หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 163 ไม่อยากเสี่ยง

บทที่ 163 ไม่อยากเสี่ยง

บทที่ 163 ไม่อยากเสี่ยง

“ใช่ เจ้าเดาไม่ผิด ก็คือผงคัน แต่ผงคันนี้ไม่ใช่ผงคันผิวหนัง เจ้ากลับไปเตรียมยาแก้พิษก่อน ไม่เช่นนั้นจะคันมากขึ้นเรื่อยๆ จะคันจนอยากจบชีวิตตนเอง”

จะตายหรืออยู่ก็อยู่ที่เจ้าสร้างมันขึ้นเอง

แต่!

แต่หากต้องการทำยาถอนพิษ ในเวลาไม่กี่วันซึ่งเป็นไปไม่ได้

หลังจากชายร่างเตี้ยวัยกลางคนจากไป สายตาหลานเยาเยาหันไปจ้องไปที่ชายในชุดคลุมสีม่วงเข้ม ก็คือชายที่ชื่อหานแสผู้นั้น……

“ตอนนี้ตาเจ้าแล้ว ดูสีหน้าซีดจนไม่เป็นปกติ คาดว่าจะป่วยแล้วจริงๆ เจ้าเดินขึ้นหน้ามาเองเถิด!”

การแสดงออกเมื่อครู่

ตอนนี้หลายคนที่อยู่ที่นี่ยังตกใจไม่หาย!

ดังนั้นในเวลานี้ นางจะต้องเล่นตัวในฐานะพระชายาเย่

อย่างไรก็ตามโรคของหานแสผู้นี้มีอยู่จริง แม้ว่าเย่หลีเฉินจะเครียดจนอาเจียนเป็นเลือดก็ตาม จะคว้าโอกาสที่หาได้ยากและมีค่ามากในครั้งนี้อย่างดีแน่นอน ให้เป็นบทเรียนกับเขา

เป็นจริงอย่างที่คาดไว้!

เมื่อนางพูดจบ เย่หลีเฉินขมวดคิ้ว จากนั้นมองไปยังหานแส เขาไม่ได้พูดอะไร แต่หานแสเองที่พยักหน้าเล็กน้อย

จากนั้นก็เห็นหานแสค่อยๆ ลุกขึ้น มองดูผอมแห้งแรงน้อย เวลาที่เดินทรงพลังมาก ให้ความรู้สึกกดดันที่มองไม่เห็น

ความรู้สึกกดดันเช่นนี้กับความรู้สึกกดดันที่เย่แจ๋หยิ่งเคยให้นางแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ว่าแต่ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไรนั้น นางเองก็อธิบายไม่ได้

หลังจากหานแสเดินถึงตรงหน้านาง ไม่ได้นั่งลงที่เก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ นาง แต่ยืนอยู่ตรงนั้น รอนางพูด

“นั่งเถิด!”

เมื่อนางพูดออกมา หานแสผงกศีรษะแล้วนั่งลง

หลานเยาเยาหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งที่ฮัวหยู่อันยื่นให้ จากนั้นวางบนข้อมือของหานแสทำการจับชีพจร

เพียงแค่มือของนางอยู่ที่ชีพจรยังไม่ถึงสามวินาที นางดูหวาดกลัว รีบหยิบผ้าเช็ดไปหน้าทันที เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน สีหน้าจริงจังอย่างมาก

เห็นเช่นนั้น!

ทุกคนคิดว่าหลานเยาเยาก็เหมือนกับหมอคนอื่นๆ ไม่สามารถรักษาได้ มีเพียงหานแสเท่านั้นที่ยังคงดูสงบเป็นปกติ ขยับเล็กน้อย

มีหมอนับไม่ถ้วนที่จับชีพจรให้เขามาแล้ว ไม่ว่าจะมีชื่อเสียง หรือไม่มีชื่อเสียง อาการที่แสดงออกตอนพวกเขาจับชีพจรให้เขา เขายังคงจำได้

มีน้อยคนที่สามารถรู้อาการป่วยได้ในทันที แม้ว่าจะมีหนึ่งหรือสองคนที่อ้างว่าเป็นหมอเทพก็ตาม รู้สาเหตุการป่วยของเขา แต่สำหรับการรักษาของพวกนอกจากการส่ายหน้าแล้ว ก็ถือถอนหายใจ

แต่ยังไม่ผู้ใดที่จับชีพจรแล้ว แสดงออกถึงอาการเช่นนี้

นาง……

ผู้หญิงที่มีอายุประมาณสิบห้าปี วิชาการรักษาล้นหลามเกินหมอผมหงอกเหล่านั้นได้อย่างไร?

“อาการป่วยของเจ้าน่าสนใจมาก!”

ในขณะที่พูดประโยคนี้ หลานเยาเยาก็ยิ้มออกมา

ทำให้ทุกคนคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ!

น่าสนใจ?

พระเจ้า หมอทั่วไปจะบอกได้เพียงว่ามันแปลกไม่ใช่หรือ?

หลานเยาเยากลับใช้คำว่าน่าสนใจมาเปรียบเปรย ความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนราวกับเห็นอะไรที่น่าสนุก

“พระชายาเย่หมายความว่าอย่างไรขอรับ?”

เย่หลีเฉินกำลังจะพูด แต่เสียงของเขายังไม่ได้เปล่งออกมา หานแสก็พูดขึ้นก่อน

“พิษก็ไม่ใช่ กู่ก็ไม่ใช่ โรคก็ไม่เหมือน แต่มีความรุนแรงมากกว่าทั้งสามอย่างรวมกันหลายร้อยเท่า

ตามหลักแล้ว แม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ไม่เกินสามเดือน แต่ตอนนี้ข้าพบว่า สถานการณ์เช่นนี้ในร่างกายของเจ้ามีมาอย่างน้อยนานสิบปีแล้ว

หากไม่ใช่เพราะมีชีพจร พูดได้ และยังมีความคิดเป็นของตัวเอง ข้าจะวินิจฉัยอย่างแน่นอนว่าเจ้าเป็นศพเดินได้”

หลานเยาเยามองไปที่หานแสด้วยความสนใจ

สายตามองเขาจากปลายผมจรดปลายรองเท้า แล้วมองจากปลายรองเท้าไปที่เส้นผม ความสนใจมากมายพุ่งออกมาจากดวงตา

เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้เห็นอาการป่วยน่าสนใจเช่นนี้……

“เสด็จอาสะใภ้ เขาเป็นโรคอะไรกันแน่?”

เห็นสายตาของหลานเยาเยาคอยกวาดมองหานแสไปมา ในใจเย่หลีเฉินเต็มไปด้วยความโกรธอย่างอธิบายไม่ถูก

“ในเมื่อเขาค้นหาหมอเทพในทุกแห่งหนบนโลก และเจ้าก็เป็นมิตรที่ดีของเขา เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไร?”

นางไม่เชื่อหรอก ว่าจะไม่มีการวินิจฉัยภาวะโรคดังกล่าวในทวีปนี้

อีกอย่าง

ดูการตอบสนองของหานแสเมื่อครู่ เห็นได้ชัด เขาเพียงแค่แปลกใจ ไม่ได้ตกใจ นี่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ามีผู้วินิจฉัยอาการของเขามากกว่าหนึ่งคน เพียงแค่หาวิธีรักษาไม่ได้เท่านั้นเอง

“ข้าไม่ใช่หมอ จะรู้ได้อย่างไร?”

อีกอย่างเขารู้จักกับหานแสเพียงไม่กี่เดือน รู้จักเขาน้อยมาก

เหมือนว่านอกจากรู้จักชื่อของหานแสแล้ว และภายนอกที่ตระกูลดูเหมือนมีอำนาจ อย่างอื่นไม่รู้อะไรเลย

หากไม่ใช่เพราะได้ยินว่าหานแสมีโรคที่รักษาไม่หาย รวมไปถึงความต้องการแก้แค้นหลานเยาเยา คิดว่าเขากับหานแส

เพียงแค่พบกันโดยบังเอิญก็แค่นั้น

“อ้อ เป็นเช่นนี้นี่เอง!”

แล้วหานแสผู้นี้เป็นใครกันแน่?

“ไม่ทราบว่าพระชายาเย่มีวิธีรักษาหรือไม่ขอรับ?” สำหรับเรื่องนี้ หานแสเขารู้สึกว่าเป็นเพียงคำถามที่เกินความจำเป็นเท่านั้น

ไม่ว่าอย่างไร!

สิบกว่าปีแล้ว เขาทนทุกข์ทรมานมามาก ความหวังที่ครั้งหนึ่งเคยมีเหล่านั้น ได้สูญหายไปนานแล้วตามกาลเวลา

“เรื่องนี้หรือ……ไม่มี!”

อันที่จริงมันก็ไม่ได้หมดหวังเลยมีเดียว แต่นางไม่จำเป็นต้องทำเพื่อคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และทำให้เย่แจ๋หยิ่งและนางตกอยู่ในอันตราย

แม้ว่าบุคคลนี้จะดูไม่มีอันตราย ก็ไม่ได้

“เป็นเช่นนี้จริงด้วย!”

เย่หลีเฉินทำท่าทางเหมือนว่าเขารู้อยู่แล้ว สำหรับการปฏิเสธของหลานเยาเยา ในสายตาของเขาก็มีการดูถูกมากขึ้น

แต่ เมื่อนึกถึงหมอเทพที่หานแสเคยตามหา สามารถวินิจฉัยโรคได้มีไม่ถึงสามคนแน่นอน และเมื่อคนเหล่านั้นที่มีวิชาการรักษาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ผมหงอกไปหมดแล้ว

และตอนนี้หลานเยาเยาเพิ่งสิบห้าปี อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเหล่าหมอเทพ นี่ถือเป็นอัจฉริยะในโลกของวิชาการรักษาเลยทีเดียว!

รู้สึกไม่มีความสุขขึ้นมาทันใด

“อาการก็ดูเสร็จแล้ว ผลก็ออกมาแล้ว เสด็จหลาน! ข้าไม่รั้งพวกเจ้าไว้กินข้าวแล้ว อย่างไรตอนนี้ เสด็จอาของเจ้าก็ไม่อยู่ที่จวน ข้าก็ยุ่งกับเรื่องต่างๆ ในจวน ยิ่งไม่มีเวลาดูแลพวกเจ้าเลย”

จัดการเรื่องดังกล่าวแล้ว นางไม่เพียงแต่รักษาชื่อเสียงของตนเองไว้ได้เท่านั้น ยังไม่ทำให้จวนอ๋องเย่เสื่อมเสียชื่อเสียง

ดังนั้น!

แน่นอนว่านางจะต้องไล่คนออกอย่างโจ่งแจ้ง นางไม่ใช่คนที่เกียจคร้านเหล่านั้น

ในใจของนางยังมีคำถามอีกมากมาย……

เย่หลีเฉินที่ถูกไล่ออกไปก็รู้ตัวเองดีเช่นกัน ลุกขึ้นด้วยความโกรธ จากนั้นสะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป

องค์ชายรัชทายาทก็ไปแล้ว คนที่หลงเหลืออยู่ก็ไม่กล้าอยู่ต่อให้นานอีกหน่อย

แต่!

แต่หลานเยาเยาให้หานแสทิ้งเลือดสองสามหยดลงในขวดเล็กๆ เอาไว้ กล่าวคำสัญญาเต็มไปความจริงใจ ถ้ามีวิธีรักษาต้องบอกเขาโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน

หานแสจัดการได้อย่างสะอาดสะอ้าน เติมเลือดลงในขวดเล็กๆ จนเต็มก่อนที่จะออกไป

หลานเยาเยาเหลือบมองถังมู่หวั่นที่ไม่พูดอะไรตั้งแต่ที่นางเข้าไปที่ห้องรับแขก อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ

ด้วยสายตาที่ไม่เต็มใจจากไปเช่นนี้ คาดว่าคงเป็นเพราะไม่เห็นเย่แจ๋หยิ่ง!

เหอะๆ !

ให้เจ้าคาดเดา……

“พวกเจ้ารีบไปโรงครัว ข้าหิวจะแย่อยู่แล้ว เนื้อไก่เป็ดปลาทุกอย่างห้ามขาด”

“……” ผู้คนที่เพิ่งก้าวออกจากห้องรับแขก

พระชายาเย่ นี่คือเรื่องที่ท่านบอกว่ายุ่งอยู่งั้นหรือ?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท