หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่153 ห้ามให้นางหนีไป

บทที่153 ห้ามให้นางหนีไป

บทที่153 ห้ามให้นางหนีไป

ในห้องหนังสือ

สายตาเย็นชาของเย่แจ๋หยิ่งไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ นิ้วเรียวยาวดูเหมือนเคาะลงบนโต๊ะอย่างไร้ระเบียบ เวลาผ่านไปนานถึงเอ่ยปากขึ้นมาอย่างเย็นชา

“ไปหาคนที่อยู่เบื้องหลังมาให้ข้า ถ้าเป็นคนในพระราชวังก็ไม่ต้องเกรงใจ”

หลังจากพ่อบ้านเหมยรับคำสั่ง คิ้วที่ขมวดอยู่ก็ยังไม่คลายลง

“ท่านอ๋อง แล้วข่าวลือพวกนั้นควรทำอย่างไร?”

ในเมื่อท่านอ๋องก็รู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ ทำไมไม่บอกให้พระชายารู้?

หรือว่าท่านอ๋องกับพระชายามีความขัดแย้งกัน?

“ควบคุมมันหน่อยก็ได้แล้ว!”จะให้หลานเยาเยาสบายใจมากไปไม่ได้ ไม่งั้นถ้าไม่ทันระวังก็จะทำให้นางหนีไปจากข้างกายเขา

“ขอรับ ท่านอ๋อง!”

หลังจากพ่อบ้านรับคำสั่งก็ถอยหลังออกไป ขณะนี้ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากหน้าต่างของห้องหนังสือจากนั้นก็มีผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นต่อสายตาของเย่แจ๋หยิ่ง

คนที่มักไม่เดินผ่านประตูห้องถ้าไม่ใช่โม่เหลียงเฉินแล้วจะเป็นใคร?

เขาจะไม่เดินมาทางประตูหลักอยู่เสมอ สำหรับห้องหนังสือของเย่แจ๋หยิ่งก็ยิ่งเหมือนเดินในบ้านตนเองยังไงอย่างงั้น

“มีธุระ?”

เย่แจ๋หยิ่งไม่แม้แต่จะยกหัวขึ้น สำหรับการปรากฏตัวของเขาทำให้ต้องขมวดคิ้ว

“ไม่ต้อนรับข้าขนาดนี้เลย? ข้าเป็นสหายที่ปรึกษาที่ดีของเจ้า ข้ามีบางเรื่องมาเตือนเจ้าโดยเฉพาะ”โม่เหลียงเฉินที่เข้าใจนิสัยของเย่แจ๋หยิ่งอย่างดีมานานแล้ว สำหรับท่าทีตอนนี้ของเย่แจ๋หยิ่งจึงไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด

“พูด”

ดูเหมือนรู้ว่าโม่เหลียงเฉินจะพูดอะไร ร่างกายของเย่แจ๋หยิ่งอดไม่ได้ที่จะหยุดนิ่งเล็กน้อย

“วันก่อนเรื่องที่เจ้าสั่งให้ข้าไปตรวจสอบมีเบาะแสใหม่แล้ว”

โม่เหลียงเฉินเทชาให้ตนเอง ยกเท้าเตรียมจะก้าวขึ้นบนเก้าอี้ก็ถูกสายตาเย็นชาของเย่แจ๋หยิ่งมองมาจึงรีบนั่งลงดีๆอย่างเชื่อฟังพร้อมทั้งพูดต่อว่า:

“สำหรับการเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของหลานเยาเยาข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากพูดแต่ก็มีบางเรื่องที่เจ้าควรรู้ นางไม่ธรรมดา อีกทั้งช่วงนี้นางได้ติดต่อกับเซียวซื่อจื่อของพระตำหนักเจ้าพระยาซื่อสัตย์ ตามที่ข้ารู้มาพวกเขาไม่รู้จักกันมาก่อน”

เซียวจิ่นหยูมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก คนทั่วไปประเมินค่าเขาสูงมาก เขาเองก็เก็บตัวไม่สนใจผู้อื่นเสมอไม่เคยได้ยินว่าเคยติดต่อกับหญิงคนไหน

แต่ว่า!

ในช่วงไม่กี่วันนี้ เซียวจิ่นหยูมีการติดต่อกับหลานเยาเยาสองสามครั้งซึ่งทุกครั้งดูเหมือนเป็นความบังเอิญ

แต่บังเอิญมากไปก็ไม่บังเอิญ

“นางไม่ใช่สายลับ!”น้ำเสียงหนักแน่นไม่อาจปฏิเสธ

พอนึกถึงตอนนึงที่หลานเยาเยากับเซียวจิ่นหยูเจอกันตอนอยู่ที่จวนแม่ทัพ ฉากที่นางหัวเราะอย่างเบิกบาน ทันใดนั้นความไม่พอใจก็ผุดขึ้นในใจ

“แต่นางรู้จักกับคนของราชวงศ์เก่า ในมืออาจจะยังมี……”

คำพูดด้านหลังโม่เหลียงเฉินไม่ได้พูดให้จบ แต่เขาก็รู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งรู้ว่าเขาพูดอะไร

“สรุปเจ้าอยากพูดอะไร?

เย่แจ๋หยิ่งอดขมวดคิ้วไม่ได้ โม่เหลียงเฉินพูดกับเขาไม่เคยพูดครึ่งไม่พูดครึ่งแต่วันนี้กลับไม่ชี้แนะคำพูด

“อะแฮ่ม ในฐานะที่เป็นสหายที่โตมาด้วยกัน ได้เห็นเจ้าเอาใจใส่ผู้หญิงข้าก็ดีใจ แล้วก็รู้ว่าเจ้านี้ไม่อ่อนไหวง่ายๆถ้าได้อ่อนไหวแล้วก็จะไม่ล้มเลิก

แต่ในฐานะที่ปรึกษาก็มีคำที่ต้องขอชี้แนะ ความคิดนึงเป็นสวรรค์,ความคิดนึงเป็นนรก เจ้าไม่ได้เป็นแค่เจ้า”

ความหมายที่แท้จริงของประโยคนี้ มีเพียงแต่เขาและผู้ที่ติดตามเย่แจ๋หยิ่งอย่างซื่อสัตย์เท่านั้นถึงจะเข้าใจ

ได้ยินดังนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก หลังจากเงียบไปนิดนึงก็เอ่ยปากพูด

“นางจะไม่กลายเป็นภาระของข้า!”

ในเมื่อเขาแน่ใจขนาดนี้ โม่เหลียงเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่พอคิดถึงหลานเยาเยาเคยคุยโม้โอ้อวดไว้ว่าต้องการยึดอำนาจจวนอ๋องเย่และต้องการกวาดเย่แจ๋หยิ่งออกไปก็อดเบะปากไม่ได้

ผู้หญิงแบบนี้ประมาทเลินเล่อเกินไป เย่แจ๋หยิ่งชอบอะไรในตัวนาง?

ทั้งสองคนคุยกันบางเรื่องก็ถึงเวลาที่โม่เหลียงเฉินจะอำลา เสียงของเย่แจ๋หยิ่งดังขึ้นมาอย่างเอ้อระเหย:

“สาวใช้ข้างกายนางที่เพิ่งมาใหม่เป็นคนของชาวหยินไห่ ในช่วงปีนี้ชาวหยินไห่เกิดการขัดแย้งภายใน เจ้าไปสืบจุดประสงค์การมายังเมืองหลวงของนาง”

“ได้!”

เรื่องเล็กอย่างนี้ไม่ต้องใช้เวลาสามวันก็รับรองได้ว่าจะสืบได้อย่างชัดเจน

สำหรับสิ่งนี้ โม่เหลียงเฉินเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง

……

ห้องโถง,จวนอ๋องเย่

คุณหนูของแต่ละตำหนักต่างมารอกันนานแล้ว วันนี้พวกนางมีความสุขเป็นพิเศษ

ถ้าเป็นเมื่อก่อน อย่าพูดถึงการเข้ามาในจวนอ๋องเย่เลยแม้แต่เข้าใกล้จวนอ๋องเย่ยังไม่กล้า อย่างไรเสียอ๋องเย่ผู้กระหายเลือด เลือดเย็นไร้ความรู้สึกนั้นทุกคนก็รู้แล้ว

จะรู้ได้ที่ไหนกันว่าอ๋องเย่นั้นรูปงามราวกับเทพบุตร

เพียงจุดนี้ กระหายเลือดแล้วยังไง?

หลานเยาเยาที่เป็นพระชายาเย่ก็ยังมีชีวิตอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

ตอนนี้คนจำนวนมากในห้องโถงแทบอยากจะเลือกความผิดของหลานเยาเยาออกมา ให้อ๋องเย่หย่ากับนางแบบนั้นพวกนางถึงจะมีโอกาส

ในเมื่อเห็นว่าโอกาสดีขนาดนี้ พวกนางจะปล่อยไปได้ยังไงหล่ะ?

เมื่อตอนที่พวกนางกำลังคิดว่าหลานเยาเยาขี้ขลาดไม่กล้าออกมาพบพวกนางนั้น องครักษ์คนนึงที่ป้องกันประตูห้องโถงก็ตะโกนเสียงแหลมว่า:

“พระชายาเสด็จ!”

เสียงแหลมที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้เหล่าหญิงสาวด้านในตกอกตกใจยกใหญ่

แต่พวกนางก็รีบดึงสติลุกขึ้น

“คารวะพระชายาเย่!”

แม้หลานเยาเยาจะไม่ได้สวมชุดทางการของพระชายาแต่นางก็สวมชุดสีฟ้าไพลินหรูหรา เดิมทีนางที่ใส่อะไรก็เจ้าอารมณ์ไปหมด แต่หลังจากที่สวมชุดนี้ก็กดเหล่าคุณหนูที่แต่งตัวงดงามเพริศพริ้งไปซะหมด

ในน้ำเสียงที่ฉอเลาะนั้นจะมีสักกี่คนที่เรียกนางว่าพระชายาเย่อย่างจริงใจ?เมื่อมองไปยังทุกคนที่มีสีหน้าต่างกันออกไป หลานเยาเยาก็ยิ้มเรียบๆ

“พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ!”

หลังจากที่ทุกคนลุกขึ้นแล้วนั่งลงจนหมด นางถึงหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ

พูดคุยกับเหล่าคุณหนูอยู่พักหนึ่ง

ส่วนใหญ่พวกนางก็คุยจ๊อกๆแจ๊กๆ ส่วนหลานเยาเยาจิบชาฟังเงียบๆ

ผ่านไปพักใหญ่

นางก็รู้แล้วว่าในหมู่คุณหนูนี้ดูเหมือนมีลูกสาวภรรยาเอกของจวนเฉิงเสี้ยงเป็นศูนย์กลาง

จวนเฉิงเสี้ยง?!

ก็กะอีแค่น้องรอง ถังมู่หวั่นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง

งั้นก็น่าสนใจแล้ว

เมื่อมองน้ำเสียงท่าทางการพูดของนางที่ราวกับที่นี่เป็นจวนเฉิงเสี้ยงบ้านของนางเองแล้วนั้น สำหรับตนเองที่จะพูดไม่พูดนั้นดูเหมือนไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะสม

คุณหนูคนอื่นๆก็ยิ่งเข้าใกล้นางเวลาพูดทำให้นางดีใจจนปากแทบจะยกขึ้นบิน

ขณะนั้น!

ในบรรดาคุณหนูจู่ๆก็มีคนร้องดังขึ้นมา

“โอ๊ย ปวด ปวดท้องมาก! ข้าใกล้ตายแล้วใช่ไหม?”

สิ้นเสียง คุณหนูผู้นั้นก็ล้มลงไปกับพื้น ทั้งใบหน้าขมวดยู่ยี่เข้าด้วยกัน

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น

การแสดงก็ไม่รู้จักตั้งใจแสดงสักหน่อย สายตาเจ้านั้นแสดงแล้วหรอหน่ะ!

หลานเยาเยามองเงียบๆไม่ร้อนใจสักนิด แต่คุณหนูคนอื่นๆร้อนใจจนอีนุงตุงนังไปหมดแล้ว

“จู่ๆนางเป็นอย่างงี้ได้อย่างไร? ใบหน้านั่นน่ากลัวมาก!”

“ไม่รู้สิ!รีบให้คนไปเชิญหมอเร็ว!”

“วิชาการรักษาของพระชายาเย่ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรือ? ก่อนที่หมอจะมาเชิญให้นางดูก่อนเถอะ!”

“ใช่ๆๆ ให้พระชายาเย่ดูก่อน วิชาการรักษาของพระชายาเย่สูงขนาดนั้น นางต้องวินิจฉัยโรคออกมาได้แน่ บางทีก็ไม่ต้องไปเชิญหมอมาแล้วก็ได้”เมื่อพูดเช่นนั้น ทุกคนก็ทยอยหันมามองหลานเยาเยา

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท