หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่154 ป่วยจริงหรือแกล้งป่วย

บทที่154 ป่วยจริงหรือแกล้งป่วย

บทที่154 ป่วยจริงหรือแกล้งป่วย

ตอนนี้หลานเยาเยาที่กำลังกินติ่มซำลิ้มรสอร่อยที่ปลายลิ้นอยู่เมื่อถูกสายตานับสิบกว่าคู่มองมาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองพวกนาง

นางยังไม่ทันได้พูด คุณหนูรองถังของจวนเฉิงเสี้ยงนั้นก็มีเสียง“พรึ่บ”คุกเข่าลงคำนับหัวแนบพื้นสองสามที

“พระชายาเย่ ใครๆล้วนพูดกันว่าวิธีการรักษาของท่านยอดเยี่ยม จิตใจดี ขอร้องท่านช่วยน้องสี่หลี่ด้วย! นางจะไม่ไหวแล้ว ฮื่อฮื่อฮื่อ……”

คุณหนูรองถังคุกเข่าคำนับอ้อนวอนขนาดนี้ ถ้าทุกคนรู้สึกว่าหลานเยาเยาไม่ช่วยคนหล่ะก็นางก็จะเป็นคนชั่วร้าย

มุมปากหลานเยาเยายกขึ้นเล็กน้อยแล้วเช็ดๆที่มุมปาก มองคุณหนูรองถังพูดอย่างอ่อนโยน:

“เจ้าร้องอะไร? คนเขายังไม่ตายนะ เจ้าร้องเสียใจขนาดนี้ถ้าเขาตายขึ้นมาเจ้าก็จะลงหลุมไปพร้อมกันเลยใช่ไหม?

อีกอย่าง เจ้าร้องไห้ได้ปลอมมาก เสียใจขนาดนี้แม้น้ำตาสักหยดก็ไม่มี ข้าดูต่อไปไม่ไหวแล้ว”

คุณหนูรองถังที่โดนเปิดโปงความคิดสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นแดงและขาวในทันที

แต่เล่นละครแล้วก็ต้องเล่นให้จบสิ!

คุณหนูรองถังก็บีบน้ำตาออกมามองนางอย่างโศกเศร้า

“พระชายาเย่ ถ้าท่านไม่อยากช่วยคนก็สั่งให้คนไปตามหมอมาเถอะ! ทำไมต้องมาบอกว่าข้าหลอกลวงด้วย?”

“ข้าแค่บอกว่าเจ้าไม่มีน้ำตาไหลยังไม่ได้พูดเลยว่าเจ้าหลอกลวง เจ้าสารภาพออกมาเองทำไม?”พอพูดจบก็ไม่ให้โอกาสคุณหนูรองถังได้โต้แย้ง พูดขึ้นมาว่า:

“ทุกคนต่างพูดว่าข้าจิตใจดี มีเมตตา คำชื่นชมของพวกเจ้านั้นช่างเหมาะกับนิสัยข้าจริงๆ งั้นข้าก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถดูน้อง……สี่หลี่สักหน่อย!”

พอพูดจบ

หลานเยาเยาก็ลุกขึ้น แม้คุณหนูรองถังจะอยากพูดอะไรแต่นางก็ไม่กล้าส่งเสียง

ถึงอย่างไร!

ถ้านางส่งเสียง ก็จะทำให้ทุกคนคิดว่านางตั้งใจถ่วงเวลาอาการป่วยของคุณหนูสี่หลี่

ดังนั้นตอนนี้นางจึงทำได้แต่กลั้นเอาไว้ในใจ ไปต่อไม่ได้ถอยออกมาก็ไม่ได้ ในใจกระสับกระส่าย

แต่พอคิดถึงจุดหมายจริงๆที่มาวันนี้ ความโกรธในใจก็หายไปมาก

หลานเยาเยามาที่หน้าคุณหนูสี่จากตระกูลหลี่แล้วจับชีพจร สีหน้าก็เปลี่ยนไปพูดด้วยความไม่อยากเชื่อ

“พระเจ้า!นี่ไม่ใช่ปวดท้องแต่เป็นโรคที่รักษาไม่ได้!”

เมื่อพูดเช่นนี้

คุณหนูทุกคนไม่ได้ตกใจแม้คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ที่แสร้งทำเป็นปวดท้องก็ไม่ได้ตกใจ ทุกคนต่างมองนางอย่างดูถูก

ตอนนี้ หลานเยาเยาไม่โกรธแต่กลับมองพวกนางอย่างสงสัย

“ทำไมพวกเจ้าไม่ตกใจกันหล่ะ? หรือจะบอกว่าพวกเจ้าก็รู้ว่านางแสร้งป่วย ตั้งใจหลอกข้าแต่แรกเพื่อดูว่าวิธีการรักษาของข้ายอดเยี่ยมเหมือนในข่าวลือรึเปล่า?”

พอพูดจบหลานเยาเยาก็หมุนตัวกลับไปยังที่นั่งตนเองอย่างสง่างาม

ขี้เกียจจะเสแสร้งกับพวกนางจึงพูดเรียบๆอย่างเด็ดเดี่ยวว่า: “พูดมา ใครเป็นคนบงการ?”

คำพูดออกไปเช่นนี้!

คุณหนูทุกคนก็เข้าใจทันที

ที่แท้เมื่อครู่ที่หลานเยาเยาบอกว่าเป็นโรคที่รักษาไม่ได้นั้นก็แค่หลอกพวกนาง

ส่วนสีหน้าดูถูกที่พวกนางแสดงออกมาเมื่อครู่นั้นก็เป็นเพราะพวกนางรวมหัวกันหลอกหลานเยาเยา

นี่มันได้อย่างนั้นเหรอ?

ถ้าคนที่หลอกตำแหน่งต่ำกว่าพวกนางก็ยังว่าไปแต่นี่พวกนางหลอกคือพระชายาเย่นะ

อ๋องเย่มีอำนาจยิ่งใหญ่อีกทั้งยังฆ่าคนได้ในพริบตา

ดูจากตอนนี้แล้ว พระชายาเย่จะไม่ใช่คนโง่เขลาซ้ำยังได้ความรักของอ๋องเย่ เป็นพวกนางที่ขุดหลุมฝังศพตนเองเสียเอง!

ดังนั้น!

ทุกคนรีบคุกเข่าก้มหัวลงบนพื้น ไม่กล้าพูดจา

โทษที่หลอกพระชายาเย่พวกนางแบกรับไม่ไหวแต่ก็ต้องรับ……

พอคิดถึงตรงนี้ ทุกคนก็หันไปมองคุณหนูรองถังที่ตอนนี้คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดอย่างเงียบๆ

ซ้ายขวาไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ พวกนางทำได้เพียงกัดฟันก้มหัวยอมรับผิด“พระชายาเย่ พวกเราสำนึกผิดแล้ว พวกเราได้ยินข่าวลือว่าวิธีการรักษาของท่านนั้นยอดเยี่ยมก็เกิดความอิจฉาขึ้นเท่านั้น จึงจำต้องคิดแผนอันโง่เขลาเพียงเพราะอยากเห็นวิธีการรักษาของท่านกับตา

คิดไม่ถึงว่าวิธีการรักษาของพระชายาเย่จะสูงส่งเช่นนี้ เพียงแค่จับชีพจรเล็กน้อยก็รู้แล้วว่าพวกเราเล่นละคร

โปรดพระชายาเย่อภัยให้ด้วย พวกเราไม่ได้ตั้งใจ”

หลังจากที่ร้องไห้อ้อนวอน คุณหนูรองถังก็พูดออกมาได้ทันเวลา

คุณหนูรองถังก็ไม่ได้โง่ พระชายาเย่ในตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นคนที่ไม่มีความสำคัญ พวกนางทำแบบนี้ ก็เป็นเพียงการเอาไข่ไปกระทบกับหินก็เท่านั้น

ตนเองก็เชื่อฟังพี่สาวขนาดนั้นก็นึกว่าหลานเยาเยาคือคุณหนูหกตระกูลหลานที่แต่ก่อนรังแกใครไปทั่ว

ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่นางสามารถทำได้ก็คือยอมรับผิดอย่างจริงใจ

“รู้ว่าผิดก็พอ ข้าเหนื่อยแล้วเชิญพวกเจ้ากลับไป!”

คุณหนูรองถังที่เป็นคนฉลาด

ไม่คิดว่าจะกลายเป็นคนสร้างปัญหาไปได้

ไม่พูดอะไรมากก็รีบไล่คนออกไป!

นางยังคิดว่าจะออกจากเมืองหลวงไปชาวหยินไห่อย่างไร!

“ทราบแล้ว ขอบพระทัยในความใจกว้างของพระชายาเย่ ข้าจะพาพี่น้องข้าออกไป”

เหล่าคุณหนูทุกคนที่รู้จักการหลบเลี่ยงก็รีบลุกขึ้นจากไป

แต่ว่า……

“อ๊ะ……”

พวกนางเพิ่งไปถึงประตูห้องโถง คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ที่แสร้งปวดท้องเมื่อก่อนหน้านี้ได้ร้องออกมา จากนั้นก็ล้มลงพื้น

คุณหนูทุกคนต่างอึ้ง สุดท้ายก็ตกใจตื่นมา

“น้องสี่หลี่อย่ามาแสร้ง พระชายาเย่รู้หมดแล้ว ถ้าเจ้าทำเช่นนี้อีกแม้แต่หน้าของพวกเราก็ไม่เหลือแล้ว”

“ใช่ รีบลุกขึ้นมาเร็ว! พวกเรากลับไปจะทำอาหารบำรุงที่โด่งดังมาให้พระชายาเย่เป็นการขอโทษ……น้องสี่หลี่ทำไมเจ้าอ้วกออกมาเป็นเลือด?”

“มีบางอย่างผิดปกติ นางไม่ได้แสร้ง นางอ้วกออกมาเป็นเลือดจริงๆ” สีหน้าของคุณหนูรองถังเปลี่ยนไปรีบหาถึงความผิดปกติ

การเคลื่อนไหวนอกประตูเสียงดัง

หลานเยาเยารีบเดินออกไป เมื่อเห็นท่าทางของคุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ก็รีบก้าวไปตรวจสอบ

หัวคิ้วเริ่มดำ ริมฝีปากม่วง อ้วกออกมาเป็นเลือดสีดำ

เห็นได้ชัดว่านางถูกพิษแต่พิษที่นางโดนนั้นแพร่ไวมาก ถ้ายังไม่ทำอะไรต่อไปอีกพิษก็จะเข้าสู่อวัยวะภายใน

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจึงรีบหันกลับไปชี้องครักษ์ที่ปกป้องประตูห้องโถงแล้วสั่งว่า

“เจ้ามาสกัดจุดเลือดลมให้นาง!”

จากนั้นก็ชี้ไปที่องครักษ์อีกนาย: “รีบไปบอกท่านอ๋องว่าไม่ให้คนในคนนอกออกจากตำหนักชั่วคราว”

“ขอรับ พระชายา!”

เมื่อรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่อง องครักษ์สองนายก็ไม่กล้าล่าช้า

คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ที่ถูกสกัดจุดเลือดลมอย่างรวดเร็ว แม้ตอนนี้สถานการณ์ยังคงอันตรายแต่ก็ไม่ถึงขั้นถึงชีวิต

ดังนั้นนางจึงรีบสั่งให้คนไปเอายาแก้พิษมา หลังจากนั้นก็เริ่มใช้เข็มขับพิษส่วนใหญ่ที่อยู่ในร่างกายนางออกมา

คุณหนูสี่จากตระกูลหลี่ก็ถือได้ว่าถูกดึงกลับมาจากประตูผีแล้ว

“ให้นางอยู่ในห้องโถงก่อน!”

หลังจากสั่งเรียบร้อย หลานเยาเยาก็ลุกขึ้น คิดจะไปดูคนที่แอบซ่อนอยู่ในที่มืดว่าจับได้หรือไม่

อย่างไรเสีย ตั้งแต่ที่เหล่าคุณหนูก้าวเข้าประตูมา คนที่คิดจะมาสืบข่าวก็ต้องแอบอยู่ในจวนอ๋องเย่ตั้งนานแล้ว

ข้อนี้นางรู้ ไม่ต้องให้เย่แจ๋หยิ่งบอก

แต่สิ่งที่ทำให้นางไม่เข้าใจก็คือ จวนอ๋องเย่ที่กำแพงล้อมรอบราวกับเหล็กทำไมถึงให้คนที่แอบซ่อนอยู่เข้ามาได้?

เย่แจ๋หยิ่งคิดจะทำอะไร?

แต่ว่า……

ปัญหาที่นางควรคิดตอนนี้ไม่ใช่พวกนี้แต่เป็นเหล่าคุณหนูที่ตกใจตรงหน้า

พวกนางต่างตกตะลึง จ้องนางไม่แม้กะพริบตาสักนิด

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท