สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1578 ถูกโจมตีทั้งสองด้าน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1578 ถูกโจมตีทั้งสองด้าน

“เจ้าพักผ่อนก่อน พวกเราจะไปออกรบก็จริง ทว่า ไม่รีบร้อนเคลื่อนทัพตอนนี้”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบเว่ยจงก็สั่งให้คนแบกเสลี่ยงของไป๋ชิงเหยียนออกไปจากเรือน

“กลับไปพักผ่อนสักงีบ”

ไป๋ชิงเหยียนและเหล่าทหารทำศึกกันมาทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้หยุด ตอนนี้ทหารอ่อนล้าจนไม่มีทางชนะสงครามแน่นอน

ตอนนี้ควรให้เหล่าทหารได้พักผ่อนและทานอาหารให้อิ่มท้อง ตกดึกคอยยกทัพบุกไปโจมตีศัตรูจนฝ่ายนั้นไม่ทันตั้งตัวดีกว่า ตอนนี้ทหารต้าโจวทุกคนเต็มไปด้วยความเดือดดาลและใจที่อยากแก้แค้น พวกเขาต้องทำสงครามกันอย่างเต็มที่ที่สุดแน่

ไป๋ชิงเจวี๋ยรู้ว่าพี่หญิงใหญ่ของตัวเองถูกลอบโจมตีจึงเร่งเดินทางกลับมาโดยเร็วที่สุด เมื่อเห็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่แขนและขาของพี่หญิงใหญ่เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทว่า ในใจยังคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“พี่ส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของเมืองซีผิงจวิ้นแล้ว หากพบความผิดปกติใดๆ เขาจะรีบกลับมารายงานทันที ให้ทหารนอนหลับพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ เมื่อพระอาทิตย์ตกดินในวันพรุ่งนี้เราจะเคลื่อนทัพทันที”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวไป๋ชิงเจวี๋ย

ไป๋ชิงเหยียนไม่เพียงส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวเมืองซีผิงจวิ้นเท่านั้น ระหว่างเดินทางกลับมานางยังให้คนดักซ่อนอยู่ระหว่างทางเป็นระยะอีกด้วย หากซีผิงซื่อจื่อส่งสายลับมายังเมืองเส่อชวี หากคนของนางจับเป็นคนเหล่านั้นไม่ได้ให้สังหารพวกเขาทิ้งทันที

“ขอรับ”

ไป๋ชิงเจวี๋ยรับคำแล้วถามต่อ

“พี่หญิงใหญ่จะให้ย้ายทหารกองทัพผิงหยางห้าหมื่นนายมาที่นี่หรือไม่ขอรับ”

“พี่ส่งคนไปตามแล้ว กองทัพผิงหยางจะมาถึงภายในสามวัน”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋ชิงเจวี๋ยเสียงเบา

“นอกจากนี้พี่ยังโยกย้ายกองทัพคุ้มกันเมืองกว่างหลิงซึ่งมีไม่มากมาด้วย กว่างหลิงอยู่ใกล้เมืองเส่อชวี พวกเขาน่าจะมาถึงไม่เกินช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ เมื่อเราจัดทัพเสร็จจะออกเดินทางทันที”

เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้ายังไม่สว่าง ดวงอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า บนท้องฟ้าฝั่งตะวันออกเห็นเพียงแสงอ่อนๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านหน้ากลุ่มมฆหนาทึบเท่านั้น

เหล่าทหารยังคงนอนหลับพักผ่อนอยู่ เมืองเส่อชวีเงียบจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเห่าของสุนัข…

มีเพียงเสียงเสื้อเกราะกระทบกันของทหารคุ้มกันเมืองตอนเดินลาดตระเวนเท่านั้น

ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งตื่นนอนก็ได้ยินเสียงหลิ่วผิงเการายงานจากด้านนอกว่าจับสายลับได้แล้ว

หลิ่วผิงเกายืนอยู่ในห้อง ไป๋ชิงเหยียนอยู่ห้องด้านในซึ่งกั้นด้วยฉากกั้นหนาทึบและผ้าม่านอีกชั้นจนคนด้านนอกมองไม่เห็นสิ่งใดจากด้านในแม้แต่น้อย หลิ่วผิงเกาได้ยินเพียงเสียงล้างหน้าของไป๋ชิงเหยียน

แสงไฟอ่อนๆ ที่ตั้งอยู่ด้านนอกส่องกระทบใบหน้าครึ่งซีกที่เคร่งขรึมของหลิ่วผิงเกา น้ำเสียงของหลิ่วผิงเกาเยือกเย็นและแฝงไปด้วยโทสะ

“กระหม่อมใช้วิธีทรมานสายลับสองคนนั้นจนพวกเขาได้แต่ร้องขอชีวิต คนหนึ่งกล่าวว่าไม่รู้เรื่องอันใดทั้งสิ้น อีกคนบอกว่าบอกว่าซีผิงซื่อจื่อทราบว่าฝ่าบาทถนัดการทำสงครามแบบรวดเร็ว เขากลัวว่าฝ่าบาทจะจัดทัพไปโจมตีเมืองซีผิงจวิ้นทันทีที่เดินทางถึงเมืองเส่อชวีจึงส่งเขามาสืบพ่ะย่ะค่ะ”

“ต่อมาเมื่อโดนทรมานหนักขึ้นพวกเขาจึงยอมสารภาพพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาบอกว่าซีผิงซื่อจื่อให้ทหารคุ้มกันเมืองซีผิงจวิ้นอย่างแน่นหนา จากนั้นส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากเชื้อพะวงศ์ต้าเยี่ยนคนอื่นๆ แล้ว เขาบอกว่าหากต้าโจวบุกโจมตีเมืองซีผิงจวิ้นให้เชื้อพระวงศ์คนอื่นๆ นำทัพบุกมาล้อมกองทัพต้าโจวจากด้านนอกเมือง หากต้าโจวยังไม่ยอมบุกไปแก้แค้นพวกเขาที่เมืองซีผิงจวิ้น ซีผิงซื่อจื่อจะให้เชื้อพระวงศ์คนอื่นๆ นำทัพบุกมาโจมตีเมืองเส่อชวีและสังหารฝ่าบาทก่อนที่พวกเราจะเดินทางกลับต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนรับผ้าขนหนูจากเว่ยจงมาเช็ดหน้า ใช้น้ำเกลือบ้วนปาก จากนั้นเอ่ยถาม

“คนที่ส่งไปจับตาดูความเคลื่อนไหวทางเมืองซีผิงจวิ้นกลับมาบ้างหรือไม่”

“ยังไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”

หลิ่วผิงเกาตอบ

“ส่งคนไปดูสิว่าคนของเราถูกทหารซีผิงจับได้หรือทางนั้นไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ คนของเราจึงเฝ้าจับตาดูอยู่กันแน่”

ไป๋ชิงเหยียนคำนวณเวลาแล้วกล่าวขึ้น

“ให้พวกเขากลับมาภายในสามชั่วยามไม่ว่าจะพบคนของเราที่ถูกส่งไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของเมืองซีผิงจวิ้นหรือไม่ก็ตาม”

“พ่ะย่ะค่ะ”

หลิ่วผิงเการับคำแล้วเดินออกไปจากห้อง เขารีบไปถ่ายทอดคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนทันที

หลิ่วผิงเกาเดินออกไปจากเรือนได้ไม่เท่าใดก็พบกับเซียวรั่วเจียงที่กลับมาพร้อมไป๋ชิงเจวี๋ยเมื่อคืน

เมื่อเห็นร่างของเซียวรั่วเจียงมีแต่ไอหนาว เสื้อผ้าและศีรษะเต็มไปด้วยไอน้ำ หลิ่วผิงเกาจึงถามขึ้นอย่างแปลกใจ

“เจ้าไปที่ใดมา”

“เมื่อคืนข้าไปซีผิงจวิ้นมา!”

ใบหน้าของเซียวรั่วเจียงแดงก่ำเพราะความหนาว ขณะกล่าวริมฝีปากยังคงสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินหลิ่วผิงเกาบอกว่าไป๋ชิงเหยียนให้ส่งคนไปสำรวจสถานการณ์ทางนั้นเพิ่มเซียวรั่วเจียงจึงกล่าวขึ้น

“ไม่จำเป็นต้องส่งคนไปเพิ่มแล้ว ข้าเพิ่งกลับมา กำลังจะไปพบคุณหนูใหญ่”

หลิ่วผิงเกามองตามแผ่นหลังของเซียวรั่วเจียงที่หายลับไปอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง เขาอดรู้สึกทึ่งไม่ได้ สองพี่น้องตระกูลเซียวที่อยู่ข้างกายฝ่าบาทยังเป็นคนน่าอัศจรรย์จริงๆ เขาเดินทางไปสำรวจเมืองซีผิงจวิ้นก่อนราวกับคาดการณ์ได้ล่วงหน้า

หลิ่วผิงเการู้ความสามารถของหรู่ซยงทั้งสองของไป๋ชิงเหยียนดี เขาอดนึกถึงเซียวรั่วไห่ขึ้นมาไม่ได้ หากเซียวรั่วไห่และเสิ่นชิงจู๋อยู่ข้างกายฝ่าบาทในสงครามทำลายล้างต้าเยี่ยนในครั้งนี้ด้วยก็คงจะดี

เมื่อได้ยินเซียวรั่วเจียงขอเข้าพบไป๋ชิงเหยียนจึงเอ่ยสั่งเว่ยจง

“หรู่ซยงเพิ่งกลับมาคงหิวมาก ส่งคนไปตามอาเจวี๋ยมาทานอาหารเช้าพร้อมข้าที่นี่ด้วย”

เซียวรั่วเจียงเดินแหวกม่านเข้ามาด้านใน เว่ยจงสั่งให้คนไปเตรียมอาหารเสร็จจึงนำเตาผิงไปวางไว้ข้างกายของเซียวรั่วเจียง จากนั้นรับเสื้อคลุมกันหนาวมาจากเซียวรั่วเจียงด้วยตัวเอง

เซียวรั่วเจียงหยิบแผนที่เมืองซีผิงจวิ้นที่เขาวาดด้วยตัวเองออกมาจากอกให้เว่ยจงนำไปมอบให้ไป๋ชิงเหยียนเพราะเขากลัวว่าไอหนาวจากร่างของเขาจะแผ่ไปถึงไป๋ชิงเหยียน

“เมื่อคืนเมืองซีผิงถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนาข้าจึงลอบเข้าไปในเมืองไม่ได้ แผนที่ชุดนี้จึงไม่ได้ละเอียดมากนัก มีเพียงขนาดพื้นที่และความสูงคร่าวๆ ของกำแพงเมืองเท่านั้นขอรับ”

“กำแพงของเมืองซีผิงค่อนข้างใหม่ดังนั้นจึงไม่สูงมากนักขอรับ”

เว่ยจงวางชาร้อนลงตรงหน้าเซียวรั่วเจียง เซียวรั่วเจียงพยักหน้าขอบคุณ จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนต่อ

“หากทหารค่ายหู่อิงหรือกองทัพซั่วหยางอยู่คงปีนขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย ทว่า หากเป็นกองทัพอันผิง…แม้จะขึ้นไปได้เช่นกันแต่คงต้องใช้เวลาสักนิดขอรับ เช่นนี้กองทัพของเชื้อพระวงศ์คนอื่นของต้าเยี่ยนอาจบุกมาถึงก่อนได้ขอรับ!”

เซียวรั่วเจียงกล่าวจบไป๋ชิงเจวี๋ยก็มาถึงพอดี เซียวรั่วเจียงรีบลุกขึ้นทำความเคารพไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋ชิงเจวี๋ยโบกมือให้เซียวรั่วเจียงนั่งลง ส่วนเขาหันไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนและนั่งลงข้างพี่สาวของตัวเอง

“คุณหนูใหญ่…”

เซียวรั่วเจียงนั่งลงอีกครั้งแล้วมองไปทางไป๋ชิงเหยียน

“กำลังทหารของพวกเรามีอยู่อย่างจำกัด หากพวกเราเสียเวลาที่เมืองซีผิงมากเกินไปแล้วกองทัพของเชื้อพระวงศ์คนอื่นมาถึง พวกเราอาจถูกโจมตีทั้งสองด้านขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนหยิบตะเกียงบนโต๊ะลุกเดินไปยังแผนที่ใหญ่ซึ่งแขวนอยู่บนผนังอย่างพยามยามข่มความเจ็บปวดที่ขาของตัวเอง ไป๋ชิงเจวี๋ยและเซียวรั่วเจียงรีบลุกเดินตามไป

ไป๋ชิงเหยียนชี้นิ้วไปยังเมืองจิ่วเจียงในแผนที่

“ผู้ที่อยู่ใกล้เมืองซีผิงที่สุดและมีกำลังทหารมากที่สุดคือจิ่วเจียงอ๋อง!”

ไป๋ชิงเหยียนลากนิ้วจากเมืองจิ่วเจียงไปยังเมืองซีผิง

“การเดินทางจากเมืองจิ่วเจียงไปยังซีผิงใช้เวลาประมาณสองวัน จากกว่างหลิงถึงเส่อชวีใช้เวลาหนึ่งวัน กองทัพหยางผิงจะเดินทางมาถึงภายในสามวัน เมื่อคืนเสี่ยวซื่อสั่งเคลื่อนย้ายทัพเสริมจากเมืองใกล้เคียงมาที่นี่อีก พวกเขามาถึงตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืนแล้ว เมื่อกองทัพหยางผิงมาถึงในช่วงบ่ายของวันนี้พวกเราก็จะมีกองทัพที่ใช้งานได้ประมาณสี่หมื่นนาย!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท