สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1576 ดวงแข็ง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1576 ดวงแข็ง

ไป๋ชิงเหยียนเอนกายซบอกของเซียวหรงเหยี่ยน

“จิ่นถงเลียนแบบวิธีของท่าน…”

เซียวหรงเหยี่ยนไม่เคยคิดมาก่อนว่าชุยเฟิ่งเหนียนจะคือไป๋จิ่นถง เขาเคยพบหน้าคุณหนูสามของตระกูลไป๋ตอนอยู่ในเมืองหลวงของต้าโจวมาก่อน เขานึกไม่ถึงว่าคุณหนูสามตระกูลไป๋จะเดินทางไปยังตงอี๋และพบแคว้นเทียนเฟิ่งในระยะเวลาเพียงสั้นๆ แค่นี้ ต่อมานางยังรวมมือกับตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดของซีเหลียงก่อความวุ่นวายในซีเหลียง จากนั้นเดินทางมายังต้าเยี่ยนอีก…

มู่หรงผิงบอกเขาว่าเคยพบหน้าชุยเฟิ่งเหยียนและอยากทำการค้าร่วมกับคนผู้นี้ ที่สำคัญมู่หรงผิงยังบังคับไม่ให้ชุยเฟิ่งเหนียนไปจากต้าเยี่ยนหากการเดิมพันระหว่างต้าโจวกับต้าเยี่ยนยังไม่สิ้นสุดลงอีกดังนั้นเซียวหรงเหยี่ยนจึงให้คนจับตาดูความเคลื่อนไหวของชุยเฟิ่งเหนียนเอาไว้ ทว่า ไม่ได้ให้คนสืบประวัติของนางอย่างละเอียด

“ดังนั้นเจ้าวางแผนเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่ตอนที่ตระกูลไป๋ยังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างนั้นหรือ”

เซียวหรงเหยี่ยนลูบแขนของไป๋ชิงเหยียนเบาๆ

“มองการณ์ไกลและวิเคราะห์ลงลึก…หากใต้หล้าตกอยู่ในมือของเจ้าก็ถือเป็นเรื่องดี”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้า ประสานนิ้วมือของตัวเองเข้ากับนิ้วมือของชายหนุ่ม

“อยู่ในมือของพวกเราต่างหาก การปกครองระบอบใหม่ของต้าโจวในตอนนี้คือการปกครองที่จีโฮ่วยังทำไม่สำเร็จ หากจีโฮ่วเห็นใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งสำเร็จ เห็นชาวบ้านมีชีวิตอย่างสงบสุข นางต้องดีใจแน่นอน”

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า เขาก้มจุมพิตที่หน้าผากของไป๋ชิงเหยียนเบาๆ

“เมื่อครู่ได้ยินทหารต้าโจวกล่าวว่าจงกั๋วอ๋องจะเดินทางมาถึงพรุ่งนี้เช้า ข้าคิดว่าเจ้าคงจะพาทหารบุกไปแก้แค้นกองทัพซีผิงทันทีที่จงกั๋วอ๋องมาถึง ทว่า ขาเจ้าได้รับบาดเจ็บอยู่ ข้าจะไปแทนเจ้าเอง”

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเตรียมเถียงเซียวหรงเหยี่ยนจึงกล่าวขึ้น

“ผู้คนคงประณามข้าไปทั่วแล้ว ข้าไม่กลัวว่าจะมีคนด่าข้ามากขึ้นอีก หากเจ้าไม่หยุดพักขาของเจ้าอาจเจ็บหนักกว่าเดิม หากเจ้าเกิดเป็นอันใดขึ้นมา…ข้าไม่รู้จะไปบอกกับท่านแม่เช่นใด”

ไป๋ชิงเหยียนคือภรรยาของเขา หากเขาดูแลนางได้ไม่ดีเขาจะไปบอกต่งซื่อเช่นใด จะขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของนางได้อย่างใด

“อาเหยี่ยน ข้ารู้ว่าที่ท่านมาอยู่ข้างเดียวกับข้าเพราะท่านถูกต้าเยี่ยนทำร้ายอย่างหนัก ทว่า สิ่งสำคัญกว่านั้นคือใจของท่านคิดว่าข้าชนะต้าเยี่ยนไปแล้ว”

ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาดำขลับซึ่งสะท้อนแสงไฟที่วางอยู่บนแท่นสูงในห้องของเซียวหรงเหยี่ยน

“ท่านรู้ว่าอย่างใดข้าก็ต้องเดินทางไปแก้แค้นที่เมืองซีผิงจวิ้น ท่านห้ามข้าไม่ได้ ทว่า ก็กลัวว่าข้าจะได้รับบาดเจ็บหนักกว่าเดิมจึงอยากไปแทนข้า!”

เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองสตรีในอ้อมกอดนิ่ง ลำคอของเขาร้อนผ่าว เขารับคำเสียงเบา

“อาเหยี่ยน ท่านสงสารข้า ทว่า ข้าก็สงสารท่านเหมือนกัน ต้าเยี่ยนคือแคว้นและบ้านของท่าน!”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น

“เกิดเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา มิตรสหายหรือแม้แต่ครอบครัวก็ควรมีความสงสารเห็นใจซึ่งกันและกัน”

ในสายตาของไป๋ชิงเหยียนเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้เป็นเพียงสามีของนางเท่านั้น เขายังเป็นครอบครัวและสหายที่รู้ใจของนางด้วย

ไป๋ชิงเหยียนสามารถทำสงครามยึดครองต้าเยี่ยนได้ ทว่า จะไม่มีทางเป็นสงครามที่เซียวหรงเหยี่ยนต้องทำเพื่อต้าโจวแน่นอน

หากตวัดดาบใส่แคว้นของตัวเอง อาเหยี่ยนจะเผชิญหน้ากับอาลี่และเผชิญหน้ากับตัวเองได้อย่างใดกัน

นางไม่อยากภาพที่เซียวหรงเหยี่ยนมองย้อนกลับมาในวันข้างหน้าเต็มไปด้วยภาพที่ตัวเองทำลายแคว้นของตัวเอง เขาคือมนุษย์…เขาย่อมปวดใจอยู่แล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนสังหารบุตรชายสองคนของซีผิงอ๋องและชายาของซีผิงซื่อจื่อเพื่อนาง ไม่รู้ว่าซีผิงซื่อจื่อจะกล่าวถึงเซียวหรงเหยี่ยนกับผู้อื่นเช่นใดบ้าง ประวัติศาสตร์ของต้าเยี่ยนจะบันทึกว่าเซียวหรงเหยี่ยนเป็นคนโหดร้ายเช่นใด

เซียวหรงเหยี่ยนเข้าใจความหมายของไป๋ชิงเหยียน เขาทัดปรอยผมของหญิงสาวไปไว้หลังใบหู จากนั้นกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม

ควรมีความเห็นใจซึ่งกันและกัน…

ทว่า เขาเห็นพี่สะใภ้เป็นคนที่เคารพมากที่สุดหลังจากพี่ชายของเขาจากไป เหตุใดพี่สะใภ้ของเขาจึงไม่สงสารและเห็นใจเขาในฐานะน้องชายเลยสักนิด

“ที่สำคัญยังมีอาเจวี๋ยอยู่ ข้าแค่ไปร่วมทัพเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของทหารต้าโจวเท่านั้น”

ขณะที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวนางสังเกตเห็นเซียวหรงเหยี่ยนกำลังเหม่อลอยจึงเอ่ยเรียกเขาเบาๆ

“อาเหยี่ยน”

เซียวหรงเหยี่ยนได้สติ เขาพยักหน้า

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้เดี๋ยวข้าจะเดินทางกลับเมืองหลวงของต้าเยี่ยน อาลี่เป็นคนใจอ่อน เรื่องบางเรื่องข้าต้องจัดการเอง”

เดิมทีเซียวหรงเหยี่ยนตั้งใจจะออกรบแทนไป๋ชิงเหยียน เมื่อจัดการเรื่องทางไป๋ชิงเหยียนเสร็จเรียบร้อยค่อยเดินทางกลับเมืองหลวงดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนนำจดหมายไปให้อาลี่ก่อน

ในเมื่อไป๋ชิงเหยียนยืนกรานจะออกรบด้วยตัวเองเขาก็จะเดินทางกลับเมืองหลวงของต้าเยี่ยน

“ท่านกลัวเชื้อพระวงศ์เหล่านั้นลงมือกับอาลี่อย่างนั้นหรือ”

ความจริงไป๋ชิงเหยียนก็เป็นห่วงเรื่องนี้ตั้งแต่ได้รับจดหมายจากไป๋จิ่นถงเช่นกัน

“ไม่ว่าจะในฐานะคนต้าเยี่ยนหรืออาของอาลี่ข้าก็ต้องปกป้องอาลี่ให้ได้”

เซียวหรงเหยี่ยนมองไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาจริงจัง

“อาลี่จะเป็นอันใดไปไม่ได้เด็ดขาด”

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ขัดขวางเซียวหรงเหยี่ยน หากเป็นนางนางก็จะกลับเมืองหลวงต้าเยี่ยนเหมือนกัน

“ได้ ท่านระวังตัวด้วย ข้าจะให้หลิ่วผิงเกาพาทหารไปกับท่านด้วย ตอนนี้ท่านมีคนอยู่ในต้าเยี่ยนไม่มาก”

“หากพากองทัพไปด้วยจะเดินทางได้ช้าลง เป้าหมายเด่นชัดเกินไป ข้าจะพาองครักษ์เร่งเดินทางกลับเมืองหลวงโดยเร็วที่สุด!”

เซียวหรงเหยี่ยนมองไป๋ชิงเหยียน

“พวกเรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกมาก”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

“หากต้องการความช่วยเหลือท่านสามารถใช้คนของไป๋จิ่นถงได้ นางรู้ว่าท่านคือคนในครอบครัว”

“ได้”

เดิมทีไป๋ชิงเหยียนอยากไปส่งเซียวหรงเหยี่ยนที่หน้าประตู ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนได้รับบาดเจ็บที่ขาจึงช่วยถอนรองเท้าให้นาง เมื่อดูแลให้นางนอนลงบนเตียงเรียบร้อยจึงปลดผ้าม่านให้และจากไป

เมื่อไป๋จิ่นจื้อไปถึงก็รีบไปดูอาการของหลู่หยวนเผิงทันที

นางคิดว่าเมื่อนางไปถึงจะเห็นหลู่หยวนเผิงที่ร่าเริงมีชีวิตชีวาเหมือนเดิม ทว่า ภาพที่หลู่หยวนเผิงนอนแน่นนิ่งหน้าขาวซีดอยู่บนเตียงท่ามกลางแสงไฟที่ส่องสว่างราวกับไม่มีชีวิตทำให้ไป๋จิ่นจื้อเป็นกังวลยิ่งนัก

นางคุกเข่าลงบนที่วางเท้าพลางกุมมือของหลู่หยวนเผิงไว้แน่น นางมองไปทางหมอด้วยตาที่เบิกกว้างแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงที่สั่นเทา

“เจ้ากล่าวอีกครั้งสิ…”

“ทูลเกาอี้อ๋อง แม่ทัพผู้นี้เสียเลือดมากเกินไป กระหม่อมไร้ความสามารถ ไม่อาจรักษาได้ดีกว่านี้แล้ว เกรงว่าเขาอาจทนได้แค่ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ…”

น้ำตาไหลพรากออกมาจากดวงตาของไป๋จิ่นจื้อ นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวด้วยความมั่นใจ

“เจ้าฝีมือการรักษาไม่ดีพอ! ท่านหมอหงต้องช่วยหลู่หยวนเผิงได้ เตรียมรถม้าเดี๋ยวนี้!”

หมอได้ยินคำกล่าวของไป๋จิ่นจื้อจึงรีบกล่าวขึ้น

“เกาอี้อ๋อง แม่ทัพผู้นี้คงทนแรงสะเทือนบนรถม้าไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ!”

“เช่นนั้นจะให้เขานอนรอความตายอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ!”

ไป๋จิ่นจื้อเห็นทหารยืนอยู่หน้าประตูอย่างทำสิ่งใดไม่ถูกจึงรีบตวาด

“มัวทำอันใดอยู่ รีบไปเตรียมรถม้าเร็วเข้า!”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเห็นทหารผู้นั้นรีบวิ่งออกไปไป๋จิ่นจื้อจึงหันไปกุมมือหลู่หยวนเผิงแน่น นางนั่งลงบนที่วางเท้าตามเดิมพลางลูบมือหลู่หยวนเผิงแรงๆ เมื่อเห็นดวงตาทั้งสองข้างของเขายังปิดสนิทนางก็แทบเปล่งเสียงร้องไห้ออกมา

“หลู่หยวนเผิง เจ้านึกถึงท่านปูที่ชราแล้วของเจ้าสิ เจ้าเป็นคนดวงแข็ง เจ้าต้องไม่เป็นอันใดแน่ ขอเพียงเจ้าฟื้นขึ้นมาข้าจะแต่งงานกับเจ้าดีหรือไม่…”

เมื่อกล่าวถึงช่วงท้ายไป๋จิ่นจื้อจึงร้องไห้ออกมาอย่างทนไม่ไหว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท