รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 1068 ไม่เกี่ยวก็ได้ แต่จำเป็นต้องเกี่ยวด้วย!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

บทที่ 1068 ไม่เกี่ยวก็ได้ แต่จำเป็นต้องเกี่ยวด้วย!

โอกาสมีเพียงครั้งเดียว ต้องรอบคอบแล้วรอบคอบอีกค่อยหลอกล่อ สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองก็ไม่มีทางติดกับ

หย่งโจ้วตระหนักถึงเรื่องนี้ดี ถึงได้ยังไม่ลงมือเสียที

เขาพอมีแผนบ้างแล้ว เพียงแต่ยังเป็นเพียงแผนคร่าว ๆ รายละเอียดยิบย่อยยังต้องขบคิดให้ดี

“ปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าจากทางออกเส้นทางดีหรือไม่”

นายเหนือหัวหว่างเซิงเสนอ “บรรดาสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าที่เฝ้าอยู่หน้าทางออกต้องเกี่ยวข้องกับ ‘คนท้องถิ่น’ อย่างแน่นอน สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนที่ปรากฏตัวในดินแดนใหม่ก็เกี่ยวข้องกับ ‘คนท้องถิ่น’ หากมีความเกี่ยวข้องกันหมด คงได้รับความเชื่อใจจากพวกเขาง่ายกว่ากระมัง”

“ไม่เหมาะ”

หย่งโจ้วส่ายหัว ยามเขาได้พบสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าหน้าทางออกก็มีความคิดนี้เช่นกัน ทว่าไม่นานเขาก็ปัดความคิดนี้ตก

“พวกเขาล้วนเกี่ยวข้องกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น อาจสนิทสนมกันมาก เช่นนี้กลับไม่เป็นการดี ถูกเปิดโปงได้ง่าย ถึงอย่างไรพวกเรายังไม่ทราบรายละเอียด ทันทีที่ผิดพลาดในเรื่องเล็กน้อยก็อาจถูกจับใด ทำให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนนั้นรู้ตัว”

มิหนำซ้ำพวกเขายังไม่รู้รายละเอียดยิบย่อยสักนิด ยิ่งถูกจับได้ง่าย

หย่งโจ้วไม่แนะนำให้ทำเช่นนี้ เสี่ยงเกิดปัญหาได้ง่ายเกินไป มีโอกาสส่งผลให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองตนไม่โผล่ออกมาอีก

“ข้ายังรู้สึกว่าปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นดีกว่า”

เขาขมวดคิ้วเอ่ย “นี่เป็นปัญหากวนใจข้าเช่นกัน ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องและไม่สนิททำให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนนั้นยอมเชื่อได้อย่างไร อีกทั้งต้องยอมเข้าใกล้ด้วย”

ลำพังทำให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองตนเชื่อไม่พอ ยังต้องหลอกล่อให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองตนยอมมาที่นี่ด้วย

นี่ต่างหากคือเป้าหมายสุดท้าย

ทว่าง่ายปานนั้นที่ไหน

ทั่วทั้งดินแดนใหม่กำลังค้นหาสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนนี้ พวกเขาจะยอมเสี่ยงภัยใหญ่หลวงเพียงนั้นเพื่อข้องแวะกับผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันหรือ

แค่คิดก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้

หลังพวกเขาตรึกตรองอย่างละเอียดแล้วจ้าวเทียนเอ่ยขึ้น “ไม่เกี่ยวก็ได้ แต่จำเป็นต้องเกี่ยวด้วย!”

เขาเอ่ย “พูดง่าย ๆ คือ คนผู้นี้ต้องไม่สนิทกับสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสอง ทว่าต้องมีจุดที่ดึงดูดสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสอง!”

“นั่นย่อมดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าให้ลงมือจริง ๆ นั้นยากเข็ญ ทำอย่างไรจึงจะทั้งไม่เกี่ยวและเกี่ยวเล่า”

หย่งโจ้วเอ่ยอย่างจนใจ

“ใจกล้า ๆ หน่อย!”

จ้าวเทียนครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น “บัดนี้ดินแดนใหม่รู้กันถ้วนหน้าว่าเกิดปัญหากับดินแดนเก่า มีสิ่งมีชีวิตมายาต้องการก้าวสู่ความเป็นจริง พวกเขาส่งยอดฝีมือดินแดนใหม่จำนวนมากมุ่งหน้าไปยังดินแดนเก่าเพื่อกำราบสิ่งมีชีวิตมายาที่ต้องการก้าวสู่ความเป็นจริงที่นั่น”

“สิ่งมีชีวิตสองตนที่อยู่ในดินแดนใหม่ย่อมตระหนักถึงเรื่องนี้ดี”

เขากล่าวต่อ “พวกเรากล้า ๆ หน่อย แสร้งทำเป็นบุกรุกล้มเหลว ยอดฝีมือดินแดนใหม่ที่มุ่งหน้าไปยังดินแดนเก่าถูกปราบปรามทั้งหมด ไม่แน่เราสามคนอาจออกหน้าแสร้งว่าเดินทางไปยังดินแดนเก่าแล้วกลับมาเพราะความพ่ายแพ้”

“หลังจากนั้น ม่านกั้นระหว่างดินแดนเก่าและดินแดนใหม่ทลายลง สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่ามหาศาลบุกมายังดินแดนใหม่!”

เขาเอ่ย “เช่นนี้จะเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องในคราวเดียว”

หย่งโจ้วและนายเหนือหัวหว่างเซิงได้ยินความคิดที่จ้าวเทียนเสนอแล้วต่างตื่นตระหนก แผนของจ้าวเทียนกล้าหาญบ้าบิ่นมากจริง ๆ!

และเอิกเกริกเกินไปด้วย!

“หากทำเช่นนี้จะช่วยให้สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนนั้นชะล่าใจ กล้าเข้ามาข้องแวะด้วย”

ดวงตาจ้าวเทียนทอประกายโหดเหี้ยม สายตาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งร้าย “ช่วงเวลาพิเศษ ย่อมต้องรับมือด้วยวิธีการพิเศษ แม้ว่าเช่นนี้ยิ่งสร้างภาพจำต่อสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าให้สิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่ แต่สามารถจัดการได้ในภายหลัง หลังจับกุมสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนนั้นแล้วค่อยลบล้างไปทีละน้อย”

สิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองที่อยู่ในดินแดนใหม่ต้องถูกกำจัด และการจะขจัดสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองจำต้องหาตัวพวกเขาให้พบก่อน

ทว่าสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองมีพลังพิเศษบางอย่างปกป้องอยู่ นอกเสียจากว่ายอมปรากฏตัวออกมาด้วยตนเอง มิฉะนั้นแทบไม่มีทางถูกพบตัวได้เลย

เพราะเหตุนี้ จ้าวเทียนถึงหักใจทำการใหญ่ เพื่อหลอกล่อสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนนั้นออกมา

หย่งโจ้วและนายเหนือหัวหว่างเซิงใคร่ครวญแล้วรู้สึกว่าแผนของจ้าวเทียนแม้จะบ้าบิ่นแต่ใช้ได้แน่นอน

หย่งโจ้วพยักหน้า “ข้าจำแลงกายด้วยตนเอง ปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าในกลุ่มที่เข้ามายังดินแดนใหม่ เช่นนี้แล้วหากสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าสองตนนั้นเข้ามาข้องแวะด้วยข้าจะสามารถลงมือกำราบพวกเขาทันที”

“อืม ได้!”

จ้าวเทียนเอ่ย “ทว่าท่านอย่าได้ประมาทเกินไป พลังที่ปกป้องสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าทั้งสองนั้นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง อย่าได้เสียเปรียบเพราะความเลินเล่อ!”

“เรื่องนั้นข้าเข้าใจ!”

หย่งโจ้วตระหนักถึงข้อนี้ดี ถึงอย่างไรหากพลังปกป้องนี้ทรงพลังไม่พอคงไม่อาจปิดบังปรมาจารย์ดินแดนใหม่อย่างพวกเขา เขาไม่มีทางประมาท จะต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง

“ข้าจะส่งข่าวแจ้งแผนกับปรมาจารย์ดินแดนใหม่ตนอื่นก่อน ประเดี๋ยวปรมาจารย์ดินแดนใหม่ตนอื่นเข้าใจว่าพวกเขาพ่ายศึกจริง มีสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าบุกเข้ามายังดินแดนใหม่แล้วรีบร้อนไปเสริมกำลัง”

จ้าวเทียนกล่าว

“ได้”

หย่งโจ้วและนายเหนือหัวหว่างเซิงพยักหน้า จากนั้นแผนการเริ่มขึ้น พวกเขาปล่อยข่าวว่ายอดฝีมือดินแดนใหม่ผู้ถูกส่งไปยังดินแดนเก่าถูกกำราบอย่างอนาถ ซ้ำยังรวมพลยอดฝีมือดินแดนใหม่กลุ่มหนึ่งกรีธาทัพไปยังดินแดนเก่าพร้อมพวกเขา

หลังข่าวนี้แพร่ออกไป ดินแดนใหม่ฮือฮากันเซ็งแซ่ สิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่แทบจะทุกตนคาดไม่ถึงว่าจะล้มเหลว!

“นี่มันเกิดอันใดขึ้น สิ่งมีชีวิตมายาในดินแดนเก่าฝืนกฎสวรรค์ได้จริง ๆ หรือ ยอดฝีมือที่มุ่งหน้าไปยังดินแดนเก่าทรงพลังปานใด ขอบเขตคลุมฟ้ามีอยู่นับไม่ถ้วน ขนาดนี้แล้วยังพ่ายแพ้อีกหรือ”

“สวรรค์! หรือว่าวันหนึ่งข้างหน้าพวกเราต้องร่วมอาศัยกับสิ่งมีชีวิตมายาในดินแดนใหม่แห่งนี้”

ผู้คนในดินแดนใหม่ตื่นตระหนกวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตมายาจากดินแดนเก่าเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปไกล!

“ไม่ต้องกลัว! ปรมาจารย์ทั้งสามออกรบแล้ว ไปถึงเมื่อใดต้องปราบปรามทุกผู้ได้แน่นอน!”

“พวกเราต้องเชื่อใจปรมาจารย์ทั้งสาม!”

มีสิ่งชีวิตส่งเสียงไม่หยุด ปลุกระดมทุกคนให้เชื่อใจปรมาจารย์ทั้งสาม อย่าได้ลนลานแตกตื่นไปทำตัวเองหวั่นวิตกไปเอง

ขณะเดียวกัน ซีและเต่าชรากำลังปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตดินแดนใหม่และปฏิบัติการจับตัวเองอยู่

พวกเขาได้ยินข่าวนี้แล้วเช่นกัน!

“ล้มเหลวหรือ?!”

เต่าชราตาโต อึ้งงันเป็นที่สุด

มันรู้ว่าดินแดนเก่านั้นลุ่มลึก แต่คิดไม่ถึงว่าจะลุ่มลึกได้เพียงนี้!

ยอดฝีมือดินแดนใหม่รุดหน้าไปยังดินแดนเก่าตั้งนับคณา แต่เพียงไม่นานก็ล้มเหลวกันหมด!

ต้องรู้ว่าก่อนนี้มันยังเป็นห่วงสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่า กลัวว่าพวกเขาจะถูกยอดฝีมือดินแดนใหม่ทำร้าย!

“สมเหตุสมผลแล้วที่ล้มเหลว”

เริ่มแรกซีนั้นตะลึง ก่อนจะสงบใจลงอย่างรวดเร็ว เอ่ยว่า “ถึงอย่างไรในดินแดนเก่ามีท่านผู้นั้นอยู่!”

ความแข็งแกร่งของท่านผู้นั้นจินตนาการไม่ออกโดยแท้ อย่างเช่นก่อนนี้ที่นางกับเต่าชราถูกปรมาจารย์ดินแดนใหม่หมายหัว พลังคุ้มกันที่ท่านผู้นั้นทิ้งไว้ลบล้างจิตสัมผัสที่ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ใช้ติดตามพวกเขาได้เสียอย่างนั้น ลึกล้ำเกินหยั่งอย่างแท้จริง!

“ก็จริง!”

ยามเต่าชรานึกได้ว่าท่านผู้นั้นอยู่ที่ดินแดนเก่าก็สงบลงเช่นกัน

มันเคยประจักษ์เช่นกันว่าพลังของท่านผู้นั้นน่าครั่นคร้ามเพียงใด แม้ว่ายอดฝีมือดินแดนใหม่นั้นจะกล้าแกร่ง แต่ก็ยังเกินกว่าจะเทียบเคียงท่านผู้นั้นได้ ท่านผู้นั้นรังแต่จะแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์ดินแดนใหม่!

หากท่านผู้นั้นคิดจัดการยอดฝีมือดินแดนใหม่ที่มุ่งหน้าไปยังดินแดนเก่าย่อมทำได้ง่ายดาย

“เพียงแต่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ท่านผู้นั้นจะต้านอยู่หรือไม่! ปรมาจารย์ดินแดนใหม่บุกไปถึงสามคนเชียวนะ!”

มันเอ่ยด้วยท่าทางวิตก

ปรมาจารย์ดินแดนใหม่สามคนถือเป็นตัวตนระดับเพดานของดินแดนใหม่ พลังความสามารถเกินจินตนาการ มันกังวลแทนท่านผู้นั้นจริง ๆ กลัวว่าท่านผู้นั้นอาจไม่ใช่คู่มือของปรมาจารย์ดินแดนใหม่ทั้งสาม

“ท่านผู้นั้นสามารถเอาชนะปรมาจารย์ดินแดนใหม่ได้หรือไม่ส่งผลต่อพวกเราอย่างยิ่ง! หากท่านผู้นั้นพ่าย สู้ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ไม่ได้ พลังคุ้มครองที่ท่านผู้นั้นทิ้งไว้ให้เราจะยังอยู่หรือไม่”

มันยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่

หากท่านผู้นั้นพ่าย พลังที่คอยปกป้องมันและซีต้องหายไปด้วยแน่นอน ถึงคราวนั้น อาจไม่ต้องให้ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ออกโรงด้วยซ้ำ ยอดฝีมือดินแดนใหม่ก็สามารถเจอตัวพวกเขาทั้งยังกำราบพวกเขาได้ง่ายดาย

ซีเอ่ยเสียงแน่วแน่ “ไม่รู้เพราะเหตุใด ข้ามั่นใจต่อท่านผู้นั้นเต็มเปี่ยม ต่อให้ปรมาจารย์ดินแดนใหม่บุกไปถึงสามคนข้ายังรู้สึกว่าท่านผู้นั้นจะเป็นฝ่ายชนะ เอาชนะปรมาจารย์ดินแดนใหม่ทั้งสามคนจนได้”

นางไม่รู้จริง ๆ ว่าเพราะเหตุใดถึงมั่นใจในท่านผู้นั้นได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด มิหนำซ้ำยังรู้สึกคุ้นเคยต่อท่านผู้นั้นอย่างยิ่งยวด คล้ายว่าท่านผู้นั้นใกล้ชิดกับนางมาก

“หวังให้เป็นเช่นนั้น!”

เต่าชราไม่ได้มองในแง่ดีเพียงนั้น และไม่ได้เชื่อใจในท่านผู้นั้นนัก ถึงอย่างไรปรมาจารย์ดินแดนใหม่ก็สยดสยองเกินไป มันอยากมองในแง่ดียังทำไม่ได้

“ต้องรีบยกระดับพลัง!”

ซีกำหมัด เอ่ยเสียงเคร่งเครียด

ลงท้ายทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องหวังพึ่งพลัง!

หากนางแข็งแกร่งมากพอไยต้องวิตกกังวลอยู่อย่างนี้ นางสามารถออกไปหยุดปรมาจารย์ดินแดนใหม่ทั้งสามด้วยตัวเอง ไม่ให้พวกเขาออกเดินทาง

อนิจจา นางมีพลังไม่พอ ยังห่างชั้นอีกไกลมาก

ทว่านางเองก็ยกระดับพลังขึ้นอย่างรวดเร็ว

ท่านผู้นั้นประทานศักยภาพสะท้านโลกันตร์แก่นาง สามารถดูดกลืนพลังปฐพีมาใช้โดยไม่ต้องบำเพ็ญผสานแต่อย่างใด พลังนั้นกลายเป็นของตัวนางเองได้ทันที!

พลังระดับนี้ใช้ได้แม้แต่ในดินแดนใหม่

นางเดินทางอยู่ตลอด เล่นบทละครไล่จับตัวเองโดยไม่ได้ฝึกฝนสักครั้ง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการยกระดับพลังของนาง

ตลอดทั้งทางนางดูดกลืนพลังปฐพีเข้าร่างจนยกระดับไม่หยุดหย่อน

ส่วนเรื่องที่ยอดฝีมือดินแดนใหม่พ่ายศึกใช่ข่าวปลอมหรือไม่นั้น ซีและเต่าชราแม้จะเคลือบแคลงอยู่บ้างทว่าเพียงไม่นานก็เลิกคิด

สิ่งสำคัญคือซีและเต่าชรารู้ว่าท่านผู้นั้นอยู่ที่ดินแดนเก่า พวกเขารู้ดีว่าท่านผู้นั้นมีความสามารถพอให้กำราบยอดฝีมือดินแดนใหม่จริง ๆ ถึงไม่ได้สงสัยอีก

สิ่งที่ซีและเต่าชราไม่ทราบคือ พวกเขากำลังตกหลุมพรางที่ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ทั้งสามอย่างพวกจ้าวเทียนขุดให้พวกเขาทีละก้าว ต่อไปอาจเกิดเรื่องกับพวกเขาจริง ๆ!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท