หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 134 การพบเจอที่ตลาดกลางคืน

บทที่ 134 การพบเจอที่ตลาดกลางคืน

บทที่ 134 การพบเจอที่ตลาดกลางคืน

หลานเยาเยานั่งอยู่หน้าเวทีละครมาประมาณครึ่งชั่วยาม ที่นั่งข้างๆเป็นที่นั่งที่เว้นไว้สำหรับจ้าวซื่อและเย่แจ๋หยิ่ง แต่กลับไม่มีใครมาสักที และที่นั่งสำหรับหลานจิ่นเอ๋อก็ไม่มีคนเช่นกัน

สายตาของหลานเยาเยามองตรงไปยังเวทีละคร บนเวทีมีเงาของคนมากมาย นี่น่าจะเป็นการแสดงที่ได้รับความนิยมที่สุดในเวลานี้

ทว่า นางไม่ได้ตั้งใจฟังการแสดงเลยสักนิด แต่กลับหยิบองุ่นเข้าปากตัวเองเรื่อยๆ องุ่นที่ปกติแล้วมีรสหวานแต่ตอนนี้กลับรู้สึกเปรี้ยวฝาดขึ้นมา

ทันใดนั้น!

ข้างกายมีคนนั่งลง

หลานเยาเยาเหลือบไปมองแวบหนึ่ง แต่กลับตกใจเล็กน้อย

คนที่อยู่ข้างๆสุภาพอ่อนโยน แววตาใสบริสุทธิ์ ให้ความรู้สึกสบายเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ!

เซียวจิ่นหยู?!

ทำไมเขาถึงยังอยู่ที่จวนแม่ทัพ?

อีกทั้งยังนั่งที่ตรงนี้อีก แม้ว่าที่ตรงนี้จะเป็นที่ของเย่แจ๋หยิ่ง แต่ก็เป็นที่ที่อยู่ข้างๆนาง

เมื่อเห็นนางกำลังมองเขาอยู่ เซียวจิ่นหยูก็หันมายิ้มพร้อมพยักหน้าให้นาง

หลังจากที่หลานเยาเยาพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบรับ ก็ละสายตาไป เดิมทีที่ไม่มีกะจิตกะใจดูการแสดง บวกกับมีเรื่องให้ครุ่นคิดภายในใจ กระนั้นยิ่งทำให้นางหมดอารมณ์ขึ้นไปอีก

หลังจากผ่านไปสักพัก

นางเห็นจ้าวซื่อลุกขึ้น เดินไปทางหลานเฉินมู๋ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินไปทางห้องนอนของหลานเฉินมู๋

หลานเยาเยาหลับตาลงนิดนึง หยิบถ้วยชาขึ้นมาควง จากนั้นก็เททิ้งไป

“ไอหย๊า!”

“พระชายาเย่เป็นอะไรหรือเพคะ?”

สาวใช้ที่รับใช้อยู่ข้างๆ รีบเข้ามาตรวจดูทันที

“ไม่เป็นไร เพียงแค่ทำน้ำชาหกเล็กน้อย ข้าจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า!” ขณะพูด นางก็ลุกขึ้น

สาวใช้ต้องการจะตามไปรับใช้ หลานเยาเยาก็โบกมือ : เสี่ยวฮัวอยู่ตรงลานที่พักของข้า ให้นางรับใช้ข้าก็พอ”

ดังนั้นนางสามารถหลุดจากการตามรับใช้ของสาวใช้มาได้ หลานเยาเยาเดินตรงไปทางลานที่นางอาศัย เมื่อเดินถึงบริเวณโถงทางเดิน นางจึงรีบหลบออกไปทันที

ในห้องนอนของหลานเฉินมู๋

จ้าวซื่อพิงอยู่บนตัวหลานเฉินมู๋ สีหน้าอ่อนโยน พร้อมน้ำเสียงที่นุ่มนวล

“นายท่าน ทำไมท่านถึงได้กลับมาช้านัก? อ๋องเย่และเซียวซื่อจื่อก็อยู่ที่จวนนะจ้าวคะ! ท่านจะให้ข้ารับมือเพียงผู้เดียวได้อย่างไร?”

“เอาเถอะๆ ข้าก็กลับมาแล้วไม่ใช่หรือ? อีกอย่าง เจ้าก็รับมือได้ดีนี่! ได้ยินมาว่าวันนี้เจ้าไปจัดการทำความสะอาดลานของฉูซื่อด้วยตัวเองเชียวหรือ?

ครั้งหน้าเรื่องแบบนี้ เจ้าให้คนใช้ไปจัดการก็ได้ ทำไมต้องไปจัดการเองให้เหนื่อยด้วยเล่า?

หลานเฉิงมู๋เกิดความรู้สึกเอ็นดูจ้าวซื่อ เอามือทั้งสองข้างกุมมือนางไว้แน่น

หากรู้เร็วกว่านี้ว่าจ้าวซื่อเฉลียวฉลาดกว่านิ่งซื่อ ทั้งยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระตัวเองได้ ตอนนั้นเขาคงไม่เชื่อคำยุยงของนิ่งซื่อ โดยส่งจ้าวซื่อสองแม่ลูกออกไปข้างนอกหรอก

“นายท่าน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ทำให้เหนื่อยจ้าวคะ ข้าเพียงแค่ระลึกถึงคุณหญิงฉู คิดถึงเมื่อปีก่อน มีเพียงแค่คุณหญิงฉูที่สนิทชิดใกล้กับข้า น่าเสียดายที่นางจากไปเร็ว

นางช่วยข้าไว้มากมาย แต่มาวันนี้ ลานที่คุณหญิงฉูเคยพักอาศัยมาก่อน ข้าก็ควรจะช่วยนางฟื้นฟูให้เหมือนเมื่อก่อน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อดวงวิญญาณของนางที่อยู่บนฟ้า

พูดไปพูดมา

ดวงตาของจ้าวซื่อก็มีน้ำตารื้นขึ้นมา ยิ่งทำให้หลานเฉินมู๋สงสารจับใจ

“พอเถอะๆ อย่าเสียใจไปเลย การได้พบเจ้า ถือเป็นเกียรติของฉูซื่อ”

“เอ๊ะ! จำได้ว่าคุณหญิงฉูยังมีกล่องอีกใบหนึ่ง เป็นสิ่งที่นางหวงแหนมาก นางจะหยิบออกมาดูแทบทุกวัน น่าเสียดาย กล่องที่นางหวงแหนใบนั้นถูกฝังไว้ใต้ซากปรัก……

แววตาของฉูซื่อแสดงออกถึงความเสียใจเป็นที่สุด

ทั้งยังรู้สึกผิดมากในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าการที่กล่องใบนั้นถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักเป็นสิ่งที่นางทำผิดพลาดไป

ในเวลานี้!

หลานเฉิงมู๋ตีมือนางเบาๆ เพื่อบอกนางว่าไม่ต้องเป็นกังวล

“อ่อ~~ไม่ต้องกังวลไป กล่องใบนั้นของฉูซื่อได้ส่งไปที่จวนอ๋องเย่เพื่อเป็นสินสอดแต่งงานแล้วหล่ะ”

“อะไรนะจ้าวคะ? ส่งไปที่จวนอ๋องเย่แล้วหรือ?”

จ้าวซื่อได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ในแววตาของหลานเฉินมู๋แสดงออกถึงความประหลาดใจเล็กน้อย นางถอนหายใจด้วยความดีใจ

นางค้นหามาตั้งนาน คิดไม่ถึงเลยว่าจะอยู่ที่จวนอ๋องเย่

แต่นี่เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก!

การเข้าไปในจวนอ๋องเย่ไม่ง่ายเลย!

“กล่องใบนั้นไม่ได้มีราคาอะไร เป็นเพียงแค่ของที่ระลึกของคุณหญิงฉูเท่านั้น จะใช้เป็นสินสอดได้อย่างไรกัน? ไม่ดูน่าเกลียดไปหรือจ้าวคะ?

พูดราวกับว่าคิดแทนคุณหญิงฉูและหลานเยาเยาทุกเรื่อง ยิ่งทำให้ได้รับความเห็นใจจากหลานเฉินมู๋เป็นอย่างมาก

“เจ้าเนี๊ย ไม่ต้องไปคิดแทนคนมาก คิดถึงเรื่องตัวเองน้อยไป เมื่อฉูซื่อยังมีชีวิตได้ฝากฝังกล่องใบนี้ไว้ ว่าหากหลานเยาเยาออกเรือน ให้ใช้เป็นสินสอด ตอนนี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะ?”

กล่องใบนั้นเขาก็เคยเห็น เป็นกล่องธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้มูลค่าอะไร

ใช้เป็นสินสอดก็ใช้เป็นสินสอด!

“ไม่ได้ถูกฝังอยูใต้ซากปรักก็ดีแล้ว ข้าเป็นกังวลมากไปเองจ้าวคะ” จ้าวซื่อเหลือบมองหลานเฉินมู๋ด้วยรอยยิ้มที่เสแสร้ง จากนั้นก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเขา

เสียงสนทนาจากในห้องเล็ดลอดออกมาเป็นระยะๆ หลานเยาเยาที่อยู่ด้านนอกหน้าต่าง แววตาแฝงด้วยความโศกเศร้า

กล่องอยู่ในมือนางมาโดยตลอดตั้งแต่แรก

ในเมื่อจ้าวซื่อสนใจกล่องของท่านแม่มากขนาดนั้น นางรู้ว่ากล่องนั้นอยู่ในมือตัวเอง จะต้องคิดวิธีเพื่อให้ได้กล่องมาแน่

ไม่ได้!

ตอนนี้นางจำเป็นต้องกลับไปที่จวนอ๋องเย่ เพื่อดูว่าข้างในกล่องมีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่?

คิดถึงจุดนี้ หลานเยาเยาจึงรีบออกไปทันที เดิมทีนางคิดจะปีนกำแพงออกไป ปีนได้ครึ่งนึง ก็เห็นกลุ่มคนพวกนั้นของฮัวหยู่อัน นั่งอยู่นอกกำแพง

คงจะกำลังนั่งรอคอยอยู่ รอฮัวหยู่อันแอบวิ่งออกมา

ไม่มีทางอื่น!

นางจึงกลับไปทางประตูหลัก ก่อนจะเดินออกไปหน้าประตูก็เจอกับสาวใช้ที่มาตามหานาง นางพูดเพียงว่า จะออกมาเดินเล่น

ใช่ เวลากลางคืนแบบนี้แหละที่ออกมาเดินเล่น ท้องฟ้าก็เพิ่งจะเริ่มมืด ออกมาเดินเล่นก็ไม่น่าจะแปลกอะไร

แต่ทว่า มันคงเป็นเรื่องบังเอิญ

เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู ก็พบกับเซียวจิ่นหยู เขาไม่ได้ขี่ม้า แต่กลับจูงม้าเดินไปอย่างเงียบๆ

เดิมทีหลานเยาเยาไม่ได้คิดอยากจะคุยด้วย แต่จะทำเช่นไรได้ในเมื่อพวกเขาต้องเดินไปในทางเดียวกัน!

สองคนที่รู้จักกัน คนหนึ่งเดินด้านหน้าอีกคนเดินตามหลัง แต่ก็ห่างกันไม่มาก ถ้าไม่ทักทายก็คงจะเป็นการเสียมารยาท

ดังนั้น……

“บังเอิญจังเลย! เซียวซื่อจื่อไม่ดูละครแล้วหรือ?”

เมื่อได้ยินเสียงนาง เซียวจิ่นหยูก็หันหลังกลับมา พยักหน้าเล็กน้อยตอบรับนาง

“ดูจบไปตอนนึงแล้ว แต่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืด ควรต้องกลับแล้ว พระชายาเย่ นี่ท่าน……?”

“ดูละครอะไรพวกนั้น น่าเบื่อจะตาย ไม่เหมาะกับข้า ข้าจึงออกมาเดินเล่น ปกติแล้วข้าชอบไปตลาดกลางคืน” ในเมื่อ ตลาดกลางคืนทั้งสวยและมีของกินมากมายไปหมด

เซียวจิ่นหยูพยักหน้าด้วยความเข้าใจ จากนั้นยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า:

“แสดงว่าพระชายาเย่ต้องมุ่งหน้าไปถนนของกินเล่นที่ตลาดกลางคืนแน่ๆ!”

“เหอะๆ……”

หลานเยาเยายิ้มด้วยความเขินอาย

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเรื่องต้องจัดการ ข้าจะมุ่งหน้าไปที่ถนนของกินเล่นแน่นอน น่าเสียดายที่ตอนนี้นางต้องกลับจวนอ๋องเย่

แต่ทว่า……

กลับจวนอ๋องเย่ก็ต้องผ่านถนนของกินเล่น ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า

จากเดิมที่นางคิดไว้ว่าจะเดินทางกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ในเมื่อข้ากายมีเซียวซื่อจื่อที่สุภาพเรียบร้อยอยู่ด้วย นางก็ทำได้เพียงแค่อดทนไว้และเดินไปอย่างช้าๆ

ทั้งสองพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย โดยที่ไม่รู้ว่า ขณะนี้ได้เดินมาถึงถนนของกินเล่นโดยไม่รู้ตัวเลย

เซียวจิ่นหยูเป็นผู้เตือน ไม่เช่นนั้นนางก็ยังไม่ทันได้สังเกต

เมื่อมาถึงถนนของกินเล่น หลานเยาเยาเงยหน้ามองดู ตลาดกลางคืนมีตั้งวางของกินไว้มากกว่าตอนกลางวันอย่างเห็นได้ชัด

กลิ่นหอมอบอวลจากของกินมากมายโชยมาแตะปลายจมูก หลานเยาเยายืนอยู่หน้าถนนของกินเล่น ก็ขยับฝีเท้าไม่ออก!

เซียวจิ่นหยูที่เห็นดังนั้น ในแววตาเต็มไปด้วยไปด้วยรอยยิ้ม จึงไปซื้อของอาหารและยื่นมันให้แก่นาง

“ขอบคุณ!”

เรื่องอื่นไม่สำคัญ เรื่องกินสำคัญที่สุด

คำที่บอกว่ากินของเขาต้องทำดีกับเขา ตอนนี้หลานเยาเยาเริ่มรู้สึกดีกับเซียวจิ่นหยูมากขึ้น

ทันใดนั้น เมื่อพวกเขาทั้งสองเดินมาถึงถนนที่มีคนน้อย กลับพบกับเย่แจ๋หยิ่ง!

และข้างกายเย่แจ๋หยิ่งมีผู้ญิงที่ดูอ่อนโยนรูปงามหลานจิ่นเอ๋อยืนอยู่ด้วย……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท