ตอนที่ 1573 ปลอดภัย
“ซีผิงซื่อจื่อไม่ต้องเป็นห่วง เจ้าทิ้งคนไว้ส่วนหนึ่งก็ได้ ขอเพียงพวกเราอยู่ห่างกันถึงสิบลี้ ข้าจะปล่อยคนของเจ้าทันที…” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขึ้นช้าๆ “เจ้าไม่มีสิทธิ์มาต่อรองกับข้า!”
ที่ปรึกษาชุดดำขี่ม้าไปด้านหน้า จากนั้นกล่าวกับซีผิงซื่อจื่อเสียงเบา “ซื่อจื่อ พวกเราถอยห่างจากภูเขาไปเล็กน้อย ขอเพียงไม่ให้พวกเขาไปรวมตัวกับกองทัพใหญ่ของต้าโจวที่เมืองเส่อชวีได้ พวกเราก็สามารถไปรวมตัวกับกองทัพของเชื้อพระวงศ์คนอื่นและโจมตีเมืองที่จักรพรรดินีของต้าโจวอยู่ได้ขอรับ!”
หน้ากากเงินของเซียวหรงเหยี่ยนโดนแสงของคบเพลิงจากทหารของทั้งสองฝ่ายที่ชูขึ้นส่องกระทบจนเห็นอย่างริบหรี่ เขามองอย่างรอคอยคำตอบจากซีผิงซื่อจื่อ
“ตกลง…” ในที่สุดซีผิงซื่อจื่อก็ยอมตอบตกลง เขาออกคำสั่ง “ถอยทัพไปห้าลี้!”
“ถอยไปทางเมืองซีผิงจวิ้น…” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสริมขึ้นอีกประโยคอย่างไม่รีบร้อน
ซีผิงซื่อจื่อกำบังเหียนม้าแน่น จากนั้นมองไปทางที่ปรึกษาชุดดำอีกครั้ง
ใจของที่ปรึกษาชุดดำหนักอึ้ง ผู้สำเร็จราชการกล่าวเช่นนี้เพราะเขาต้องการมุ่งหน้าไปยังเมืองเส่อชวีแน่นอน
“ไม่ได้นะขอรับซื่อจื่อ!” ที่ปรึกษาชุดดำรีบกล่าวขึ้น
เซียวหรงเหยี่ยนเอ่ยขึ้น “เยว่สือ…”
เยว่สือรับคำแล้วเดินไปลากตัวบุตรชายซึ่งอายุสิบขวบของซีผิงซื่อจื่อออกมา คุณชายน้อยร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว “ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วยขอรับ!”
“ไม่ได้นะ! ไม่ได้…” ชายาของซีผิงอ๋องเห็นหลานชายคนโตของตัวเองถูกคนที่สังหารบุตรชายทั้งสองของนางลากตัวออกไปจึงรีบสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของทหารอย่างไม่รู้ไปเอาแรงมาจากที่ใด นางรีบคลานไปกอดหลานชายคนโตของตัวเองไว้ จากนั้นตวาดบุตรชายคนโตของตัวเองออกมาสุดเสียง “เจ้าคนเนรคุณ! น้องชายของเจ้าทั้งสองคนเสียชีวิตไปหมดแล้ว! เจ้ายังไม่รีบถอยทัพอีกหรือ เจ้าอยากให้ครอบครัวของพวกเราเสียชีวิตลงทั้งหมดหรืออย่างไร!”
ขอบตาของชายาซีผิงอ๋องแดงก่ำ นางตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น “ถอยไปทางเมืองซีผิงจวิ้น!”
ผู้สำเร็จราชการต้าเยี่ยนเป็นคนไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ซีผิงซื่อจื่อรู้ดีว่าเขาสังหารสายเลือดเดียวกันไปหลายคนแล้ว เขาไม่สามารถเอาชีวิตบุตรชายของเขามาเสี่ยงได้
“ซื่อจื่อ!” ที่ปรึกษาชุดดำเตือนสติ “ทหารกองทัพซีผิงเสียชีวิตลงในวันนี้มากมายเพื่อสังหารจักรพรรดินีต้าโจว ต้าโจวพาทัพเสริมมาแค่นิดเดียวเท่านั้น หากพวกเราสู้จนถึงที่สุดอาจจะ…”
“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้!” ซีผิงซื่อจื่อกระชากคอเสื้อของที่ปรึกษาชุดดำอย่างแรง “ผู้ที่ตายคือเมียและน้องชายของข้าไม่ใช่ของเจ้า! เจ้าจึงกล่าวออกมาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้!”
ซีผิงซื่อจื่อกล่าวจบจึงสะบัดมือออกจากคอเสื้อของที่ปรึกษาชุดดำ “หากเจ้ากล้ากล่าวออกมาอีกคำเดียวข้าจะสังหารตระกูลของเจ้าทั้งตระกูล! ถอยทัพ!”
ที่ปรึกษาชุดดำจ้องซีผิงซื่อจื่อด้วยดวงตาที่แดงฉาน เขาเม้มปากแน่น หากเขาไม่เห็นว่าซีผิงซื่อจื่อคือบุตรชายของซีผิงอ๋องเขาคงไม่ยอมช่วยสนับสนุนชายหนุ่มเช่นนี้หรอก
เมื่อเห็นซีผิงซื่อจื่อจ้องมาทางตนนิ่ง เซียวหรงเหยี่ยนจึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “อีกครึ่งชั่วยามข้าจะส่งครอบครัวของเจ้าคืนให้”
ไม่นานกองทัพซีผิงจึงเริ่มถอยทัพ ที่ปรึกษาชุดดำจ้องหน้าเซียวหรงเหยี่ยนนิ่งแวบหนึ่ง จากนั้นขี่ม้าจากไป
ไป๋จิ่นจื้อเห็นกองทัพซีผิงถอยทัพแล้วจึงรีบพาทหารขึ้นไปบนภูเขาอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป
บนภูเขา
ทหารที่ไป๋ชิงเหยียนส่งไปสำรวจสถานการณ์กลับไปรายงานไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาท เกาอี้อ๋องเสด็จมาพร้อมผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาจับตัวครอบครัวของซีผิงอ๋องมาทั้งหมด กองทัพซีผิงจึงจำต้องยอมถอยทัพพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยน…
ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดแน่น นางคิดว่าชายหนุ่มคงกำลังรับมืออยู่กับเชื้อพระวงศ์คนอื่นๆ เสียอีก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาที่นี่
“พี่หญิงใหญ่! พี่หญิงใหญ่…”
ไป๋จิ่นจื้อวิ่งตรงมาทางกระท่อมไม้ที่กำลังลุกไหม้
เมื่อได้ยินเสียงของไป๋จิ่นจื้อไป๋ชิงเหยียนจึงคลายแรงมือที่จับดาบอยู่ออกเล็กน้อย นางกล่าวขึ้น “ช่วยกันประคองทหารที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเราลงไปด้านล่างกัน!”
สิ้นเสียงของไป๋ชิงเหยียนไป๋จิ่นจื้อก็วิ่งขึ้นมาพอดี ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยเลือดเปล่งประกายท่ามกลางเพลิงไฟ
“พี่หญิงใหญ่!” เมื่อเห็นพี่หญิงใหญ่ของตัวเองปลอดภัยดีน้ำตาของไป๋จิ่นจื้อจึงไหลพรากออกมา นางกลัวว่านางจะมาไม่ทัน นางกลัวว่าตอนที่นางมาถึง…จะไม่เห็นพี่หญิงใหญ่แล้ว นางกลัวว่าร่างของพี่หญิงใหญ่จะเต็มไปด้วยเลือดเช่นเดียวกับหลู่หยวนเผิง สาวน้อยเอ่ยเรียกพี่สาวเสียงสะอื้น จากนั้นโผเข้าไปในอ้อมกอดของไป๋ชิงเหยียนและเปล่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงดัง
ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือลูบศีรษะของไป๋จิ่นจื้ออย่างปลอบโยน “เสี่ยวซื่อโตแล้ว เจ้าพาทัพเสริมมาช่วยพี่ได้สำเร็จแล้ว!”
“พี่หญิงใหญ่ ตอนข้าเดินทางมาที่นี่ข้าพบกับผู้สำเร็จราชการระหว่างทาง ผู้สำเร็จราชการจับตัวชายาซีผิงอ๋องและครอบครัวของซีผิงอ๋องทั้งหมดมาที่นี่ด้วย เขาสังหารคนเหล่านั้นไปหลายคนจึงบีบให้ซีผิงซื่อจื่อยอมถอยทัพได้เจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา นางร้องไห้จนตาแดงก่ำ “ผู้สำเร็จราชการรออยู่ที่ด้านล่าง พวกเรารีบลงไปด้านล่างและมุ่งหน้าไปยังเมืองเส่อชวีเถิดเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ลงเขา!”
“ข้าช่วยประคองพี่หญิงใหญ่เจ้าค่ะ”
ขาและแขนของไป๋ชิงเหยียนได้รับบาดเจ็บ หลังผ่านการต่อสู้อย่างหนักหน่วงมาตอนนี้ร่างของนางไร้เรี่ยวแรงไปทั้งร่าง นางจึงไม่ปฏิเสธเมื่อไป๋จิ่นจื้อเข้ามาช่วยประคอง
“เว่ยจง…ดูสิว่าไท่ผิงยังยืนได้หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนหันไปถามเว่ยจง
“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ ไท่ผิงลุกขึ้นยืนได้แล้ว เมื่อครู่มันยังเตะทหารศัตรูจนกระเด็นไปหลายคนเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาทเสด็จล่วงหน้าไปก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะพาไท่ผิงตามไปทีหลังพ่ะย่ะค่ะ”
พวกของไป๋ชิงเหยียนเดินลงไปด้านล่างภูเขาก็เห็นเซียวหรงเหยี่ยนยืนกำหมัดรออยู่ข้างม้าศึกสีดำ
ขณะที่เห็นร่างของไป๋ชิงเหยียนเซียวหรงเหยี่ยนแทบอยากรั้งร่างที่เปื้อนไปด้วยเลือดของหญิงสาวมากอดไว้แนบอก ยิ่งเห็นนางถูกไป๋จิ่นจื้อช่วยประคองลงมาจากเขาเซียวหรงเหยี่ยนก็ยิ่งสงสาร
ตั้งแต่ที่เขารู้จักกับไป๋ชิงเหยียนมา…นางไม่เคยมีสภาพย่ำแย่เช่นนี้มาก่อน
ไป๋ชิงเหยียนมองเซียวหรงเหยี่ยนด้วยรอยยิ้มหลังเอาชีวิตรอดมาได้ โชคดีที่พวกนางปลอดภัยกันหมด
รอยยิ้มที่อ่อนโยนของไป๋ชิงเหยียนราวกับเข็มนับพันทิ่มลงในใจของเซียวหรงเหยี่ยน เขากำหมัดแน่นและเดินตรงเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน จากนั้นตวัดร่างนางขึ้นมาอุ้มไว้โดยไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น
ไป๋ชิงเหยียนรีบโอบรอบคอของเซียวหรงเหยี่ยนไว้ด้วยความตกใจ จากนั้นเอ่ยถามเสียงเบา “ท่านทำอันใด รีบวางข้าลงเดี๋ยวนี้! ข้าคือจักรพรรดินีต้าโจว ท่านคือผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน ทำเช่นนี้ผู้อื่นอาจสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเราได้…”
“เช่นนั้นก็เปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้!” เซียวหรงเหยี่ยนจ้องหน้าไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาจริงจัง “นับจากนี้เป็นต้นไปจะไม่มีมู่หรงเหยี่ยนหรือผู้สำเร็จราชการอีกต่อไป”
การตกอยู่ในอันตรายถึงสองครั้งของไป๋ชิงเหยียนทำให้เซียวหรงเหยี่ยนรู้ว่า…ชีวิตนี้เขาสูญเสียสิ่งใดก็ได้ ทว่า เขาสูญเสียไป๋ชิงเหยียนไปไม่ได้
เซียวหรงเหยี่ยนรู้จากองครักษ์ลับที่เดินทางมาจากเมืองหลวงของต้าเยี่ยนแล้วว่าพี่สะใภ้ของเขาเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเขาให้ทุกคนรับรู้แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้…ต่อไปเขาก็จะเป็นเพียงเซียวหรงเหยี่ยน
ไป๋ชิงเหยียนโอบรอบคอเซียวหรงเหยี่ยนแน่นกว่าเดิม นางมองบุรุษที่ยกนางขึ้นวางบนหลังม้าและกอดนางไว้ในอ้อมกอดอย่างระมัดระวังนิ่ง จากนั้นเอนกายซบหน้าอกที่อบอุ่นของเขาอย่างสบายใจ