หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 178 หน้าของผู้ชายเปลี่ยนไวยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก

บทที่ 178 หน้าของผู้ชายเปลี่ยนไวยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก

บทที่ 178 หน้าของผู้ชายเปลี่ยนไวยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก

ว้าว!

นี่มันยาพิษ?หรืออะไรกันนี่?

หลานเยาเยาเพิ่งเคยเห็นคนที่เปลี่ยนเป็นมนุษย์เลือดอย่างกระทันหันเป็นครั้งแรก เขาเป็นม้าเหงื่อโลหิตงั้นรึ?

เมื่อกี้ก็นึกว่ากองเลือดบนพื้นนั้น เป็นเพราะมีคนทรมานเขาเสียแล้ว

ตอนนี้ดูแล้ว เลือดพวกนั้นล้วนมาจากพิษที่ทำให้ไหลออกมาทั้งนั้น

ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องตรวจร่างกายของเขา ดูว่าบนตัวของเขาตรงไหนมีปัญหากันแน่

เพียงแต่ว่า……

สถานการณ์มันเร่งด่วน นางไม่มีเวลามากนัก เพราะประการแรก หมุ่นชายชุดเขียวคนนั้นคงจะไปเรียกคนมาแล้ว ประการที่สองท่าทางของหานแสในตอนนี้นั้นยากที่จะเข้าใกล้ จะให้เขาขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างว่าง่ายยังยากกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก

ดังนั้น!

ตอนนี้นางทำได้ตรวจชีพจรให้เขาเท่านั้น

พอคิดได้เช่นนี้ หลานเยาเยาก็รีบปีนออกมาจากใต้เตียงทันที แล้วพุ่งตรงไปยังด้านหลังของโดยใช้โอกาสในตอนนี้ที่หานแสกำลังขดตัวด้วยความเจ็บปวด แล้วหยิบเข็มยานอนหลับจากระบบแพทย์ออกมา ตรงไปยังคอของเขา

แต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คือ……

จู่ๆหานแสก็หันตัวกลับมา แล้วใช้มือใหญ่จับข้อมือของนางอย่างแน่น ส่วนมืออีกข้างก็จับไปยังคอของนาง

ยังโชคดีที่ตาและมือของนางนั้นรวดเร็วเลยวะกัดเอาไว้ได้

“เจ้า เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?”

สายตาอันแดงก่ำของหานแส จ้องมองยังหลานเยาเยาอย่างดุร้าย ราวกับว่าจะกลืนกินนางก็ไม่ปาน

“อยากฆ่าข้าแล้วงั้นรึ?เหอะ!ข้าไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ”

เอ่อ……

บ้าหรือเปล่า!

หลานเยาเยาไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าเหตุใดหานแสถึงได้โมโหร้ายขนาดนี้ เพราะนางมีเรื่องที่สนใจมากกว่านั้นต้องทำ !

“เจ้าจะคิดเช่นไรก็เรื่องของเจ้า ส่วนตัวข้านั้นมีงานที่สนใจอยู่สามอย่าง คือโลภสมบัติของกินแสนอร่อยและวิชาการรักษา ตอนนี้กำลังทำการเสี่ยงโชคแล้วช่างบังเอิญที่เจ้าดันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ข้าสนใจพอดี นอนหลับให้สบายเถอะ หากมีเวลาข้าจะกลับมาดูเจ้าอีก”

สายตาของหลานเยาเยาที่มองหานแสในตอนนี้ราวกับมองหนูทดลองยักษ์ตัวหนึ่ง

พูดจบ หลานเยาเยาก็พบว่ามือของหานแสที่จับไหล่นางเอาไว้ค่อยๆคลายออก

จากนั้น“แคร้ง” เสียงโซ่ที่กระทบกับพื้นพร้อมกับร่างของหานแสที่ล้มลงไป

มุมปากของหลานเยาเยาก็กระตุก พร้อมกับบิดไหล่ที่ถูกจับแน่นจนเจ็บ จากนั้นก็รีบก้มลงไปเพื่อตรวจชีพจรของเขา

“เอ๊ะๆ!ร่างกายนี้ทำไมถึงประหลาดขนาดนี้นะ?”

ยอกจากอัตราการเต้นของหัวใจที่ไม่คงที่แล้ว นอกนั้นก็ไม่มีส่วนไหนผิดปกติ

จึงทำให้นางขมวดคิ้วหนักอย่างอดไม่ได้

แต่ในตอนนี้นางไม่สามารถที่จะนำเครื่องตรวจออกมาแสกนตรวจได้ จึงทำได้เพียงฉีดยาให้หัวใจของเขาคงที่ แล้วยังแอบเอายาเสริมเลือดให้เขาอีกสองเม็ด

คนจะตายไม่ได้ ถ้าตายจะทำให้นางเสียใจมาก

เป็นโรคที่ประหลาดยิ่งนัก!

นางจะต้องคิดหาวิธีที่ช่วยพาเจ้าหนูทดลองยักษ์นี่ออกไป นางจะได้ทำการศึกษาในภายหลัง

แต่ตอนนี้นางจะอยู่ที่นี่นานไม่ได้ หลังจากที่แอบซ่อนยาไว้บนตัวของหานแสแล้ว หลานเยาเยาก็รีบออกจากห้องอย่างทันที

เพียงแต่……

ขณะที่กำลังจะกระโดดออกนอกหน้าต่าง นางก็ชนเข้ากับแผงเนื้อเข้า ตอนนี้ความหนาวเย็นจากก้นบึ้งของหัวใจก็แพร่ไปยังแขนขาทุกส่วนในร่างกายจนทำให้นางถึงกับขนลุกซู่

แย่แล้วแย่แล้ว

คราวนี้ตายแน่ๆ ไม่ว่าจะชนเข้ากับใคร แต่ถ้าเป็นคนของผู้ชายผมขาว นางก็ตกอยู่ในปัญหาอันใหญ่หลวงแล้ว

แล้ว!

ดวงตาที่แหลมคมและท่าทางที่จริงจังของทันทีที่เงยหน้าขึ้นไปก็ถึงกับเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเห่ยๆ เป็นรอยยิ้มที่ช่างน่าสมเพชจริงๆ

“แหะๆๆ……”

แต่แล้วท่าทางนี้ก็แสดงออกมาเพียงไม่นาน ก็ถึงกับเกรงขึ้นมาทันที

อะไรกัน?

ชายหนุ่มรูปงาม หน้าครบเครื่องราวฟ้าประทานตรงหน้านี้ ไม่ใช่เย่แจ๋หยิ่งหรอกหรอ?

เขามาทำอะไรที่นี่?

ไม่ใช่สิ!

มองดูท่าทางเบื่อหน่ายของเขาแล้วราวกับว่ามายืนตรงนี้นานแล้ว

เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่?

“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

“ช่วยเอามีดในมือเจ้าเก็บก่อน”

เสียงทุ้มดังขึ้นมาอย่างนุ่มนวล แล้วสายตาของเย่แจ๋หยิ่งก็จ้องไปยังมือของนาง

“เอ่อ!แหะๆ นี่เป็นเพื่อป้องกันตัวโดยสัญชาตญาณ”สายตาช่างแหลมคมขนาดนี้เชียว?

สักครู่นี้นางพร้อมที่จะโจมตีได้ทุกเมื่อ เพียงแค่รอดูใบหน้าที่แท้จริงของคนที่นางชนเข้าเท่านั้น

ยังดีที่เป็นเย่แจ๋หยิ่ง

ช่างเป็นการเหยียบขี้หมาได้โชคจริงๆ!

“ฮื้ง!”

เย่แจ๋หยิ่งถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาสะบัดเสื้อที่ไร้ฝุ่นบนตัว จากนั้นก็หลีกทางให้นางพลันเดินนำไปยังบันไดอย่างเกียจคร้าน

จุดนี้……

หลานเยาเยาก็ถึงกับยืนกลอกตาอยู่กับที่ จากนั้นถึงค่อยวิ่งตามเขาไป

แต่ว่าพวกเขาเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงเท้าดังขึ้นมาจากตรงสุดบันได

หลานเยาเยายังไม่ทันได้ทันตอบสนองใดๆ ก็เห็นร่างของเย่แจ๋หยิ่งที่แวบอยู่ตรงหน้า แล้วก็หายไปจากสายตาของนางทันที

ซวยแล้ว!

มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?

เย่แจ๋หยิ่งไปแบบนี้เลยงั้นรึ? ปล่อยให้นางเอาตัวรอดที่นี่คนเดียว?

ไม่เอาน่า!

“ตา……”บ้ายังไม่ทันได้พูดออกจากปาก หลานเยาเยาก็รับรู้ถึงเอวที่ถูกรัดแน่น จากนั้นร่างก็ทะยานขึ้นสู่อากาศ เพียงพริบตาทั้งสองก็ออกมานอกเรือ ก่อนจะบินไปหยุดยังเสากระโดงเรืออันสูง

เมื่อรู้สึกถึงแรงของมือใหญ่ที่กอดรัดเอว หลานเยาเยาก็หันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างกาย

ช่างเป็นไหล่ที่กว้างกำยำ…..

เสียงลมหายใจที่แข็งแกร่ง……

ใบหน้าที่หล่อเหลา สมบูรณ์แบบน่าดึงดูด…..

ราวกับมีความอบอุ่นหลั่งไหลเข้ามาสู่ก้นบึ้งหัวใจ พร้อมหยั่งฝังลึก

“เย่แจ๋หยิ่ง มีท่านนี่ดีจริงๆ!” ประโยคนี่โพร่งออกมา

“เจ้าเรียกข้าว่าอะไร ?”

เย่แจ๋หยิ่งหันหน้าไปมอง พร้อมหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางมือใหญ่ที่โอบเองนางเอาไว้ก็คลายลงไม่น้อย

ราวกับว่าเพียงแค่นางพูดผิดไปคำเดียว เขาก็จะปล่อยมือออกจากนาง

“ท่านอ๋อง……”

หลานเยาเยาที่ช่างเดาสายตาได้ก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที ใครจะรู้ว่ามือใหญ่ที่โอบเอวนางไว้จู่ๆก็คลายออกมา

ตอนนี้หลานเยาเยาก็ร้อนรน แล้วรีบตะโกนเรียกออกมา

“ไม่เอา ท่านพี่ ”

เพื่อที่จะไม่ตกลงไปจากเสากระโดงเรืออันสูงใหญ่ นางจึงกอดคอเย่แจ๋หยิ่งเอาไว้ พลันเอาเท้าทั้งสองควบร่างของเขาเอาไว้เช่นกัน

“ห้ามเรียกท่านพี่ ระหว่างเราเป็นเพียงข้อตกลงเท่านั้น”เย่แจ๋หยิ่งกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“อ๋อ งั้นก็ไม่เรียกแล้ว ถึงยังไงข้าก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้นชิน”

ต้องระวังจริงๆ นางเพิ่งหนีออกจากบ้าน ก็ไม่ใช่ไม่ได้บอกกล่าวสิ่งใด นางยังทิ้งจดหมายไว้ตั้งฉบับหนึ่ง!

คิดไม่ถึงว่าพอได้เจอกันอีกครั้ง คำพูดของเขาดูผิดปกติไปหมด ราวกับยังโกรธอยู่

“เจ้า……”

ทันใดนั้นใบหน้าของเย่แจ๋หยิ่งก็หมองลง แล้วจ้องมองนางอย่างเย็นชา

เมื่อได้รับสัญญาณอันตราย นางก็รีบกอดเขาไว้ทันที

” ไม่ชินก็ไม่ชินเพียงนิดเดียว ก็เรียกครั้งแรก! คราวหลังหากเรียกจนชินก็ดีขึ้นแล้ว ใช่หรือไม่? ท่านพี่ ท่านพี่ๆๆๆ……”

พอเห็นแววตาอันอบอุ่นของเย่แจ๋หยิ่ง นางก็รีบเรียกมากขึ้น

“ห้ามเรียก!”

“ท่านพี่ๆๆๆ……”

“หลานเยาเยา เจ้าลองเรียกอีกครั้งดู?”

“ท่าน……พี่ อ๊าฮ่าฮ่า……ท่านหน้าแดงแล้ว”

“……”

เมื่อเผชิญหน้ากับหลานเยาเยาที่กำลังหัวเราะอย่างไม่หยุดหย่อน เย่แจ๋หยิ่งก็ปั้นหน้านิ่ง พูดด้วยถ้อยคำที่เย็นชา แต่กลับไม่รู้ว่าหน้าเริ่มแดงตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมือที่เพิ่งคลายไปก็กลับมาโอบเอวนางเอาไว้

ต่อมา!

ทั้งสองก็กลับมายังห้องพัก ต่างพากันกลับมายังห้องของเย่แจ๋หยิ่ง โดยที่นั่งเผชิญหน้ากัน

เย่แจ๋หยิ่งทำหน้านิ่ง และสีหน้าที่เย็นชามองไปยังนางราวกับกำลังสอบสวนคดีอย่างนั้น

หลานเยาเยายักไหล่แล้วนอนลงไปบนโต๊ะ

“อู๊~~~ท่านพี่,ยกโทษให้ข้าเถิด!ข้าแค่จะไปหาป่ายเม่ยเซิงจริงๆ ที่ไปเจอหานแสนั้นแค่บังเอิญเท่านั้น”

ประโยคนี้นางพูดไปหลายรอบแล้ว เหตุใดเขาถึงไม่เชื่อเสียที?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท