สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 337 ลำไย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 337 ลำไย

……….

พอทุกคนนั่งประจำที่แล้ว ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ก็ตรัสกับพระสนมเสียนเฟย “โรคปวดพระเศียรไทเฮากำเริบ ไม่อาจต้องลมในศาลาได้”

พระสนมเสียนเฟยเข้าใจดีว่าไม่ต้องรอไทเฮาแล้ว จึงส่งสัญญาณให้เริ่มงานเลี้ยง

ในยามนี้เองเสียงดนตรีก็ดังขึ้น พื้นที่ว่างนอกศาลายาวมีนางรำเกล้ามวยสูงออกมาร่ายรำ

“เสด็จแม่ไม่เป็นอันใดใช่ไหมเพคะ” องค์หญิงใหญ่เจาหยางสงสัยมารดาต้องการทำให้ซินโย่วเสียหน้า จึงตั้งใจไม่มา แต่ความกตัญญูเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ก็ยังคงต้องแสดงความห่วงใย

“ไม่เป็นอันใด น้องพี่วางใจ”

พอเห็นพี่ชายตอบเช่นนี้ องค์หญิงใหญ่เจาหยางก็ไม่เป็นห่วงอีก

มารดาอ้างป่วยดังคาด

ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้มองไปทางซินโย่ว “อาโย่วมากับอาหญิงหรือ”

“เพคะ”

“พักที่จวนอาหญิงคุ้นเคยแล้วกระมัง”

ในศาลาทุกคนนั่งเงียบๆ ได้ฟังฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ถามเรื่องนี้เรื่องนั้น ในใจก็ยิ่งสับสน

เหตุใดฮ่องเต้ไม่เหมือนยามปกติ

“คุ้นเคยแล้วเพคะ เสด็จอาหญิงดีกับหม่อมฉันมาก พี่รุ่ยกับน้องฝูก็ดูแลหม่อมฉันดีมากเพคะ”

ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ได้ยินก็แย้มสรวลตรัสว่า “พอดีทุกคนอยู่ที่นี่ เจ้าก็มาทำความรู้จักหน่อย นี่คือพระสนมเสียนเฟย เสด็จแม่องค์ชายสาม”

พระสนมเสียนเฟยเผยรอยยิ้มเป็นมิตรให้ซินโย่ว

“ถวายพระพรพระสนมเสียนเฟย”

“คุณหนูซินไม่ต้องมากพิธี” พระสนมเสียนเฟยเข้ามาแนะนำต่อด้วยตนเอง “ท่านนี้คือพระสนมรุ่ยเฟย เสด็จแม่องค์ชายสี่…”

ซินโย่วถวายบังคมทีละคน นับว่าได้รู้จักบรรดาพระสนมนางในวังหลังที่มีสถานะกันแล้ว ยังได้รู้จักกับองค์ชายและองค์หญิงที่เมื่อก่อนไม่เคยพบ

“ในเมื่อรู้จักกันแล้ว ก็เริ่มงานเลี้ยงได้”

ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ยกแก้วขึ้น พอเขาเริ่มขยับตะเกียบ งานเลี้ยงก็เริ่มอย่างเป็นทางการ

ซินโย่วหลุบตาลงมองไปบนโต๊ะ ไปหยุดที่จานผลไม้ทีหนึ่ง

จานผลไม้สีเขียวมรกตรูปดอกบัว ในนั้นมีทับทิม แตงหวาน พุทธา ลำไยและผลไม้ต่างๆ ทับทิมแกะเปลือกเรียบร้อย แตงหวานหั่นเป็นชิ้น แม้แต่ลำไยก็ปอกเปลือกแล้ว แต่ละเม็ดแวววาววางเรียงขนาดเท่าไข่มุกเม็ดโต

ซินโย่วแววตาแปรเปลี่ยนเล็กน้อย

ที่แท้ที่องค์ชายสามกินก็คือลำไย!

ภาพจางหายไปเร็วเกินไป หลังองค์ชายสามแสดงอาการผิดปกติแล้วก็ถูกรุมล้อมทันที นางไม่อาจวิเคราะห์ได้ว่าแท้จริงเกิดอันใดขึ้นกับองค์ชายสามกันแน่

แต่ในใจซินโย่ว การคาดเดาความเป็นไปได้สามแบบที่จะเกิดขึ้นกับองค์ชายสาม องค์ชายสามอายุเพียงสิบเอ็ดและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดจากหมอหลวง มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคปัจจุบันทันด่วนน้อยมาก ดังนั้นความเป็นไปได้มากกว่าก็คือถูกพิษหรืออุบัติเหตุติดคอ

ส่วนจะถูกพิษหรือติดคอ ตอนนี้ต้องวิเคราะห์ให้กระจ่าง แม้ไม่มีปัจจัยใดระบุ แต่ก็มิใช่เรื่องสำคัญนัก เพราะเรื่องสำคัญเร่งด่วนตอนนี้ก็คือห้ามองค์ชายสามกินลำไยลงไป

ซินโย่วรู้สึกลำบากใจ

หากเป็นยามปกติแม้กับคนแปลกหห้า นางเอ่ยเตือนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีความยุ่งยากอันใด แต่งานเลี้ยงในวังตอนนี้ มีบรรดาชนชั้นสูงศักดิ์ที่สุดของราชวงศ์ต้าซย่ามารวมกันที่นี่ หากนางพลันเอ่ยขึ้นว่าองค์ชายสามจะมีภัยถึงแก่ชีวิต จะไม่ถูกเตะออกไปกระมัง

แม้ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้กำลังตรัสกับพวกองค์หญิงใหญ่เจาหยาง แต่ความสนพระทัยอยู่ที่ซินโย่วตลอดเวลา เห็นนางไม่ขยับตะเกียบ ก็แย้มสรวลตรัสถามขึ้นว่า “ไม่มีอาหารที่อาโย่วชอบหรือ”

“ล้วนเป็นอาหารสูงค่าเลิศรสที่หม่อมฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเพคะ แค่มองก็รู้แล้วว่ารสเลิศอย่างมากเพคะ” ซินโย่วขยับตะเกียบเงินตาม

ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้แย้มสรวลกว้าง คุยเล่นกับพวกองค์หญิงใหญ่เจาหยางต่อ

ซินโย่วรู้ดีว่านางทำตัวเงียบเพียงใดก็ไม่อาจพ้นสายตามองประเมินของคนมากมายในงานเลี้ยงได้ ตอนเหลือบไปเห็นองค์ชายสามยื่นมือไปทางจานผลไม้ ก็ส่งเสียงเรียกดังขึ้นทันที “องค์ชายสามเพคะ”

มือองค์ชายสามเพิ่งจะยื่นออกไปแตะจานผลไม้ พลันได้ยินว่ามีคนส่งเสียงเรียกเขาก็เงยหน้าอย่างงุนงง

“พี่หญิง…ซิน เรียกข้ามีธุระอันใดหรือ” แม้องค์ชายสามรู้สึกขัดเขิน แต่เพราะพระสนมเสียนเฟยกำชับไว้ก่อนหน้าว่าให้เขาเรียกซินโย่วเช่นนี้

ดังคาดฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ได้ยินคำเรียกขานองค์ชายสามก็เผยรอยยิ้มกว้าง

ผู้อื่นต่างมองไปทางซินโย่วด้วยความรู้สึกอยากรู้ ไม่รู้ว่าเหตุใดนางพลันเรียกองค์ชายสาม

“เมื่อครู่องค์ชายสามบอกว่าชอบซุนหงอคงใน ‘บันทึกตะวันตก’ ที่สุด หม่อมฉันมีคำถามเกี่ยวกับซุนหงอคงสองคำถามอยากถามองค์ชายสักหน่อย”

องค์ชายสามขมวดคิ้ว “พี่ซินต้องการทดสอบข้า?”

เรื่องที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือถูกอาจารย์สอบถาม

“มิได้ แค่ในฐานะคนเขียนเรื่อง ‘บันทึกตะวันตก’ ของท่านซงหลิง หม่อมฉันได้พบนักอ่านอายุเท่าองค์ชายครั้งแรก จึงอยากสนทนาสักหน่อย” ซินโย่วนยิ้มมุมปาก “สองคำถามนี้ หากองค์ชายตอบได้หนึ่ง หม่อมฉันจะมอบ ‘บันทึกตะวันตก’ เล่มหกให้องค์ชาย”

“เล่มหก?” องค์ชายสามตกตะลึงพร้อมสีหน้ายินดียิ่ง “เล่มหกยังไม่ออกวางจำหน่าย มอบให้ข้าได้จริงหรือ”

ซินโย่วพยักหน้า

“เช่นนั้นพี่ซินถามมาได้เลย” องค์ชายสามแทบทนรอไม่ไหว

ปฏิกิริยาองค์ชายสามเป็นดังที่ซินโย่วคาดไว้

เรื่องราวมหัศจรรย์พันลึกของ ‘บันทึกตะวันตก’ ค่อยๆ ดำเนินไปอย่างน่าติดตาม คนที่ได้ลองอ่านก็มีแต่จะยิ่งใหลหลง

“ซุนหงอคงชอบผลไม้อะไรมากที่สุด”

“ลูกท้อ” องค์ชายสามหลุดตอบออกไป

ซินโย่วคลี่ยิ้ม “ตอบได้ถูกต้อง”

องค์ชายสามแย้มยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ

องค์ชายสี่เบ้ปาก ส่งเสียงบ่นเบๆ “นี่มันคำถามอันใดกัน”

เห็นชัดว่าคิดอยากมอบ ‘บันทึกตะวันตก’ ที่ยังไม่วางขายให้พี่สาม

ในใจบรรดาพระสนมเหล่านี้ก็เริ่มครุ่นคิดขึ้นมา ท่านนี้เป็นองค์หญิงที่ไร้สถานะแท้จริง คิดจะเอาใจพระสนมเสียนเฟยสองแม่ลูกกระมัง

นางเป็นพระสนมชั้นเฟยตำแหน่งสูงสุดที่ดูแลวังหลัง องค์ชายสามยังเป็นองค์ชายที่อายุมากที่สุดถัดจากองค์ชายใหญ่ ยังได้แสดงท่าทีตนเองต่อพระพักตร์ฮ่องเต้ว่าใส่ใจพี่น้อง หากคุณหนูซินไม่ได้ไม่คาดหวังสิ่งใดดังที่แสดงออก นางก็ถือเป็นคนรู้จักเอาใจผู้อื่นเช่นกัน

“เช่นนั้นคำถามที่สองล่ะ” องค์ชายสามอายุสิบเอ็ดมิได้เห็นว่าผ่านแล้วก็จะยอมหยุด กลับอยากทดสอบต่อ

“คำถามที่สองก็คือซุนหงอคงเกลียดผลไม้อันใดที่สุด” ซินโย่วยิ้มถาม

“เกลียดที่สุด…” องค์ชายสามพยายามทวนความจำ

คนที่อยู่ในที่นั้นต่างเคยได้อ่าน ‘บันทึกตะวันตก’ ก็อดพากันหวนรำลึกไม่ได้

ในบรรดาคนเหล่านี้ย่อมรวมถึงฮ่องเต้ซิงหยวนตี้

ซุนหงอคงเกลียดผลไม้ใดที่สุด เหตุใดเขาจำไม่ได้ ในนิยายเคยเอ่ยถึงหรือ หรือว่าอ่านหลุดไป

องค์ชายสามนิ่งงันครุ่นคิด พลางส่ายหน้า “ข้าจำไม่ได้”

ซินโย่วกวาดตามมองจานผลไม้ใบบัวทีหนึ่ง ยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “คือลำไย”

จำได้สิแปลก ในนิยายไม่ได้เอ่ยถึง ย่อมเพราะนางพูดไปเอง

“ลำไย?” องค์ชายสามอดมองไปยังลำไยในจานไม่ได้ เผยสีหน้ารังเกียจอย่างไม่รู้ตัว

ซินโย่วเห็นเช่นนี้ก็วางใจลงไม่น้อย

เด็กน้อยที่ยังไม่โตเป็นหนุ่ม ย่อมเลื่อมใสตัวละครที่ตนชอบด้วยใจจริงอย่างไม่รู้ตัว องค์ชายสามเพิ่งถามถึง ‘บันทึกตะวันตก’ ต่อหน้าทุกคน เห็นได้ว่าชอบซุนหงอคงอย่างมาก เช่นนั้นในเมื่อซุนหงอคงเกลียดลำไยมาก ก็เป็นไปได้มากกว่าคนที่ตนชื่นชอบเกลียดสิ่งใดก็เกลียดสิ่งนั้นตาม

ตามคาด องค์ชายสามกินไปๆ หันไปหยิบผลไม้ พอมือที่คว้าลำไยก็ชะงักงันด้วยสัญชาตญาณ ก่อนจะเลื่อนไปหยิบแตงหวานแทน

ซินโย่วสังเกตเห็นก็แอบรู้สึกโล่งอก

นางไม่รู้องค์ชายสามมีนิสัยเช่นไร และไม่รู้ว่าพระสนมเสียนเฟยเป็นคนเช่นไร แต่นางไม่อาจทนดูเด็กน้อยเกิดเหตุได้

“อาโย่ว” ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้ตรัสถามอ่อนโยน “‘บันทึกตะวันตก’ ยังมีอีกกี่เล่มที่ยังไม่จำหน่าย”

“ทั้งหมดสิบเล่มเพคะ”

“อย่างนั้น…” ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้อยากรู้ขึ้นมา

หากเขาเผยแสดงท่าทีสนใจสักหน่อย อาโย่วจะมอบนิยายที่ยังไม่ออกจำหน่ายให้เขาสักหนึ่งชุดด้วยตนเองหรือไม่

ฮ่องเต้ซิงหยวนตี้กำลังคิดตรัส ก็มีเสียงดังขึ้น

ซินโย่วมองไปทันที เห็นองค์ชายสามลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเจ็บปวด

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท