ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 819 ระเบิดแล้ว

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 819 ระเบิดแล้ว

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเมืองในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ความแน่นขนัดด้านประชากรในทงเฉิงไม่นับว่ามากนัก โครงสร้างพื้นฐานในเมืองก็ดีมากมาโดยตลอด ดังนั้นหากไม่เกิดอะไรขึ้น โดยทั่วไปแล้วการจราจรจะไม่ติดขัด

เพียงแต่ว่า ไม่ว่าเรื่องใดก็ตามย่อมมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างไม่ถูกเวลาได้เสมอ

ทนายอันคำนวณเวลาที่เขาจะต้องจอดรถที่ฝั่งตรงข้าม คำนวณเวลาที่ใช้ในการข้ามถนนท่ามกลางกระแสการจราจร คำนวณเวลาเพื่อรำลึกถึงวันเก่าๆ คำนวณทุกอย่างมาดีแล้ว แต่พอเขามายืนอยู่ตรงหน้าชายสวมหน้ากาก ฉากที่น่ากระอักกระอ่วนก็ปรากฏขึ้น

เวลานี้สีหน้าของทนายอันสงบนิ่ง สบายๆ แฝงไปด้วยความเรียบเฉย ผสมผสานกับบรรยากาศเศร้าหมองเล็กน้อยชวนให้นึกถึงอดีต แต่ถ้าใส่ฉากนี้ไว้ในการ์ตูน ก็คงจะมีเขาในเวอร์ชันน่ารักๆ ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับน้ำตาอุ่นๆ ไหลรินจากสองตาพร้อมกับน้ำมูกไหลย้อย

การเสแสร้ง เป็นสิ่งที่คนชอบทำไม่รู้เบื่อ ทั้งชีวิตของผู้คนถ้าไม่เสแสร้งอยู่ก็เดินอยู่บนทางของการเสแสร้ง แต่เมื่อความแตกแล้วก็ไม่ได้รู้สึกดีขนาดนั้นจริงๆ เพราะว่าทนายอันรู้ดีว่า ณ ตอนนี้ เวลานี้ หากเผชิญหน้ากับ ‘เขา’ ที่อยู่ตรงหน้า มีแนวโน้มว่าจะจบลงอย่างน่าเศร้า

สิบนาที ไม่ยาวไม่สั้น ไม่เร็วหรือช้า

แต่เขาช่วงที่อยู่ในจุดสูงสุด ก็ยังต้องพาเฝิงซื่อเอ๋อร์และพวกสุนัขรับใช้มาเล่นต่อสู้แบบหมู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้

“ข้าจำได้ว่าในอดีต เราเคย…” ทนายอันรู้สึกว่าเขายังสามารถอารัมภบทต่อไปได้ ระบายความรู้สึกอีกหน่อย เหม่อมองทิวทัศน์ หรือไม่ก็มาร่วมรำลึกถึงความขมขื่นในอดีตและนึกถึงความสุขในปัจจุบันไปด้วยกัน

ภาพขณะดูข่าวการสัมภาษณ์ผู้นำบางส่วนถูกฉายซ้ำในความคิดของทนายอันในเวลานี้ ได้รับแรงบันดาลใจในการพล่ามเรื่องไร้สาระถ่วงเวลาแล้ว

เพียงแต่น่าเสียดาย ชายสวมหน้ากากขี้เกียจพล่ามให้มากความ เขาผุดลุกขึ้นยืน สายตามองทนายอัน และพูดช้าๆ “เจ้าไป…ตายเสียเถอะ”

เรียบง่ายตรงไปตรงมา เร่งละครช่วงแรกให้จบก่อนล่วงหน้า ผลักเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ทันที

“อี๊ดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!”

เสียงกรีดร้องแหลมคมบาดแก้วหูดังขึ้น ชายสวมหน้ากากหันข้างเผยชิ้นส่วนผิวหนังมนุษย์ ผิวหนังมนุษย์งอกเร็วปานสายลม และถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหญิงชราเปลือยกาย ผิวพรรณมีริ้วรอย กระดูกผอมแห้ง ใบหน้าเว้าลึก ไร้ความสวยงามใดๆ แต่กลับแผ่ซ่านพลังปราณพลังพิฆาตแสนโหดเหี้ยม

ขณะที่เลือกร่างศพป่วยนี้ เขาก็ยังเปลี่ยนแปลงศพอื่นๆ ในห้องดับจิตอีกหลายศพ เขาชอบความรู้สึกของการควบคุมแบบนี้ ความรู้สึกที่มือและเท้าของเขายืดยาวออกไป ขณะเดียวกันมีหุ่นเชิดอยู่เป็นเพื่อนก็ทำให้เขาเหงาน้อยลง

ทนายอันทอดถอนใจอย่างจนปัญญาเล็กน้อย “ช่วงเวลาที่ได้พบกันมักจะแสนสั้นเสมอ คืนนี้จะไม่มีวันลืม คืนนี้จะไม่มีวันละ…”

จากนั้น หญิงชราพุ่งพรวดมาอยู่ตรงหน้าทนายอันในชั่วพริบตา มือทั้งสองข้างของทนายอันกลายเป็นกระดูกขาวอย่างรวดเร็ว และป้องกันด้านหน้าไว้

‘ปัง!’

แต่อีกฝ่ายไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรกับคุณ และไม่ตอบโต้ไปมาอย่างอ่อนโยนกับคุณด้วย เรียบง่ายตรงไปตรงมา แม้แต่มวยแปดทิศก็ไร้ประโยชน์ ร่างกายที่แห้งเหี่ยวประหนึ่งก้อนหินแข็ง ลงมือทุบไปเลยก็หมดเรื่องแล้ว

ทนายอันกระเด็นหงายออกไปจนล้มลงบนสวนดอกไม้ แขนทั้งสองข้างเริ่มชา

เดิมทีการต่อสู้ระยะประชิดก็ไม่ใช่สิ่งที่ทนายอันถนัดในตอนนี้

“เรามาเล่นกระแสจิตวิญญาณหรือมาเล่นภาพลวงตากันดีไหม” ทนายอันตะโกนถาม “ข้ารู้ว่าเจ้าก็เล่นเป็น”

ไม่ได้เจอกันนานหลายปี เราสื่อสารและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันได้อีกครั้งน่า

แต่ทว่าสายตาของชายสวมหน้ากากเย็นชาเหมือนเดิม หุ่นเชิดหญิงชราคำรามอีกครั้ง ซึ่งหมายความว่าเขาไม่สนใจจะค่อยๆ เล่นเป็นเพื่อนทนายอัน

ทนายอันกระโดดเหยงขึ้นมาด้วยความจนตรอก เบี่ยงตัวหลบทัน แต่ก็ยังถูกเล็บของหญิงชราข่วนจนได้เลือดบนหลังเป็นทางตั้งสิบสาย

“ซี้ด…”

เจ็บ!

ทนายอันกลิ้งตัวลงกับพื้น หอบหายใจเข้าปอดหนักๆ

หลังจากที่หุ่นเชิดอ้อมวนไปหนึ่งรอบ ก็ไล่บี้ตามมาติดๆ อีกครั้ง อีกฝ่ายไร้เหตุผลมาก และขี้เกียจเกินกว่าจะมีเหตุผล ไม่คิดจะสนใจว่าฉากนั้นจะสวยงามหรือไม่สักนิด

ความว่องไวของหุ่นเชิดหญิงชราโดยธรรมชาติแล้วสู้ฮวาหูเตียวไม่ได้ แต่เธอไร้ความรู้สึกและไม่กลัวความเจ็บปวดเหมือนฮวาหูเตียว!

นี่มันงานช้างแล้ว!

ในที่สุด ภายใต้การโจมตีรอบที่สาม ทนายอันไม่สามารถหลบหลีกได้ ทันใดนั้นสองมือของหุ่นเชิดหญิงชรางอกยาวออกมาจากกระดูก แยกมือกระดูกทั้งสองข้างของทนายอันออกในชั่วพริบตา จากนั้นกระดูกดุจหนามแหลมคมยื่นออกมาจากหน้าอกของหุ่นเชิด ทั้งแหลมคม ทั้งหนา อีกทั้งส่วนปลายยังมีแสงสีดำวาววับ

นี่มันพิษร้ายแรง!

คล้ายกับผึ้งหึ่งทิ่มแทงตรงกลางหน้าอกกว้างของทนายอันอย่างรุนแรง!

ชายสวมหน้ากากเศร้าใจเล็กน้อย จะจบแล้วหรือนี่

เขาอันปู้ฉี่ตกต่ำถึงเพียงนี้เชียว

แต่ทว่า เมื่อหนามแหลมคมอยู่ห่างจากผิวหนังของทนายอันไม่ถึงสองสามเซนติเมตร ดันถูกปราณปีศาจสกัดกั้นเอาไว้ ดวงตาของทนายอันเปล่งประกายสีเขียว ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทันที

ชายสวมหน้ากากเอ่ยเบาๆ ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ปราณปีศาจหรือ”

ทนายอันใช้แรงฝืนทำลายพันธนาการของหุ่นเชิดหญิงชรา และเตะออกไปอย่างแรง เตะเอาหุ่นเชิดหญิงชราถอยออกไป ขณะเดียวกันก็ผสานสองมือทำท่ามุทราอย่างรวดเร็ว “ยมโลกมีกฎ กฎแห่งความตายไร้ความปรานี ผนึก!”

ผนึกสีดำสายหนึ่งกระแทกร่างหุ่นเชิดเข้าอย่างจัง

ประกายสีแดงวาววับในดวงตาของชายสวมหน้ากาก หุ่นเชิดหญิงชราปล่อยลำแสงสีดำออกมาทันที คิดไม่ถึงว่าจะสลายผนึกของทนายอันโดยตรง

ทนายอันถอนหายใจเฮือกยาว ที่จริงแล้ว ทุกคนล้วนเข้าใจหลักการจับโจรต้องจับหัวหน้าโจรก่อน แต่บางครั้งคำพูดนี้ก็เหมือนกับตราบใดที่คุณพยายามตั้งใจเรียนอย่างหนักก็จะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยชิงหวาได้ ซึ่งมันไม่จริงเลย

ความจริงแล้ว ทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดตัวนี้ไม่ได้ถึงขั้นสุดโต่งในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ทุกด้านกลับสอดคล้องกลมกลืนกัน จึงกลายเป็นใช้งานจริงได้ดีมาก

“ข้าว่า เราจะนั่งฟัง ‘สู่บูรพามหานที’ กันตรงนี้ไม่ได้หรือ รำลึกถึงความเยาว์วัยที่หายไปของเราน่ะ”

ชายสวมหน้ากากพยักหน้า จากนั้นลูกบอลเหล็กสิบกว่าลูกก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าเขา

ทนายอันกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว พลางชี้ชายสวมหน้ากาก “จะมากเกินไปแล้วนะ!”

ชายสวมหน้ากากพยักหน้าต่อ ลูกบอลเหล็กตรงหน้าเริ่มละลาย แล้วก็เริ่มควบแน่นอีกครั้ง กลายเป็นรูปร่างกลมๆ ทำจากลวดเหล็กลูกแล้วลูกเล่า…ฝอยขัดหม้อ

“…” ทนายอัน

‘วืด!’ การโจมตีเริ่มขึ้นอีกครั้ง!

ทนายอันสูดหายใจเข้าลึกๆ หันหลังกลับแล้วเริ่มวิ่ง!

ประกายแสงสีเขียวบนตัวเขากะพริบวาบวับเป็นครั้งคราวตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น เพียงแต่เอาแต่วิ่งเพียงอย่างเดียวผลที่ได้ไม่เป็นอย่างที่หวังไว้เอาเสียเลย

หลังจากถูกปิดกั้นไปหลายทิศทาง ทนายอันอ้อมวนกลับมาใหม่อีกครั้งด้วยความจนตรอก อีกฝ่ายไม่ได้เล่นโจมตีครั้งเดียวถึงชีวิตอะไรพรรค์นั้น แต่สีหน้าของทนายอันยังแสดงออกถึงความอับอายและโมโหที่ขายหน้า

ฆ่าได้หยามไม่ได้!

แน่ละว่าสิ่งนี้ไม่มีอยู่จริงในตัวทนายอัน มีชีวิตอยู่อย่างไร้ประโยชน์ดีกว่าตาย

เพียงแต่ทนายอันยอมแสดงอารมณ์แบบนี้ให้ชายสวมหน้ากากได้ลิ้มรสความรู้สึกสะใจ จะได้ให้เขาหยอกเล่นกับตัวเองต่อ อย่าฆ่าให้ถึงตาย

คนที่หัวเราะในท้ายที่สุดถึงจะเป็นคนที่หัวเราะได้ดังที่สุด

ขณะเดียวกัน ทนายอันก็สาปแช่งคณะกรรมการจราจรของทงเฉิงลึกๆ ในใจ!

แต่ทว่าการยั่วยุ หยอกล้อ หยอกเล่น ดูเหมือนจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชายสวมหน้ากากหมดความสนใจในทันใด และชี้นิ้วไปข้างหน้า หุ่นเชิดหญิงชราพร้อมกับลวดเหล็กแหลมคมมากกว่าสิบพุ่งมาแทงทนายอัน คาดว่าวินาทีต่อมาทนายอันคงจะโดนเจาะทะลุจนพรุนกลายเป็นตะแกรง

ขณะที่ทนายอันเองรู้สึกสิ้นหวังนิดหน่อย ร่างเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าเขา

“โฮก!”

เด็กชายส่งเสียงคำราม ปราณพิฆาตที่ดุดันพรั่งพรูออกมา ใช้หมัด ใช้เท้า ใช้ร่างกายของตัวเองต้านทานการโจมตีรอบนี้ คุณภาพทางกายภาพของเด็กชายเคยถูกเถ้าแก่โจวทดสอบด้วยตัวเองไปในตอนนั้นด้วยการ ‘เพิ่มน้ำตาล’ สิบนิ้ว แม้ว่าจะตรึงเขาไว้บนกำแพง แต่ก็ฆ่าเขาให้ตายไม่ได้อยู่ดี

ดังนั้น แม้ว่าหลังจากจบรอบนี้เสื้อผ้าของเด็กชายจะขาดรุ่งริ่งไม่เหลือชิ้นดี รอยขีดข่วนสีขาวผุดตามร่างกาย แต่อย่างน้อยพลังที่แสดงออกมาก็ไม่ตกเป็นรองเลย

ชายสวมหน้ากากเงยหน้าเล็กน้อย หุ่นเชิดหญิงชรารีบกลับมาอย่างรวดเร็ว กางแขนออกเพื่อโอบรอบตัวเขา

‘ผัวะ!’

อิงอิงโผล่เข้ามากระแทกหมัดต่อยเขา

‘โครม!’

เสียงโครมดังขึ้นอย่างรุนแรง หุ่นเชิดหญิงชราถูกซัดลอยกระเด็นละลิ่วกระแทกเข้ากับกำแพงด้านหน้า แต่วินาทีต่อมา หุ่นเชิดหญิงชรากางแขนออก ตัวเธอเองเริ่มแตกร่วงกราวลงมา แต่ชายสวมหน้ากากข้างในยังสามารถลุกขึ้นยืนหยัดได้อีกครั้ง

ไม่ลังเล ไม่ทิ้งทวนคำพูดสาดเสียเทเสีย และขี้เกียจเกินกว่าจะตีหน้าเสแสร้งจัดฉากอะไร หมอกควันปรากฏขึ้นด้านหน้าชายสวมหน้ากาก จากนั้นทั้งร่างของเขาราวกับลมกระโชกแรงโหมพัดไปทางมุมเฉียงด้านหน้า

เขากำลังจะหนีไปแล้ว

“กาแฟ!”

ทันใดนั้นโซ่ตรวนที่ทั้งหนาและแกร่งห้าเส้นโผล่พรวดออกมาจากพื้นดิน ตรึงหมอกควันสีดำไว้โดยตรง ไม่ว่าลมจะกระโชกแรงแค่ไหน มวลหมอกก็ทำได้เพียงถูกตรึงไว้ในบริเวณนี้เท่านั้น โจวเจ๋อเดินออกมาจากด้านหลังสวนดอกไม้ เล็บห้านิ้วลากพื้น และเดินตรงไปหาชายสวมหน้ากาก

หมอกสีดำค่อยๆ สลายไป เผยให้เห็นร่างของชายสวมหน้ากากที่ถูกจับตัวเอาไว้

สายตาของเขาฉายแววแปลกใจ ในเมืองทงเฉิงเล็กๆ ซ่อนอันปู้ฉี่เอาไว้คนหนึ่งแล้ว ยังซ่อนผีดิบไว้อีกสองตัว บวกกับคนตรงหน้าคนนี้เป็นผู้จับกุมหรือ

บางทีอาจยังมีสิ่งอื่นที่ไม่รู้จักซ่อนอยู่ แต่แค่นี้มันก็น่าตื่นเต้นและเร้าใจมากพอแล้ว

เถ้าแก่โจวก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เตรียมส่งคนออกเดินทาง แต่ทว่า ขณะที่โจวเจ๋อกำลังจะเข้าใกล้เขา ลูกตาข้างซ้ายของชายสวมหน้ากากจู่ๆ ก็หมุนดัง ‘กึก’ แล้วลอยออกมา กลิ่นไม้จันทน์หอมรุนแรงแผ่ซ่านกระจายในพริบตา

เถ้าแก่โจวพลันหยุดชะงัก ขณะเดียวกันก็ยกมือขวาขึ้นส่งสัญญาณให้ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะหลบทุกเมื่อ ตราบใดที่หลบได้ทันเวลา สิ่งที่เรียกว่าไฟแห่งกรรมนี้ จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรเลย

แต่ทว่าลูกตาดวงนั้นกลับไม่พุ่งเข้าหาโจวเจ๋อ แต่ลอยลิ่วตรงไปยังใจกลางถนนอีกฟากหนึ่งของสวนดอกไม้ ตรงนั้นมีการจราจรหนาแน่นแล่นผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว!

หากไฟแห่งกรรมระเบิดตรงนั้นละก็ ผลที่ตามมาก็จะ…

ชายสวมหน้ากากเอ่ยพูด “ปล่อยข้า…ไป”

โจวเจ๋อกัดริมฝีปาก เขาไม่ใช่คนที่มีความเห็นอกเห็นใจ และเกลียดการยอมรับการขู่แบบนี้มาก แต่ภายใต้สถานการณ์นี้ เถ้าแก่โจวก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อย

“เหอะๆ” ทนายอันหัวเราะพลางเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ โจวเจ๋อ และพูดว่า “เถ้าแก่ เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ไอ้หมอนี่ปากร้ายแต่ใจดี เป็นแม่พระมากสุดๆ คนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นตอนแรกผมกับเฝิงซื่อเอ๋อร์คงไม่ฉวยโอกาสเอาชนะเขาดะ…”

‘ตู้ม!’

ลูกตาดวงนั้น ระเบิดแล้ว…

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท