บทที่ 555 อัญเชิญทหารองครักษ์
[หม่าฉางหมิง : ขอบเขตมืดขั้นสูงสุด หนึ่งในห้าผู้อาวุโสสำนักของวังเมฆาสีชาด ฝึกฝนฝ่ามือเมฆโศกา วิชากระบี่พยัคฆ์ลายจุด…]
อู๋ฝานใช้วิชาตรวจสอบกับชายหน้ากลุ่มคนเหมือนดังที่เคยทำ
เมื่อเผชิญหน้าอีกฝ่ายที่เข้ามาท้าทาย เขาถึงกับต้องส่ายศีรษะ “แกไม่มีคุณสมบัติพอจะสู้กับฉัน ถ้าอยากจะฆ่าฉันก็ส่งเจ้าสำนักอย่างเมิ่งข่ายออกมา ไม่ใช่คนอย่างแก”
“อวดดี!” หม่าฉางหมิงคำรามอย่างกราดเกรี้ยว “ฆ่าแกจำเป็นต้องให้เจ้าวังลงมืองั้นเหรอ? แค่มือข้างเดียวของฉันก็เหลือเฟือแล้ว!”
“ฉางหมิงอย่าผลีผลาม นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน” ผู้อาวุโสสวีที่นอนอยู่กับพื้นพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอ่ยเตือน
ผู้อาวุโสสวีและหม่าฉางหมิงมีกำลังทัดเทียมกัน เขาเองยังถูกชายหนุ่มเล่นงานจนมีสภาพเลวร้ายแบบนี้ หากหม่าฉางหมิงปะทะกับอู๋ฝานย่อมไม่มีโอกาสชนะเช่นเดียวกัน
แต่เห็นได้ชัดว่าหม่าฉางหมิงไม่ได้คิดเช่นนั้น
“อย่าเอามาตรฐานของแกมาตัดสินความสามารถของคนอื่น! แกที่อายุมากละเลยการฝึกฝน จนตอนนี้พ่ายแพ้ให้กับคนหนุ่ม ครั้งนี้ที่แพ้ก็เพราะความอวดดีของตัวแกเอง! หากเรื่องนี้เปิดเผยออกไปมีแต่จะทำให้พวกเราวังเมฆาสีชาดต้องอับอาย!” หม่าฉางหมิงไม่รับความหวังดีของผู้อาวุโสสวี กระทั่งชี้หน้าด่าทออย่างเสียหาย
“แก!… เพราะหวังดีหรอกนะฉันถึงได้เตือน แต่ในเมื่อไม่ยินดีรับก็ช่างมันเถอะ! รนหาที่ตายด้วยตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องเข้าไปห้าม!” ผู้อาวุโสสวีตอบกลับอย่างโกรธจัด
“รนหาที่ตาย? ไอ้หนูเนี่ยน่ะนะ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” หม่าฉางหมิงหัวเราะดัง
ผู้อาวุโสสวีหน้าแดงจนม่วงคล้ำเพราะความโกรธ ทั้ง ๆ ที่เขามีสภาพชวนน่าอับอายเช่นนี้ แทนที่จะเห็นใจ แต่หม่าฉางหมิงกลับฉวยโอกาสดูถูกเหยียดหยามเขาต่อหน้าผู้อื่น ทำให้เขายิ่งอับอายมากขึ้น อีกทั้งตนยังตระหนักจากท่าทีของเจ้าวังและเหล่าศิษย์เป็นอย่างดี สายตาเหล่านั้นกำลังมองมาอย่างดูแคลน มันทำให้เขาทั้งยิ่งอับอายและโกรธแค้น
ผู้อาวุโสสวีและหม่าฉางหมิงไม่ลงรอยกันมานาน แม้หวังดีเอ่ยเตือนอีกฝ่ายเพราะเห็นแก่สำนัก ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ได้รู้สึกนึกขอบคุณ!
‘ก็ดี! ฉันเตือนด้วยความหวังดีแล้ว แต่แกกลับตอบแทนด้วยการดูหมิ่นเหยียดหยาม ไอ้สารเลว!’ ผู้อาวุโสสวีสบถด่าหม่าฉางหมิงในใจ กระทั่งคาดหวังให้อู๋ฝานสั่งสอนอีกฝ่ายอย่างหนัก ทำให้หม่าฉางหมิงต้องอับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่พูดอะไรอีก และปล่อยให้อีกฝ่ายเผชิญเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่าตนเอง!
“ไอ้หนู ตายซะ!” หม่าฉางหมิงเมินผู้อาวุโสสวีพร้อมชี้ปลายกระบี่ยาวเข้าใส่อู๋ฝาน
อู๋ฝานไม่ใส่ใจ สายตามองเพียงเมิ่งข่าย “เจ้าวังเมิ่งคิดจะปล่อยให้ตาแก่นี่ฆ่าฉันแทนที่จะลงมือด้วยตัวเองงั้นสิ?”
“แกเรียกใครว่าตาแก่?!” หม่าฉางหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ชายหนุ่มยังคงเมินเฉยอีกฝ่าย สายตายังจับจ้องไปยังเมิ่งข่าย ราวกับกำลังรอคอยคำตอบ
“การฆ่าแกไม่จำเป็นต้องถึงมือฉันหรอก” เมิ่งข่ายตอบกลับด้วยท่าทีสงบ สีหน้าแสดงออกชัดถึงความเย่อหยิ่งและถือดี
เมิ่งข่ายคือเจ้าวังเมฆาสีชาด เป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของเจียงโจว หรือต่อให้มองทั่วทั้งประเทศก็ไม่ใช่ปลาเล็กปลาน้อย ยามเผชิญหน้ากับคนที่ไร้ชื่อเสียงเช่นอู๋ฝาน อาศัยเพียงความต่างทางสถานะเขาก็ไม่ยินดีจะลงมือด้วยตัวเองแล้ว กระทั่งเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายจบชีวิตตัวเองก็ยังถือเป็นความเมตตา ทว่าอีกฝ่ายยังคงต่อต้าน แต่เมิ่งข่ายก็ไม่ได้คิดจะลงมือด้วยตัวเอง เนื่องจากที่นี่คือฐานของวังเมฆาสีชาด มีคนอีกมากมายที่พร้อมจะลงมือจัดการกับชายหนุ่ม
“เอางั้นก็ได้” อู๋ฝานตอบรับอย่างสงบ “ตอนแรกฉันวางแผนมาหารือกับเจ้าวังเมิ่ง แต่ในเมื่อพูดแบบนั้นก็ไม่เป็นไร”
“ไอ้หนู หยุดพูดจาไร้สาระและเตรียมตัวตาย!” หม่าฉางหมิงที่เห็นอู๋ฝานเมินตัวเองหลายครั้งจึงโกรธจัด เขาคือหนึ่งในห้าผู้อาวุโสแห่งวังเมฆาสีชาด แต่อีกฝ่ายกลับเมินเฉยตนครั้งแล้วครั้งเล่าต่อหน้าผู้คนมากมาย หากปล่อยเอาไว้มีแต่จะยิ่งเสื่อมเสียต่อหน้าเหล่าศิษย์
หม่าฉางหมิงไม่คิดเสียเวลาอีกต่อไป ในเมื่ออีกฝ่ายไม่เข้ามารับความตาย เช่นนั้นเขาก็จะเป็นคนไปหยิบยื่นความตายให้เอง!
ขณะมองหม่าฉางหมิงที่พุ่งตัวเข้าหา สีหน้าของอู๋ฝานไม่ได้แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อย “ก็บอกไปแล้วว่าคนอย่างแกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”
“จะตายอยู่แล้วยังจะพูดมากอยู่อีก!” หม่าฉางหมิงคำราม
อู๋ฝานส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะมองทางเมิ่งขาย “เจ้าวังเมิ่ง อย่าคิดว่ามีแต่ตัวเองที่มีลูกน้องสิ ฉันเองก็มี!”
ทันใดนั้นเมิ่งข่ายก็ตกใจเพราะไม่ทราบความหมายในถ้อยคำของอู๋ฝาน นอกจากอีกฝ่ายแล้วคนอื่นที่นี่ก็มีแต่ศิษย์วังเมฆาสีชาด แล้วลูกน้องที่ชายหนุ่มเอ่ยถึงไปอยู่ที่ไหน?
และไม่นานเมิ่งข่ายก็ได้ทราบว่าลูกน้องที่อู๋ฝานพูดถึงเมื่อครู่แท้จริงแล้วอยู่ที่ใด
หลังอู๋ฝานเอ่ยคำจบ กลุ่มคนยี่สิบคนในชุดเกราะโลหะสีเงิน สวมหมวกเกราะ มีผ้าคลุมหลังสีขาว พร้อมหอกยาวในมือพลันปรากฏขึ้นตรงหน้า
กลุ่มคนเหล่านี้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ไม่มีใครในวังเมฆาสีชาด รวมถึงตัวเมิ่งข่ายทราบว่าคนเหล่านี้ปรากฏอย่างกะทันหันได้อย่างไร กระทั่งมายืนเคียงข้างอู๋ฝานโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
เหล่านี้คือลูกน้องที่อู๋ฝานเอ่ยถึงอย่างนั้นเหรอ?
“เหอะ แสร้งทำเป็นลึกลับ!” หม่าฉางหมิงก็ตกใจเพราะความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นกัน แต่ไม่นานก็ดึงสติกลับคืนมาพร้อมเผยท่าทีเหยียดหยัน เนื่องจากมีความมั่นใจในฝีมือของตนเอง ต่อให้มีคนเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องที่เขาจะฆ่าอู๋ฝาน!
“ฉางหมิง ระวังด้วย” เมิ่งข่ายเอ่ยเตือน เนื่องจากเขารู้สึกว่าการที่คนเหล่านี้ปรากฏตัวอย่างกะทันหันได้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ออร่าของพวกเขาแข็งแกร่ง และไม่คล้ายจะด้อยกว่าหม่าฉางหมิงเลยแม้แต่น้อย
ทว่าเมิ่งข่ายก็ต้องปัดการคาดเดาของตนเองทิ้ง เพราะหม่าฉางหมิงคือผู้อาวุโสแห่งวังเมฆาสีชาด พละกำลังถือเป็นแถวหน้าในบรรดาผู้อาวุโส หากทุกคนที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าหม่าฉางหมิงจะเป็นอย่างไร? ต่อให้มองทั่วทั้งประเทศ ก็มีสำนักเพียงน้อยนิดที่จะมียอดฝีมือจำนวนนี้ในครอบครอง
แม้ในใจคิดแบบนั้น เมิ่งข่ายก็ยังไม่อาจวางใจได้
“ขอให้เจ้าวังวางใจ! สังหารไอ้เด็กน้อยคนนี้เป็นเรื่องยากขนาดนั้นเลยรึไง?” เพื่อตอบรับคำเตือนของเมิ่งข่าย หม่าฉางหมิงมีท่าทีแตกต่างจากตอนตอบความหวังดีของผู้อาวุโสสวี ทว่าแท้จริงแล้วในใจแทบไม่ได้ใส่ใจจริงจังแต่อย่างใด
สิ้นคำกล่าว หม่าฉางหมิงจึงเคลื่อนไหวอีกครั้ง เป้าหมายของเขายังคงเป็นอู๋ฝาน หากใครขวางทางก็เพียงแค่ฆ่า!
“ใครขวางทางก็จงตายซะ!” หม่าฉางหมิงคำรามและปลดปล่อยออร่าแผ่พุ่ง
อู๋ฝานยืนอยู่ด้านหลังเหล่าทหารประจำราชสำนักแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงที่ตนอัญเชิญออกมา ท่าทีของชายหนุ่มสงบนิ่ง
“ฆ่า!”
เมื่อหม่าฉางหมิงอยู่ห่างจากรูปขบวนเหล่าทหารเพียงสิบเมตร หนึ่งในทหารพลันตะโกนเสียงดังขึ้นพร้อมแกว่งไกวหอกในมือ และชี้ส่วนปลายเข้าหาหม่าฉางหมิงหมายสังหาร
“ตึง!”
หอกและกระบี่ปะทะกัน ประกายไฟจากการปะทะปะทุออกมา หม่าฉางหมิงสะบัดข้อมือหมายใช้กระบี่แทงช่วงเอวของทหารประจำราชสำนัก ทางด้านเหล่าทหารก็ไม่ได้เชื่องช้า พวกเขาเก็บหอกในมือกลับพร้อมใช้ด้ามหมุนแนวนอน หมุนเท้าเล็กน้อยและย่อขาลง
“เคร้ง!”
หม่าฉางหมิงไม่อาจแทงเล่นงานทหารประจำราชสำนักได้ ทั้งยังถูกหอกของอีกฝ่ายสกัดและต้านรับเอาไว้
“บุก!” ทหารประจำราชสำนักตะโกนพร้อมเงื้อแขนขึ้น ปัดเอากระบี่ของหม่าฉางหมิงออกไปพร้อมยกเท้าขวาถีบหน้าอกอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
หม่าฉางหมิงถูกถีบอย่างกะทันหัน เรี่ยวแรงอันมหาศาลทำให้เขาต้องถอยหลายก้าว
“ฆ่า!”
ทหารประจำราชสำนักผู้นั้นตะโกนเสียงดังขึ้นอีกครั้ง หอกในมือเคลื่อนไหวเป็นแบบแผนหมายจะสังหารหม่าฉางหมิงอีกครั้งหนึ่ง!