หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 176 ไม่ได้มาเพื่อกิน

บทที่ 176 ไม่ได้มาเพื่อกิน

บทที่ 176 ไม่ได้มาเพื่อกิน

“ไสหัวไป!”

คำพูดนั้นเข้ามากระทบยังหูของป่ายเม่ยเซิง จนทำให้ใจของเขาเย็นยะเยือก ตามด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาตามแผ่นหลัง

เขารู้ดีว่าคำนี้เจ้าของเรือพูดให้กับเขา และคำพูดนั้นก็มีพลังทำลายล้างที่รุนแรงเสียด้วย

“ขอรับ!”

เขากุมมือคาราวะชายผมเขาอย่างสั่นเทา แล้วรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

แล้วคนที่อยู่ข้างหลังของชายผมขาวอย่างซาหมั่นเฉิงหมุ่นชายชุดเขียว บุคลิกของทั้งสองนั้นนั้นแบ่งแยกได้อย่างชัดเจน คนหนึ่งก็มีท่าทางที่ไม่สนใจกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง ส่วนอีกคนก็กลับรู้สึกสะใจกับความโชคร้ายของผู้อื่นพร้อมทั้งสายตาที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยาม

ใครจะรู้ว่าวินาทีต่อมา······

“ไสหัวออกไปให้หมด!”

พวกเขาถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ด้วยท่าทางที่นิ่งเกรง พอตั้งตัวได้ทั้งสองก็ออกไปทันทีอย่างคอตก

ความเร็วนั้นราวกับผีหายตัวก็ไม่ปาน

ดูมันสิ!

หลานเยาเยาสมน้ำหน้าอยู่ในใจ อีกนิดเดียวก็เกือบจะปรบมือร้องออกมาแล้ว

เมื่อเห็นสีหน้าของชายผมขาวไม่สู้ดีนัก หลานเยาเยาก็ไม่ได้แสดงอะไรมากมาย เพียงก้มหน้าลงแล้วเล่นกับนิ้วมือของตัวเอง

บางครั้งการมีความสุขในยามโชคร้าย หรือไม่ต้องทำสิ่งใดตรงไปตรงมาก็ถือว่าดีเช่นกัน

หลังจากเงียบไปชั่วครู่

เสียงก็ดังขึ้นมาจากโต๊ะฝั่งตรงข้าม คาดว่าคงจะเป็นชายผมขาวที่ลุกขึ้นแล้ว

แต่ทว่า!

นางที่ยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมาดู ร่างกายก็เบาลง เพียงพริบตาเดียว ร่างของนางก็ถูกผลักไปยังประตูด้วยพลังภายใน แล้วคนทั้งสองในห้องก็เริ่มทำการต่อสู้กัน

ทั้งโต๊ะเก้าอี้หรือแม้แต่ถ้วย ตะเกียบที่อยู่บนโต๊ะ ที่ตกอยู่ภายใต้พลังภายในของทั้งสอง ทั้งหมดแตกกลายเป็นผุยผง

แต่หลานเยาเยาก็เห็นจนชินแล้ว ยิ่งยอดฝีมือปะทะกับยอดฝีมือจะมีพลังทำลายมากขนาดไหน

แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมากกว่านั้น ก็คือเห็นชัดอยู่ว่าทั้งสองกำลังต่อสู้กันอยู่ตรงหน้า แต่กลับเห็นเพียงแต่ภาพเงาต่อสู้กันเท่านั้น

นี่ไม่ใช่พลังความเร็วที่คนข้ามเวลาอย่างนางจะมีได้ แล้วเท่าที่นางคาดการณ์ พลังภายในและกระบวนการต่อสู้ของทั้งสองคงจะถึงขีดสุดแล้ว

ถึงแม้จะรู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะมีพลังภายในที่ล้ำลึก และการต่อสู้ที่สุดยอด

แต่ว่า!

นางเคยเห็นมากับตาว่าชายผมขาวใช้มือเดียวทำให้หญิงสาวกลายเป็นกระดูก จึงทำให้นางอดไม่ได้ที่เหงื่อตกแทนเย่แจ๋หยิ่งไม่ได้

หลังจากนั้นไม่นาน!

ทันใดนั้นด้วยฝ่ามือเดียวชายผมขาวก็ล้มลงมา ถึงแม้จะไม่ล้มลงไปบนพื้น แต่เขาก็ชันเขาข้างหนึ่งไว้ ร่างกายที่ทุลักทุเล ผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย และดวงตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยความคับแค้นและไม่พอใจ

“เป็นไปได้อย่างไรกัน·····เจ็ดปีแล้ว เจ็ดปีเต็มแล้ว······”

ราวกับชายผมขาวพ่นมันออกมาจากปากอย่างทนไม่ได้ ทำให้หลานเยาเยาที่กำลังกังวลอยู่ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ดูแล้วเหมือนชายผมขาวจะแพ้แล้ว

โอ้เย่!

หลังจากที่เสียงของชายผมขาวลดลง ร่างของเย่แจ๋หยิ่งก็ปรากฎมาอยู่ต่อหน้าหลานเยาเยา

ออร่าที่กระจ่ายมาอย่างเป็นธรรมชาติของกษัตริย์ถาโถมลงบนใบหน้าของนางจนทำให้รู้สึกถึงความกดดันอย่างหนัก

“เจ็ดปีแล้วจะยังไง?”

น้ำเสียงเปร่งออกมาอย่างเฉื่อยชา น้ำเสียงราวกับพูดว่า

‘ต่อให้ให้เวลาท่านอีกเจ็ดปี ก็ยังคงสู้กับข้าไม่ได้เหมือนเดิม’

ทันใดนั้นชายผมขาวก็กำหมัดแน่น

ใช่!

เจ็ดปีแล้วจะยังไง?

ต่อให้เขาจะไปพยายามฝึกฝนพลังภายในมากเพียงใด เขาก็ไม่มีทางชนะหรอก

เหอะ!

แต่เขาไม่เคยเป็นคนที่เที่ยงธรรม ในเมื่อต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาไม่ชนะ เช่นนั้นเขาจึงใช้วิธีการสกปรก ไม่คิดว่าจะยังสู้ไม่ได้อีกงั้นรึ?

เพียงช่วงเวลาสั้นๆ จิตใจของเขาได้เปลี่ยนไปเป็นพันๆครั้ง ด้วยยาพิษที่หยั่งรากลึกเข้าไปในใจของเขา…..

ดังนั้น!

ชายผมขาวจึงลุกขึ้นยืน พร้อมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นอย่างไม่อาจอธิบาย

“ใช่สิ!เจ็ดปีแล้วจะเป็นยังไง ?มันไม่สามารถบอกสิ่งใดได้”

เขาจัดเสื้อคลุมของตัวเอง ก่อนจะกล่าวต่อ

” ยังมีเวลาอีกสองสามวันก่อนที่เรือลำถัดไปจะเทียบท่า หวังว่าพวกท่านจะหลับฝันดี แต่ข้าจะไม่อยู่กับพวกท่านหรอก”

หลังจากพูดเสร็จเขาก็สะบัดแขนเสื้อและเดินไปที่ประตู

หลานเยาเยาที่เห็นแบบนี้ก็หลบทางให้ พร้อมกับในเวลาก็ระวังมากขึ้น

นางกลัวว่าเขาจะไม่เดินตามทาง หากเย่แจ๋หยิ่งไม่ทันระวังตัวแล้วเขาจับนางขึ้นมาจะทำอย่างไร?

นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอกนะ

แม้ชายผมขาวจะไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอื่นใด แต่ในตอนที่เขาเดินผ่านไหล่นางไป เขาก็เพ่งสายตามามองนางอย่างลึกล้ำ ด้วยท่าทางที่อยากจะพูดได้

แต่นางก็สังเกตเห็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะคลุมเครือของเขา

แม่เจ้า!

เขาไม่ได้ชอบนางหรอกนะ?

ที่จริงนางก็เป็นคนที่เวลาใครเห็นก็หลงรัก เจอดอกไม้ดอกไม้ก็เบิกบานนี่หน่า !

“ยังยืนดูสิ่งใดอีก?”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหู จนทำให้นางตื่นตกใจ จนเรียกเก็บเรื่องที่กำลังคิดอยู่เอาไว้

“เปล่า ไม่ได้ดูอะไร ข้าเพียงแค่คิด……”

“ดีที่สุดคือห้ามคิด มิเช่นนั้นหากเจ้าตายไป ข้าคร้านที่จะเก็บศพเจ้า ฮื้ม ! ”

เย่แจ๋หยิ่งมองไปยังทิศทางที่หลานเยาเยากำลังมองไปนั่นก็คือทางที่ชายปมเขากำลังเดินจากไป แล้วเขาก็ค่อยๆหรี่ตาลง……

——

เรือแห่งความสิ้นหวังแล่นอยู่กลางทะเลเป็นเวลาทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้เรือแห่งความสิ้นหวังจะใหญ่เทียบเท่ากับเรือที่ใช้ทำสงคราม

แต่เมื่อลอยอยู่ในทะเล มันก็เหมือนเรือเล็กลำหนึ่ง ที่ยากจะมองเห็น

หลังจากเกิดภัยธรรมชาติ ท้องทะเลก็เงียบสงบ ก็เหมือนบนเรือในตอนนี้ที่เงียบสงบจนทำให้รู้สึกไม่สุขใจ

ในยามค่ำคืน หลานเยาเยานอนลงบนเตียงในใจก็กำลังคิดถึงว่านอกจากนางและเย่แจ๋หยิ่งแล้ว ผู้คนที่อยู่บนเรือใหญ่ที่กำลังจะจมได้รับการช่วยเหลือไม่?

ทันใดนั้น !

“ฟิ้ว”

มีดอันแหลมคมด้ามหนึ่งบินพุ่งมาจากกลางอากาศ ที่พุ่งมายังประตูหน้า แต่ก่อนที่มีดนั้นจะไปปักยังประตูมันก็บินผ่านหน้านางไปโดยตรง

ดูแล้วผู้จู่โจมไม่ได้หวังจะเอาชีวิตนาง

เพียงแต่ว่า……

หลานเยาเยาหรี่ตาลง พร้อมกับแสงของความอันตรายประกายผ่านเข้ามา

เมื่อเห็นว่าบนมีดนั้นมีกระดาษติดอยู่ นางจึงหยิบขึ้นมาดู สีหน้าของนางก็มืดมนลงทันใด

โฉมงามมิรู้จักรักใคร่ สุภาพบุรุษจะเกิดอารมณ์รักได้อย่าง ?

เป็ดน้อยยังถูกจับเป็นคู่

โฉมงามมิรู้จักรักใคร่ สุภาพบุรุษจะเกิดอารมณ์รักได้อย่าง ?

เป็ดน้อยยังถูกจับเป็นคู่ พร่ำรักอยู่นานจนมิอาจหลับไหล

นี่คือ······บทกวีลามก?

ป่ายเม่ยเซิงจอมทะลึ่งนั่น คิดว่าเขาไม่ลงนามไว้แล้วนางจะไม่รู้ว่าเป็นเขางั้นรึ?

เขียนกระดาษมาแผ่นเดียวจะใช้ประโยชน์อะไรได้?

ยังไม่เท่ากับส่งของกินเข้ามา หรือไม่ส่งเงินมาก็ได้ ยังจะทำลับลับล่อล่อมาของที่กินแล้วก็ใช้จ่ายไม่ได้มาอีก

หลานเยาเยาที่โมโหฉีกกระดาษจนเป็นชิ้นๆ ก่อนจะออกจากห้องไปหาป่ายเม่ยเซิงเพื่อคุยเรื่องนี้

แต่ก่อนที่จะไปหาป่ายเม่ยเซิง นางก็ยังตั้งใจไปยังห้องของเย่แจ๋หยิ่งเสียก่อน เดิมทีที่จะไปหาเขาเพื่อจะให้เขาช่วยรวบรวมความกล้าหาญ กลับกลายเป็นว่าเขานั้นไม่ได้อยู่ในห้อง

จึงทำได้เพียงจัดการด้วยตัวเองจนมาถึงห้องพักสุดอันหรูหราในเขตดูแลของซาหมั่นเฉิง เพราะว่าตอนนี้เรือแห่งความสิ้นหวังกำลังแล่นอยู่ ป่ายเม่ยเซิงจึงไม่ต้องไปทำการต้อนรับลูกค้า

ฉะนั้น!

นางจึงไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน

แล้วซาหมั่นเฉิงเองก็รู้จักกับป่ายเม่ยเซิง นางหาซาหมั่นเฉิงเจอก็เหมือนกับเจอป่ายเม่ยเซิง

และแล้ว!

ก็หาซาหมั่นเฉิงเจอ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยต้อนรับนางเสียเท่าไหร่

เพราะพอเห็นหน้านาง เขาก็ทำหน้าบึ้งทันที ราวกับว่านางไปติดหนี้เขาเป็นล้านตำลึงอย่างนั้น

“นี่ ตาทึ่ม ข้ากินได้อาหารของเจ้า ใส่เสื้อผ้า หรือใช้ของที่เป็นของท่านแล้วหรือไง? หรือจะให้กล่าวอีก ข้าก็เป็นเหมือนกับแขก ซึ่งแขกก็คือพระเจ้า ท่านต้องปฏิบัติดีๆกับพระเจ้าสักหน่อย แล้วจะอีกอย่างถึงแม้ข้าจะชอบกิน แต่วันนี้ไม่ได้มาให้ท่านทำอะไรให้ข้ากินหรอกนะ มืออันเลอค่าของท่าน จะให้มาทำอาหารให้ข้ามั่วซั่วได้อย่างไร! ท่านว่าถูกหรือไม่ ?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน