บทที่ 918 จุด (2)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

“ข้า​เข้าใจ​แล้ว​…” ลู่​เซิ่งพอ​จะเข้าใจ​สถานการณ์​ใน​ตอนนี้​คร่าวๆ​ แล้ว​ หงส์​เพลิง​ที่อยู่​บน​สวรรค์​นั้น​โดดเดี่ยว​เกินไป​ ทั้ง​ยัง​ไม่อาจ​แต่งงาน​เชื่อม​สัมพันธ์​กับ​เผ่าพันธุ์​อื่น​ได้​ ได้​แต่​หา​ความสำราญ​กับ​พวก​ตัวเอง​เท่านั้น​ แต่​บุรุษเพศ​ใน​เผ่า​กลับ​มีความ​เป็น​สตรี​ยิ่งกว่า​อิสตรี​เสีย​อีก​

ตอนนี้​เขา​ปรากฏตัว​กะทันหัน​ พลัน​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​หงส์​เพลิง​ทั้งหมด​

แม้ลู่​เซิ่งจะไม่ยอมรับ​หน้าตา​ของ​ตน​ใน​ตอนนี้​ แต่​เขา​ทราบ​ว่า​รูปลักษณ์​แบบนี้​อยู่​ใน​ระดับ​ไหน​เมื่อ​อยู่​ด้านนอก​

กล่าว​ได้​ว่า​บันทึก​ทักษิณ​อายุวัฒนะ​เน้น​ความงาม​เป็นหลัก​ จึงปั้น​ร่าง​หลัก​ที่​ประสาน​พลัง​ดั้งเดิม​กับ​ความงาม​ จน​กลายเป็น​หน้าตา​ดั่ง​เช่น​ใน​ตอนนี้​ที่​เป็น​มาตรฐาน​ความงาม​ของ​ทุกคน​

แม้จะไม่ชอบใจ​ แต่​ก็​ไม่อาจ​ปฏิเสธว่า​ รูปลักษณ์​นี้​ก็​มอบ​ภาพ​ประทับใจ​แรก​ที่​ดี​ให้​แก่​สตรีเพศ​ได้​

หลังจาก​นีเอ๋อร์​มาส่งเขา​แล้ว​ ก็​หันหลังจาก​ไป

ใน​คฤหาสน์​ว่างเปล่า​ นอกจาก​ลู่​เซิ่งแล้ว​ ก็​ยังมี​สตรี​อาภรณ์​ม่วง​อีก​สอง​คน​ที่​คุย​ซุบซิบ​กัน​แผ่วเบา​อยู่​ตรง​มุมลาน​

ใน​ฐานะ​ทายาท​หงส์​เพลิง​ หญิงสาว​หนึ่ง​เย็น​หนึ่ง​ร้อน​ บุคลิก​แตก​ต่างกัน​ แต่​สืบทอด​ความงาม​แทบ​สมบูรณ์แบบ​มาเช่นเดียวกัน​

พวก​นาง​เพียงแค่​เหลือบมอง​ลู่​เซิ่ง แล้วก็​ไม่สนใจ​อะไร​อีก​ หันไป​พูดคุย​กัน​ต่อ​

ลู่​เซิ่งเดิน​ตัดผ่าน​ทะลุ​ลาน​ เจอ​ห้องนอน​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​บรรดา​ห้อง​ที่​ยัง​ว่าง​ภายใน​คฤหาสน์​ เลือก​เข้า​ห้อง​นี้​ไป

หลังจาก​ภูเขา​ปู้โจว​ซาน​ถล่ม​ ตำหนัก​หงส์​เพลิง​บน​อุทยาน​สวรรค์​เคลื่อนไหว​ใน​ช่วงแรก​ไม่กี่​วัน​ จากนั้น​ก็​สงบ​ลง​

ทุกๆ​ วัน​นอกจาก​จะไปหา​บริวาร​ใน​ลัทธิ​แสงสว่าง​ของ​ตัวเอง​ และ​เผ่า​ปีศาจจาก​ป่าต้นไม้​ยักษ์​อย่าง​พวก​ห​ลัน​ซีและ​เอิน​รั่ว​ที่​อีก​ตำหนัก​แล้ว​ ลู่​เซิ่งก็​เดินเล่น​อยู่​ใน​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​

อวี่​ซวน​ไม่ได้​วาง​กฎ​ว่า​เขา​ต้อง​ทำ​อะไร​ เพียง​ห้ามไม่ให้​เขา​ออกจาก​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​เท่านั้น​ ที่​เหลือ​เคลื่อนไหว​ได้​อย่าง​อิสระ​

นี่​ทำให้​ลู่​เซิ่งที่เกิด​ความสนใจ​ต่อ​อุทยาน​สวรรค์​มาโดยตลอด​ เที่ยวเล่น​รอบ​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​อย่าง​จริงจัง​

มื้อ​อาหาร​สามมื้อ​ใน​แต่ละวัน​ จะมีหญิงสาว​เผ่า​ปีศาจสายเลือด​หงส์​เพลิง​เจือจาง​ยก​มา หญิงสาว​พวก​นี้​สวมใส่​เสื้อผ้า​น้อย​ชิ้น​ เครื่อง​นุ่ม​ห่ม​ยั่วยวน​เต็มเปี่ยม​ เปลี่ยนไป​เปลี่ยน​มาทุกวัน​ แสดงออก​ถึงเจตนา​ยั่วยวน​ชัดเจน​เหลือเกิน​

ตอนกลางคืน​จะมีคน​แอบ​เคาะ​หน้าต่าง​ห้องนอน​ลู่​เซิ่งเบา​ๆ เสื้อชั้นใน​ที่​ซัก​ตาก​ใน​ลาน​มัก​หาย​ไปอย่าง​แปลกประหลาด​

มีหลายครั้ง​ที่​ลู่​เซิ่งถึงขั้น​พบ​ว่า​ จอก​ชาที่​ตัวเอง​เพิ่ง​ดื่ม​ไปได้​ไม่กี่​อึก​หายสาบสูญ​ไปแม้จะลุก​ไปที่อื่น​เพียง​ครู่เดียว​…

เขา​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​นีเอ๋อร์​หลาย​รอบ​ แต่​นีเอ๋อร์​เพียง​หัวเราะ​ ให้​ความรู้สึก​เหมือน​ผลัก​เรือ​ตามน้ำ​อยู่​บ้าง​

ทา​งอ​วี่​ซวน​ค่อยๆ​ เริ่ม​ออกห่าง​จากลู่​เซิ่ง เหมือน​อนุญาต​คนใน​เผ่า​ก้​ไม่ปาน​

เผ่า​หงส์​เพลิง​มีตำแหน่ง​ใน​อุทยาน​สวรรค์​ไม่สูงนัก​ เป็น​เพราะ​คุณสมบัติ​พรสวรรค์​ของ​สัตว์​เทพ​ จึงยาก​ที่จะ​แต่งงาน​กับ​เผ่าพันธุ์​อื่น​ กอปร​กับ​มีแต่​เผ่า​ปีศาจระดับ​กาย​อริยะ​หงส์​เพลิง​แต่งงาน​กัน​เท่านั้น​ ถึงจะให้กำเนิด​ทายาท​สายเลือด​บริสุทธิ์​สูงเหมือนกัน​ได้​

ดังนั้น​การ​แต่งงาน​ภายใน​จึงเป็นเรื่อง​ปกติ​อย่างยิ่ง​ เผ่า​หงส์​เพลิง​ที่อยู่​ใน​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​ยัง​พอ​ว่า​ แม้จะมีบุรุษเพศ​ไม่มาก​ ทั้ง​ยังมี​หน้าตา​เฉกเช่น​สาวงาม​ แต่​จำนวนมาก​พอ​จะมีอะไร​กัน​ได้​ ทว่า​ใน​อุทยาน​สวรรค์​กลับ​ไม่เพียง​พอแล้ว​

หงส์​เพลิง​ทั้งหมด​หลาย​สิบ​ตน​ มีบุรุษเพศ​ไม่กี่​คน​ และ​บุรุษเพศ​เหล่านี้​ก็​ไม่สนใจ​สตรี​เพ​ศ…บวก​กับ​ไม่อาจ​ออก​ไปด้านนอก​ได้​ ดังนั้น​เผ่า​หงส์​เพลิง​ต้อง​หักห้าม​ความปรารถนา​ที่​พลุ่งพล่าน​ไว้​ตลอดเวลา​

การ​มาของ​ลู่​เซิ่ง เหมือนกับ​เท​น้ำมัน​ถังหนึ่ง​ใน​กอง​ฟืน​มีสะเก็ด​ไฟ เปลวเพลิง​พลัน​โชติช่วง​

ลู่​เซิ่งอยู่​ที่​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​กว่า​หนึ่ง​เดือน​ ลู่​เซิ่งเริ่ม​คุ้นเคย​กับ​เผ่า​หงส์​เพลิง​ทั้งหมด​ และ​เข้า​ใจความ​จนปัญญา​ของ​พวก​นาง​ไม่มาก​ก็​น้อย​

แต่​เขา​มาที่นี่​ไม่ใช่เพราะ​มาพักผ่อน​เนื่องจาก​ไม่มีอะไร​ทำ​ หาก​เพราะ​อีก​เป้าหมาย​หนึ่ง​ต่างหาก​

“เจ้าจะบอ​กว่า​ เจ้าคิด​อาศัย​เครือข่าย​ข้อมูล​ของ​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​เพื่อ​ตามหา​สิ่งนี้​หรือ​” นีเอ๋อร์​มอง​ภาพ​ที่​ถือ​อยู่​ใน​มือ​อย่าง​ฉงน​ ด้านบน​วาด​ต้นไม้​ยักษ์​สีดำ​ต้น​หนึ่ง​ กับ​ดวงตา​โลหะ​สีเงิน​ที่​มีรูปทรง​แปลกประหลาด​อยู่​บ้าง​ข้าง​หนึ่ง​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​

“ใช่ สาย​ข้อมูล​ของ​เผ่า​หงส์​เพลิง​เรา​นั้น​ค่อนข้าง​ร้ายกาจ​ ของ​สอง​สิ่งนี้​ ถ้าหาก​หา​เจอ​ ข้า​ย่อม​ตอบแทน​แน่นอน​!” ลู่​เซิ่งเอ่ย​เสียงทุ้ม​เคร่งขรึม​

“ถึงจะไม่เคย​เห็น​มาก่อน​ แต่​จะลอง​ช่วย​เจ้าดู​” นีเอ๋อร์​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ นาง​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​ที่​ดูแล​การ​ใช้ชีวิต​ของ​เผ่า​ปีศาจใน​โลก​เบื้องล่าง​อย่าง​ลู่​เซิ่งที่​อวี่​ซวน​ส่งมา

ปกติ​แล้ว​นีเอ๋อร์​มีท่าที​หนักแน่น​ ไม่ใช่พูด​กัน​ไม่กี่​คำ​ก็​จะแตะ​เหนือ​ต้อง​ตัว​เหมือนกับ​สตรี​หงส์​เพลิง​เหล่านั้น​

ดังนั้น​ลู่​เซิ่งจึงเอา​ภาพ​ที่​ตัวเอง​วาด​มาเสนอ​กับ​นีเอ๋อร์​

“แต่​โลก​เบื้องล่าง​กว้างขวาง​เกินไป​ ของ​สิ่งนี้​ไม่น่าจะ​หา​เจอ​ใน​เวลา​อัน​สั้น​ เจ้าต้อง​มีความอดทน​ที่จะ​รอ​ด้วย​” นีเอ๋อร์​เอ่ย​เสียง​แผ่ว​

“แน่นอน​ เพื่อ​ตอบแทน​ ถ้ามีอะไร​ต้องการ​ให้​ข้า​ช่วย​ เจ้าบอก​กับ​ข้า​ได้​เต็มที่​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​จริงจัง​ “นี่​เป็น​คำมั่น​ของ​ข้า​”

“ถ้าเรื่อง​ช่วย​ ก็​มีอยู่​เรื่อง​หนึ่ง​จริงๆ​…” นีเอ๋อร์​ลังเล​เล็กน้อย​ มอง​ภาพวาด​ด้านหน้า​พลาง​ใช้นิ้ว​แตะ​ริมฝีปาก​

“เทพ​ปีศาจอวิ๋น​เห​มิงต้องการ​ให้​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​ของ​พวกเรา​ส่งจิตรกร​และ​นักดนตรี​ไปอย่าง​ละ​คน​ ถ้าทำได้​ ข้า​อยาก​ให้​เจ้าช่วย​ปกป้อง​นักดนตรี​เหล่านั้น​ อวิ๋น​เห​มิงเป็นหนึ่ง​ใน​ไม่กี่​คนใน​อุทยาน​ปีศาจที่​ไม่กลัว​ความเจ็บปวด​จาก​อัคคี​เทพ​หงส์​เพลิง​ ดังนั้น​เขา​จึงมีเจตนาร้าย​ต่อ​เผ่า​เรา​มาโดยตลอด​ แต่​ด้วย​กฎ​ของ​อุทยาน​สวรรค์​ เขา​ที่​เป็น​แม่ทัพ​เทพ​ปีศาจ ก็​มีสิทธิ์​เรียก​นักดนตรี​ของ​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​ไปบรรเลง​ ก่อนหน้านี้​พวกเรา​ส่งบุรุษเพศ​หนึ่ง​ใน​สามที่​มีอยู่​ไป แต่​เพราะ​แบบนี้​ บุรุษเพศ​ผู้​นั้น​ถูกกระทำ​ย่ำยี​จน​สติแตก​ หลัง​กลับมา​ต้อง​รักษา​อยู่​นาน​ถึงจะฟื้นตัว​กลับมา​ได้​”

“เข้าใจ​แล้ว​ ข้า​จะไปเอง​” ลู่​เซิ่งอยู่​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​มานาน​ เบื่อหน่าย​แต่แรก​แล้ว​ ภารกิจ​เล็ก​ๆ ใน​ครั้งนี้​ทำให้​มีโอกาส​ยืดเส้นยืดสาย​พอดี​ ถ้าสำเร็จ​ อาจจะ​ตั้งหลัก​ปัก​ฐาน​ใน​อุทยาน​ปีศาจได้​ด้วย​

“เช่นนั้น​ขอ​ขอบคุณ​ท่าน​” นีเอ๋อร์​เอง​ก็​จนปัญญา​เช่นกัน​ พวก​นาง​ถ่วงเวลา​ทา​งอ​วิ๋น​เห​มิงมานาน​แล้ว​ เดิมที​เพราะ​จักรพรรดินี​ซีเห​อ​ช่วย​พูด​ให้​ ทำให้​ถ่วงเวลา​ไปได้​เรื่อยๆ​ แต่​หลังจาก​เกิดเรื่อง​นั้น​ จักรพรรดินี​ซีเห​อ​ก็​ไม่อาจ​ช่วย​พูด​ใน​เรื่อง​เล็กน้อย​อย่างนี้​ได้​อีก​

ครั้งนี้​จึงไม่อาจ​หลีกเลี่ยง​ได้​อก​

ดี​ที่​การ​ปรากฏตัว​ของ​ลู่​เซิ่งได้​มีหนทาง​ให้​นาง​พอดี​ คน​ที่​ไม่ใช่บุรุษ​งามงด​ภายใน​เผ่า​หงส์​เพลิง​ มีเพ​ยง​ลู่​เซิ่งคนเดียว​เท่านั้น​

ดังนั้น​ให้​เขา​ออกหน้า​ยาม​นี้​นั้น​จึงเหมาะสม​ที่สุด​

หลังจาก​ลู่​เซิ่งกลับ​คฤหาสน์​ไปได้​ไม่นาน​เท่าไร​ ก็​มีหญิง​รับใช้​มาแจ้งให้​เขา​ไปยัง​ประตู​ประจิม​ของ​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​ เพื่อ​รวมตัว​กับ​นักดนตรี​

เขา​เก็บ​ข้าวของ​ นำ​กระดาษ​และ​พู่กัน​ เดิน​มาถึงประตู​ประจิม​

“พ่อ​หนุ่ม​เซิ่ง ครั้งนี้​ขอ​ฝาก​เจ้าด้วย​” นักดนตรี​คือ​คนคุ้นเคย​ของ​ลู่​เซิ่ง นาง​คือ​เซียว​หนิง​ที่มา​นำทาง​เขา​ใน​วัน​แรก​นั่นเอง​

เสี่ยว​หนิง​จ้องมอง​ลู่​เซิ่งด้วย​สายตา​จิ้งจอก​แวววาว​ นาง​สวม​กระโปรง​ประณีต​ยา​วสี​ขาว​บริสุทธิ์​ เผย​บ่า​ระหง​ ประดับ​ด้วย​เส้น​ขน​สีแดง​หลากหลาย​เส้น​

“ไม่ต้อง​ห่วง​ ท่าน​นำทาง​เถิด​ ข้า​ไม่เคย​ออกจาก​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​มาก่อน​” ลู่​เซิ่งพยักหน้า​

งาน​หลักสำคัญ​กว่า​ เสี่ยว​หนิง​ไม่ออก​อาการ​บ้า​บุรุษ​อีก​ หันไป​เดิน​นำทาง​ด้านหน้า​

ด้านนอก​ตำหนัก​หงส์​เพลิง​คือ​ระเบียง​หยก​ขาว​พาด​ขวาง​สลับ​กัน​ ระเบียง​เหมือนกับ​สะพาน​ ยื่น​เหยียด​ไปใน​หมอก​เมฆสีขาว​ขมุกขมัว​ คล้าย​มีคล้าย​ไม่มี

มีกระเรียน​เซียน​บิน​ผ่าน​ตลอดเวลา​ สอง​ฟาก​เห็น​ตำหนัก​ใหญ่​เลือนราง​เป็นระยะ​ ด้านใน​มีร่าง​เทพ​ปีศาจขนาด​มหึมา​ปรากฏ​ให้​เห็น​เลือนราง​

ทั้งสอง​เดิน​ไปราว​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ไม่นาน​เยื้อง​ไปทางขวามือ​ก็​ปรากฏ​ตำหนัก​ขนาด​กลาง​สีทอง​อร่าม​แห่ง​หนึ่ง​

บน​ประตู​ตำหนัก​มีป้าย​สัญลักษณ์​ลูกกบ​สีเงิน​ติด​อยู่​

คน​เฝ้าประตู​คือ​ปีศาจน้อย​หน้าเขียว​เขี้ยว​งอ​สอง​ตน​ พลัง​ปีศาจไม่อ่อนแอ​ อย่าง​น้อย​อยู่​ใน​ระดับ​แก่น​ทองคำ​

เสี่ยว​หนิง​เข้าไป​คุย​กับ​ปีศาจน้อย​สอง​ตน​สักพัก​ ไม่นาน​ใน​ตำหนัก​ก็​มียักษ์​ผิว​สีเทา​ร่าง​สูงใหญ่​สอง​ตน​เดิน​ออกมา​ นำทาง​ปีศาจน้อย​กับ​ลู่​เซิ่งเข้าไป​พร้อมกัน​

“องค์​ราชา​รอ​แม่นาง​หนิง​เอ๋อร์​มานาน​แล้ว​” ยักษ์​นำทาง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​

“ขอบคุณ​เทพ​ปีศาจที่​เอ็นดู​ หนิง​เอ๋อร์​จะทำ​การแสดง​อย่าง​เต็มที่​” เสี่ยว​หนิง​มีสีหน้า​หวาดกลัว​เล็กน้อย​ แต่​ก็​ยังคง​ตอบ​อย่าง​ระมัดระวัง​

“เช่นนั้น​ก็ดี​” ยักษ์​พยักหน้า​ ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​

ลู่​เซิ่งติดตาม​อยู่​ด้านหลัง​สุด​ ไม่เอ่ย​อะไร​แม้แต่​เดียว​

โครม​!

ทันใดนั้น​ด้านหลัง​ก็​มีเสียง​ปิดประตู​หนักอึ้ง​ดัง​ขึ้น​ คลื่น​มิติ​ขยาย​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​ ลู่​เซิ่งสัมผัส​ได้​ว่า​ตำหนัก​แห่ง​นี้​กลายเป็น​มิติ​ตัดขาด​โดย​สมบูรณ์​

เสี่ยว​หนิง​เคร่งเครียด​ นึกถึง​เรื่อง​ที่​เคย​เกิด​ขึ้นกับ​คนใน​เผ่า​มาก่อน​ หัว​ใจเต้น​ระรัว​ทันที​

ทั้ง​สามมุ่งหน้า​ต่อไป​ ไม่นาน​ก็​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​สีดำ​สนิท​

ยักษ์​สีดำ​หยุด​นิ่งงัน​ ส่งสัญญาณให้​เสี่ยว​หนิง​เข้าไป​

เสี่ยว​หนิง​ตัวสั่น​ ค่อยๆ​ เดิน​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ ลู่​เซิ่งคิด​จะติดตาม​ไป กลับ​ถูก​ยักษ์​ตน​นั้น​ยื่นมือ​มาขวาง​ไว้​

“องค์​ราชา​ต้องการ​เพียงแค่​แม่นาง​หนิง​เอ๋อร์​เท่านั้น​ เจ้ารอ​อยู่​ด้านนอก​ เสร็จ​แล้​วจะ​ปล่อย​เจ้ากลับ​ไป”

ลู่​เซิ่งยื่นมือ​ไปแตก​เบา​ๆ เจ้ายักษ์​พลัน​ส่งเสียงร้อง​โอย​ ข้อมือ​ที่​ถูก​แตะ​ปรากฏ​รอย​ดำ​เกรียม​

“เจ้า!

ลู่​เซิ่งเดิน​เอื่อย​เข้า​ตำหนัก​ใหญ่​ไปแล้ว​

ด้านใน​ว่างเปล่า​ มีเพียง​ชายฉกรรจ์​มีสอง​หัว​ที่​ล้าน​เลี่ยน​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​ยาว​ ใช้สายตา​หื่น​กระหาย​จ้องมอง​เสี่ยว​หนิง​ที่​เดิน​เข้ามา​

ลู่​เซิ่งเดิน​รุด​ไปหน้า​สอง​สามก้าว​ เข้าใกล้​เสี่ยว​หนิง​

ฉัวะ!​

ทันใดนั้น​รอย​ดาบ​สาย​หนึ่ง​ก็​ผ่า​พื้น​ด้านหน้า​เขา​ เหมือนกับ​มีคม​ดาบ​ยักษ์​ไร้​รูปร่าง​ฟัน​ออกมา​ดาบ​หนึ่ง​

ลู่​เซิ่งชะงัก​ฝีเท้า​ มอง​ไปยัง​บุรุษ​สอง​หัว​

“เจ้าไสหัวออก​ไปเสีย​ ข้า​เห็นแก่หน้า​หนิง​เอ๋อร์​ จะปล่อย​เจ้าไปสักครั้ง​” บุรุษ​ฉีก​ยิ้ม​ เผย​เขี้ยว​แหลม​เต็มปาก​

“นี่​คือ​เทพ​ปีศาจหรือ​” ลู่​เซิ่งเลีย​ริมฝีปาก​ ช่วงนี้​เขา​ทำความเข้าใจ​ใน​สถานการณ์​เผ่า​หงส์​เพลิง​ไม่น้อย​ นับตั้งแต่​เลื่อน​ระดับ​ เขา​สงบเสงี่ยม​มานาน​เกินไป​แล้ว​ ครั้งนี้​ได้​ลอง​พอดี​ว่า​เทพ​ปีศาจที่ว่า​เป็นยอด​ฝีมือ​ระดับ​ไหน​

เผ่า​หงส์​เพลิง​มีซีเห​อ​คอย​ดูแล​ ความจริง​ถ้าไม่ใช่พวก​นาง​มีความสามารถ​ด้าน​การต่อสู้​อ่อนแอ​เกินไป​ คง​ไม่ตกต่ำ​ถึงขั้น​นี้​

หลาย​วัน​มานี้​ ลู่​เซิ่งได้​คำนวณ​สถานการณ์​นี้​ไว้​แล้ว​

เขา​เพ่ง​สายตา​มอ​งอ​วิ๋น​เห​มิง พลัน​ดีดนิ้ว​ที​หนึ่ง​

ฟ้าว!​

แสงสีแดง​กลุ่ม​หนึ่ง​พุ่ง​ใส่ท้ายทอย​หนิง​เอ๋อร์​อย่าง​แม่นยำ​ นัยน์ตา​งามของ​หนิง​เอ๋อร์​ผุด​ความ​งุนง​ จากนั้น​ก็​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​ สลบไสล​ไป

ครั้งนี้​ไม่เพียงแต่​หนิง​เอ๋​อร​ที่​ตอบสนอง​ไม่ทัน​เท่านั้น​ แม้แต่​เทพ​ปีศาจอวิ๋น​เห​มิงก็​ยัง​สับสน​อยู่​บ้าง​เช่นกัน​

“เจ้า…!” เขา​ผุด​ลุกขึ้น​

“ไม่ต้อง​ห่วง​น่า​ มีเรื่อง​บาง​เรื่อง​ที่​ไม่อยาก​ให้​นาง​รู้​ก็​เท่านั้น​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​

อวิ๋น​เห​มิงหรี่ตา​จ้องมอง​ลู่​เซิ่ง บรรยากาศ​ผ่อนคลาย​ก่อนหน้า​อันตรธาน​ไป ลางสังหรณ์​บอก​กับ​เขา​ว่า​คน​ตรงหน้า​นี้​มีปัญหา​อยู่​ไม่น้อย​…

“เจ้าไม่ใช่คีตะ​กร​ของ​เผ่า​หงส์​เพลิง​หรือ​!

ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​

“จะเป็นไปได้​อย่างไร​ ข้า​คือ​กาย​อริยะ​หงส์​เพลิง​ สายเลือด​บริสุทธิ์​ที่​แท้จริง​นะ​” เขา​ยื่น​แขนขวา​ออกมา​ แขน​ที่​ อำพราง​มาโดยตลอด​ค่อยๆ​ ปรากฏ​ลักษณะ​เดิม​

ลวดลาย​ลึกลับ​เล็ก​ละเอียด​กระจาย​บน​แขน​ขาวผ่อง​อย่าง​แน่นขนัด​ เปลวเพลิง​สีขาวซีด​นับไม่ถ้วน​ปรากฏ​ขึ้น​โดยอัตโนมัติ​ กลิ่นอาย​อัน​น่า​แข็งแกร่ง​หวาดหวั่น​แผ่​กระเพื่อม​ใน​ตำหนัก​

“อัคคี​เทพ​หงส์​เพลิง​!” ลู่​เซิ่งตะโกน​

อวิ๋น​เห​มิงสะดุ้งโหยง​ รีบ​สร้าง​ก้อน​วารี​ลี้ลับ​มากมาย​ ยัง​ไม่ทัน​ตอบสนอง​ ก็​เห็น​หนวด​สีดำ​อม​ม่วง​นับไม่ถ้วน​ทะลัก​ออก​มาจาก​ตา​ หู​ จมูก​ ปาก​ ของ​ลู่​เซิ่งก่อน​จะระเบิด​กลางอากาศ​

ฟ้าว!​

ลวดลาย​ที่​จับต้อง​ได้​จากร่าง​ของ​ลู่​เซิ่งกระจาย​ออก​ไปพริบตาเดียว​ก็​ปกคลุม​ตำหนัก​เทพ​ปีศาจทั้ง​ตำหนัก​เอาไว้​ และ​เพิ่ม​ข่าย​อาคม​ชั้นหนึ่ง​ไปบน​มิติ​ตัดขาด​ใน​ตอนแรก​เพื่อ​ดู​ว่า​จะพลิก​สถานการณ์​อย่างไร​ได้​บ้าง​

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท