิบสิ่งของจากกลางอากาศแล้ว ดังนั้นเมื่อหยิบของจากระบบออกมานางก็เลยทำต่อหน้าเขาเสียเลย

แม้ว่าเขาจะเคยเห็นมาแล้วหลายครั้งหลายครา แต่เขาก็ยังคงรู้สึกเหลือเชื่อในทุกครั้ง ครานี้เองก็เช่นกัน

” ได้! ”

หลังจากที่เขารับมาก็ทำตามสิ่งที่นางกล่าวไว้

หลังจากรอจนพันผ้าพันแผลเสร็จ เย่แจ๋หยิ่งก็มองยังใบหน้าของนางที่แม้จะซีดขาว แต่ดูราวกับว่าไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น เลยอดไม่ได้ที่จะจิ้มแขนของนาง

” ไม่เจ็บรึ? ”

” ไม่เจ็บ! ”

ยาแก้อักเสบเมื่อสักครู่นี้มีส่วนผสมของยาชาไว้ด้วย ดังนั้นจึงให้นางไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด

” ยาแก้อักอักเสบนั่นของเจ้า มิใช่เพียงมีฤทธิ์แก้อักเสบเท่านั้น แต่ยังมีฤทธิ์ยาชาด้วยงั้นรึ? ”

ไม่จำเป็นให้นางกล่าวสิ่งใด เย่แจ๋หยิ่งก็เดาออกแล้ว

“ก็ไม่เชิง!”

อย่างไรเสียยาที่นางหยิบออกมานั้นเป็นถึงยาที่เพิ่งเปิดใช้จากกลุ่มยาของระดับ 4 ซึ่งฤทธิ์ของมันมีมากกว่ายาแก้อักเสบและยาชาเป็นถึงเท่าตัว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท