สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 329 มีแผนการดี

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 329 มีแผนการดี

ในภาพที่นางเห็นก็คือบาดแผลของเขา เนื้อหนังผสมปะปนกับโลหิตจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง กัดริมฝีปากจนแตกเพราะอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้

สามที ผิวน่าจะไม่ปริแตกระมัง

ซินโย่วเลื่อนสายตาลงต่ำ

“คุณหนูซิน” เฮ่อชิงเซียวรีบดึงสายตานางกลับคืน “รีบขึ้นรถเถอะ อย่าให้องค์หญิงใหญ่รอนาน”

“ใต้เท้าเฮ่อเดินไหวหรือ”

“ขี่ม้ามา ม้าผูกไว้ด้านหน้า” เฮ่อชิงเซียวเดินไปด้านหน้าพลางชี้ไปทางม้าที่คงได้แต่จูงกลับไป แม้โดนโบยสามทีเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังไม่สะดวกขี่ม้า

“องค์หญิงใหญ่บอกว่าให้ท่านนั่งรถม้าจวนองค์หญิงกลับไป”

“มิควรทำให้รถม้าองค์หญิงใหญ่แปดเปื้อน” เฮ่อชิงเซียวปฏิเสธ เห็นซินโย่วยังคิดกล่อม ก็เอ่ยขึ้นเบาๆ “รับโทษเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอันใดนัก”

เป็นชายเหมือนกัน ย่อมรับรู้โทสะของฮ่องเต้ได้ไม่ยาก โทสะที่เกิดจากความเป็นห่วงว่าบุตรสาวจะถูกเอาเปรียบ

เขายินยอมพร้อมใจที่จะรับโทษนี้

“ข้ารู้…” ซินโย่วน้ำเสียงแผ่วลง

นางไม่อาจดำรงสติตนเองได้ยามเผชิญกับเรื่องของเขาเท่านั้น

ตอนที่นางทนไม่ไหวกระโดดลงจากรถม้าที่กำลังแล่นไปจวนองค์หญิงใหญ่ นางก็รับรู้กระจ่างถึงเรื่องนี้แล้ว

วันหน้าบางทีนางอาจจะมีชีวิตที่ยาวนานในเมืองหลวง ดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางศูนย์กลางอำนาจและการแก่งแย่งชิงดี ในเมื่อไม่อาจดูดายยามเขาประสบเหตุได้อย่างแท้จริง เช่นนั้นมิสู้เริ่มแรกก็ทำให้คนผู้นั้นรู้ว่านางให้ความสำคัญกับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตนาง

“คุณหนูซินขึ้นรถเถอะ”

เฮ่อชิงเซียวเอ่ยเตือน ซินโย่วได้แต่พยักหน้า “ใต้เท้าเฮ่อรักษาตัวให้ดี”

เฮ่อชิงเซียวตามซินโย่วไปขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่เจาหยาง

องค์หญิงใหญ่เจาหยางกล่อมไม่สำเร็จ ได้แต่เลิกล้มความตั้งใจ

รถม้าเคลื่อนไป องค์หญิงใหญ่เจาหยางพิงรถม้าถอนพระทัย “ฉางเล่อโหวแม้อายุยังน้อย แต่ว่ารู้การควรไม่ควรมาตั้งแต่ยังเล็ก”

ก่อนหน้านี้นางก็เคยดูแลเด็กคนนี้ แต่พอเขาเติบโตขึ้น ก็เริ่มเหินห่างและรักษาธรรมเนียมกับนาง นางรู้ความลำบากใจของเขาดี แต่ก็ชื่นชมในสติปัญญารู้ความเร็วของเขา

ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงรูปโฉมโดดเด่นเหนือสามัญของเขา

การได้อยู่ร่วมกับชายเช่นนี้เช้าค่ำ คุณหนูวัยแรกแย้มยากจะไม่หวั่นไหวกระมัง

องค์หญิงใหญ่เจาหยางอยากรู้ขึ้นมา อดคิดอยากถามไม่ได้

ไว้รอให้คุ้นเคยกันค่อยลองถามดู

จวนองค์หญิงใหญ่ออกจากวังหลวงมาได้ไม่ไกล ไม่นานรถม้าก็แล่นเข้าทางประตูข้าง จนกระทั่งถึงประตูชั้นสองจึงได้จอดลง

“ตามคุณชายใหญ่กับคุณหนูมา” พอเข้าไปถึงเรือนกลาง องค์หญิงใหญ่เจาหยางก็สั่งการสาวใช้

ไม่นานข่งฝูก็มาถึงก่อน

“ท่านแม่ กลับมาแล้วหรือ” พอเห็นซินโย่ว ข่งฝูก็ยิ้มตาหยี “พี่โค่ว ไม่ได้พบกันนาน”

องค์หญิงใหญ่เจาหยางดึงสาวน้อยเข้ามาหาพลางยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “อย่าเรียกพี่โค่วอีก เรียกพี่หญิง”

“พี่หญิง?” ข่งฝูกะพริบตาสงสัย

“นี่คือพี่ชายซินของเจ้า แต่ความจริงนางคือหญิงสาว”

คุณหนูตัวน้อยงุนงง “แต่นี่คือพี่โค่วนะ”

องค์หญิงใหญ่เจาหยางตั้งใจอธิบายต่อ “เริ่มแรกที่เจ้ารู้จักนาง ก็คือพี่หญิงซินของเจ้าผู้นี้ ตอนพี่สาวของเจ้าเข้าเมืองหลวงมาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคุณหนูนอกจวนรองเจ้ากรมพวกเขา ความจริงคุณหนูโค่วจากไปนานแล้ว”

“ท่านแม่…” ข่งฝูมององค์หญิงใหญ่เจาหยางอย่างตกใจ “ท่านแม่อ่านนิยายมากเกินไปใช่หรือไม่”

อย่าคิดว่านางอายุน้อยก็ไม่รู้ความ ตั้งแต่รู้จักพี่โค่ว ท่านแม่ก็มักส่งคนไปซื้อนิยายจากร้านหนังสือชิงซงมาหลายเรื่องและก็ค่อยๆ หลงใหลเรื่องราวในนิยาย

ถูกบุตรสาวอายุสิบกว่าสงสัยเอาเช่นนี้ องค์หญิงใหญ่เจาหยางแทบอยากจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก “ไม่ได้ล้อเล่น วันนี้พี่สาวเจ้าพบกับเสด็จลุงเจ้าแล้ว ยังร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเสด็จยายเจ้าด้วย…”

ที่ประตูมีเสียงเคลื่อนไหว ข่งฝูหันหน้าไปส่งเสียงเรียกพี่ใหญ่

ข่งรุ่ยเดินเข้ามา สีหน้าตกใจไม่แพ้น้องสาว “ท่านแม่ ท่านแม่บอกว่า…ความจริงน้องชายซินก็คือน้องสาวซิน?”

“อืม”

ข่งรุ่ยมองประเมินซินโย่วอย่างละเอียด พบว่าสาวน้อยตรงหน้ามีความคล้ายซินมู่

“ในเมื่อบอกกระจ่างแล้ว พวกเจ้าพี่น้องก็ควรทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการได้แล้ว รุ่ยเอ๋อร์ น้องสาวเจ้าชื่ออาโย่ว”

ข่งรุ่ยประสานมืออย่างลังเล “น้องโย่ว”

น้องชายที่ร่ำสุรากับเขาไม่มีอีกแล้ว กลายเป็นน้องสาวไปแล้ว?

การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าเกิดขึ้นกะทันหันรวดเร็วและสร้างความกระทบกระเทือนอย่างมากสำหรับชายหนุ่มที่เพิ่งอายุสิบแปด

ซินโย่วย่อกาย “พี่รุ่ย”

ข่งฝูแววตาวาวอยากรู้อยากเห็น ย่อกายคำนับตาม “พี่โย่ว”

ทักทายสถานะใหม่กันแล้วก็ร่วมรับประทานอาหารค่ำ องค์หญิงใหญ่เจาหยางนำซินโย่วไปยังสถานที่จัดเรียบร้อยแล้วด้วยตนเอง

เรือนหลังนี้ห่างจากเรือนหลักไม่ไกลนัก ปกติดูแลรักษาอย่างดี ใช้เวลาไม่นานก็เก็บกวาดเรียบร้อย ที่นอนและผ้าปูล้วนเปลี่ยนของใหม่ แม้แต่อ่างปลูกบัวหน้าประตูก็เติมน้ำเรียบร้อย

“รบกวนเสด็จอาแล้ว”

“กล่าวอันใดกัน เจ้าเป็นหลานสาวแท้ๆ ของข้า” องค์หญิงใหญ่เจาหยางดึงมือซินโย่วมากุม ในใจคิดว่าหลานชายกลายเป็นหลานสาวเป็นข้อดีอย่างเห็นได้ชัด จะได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

ยามนี้สองอาหลานนั่งอยู่บนเก้าอี้นอน บ่าวรับใช้ถอยออกไปหมด องค์หญิงใหญ่เจาหยางถามเรื่องที่เก็บไว้ในใจมานานออกมา “อาโย่ว เจ้าไม่คิดกลับคืนสู่วงศ์ตระกูลจริงหรือ”

ซินโย่วพยักหน้า

“เจ้าควรรู้ว่า มีสถานะองค์หญิง การสมาคมกับผู้ใดก็จะสบายกว่ามาก”

แม้เป็นขุนนางใหญ่ พบกับองค์หญิงก็ยังต้องก้มศีรษะคำนับ

ซินโย่วรู้ดีว่าองค์หญิงใหญ่เจาหยางคิดเพื่อนางอย่างจริงใจ จึงเผยความคิดแท้จริงออกไปว่า “กลายเป็นองค์หญิง โดยเฉพาะองค์หญิงที่ยังไม่ออกเรือน มีข้อจำกัดมาก”

องค์หญิงใหญ่เจาหยางคิดแล้วก็พอเข้าใจการเลือกของซินโย่ว

หากอาโย่วกลับเข้าวงศ์ตระกูลตอนนี้ ทางเสด็จแม่ยังก็ไม่รู้จะมีเรื่องอีกเท่าไร ตอนนี้คิดจะไปที่ใดก็ไปได้ คิดอยากพบผู้ใดก็พบได้ สตรียังไม่ออกเรือนเกรงว่าจะถูกจำกัดเสรีภาพ นางคงไม่อาจออกจากวังไปไหนได้ง่ายๆ

“อาโย่ว เจ้าคิดถึงอนาคตบ้างหรือไม่”

จะปล่อยให้มีสถานะองค์หญิงแท้จริง แต่ไม่อาจดำรงสถานะองค์หญิง จะให้ระหว่างบิดาและบุตรีเป็นเจ้านายกับขุนนางต่อไปเช่นนี้หรือ

ซินโย่วนิ่งเงียบเป็นนานก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ “หม่อมฉันยินดีทำให้ความปรารถนาอันสูงสุดของท่านแม่เป็นจริง”

“ความปรารถนาอันสูงสุดอันใด”

“ลดภาระภาษีและแรงงานราษฎร ให้ราษฎรได้ดำรงชีวิตสงบสุข ไม่ต้องไร้ซึ่งหนทางดำรงชีพ”

องค์หญิงใหญ่เจาหยางได้ฟังก็ถอนหายใจ “พี่สะใภ้ผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาด้วยตนเอง จึงทนเห็นราษฎรนับหมื่นแสนเป็นเช่นนี้ไม่ได้”

ฮองเฮาซินเป็นหญิงที่ประสบภัยหนีมา นางมีความปรารถนานี้ องค์หญิงใหญ่เจาหยางก็มิได้รู้สึกเหนือความคาดหมาย

“หลายปีมานี้ เสด็จพ่อเจ้ามักจะลดภาระภาษีของราษฎรประสบภัย ได้ยินว่าเสนาบดีกรมคลังและขุนนางใหญ่หลายท่านก็มักเป็นห่วงเรื่องนี้ เสนอแผนการนโยบายไม่น้อย… อาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่รู้สึกว่าการลดภาษีไม่ใช่เรื่องง่าย”

“หากมีนโยบายดี ก็จะลดภาระให้ราษฎรและยังเพิ่มเงินในคลังหลวงได้อีกด้วย”

องค์หญิงใหญ่เจาหยางรีบถามขึ้นทันที “โลกนี้มีนโยบายดีเช่นนี้ด้วยหรือ”

“ท่านแม่เคยเอ่ยกับข้า”

องค์หญิงใหญ่เจาหยางลุกขึ้นนั่ง “พี่สะใภ้มีแผนการแปลกใหม่มากมายจริงๆ เพียงแต่ข้ายังคิดไม่ออกว่าจะมีแผนใดที่สมประโยชน์ทั้งสองด้าน อาโย่ว เจ้ารีบบอกข้าหน่อย”

“นโยบายนี้ก็มีความยากลำบากอยู่ รอให้ถึงโอกาสเหมาะสม ข้าจะต้องบอกเสด็จอาให้กระจ่างอย่างแน่นอน หวังว่าถึงตอนนั้น เสด็จอาจะสนับสนุนข้า”

ตอนนั้นท่านแม่เพียงแค่เสนอนำขึ้นมา รายละเอียดยังไม่ได้บอกชัดเจน ก็ถูกต่อต้านรุนแรง จนทำให้ประสบเหตุร้ายต่อเนื่องไม่หยุด

ตอนนี้นางมาแล้ว นางจะอดทนให้ยิ่งกว่าท่านแม่ รอให้ถึงโอกาสที่ดีที่สุด

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท