หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 136 ได้รับบาดเจ็บ

บทที่ 136 ได้รับบาดเจ็บ

บทที่ 136 ได้รับบาดเจ็บ

หลังจากไปคราหนึ่ง เหล่าคนชุดดำก็ล้มไปถึงเจ็ดแปดคน

สุดยอด !

การยืมพลังนั้นช่างแตกต่างกันเสียจริง!

” ไม่เลว ! ” เสียงทุ้มดังแทรกขึ้นมาจากด้านข้าง คำชื่นชมนั้นแม้จะกล่าวออกมาอย่างไม่ตั้งใจแต่ก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

” นั่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เจ้าก็ไม่ช่างไม่ดูสักหน่อยว่าข้าเป็นใคร? ”

นางที่เดิมทีเป็นผู้ที่ชอบเปิดเผยอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำชื่นชมก็ยอมรับโดยไม่ปฏิเสธสิ่งใด

” อีกสักครั้ง? ”

“ได้!”

จากนั้น ทั้งสองก็ร่วมมือกันไปโดยปริยาย เย่แจ๋หยิ่งนั้นมิได้ลงมืออะไรมากนัก เพียงแต่เมื่อนางตกอยู่ในอันตรายเขาก็จะคอยจัดการผู้ที่อาจจะเข้ามาทำร้ายนางให้สิ้นซาก แล้วปล่อยให้นางสังหารพวกมัน

ในไม่ช้าบริเวณที่พวกเขาอยู่นั้น เหล่าคนชุดดำก็ตายและได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน

เซียวจิ่นหยูก็เริ่มรู้สึกชั่งใจอยู่เล็กน้อย เพราะประการที่หนึ่งคือต้องปกป้องหลานจิ่นเอ๋อ ประการที่สองเป็นเพราะหลานจิ่นเอ๋อเอาแต่จะไปยังฝั่งของเย่แจ๋หยิ่งนั้น

จึงเป็นเหตุทำให้เซียวจิ่นหยูตัดสินใจมิได้

ครู่ต่อมา !

หลานเยาเยาที่ทำการสังหารจนทำให้เหล่าคนชุดดำเกรงกลัวไปหมดแล้ว จู่ๆก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ปกติ

นางหันหน้าไปก็เห็นหลานจิ่นเอ๋อที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ข้างกายเย่แจ๋หยิ่งตั้งแต่คราใด แล้วยังจับแขนของเย่แจ๋หยิ่งไว้แน่นด้วยท่าทางที่เกรงกลัวอย่างมาก

มือข้างหนึ่งของเย่แจ๋หยิ่งจับมือนางเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ถูกหลานจิ่นเอ๋อรั้งเอาไว้ เมื่อมือทั้งสองไม่สามารถใช้การได้เรื่องเช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่อันตรายยิ่งนัก

“รีบปล่อยมือข้าเสีย!”

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ใช่เพียงนางที่จะได้รับบาดเจ็บเท่านั้น เยแจ๋หยิ่งเองก็อาจจะโดนลอบทำร้ายไปด้วย

เย่แจ๋หยิ่งก็พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ

ในขณะที่กำลังจะปล่อยนาง เขาก็หันไปเห็นว่าข้างหลังของนางคนชุดดำคนหนึ่งกำลังจะแทงมายังท้องของนาง

เย่แจ๋หยิ่งชักมือพลันดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง จากนั้นก็ใช้เท้าเตะคนชุดดำจนกระเด็นออกไป

หัวหน้าชุดดำเมื่อเห็นว่าด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่งไร้คนป้องกันก็ยกมีดฟาดลงไปยังหลังของเขา

หลานเยาเยาที่เห็นก็รับตะโกนเตือน

” ระวังข้างหลัง! ”

แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว นางหยุดมันไม่ทันเสียแล้ว

แต่ที่ทำให้นางประหลาดใจนั้นก็คือหลานจิ่นเอ๋อที่ตัวสั่นเกรงกลัวตลอดเวลาได้ขยับตัวแล้ว สิ่งที่เห็นก็เพียงแต่สายตาของนางที่หรี่ลงเล็กน้อยพร้อมกับช่วงสกัดมีดที่จะเข้ามาทำร้ายเย่แจ๋หยิ่ง

แล้วเซียวจิ่นหยูก็แทงหัวหน้าชุดดำอย่างรวด ในขณะที่เยแจ๋หยิ่งเอื้อมมือไปปกป้องหลานจิ่นเอ๋อนั้น หลานเยาเยาก็ปล่อยมือของเขาพร้อมกับเอื้อมมือไปสกัดคมดาบของคนชุดดำอีกคนหนึ่ง แล้วก็ฟาดดาบหลังมือไปฆ่าอีกสองคน

ฟู่…..

ความเจ็บปวดแสบร้อนบนไหล่ทำให้นางขมวดคิ้วอย่างอดมิได้

แต่ในไม่ช้านางก็ต้องกลับมาต่อสู้กับเหล่าคนชุดดำอีกครั้งเพื่อป้องกันด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่ง

หลานเยาเยาหยิบยาพิษออกมาจากระบบ ทามันลงไปยังปลายดาบ

แต่น่าเสียดายยิ่งนัก เพราะฝนที่ยิ่งนานฝนก็ยิ่งพรำลงมาหนักยิ่งขึ้น เลยเป็นเหตุให้ยาพิษเหล่านั้นไม่นานก็ถูกฝนชะล้างออกจนเกือบหมดแล้ว จึงทำให้พอฟาดดาบไปฟันเหล่าคนชุดดำ ฤทธิ์ของยาพิษจึงไม่เห็นผลมากเท่าไหร่

แต่ว่า ! มันกลับทำให้พวกเขาสูญเสียความสามารถทางการต่อสู้ไปได้ชั่วขณะ

เพียงไม่ช้า กลุ่มเหล่าคนชุดดำ ก็ได้รับบาดเจ็บและล้มตายไปเกือบครึ่ง แม้แต่หัวหน้าชุดดำเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

แต่ถึงฉะนั้นพวกเขาก็ยังมิยอมถอย ทั้งยังไม่หลบหนีไป

ราวกับว่าพวกเขาได้รับภารกิจตาย ที่หากทำไม่สำเร็จก็ไม่อาจถอยกลับได้

และแล้วการต่อสู้ที่ดังสะท้านกลางถนนนั้นก็ดังไปถึงยังสำนักในวังหลวง พร้อมทั้งองครักษ์ลาดตระเวนบางส่วน

เมื่อเห็นสถานการณ์ เหล่าคนชุดดำก็ต้องถอยออกอย่าเลี่ยงมิได้

หลานจิ่นเอ๋อได้รับบาดแผลบริเวณท้อง หากแต่ก็มิได้รุนแรงมากนัก แต่ถ้าปล่อยให้เสียเลือดเยอะก็เสี่ยงต่อชีวิตเช่นกัน

แต่กระนั้น ! หลานเยาเยาก็ไม่คิดที่จะทำการรักษานาง

ยังไงเสีย บนถนนทางเดินก็มีโรงยาอยู่บ้าง การต่อสู้ใหญ่เยี่ยงนี้พวกเขาคงต้องรู้เป็นแน่ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น

หลังจากที่เหล่าชุดดำ พวกเขาก็เร่งนำกล่องยาวิ่งมายังพวกเขา

หลานเยาเยาซ่อนแขนที่ได้รับบาดเจ็บไว้ข้างหลัง

เพราะบาดแผลเล็กน้อยบนไหล่เช่นนี้ นางอยากจะรักษาแผลด้วยตัวเอง แล้วยังไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้อีกเสียด้วย

เมื่อหันไปมองยังฝั่งของเย่แจ๋หยิ่งและหลานจิ่นเอ๋อแล้ว นางก็เดินไปยังตรงหน้าของเซียวจิ่นหยู

” ขอบใจยิ่งนัก! ”

” เพียงความช่วยเหลือเล็กน้อยเท่านั้น ” เซียวจิ่นหยูจัดเสื้อผ้าที่ยับเล็กน้อยพลางยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน

” วางใจเถิด! เรื่องความสามารถของเจ้าข้าจักไม่บอกแก่ผู้อื่นหรอก แต่สำหรับผู้อื่นนั้นข้าไม่สามารถจัดการได้ ”

พูดไปเขาก็พลันหันไปมองหลานจิ่นเอ๋อ

ก่อนจะจากไปก็ยังคงทิ้งคำพูดไว้

” นางเป็นคนที่มีเล่ห์อุบาย ยังไงเสียข้าเชื่อว่าเจ้าคงจะรับมือได้ยาก”

เหอะๆ !

เขามองออกเป็นทะลุปรุโปร่ง

ท่ามกลางสายฝน นางเฝ้าดูเซียวจิ่นหยูจากไป ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้าพูดกับเย่แจ๋หยิ่ง

” ข้ายังมีธุระต้องไปจัดการสักครู่ ท่านอ๋อง ท่านอยู่ดูแลนางเถิด ! ”

การต่อสู้เมื่อครู่ที่ผ่านมา ทำให้นางเข้าใจแล้ว

พวกเขาถือเป็นสหายร่วมต่อสู้ที่ดีต่อกัน !

เพียงเท่านั้น !

” เจ้าอยู่ที่นี่รอข้าเถิด ” เย่แจ๋หยิ่งมองนางด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายออกมาได้

” ข้าอยู่ที่นี่รอท่านมิได้หรอก ข้ายังมีธุระ ”

เพราะประการแรกคือนางต้องรักษาแผลให้ตัวเอง และอีกประการคือนางยังต้องกลับไปที่จวนอ๋องเย่เพื่อตามหาหีบใบนั้น

หลานจิ่นเอ๋อที่จับเสื้อผ้าของเย่แจ๋หยิ่งตลอดมิยอมปล่อยก็กล่าวว่าอยู่ท่ามกลางสายฝนยากต่อการทำแผล ต้องเข้าไปข้างในถึงจะได้

เย่แจ๋หยิ่งจิตใจหนักแน่นจึงหยิบดาบขึ้นมาตัดชายเสื้อตรงที่หลานจิ่นเอ๋อจับไว้อยู่จนขาด

แต่ทว่า !

ก่อนที่เย่แจ๋หยิ่งกำลังจะลุกขึ้นหลานจิ่นเอ๋อก็กล่าวอะไรบางอย่าง เลยทำให้เขานั่งลงไปอีกครั้ง

หลานเยาเยามองเห็นสายตาที่หลานจิ่นเอ๋อจ้องมาที่นาง จนนางไม่สามารถกล่าวได้ว่านั่นเป็นสีหน้าอย่างไรกัน แต่กลับรู้สึกราวว่านางจะพรากเย่แจ๋หยิ่งไปเสียอย่างนั้น

นางรู้สึกว่าช่างเป็นเรื่องน่าขันอย่างอธิบายไม่ถูก !

หากเป็นของของเจ้าไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็พรากไปมิได้ แต่หากไม่ใช่ของเจ้าจะรั้งเยี่ยงไรก็รั้งไว้มิได้อยู่ดี

หลานเยาเยามิได้พร่ำอะไรมากนัก ก็ไปขอยืมม้าจากข้ารับใช้ เมื่อขึ้นยังหลังม้าตัวสูง นางก็ฟาดแส้แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

เย่แจ๋หยิ่งที่นั่งอยู่นาน เมื่อไม่เห็นหลานจิ่นเอ๋อกล่าวสิ่งใด ก็ถึงกับขมวดคิ้วหนักยิ่งขึ้น

แล้วครู่ต่อมา !

เย่แจ๋หยิ่งก็เริ่มกล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์

“ที่ข้าทำตามใจเจ้าคราสองครา มิใช่เพราะเจ้านั้นมีความพิเศษอันใด แต่เพราะสิ่งที่เจ้ารู้นั้นมีความเกี่ยวข้องกับท่านแม่ แล้วก็หลานเยาเยาก็ไม่ได้เกลียดชังเจ้านักหรอก มิเช่นนั้นละก็ตอนนี้เจ้าคงได้กลายเป็นศพไปแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะจำได้หรือใช้สิ่งนี้มาใช้ประโยชน์ สิ่งเหล่านี้ข้ากฌไม่อยากจะถามอีกต่อไปแล้ว เจ้ามีเวลาเพียงค่ำคืนเดียวเท่านั้น หากเจ้ายังไม่พูด ข้าจักพาเจ้าไปประมูลราคาที่จวนแม่ทัพเสีย”

กล่าวจบ เย่แจ๋หยิ่งก็ลุกขึ้น

แต่ทว่าเขาก็ไม่เห็นร่างของหลานเยาเยาเสียแล้ว เขาเดินมายังหน้าองครักษ์นายหนึ่ง

” พระชายาเล่า? ”

องครักษ์ส่ายหน้า

เขานั้นมัวจัดการกับร่างของเหล่าคนชุดดำทั้งยังตรวจหาหลักฐาน เลยมิได้ทันสังเกตุการกระทำใดๆของพระชายาเย่

” รายงานอ๋องเย่ขอรับ พระชายาขอม้าไปตัวหนึ่งพร้อมกับควบมุ่งหน้าไปยังจวนแล้วขอรับ” คนใช้รายหนึ่งที่ส่งม้าให้นางรีบเข้ามารายงานทันที

มองดูเย่แจ๋หยิ่งเดินจากไปไกล ดวงตาของหลานจิ่นเอ๋อก็แดงขึ้นมาทันที

เพราะเหตุใดกัน?

นางยอมสละชีพเพื่อเขาแล้ว เขาก็ยังไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลยรึ? แม้แต่พื้นที่เพียงเล็กน้อยก็ไม่มีเสียเลย

ทั้งหมดเป็นเพราะหลานเยาเยา เหตุใดนางถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ก่อนที่ตนต้องการจะกลับมาเช่นนี้ ?

ครานี้แพ้แล้วก็ไม่สำคัญอันใด ยังไงเสียก็ยังมีคราหน้า

······

ค่ำคืนฝนพรำ ราวกับน้ำหมึกที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ฝนที่ยิ่งตกก็ยิ่งหนักขึ้นก็ราวกับผ้าม่านที่ร่วงลงมาทับถมให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ออก

” ย่าห์….”

” ตุบๆๆ….”

บนถนน ม้าและคนผู้หนึ่งกำลังวิ่งฝ่าฝนห่าใหญ่

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท