หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่186 ต้องผ่าตัด

บทที่186 ต้องผ่าตัด

บทที่186 ต้องผ่าตัด

เกี่ยวกับเรื่องวิธีการรักษาสิ่งที่มันจะยากไปสำหรับนางก็ไม่มาก ถึงแม้ว่ามีบางเรื่องที่ยากเกินไปสำหรับนางแต่ก็ไม่ยากไปกว่าดวงตาของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

แต่ว่าตอนนี้……

หนอนพิษกู่ตัวเล็กๆตัวนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้นางหมดปัญญาแต่ยังทำให้ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ล้ำสมัยที่สุดทำอะไรไม่ถูก

“เจ้ารอตรงนี้ก่อน ข้าจะไปเอาอ่างน้ำมาให้”

บนโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรยาก เพียงแค่กลัวใจคน

นางจะต้องหาวิธีให้ได้

มองแผ่นหลังที่เดินออกไปของนาง เย่แจ๋หยิ่งก็ยิ้มออกมาเงียบๆ แต่เมื่อรอยยิ้มนั้นเพิ่งจะยิ้มแย้มจู่ๆมันกลับแข็งทื่อ

จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ท่าทางเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดอย่างรุนแรง คิ้วขมวดแน่น

เขาใช้มือนึงกุมหน้าอกแน่น อีกมือนึงเช็ดเลือดที่ไหลออกมาทางมุมปาก……

หลังจากตอนเที่ยงวัน แสงอาทิตย์ส่องประกายสวยงาม ฟ้าโปร่งไร้เมฆ

หลานเยาเยาที่คว่ำหน้าอยู่บนเตียงก็ถูกปลุกขึ้นจากเสียงอะไรก็ไม่รู้ นางยันตัวขึ้นมองไปยังเย่แจ๋หยิ่งที่ยังคงหลับลึก อดไม่ได้ที่จะบิดเอวอย่างขี้เกียจ

ก่อนที่นางจะไปนางได้ให้น้ำเย่แจ๋หยิ่งไว้อ่างนึง หลังจากกลับมา แม้เย่แจ๋หยิ่งจะดูไม่ต่างไปจากแต่ก่อน แต่นางกลับได้กลิ่นเลือด

นางรู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่อยากให้นางตำหนิตนเอง

“กริ๊งๆๆ……”

“คุณชายทั้งสองตื่นหรือยัง? ข้าทำอาหารกลางวันมาให้พวกท่านนิดหน่อย”

เสียงของพี่ใหญ่นายพรานดังออกมาจากข้างนอก ในน้ำเสียงทั้งความประหม่าและหวาดกลัว

คาดว่าเมื่อคืนน่าจะถูกตกใจไปไม่เบา

“มาแล้ว!”

หลานเยาเยารีบก้าวไปยังประตูห้องแล้วเปิดประตูดู

ดวงตาก็หรี่ลงทันที!

พี่ใหญ่นายพรานตาสองข้างแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ในมือของเขาไม่มีอาหารกลางวัน รอบคอกลับล้อมไปด้วยแผงลูกคิด และแผงลูกคิดนั้นล้อมไปด้วยหนามแหลม……

นางยังไม่ทันได้ขยับ แผงลูกคิดนั้นก็ขยับอย่างรวดเร็วแล้วหัวของพี่ใหญ่นายพรานก็ตกลงไปที่พื้น เลือดพุ่งตรงราวกับเสาออกมาทันที

มีเสียงดัง“ปัง”!

ร่างกายอีกครึ่งที่เหลืออยู่ถูกทิ้งไปด้านข้าง และด้านหน้าของนางก็ปรากฏใบหน้าอัปลักษณ์ขึ้นมา

ทันใดนั้น แสงอาทิตย์ก็สาดเข้ามาในห้องพร้อมกับลมกระโชกแรง

“เจ้าคือหลานเยาเยา?! ข้า ท่านเจ็ดจากยิงจวน”

เสียงของคนผู้นี้แปลกมาก ฟังไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง อีกทั้งสีหน้าของเขาก็เยาะหยัน ไม่ได้สนใจหลานเยาเยาสักนิด

“เทพไป๋อู่ฉาง!”

จำได้ว่านางเคยอ่านหนังสืออยู่เล่มนึง ในหนังสือบันทึกบางเรื่องในพระราชวังยมราช

นอกจากพญายม เฮย-ไป๋อู่ฉาง(ยมทูตขาวดำ)ก็เป็นผีสองตนที่ค่อนข้างสำคัญ มือของเทพไป๋อู่ฉางถือแผงลูกคิด ถูกเรียกว่าท่านเจ็ด

ส่วนเทพเฮยอู่ฉางมือถือโซ่ตรวน ถูกเรียกว่าท่านแปด

ฆาตกรผิวขาวจนทำให้คนตกใจที่อยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าเหมือนใช้ผงแป้งกองไว้รวมกัน ไม่มีสีของเลือดแม้แต่น้อย เหมือนเทพไป๋อู่ฉางในยมโลกปรากฏตัวอย่างกะทันหันในโลกมนุษย์

“รู้ไม่น้อยเลยนี่”

เทพไป๋อู่ฉางชำเลืองมองนางอย่างดูถูก แววตานั้นเหมือนมองคนตาย

“บนรายชื่อยมราชชื่อของเจ้าถูกบันทึกมาหลายวันแล้ว ยายเมิ่งนั่นไร้ประโยชน์ ดูท่าแล้วข้าจะต้องมาลงมือเอง”

เทพไป๋อู่ฉางยกลูกคิดในมือ กำลังจะใช้กำลังภายใน

จู่ๆก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าก็เปลี่ยนไป อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“อ๋องเย่?”

หืม?

เมื่อวานยายเมิ่งยิงจวนห้าคนพานักฆ่ามามากมายเพื่อลอบสังหารพวกเขา หรือเทพไป๋อู่ฉางไม่รู้?

ดูท่าแล้วน่าจะเพราะในรายชื่อยมราชมีชื่อนางอยู่ ส่วนยายเมิ่งยิงจวนที่ส่งมาฆ่านางก็ถูกนางฆ่าตาย ดังนั้นเขาจึงต้องลงมือเอง

เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่นางเดานั้นถูกหรือไม่ นางจึงรีบพูดกึ่งหยั่งเชิ่งกึ่งขู่ๆ:

“นั่นคืออ๋องเย่ เย่แจ๋หยิ่ง เทพไป๋อู่ฉาง ตอนที่ท่านมาก็ไม่สอบถามเสียก่อนว่าข้างกายข้ามีผู้ใดอยู่ หรือว่าท่านอยากปลุกเขาตื่นตอนนี้?”

เมื่อเจอกับคำพูดข่มขู่ เทพไป๋อู่ฉางก็ขมวดคิ้ว แววตาประกายความสงสัย

“เขาเป็นอะไรไป?”

ว่าตามเหตุผล การสนทนาแบบนี้ของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่อ๋องเย่จะไม่รู้สึกตัว

หรือจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับอ๋องเย่?

ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นก็ดี ฆ่าทั้งสองคนไปด้วยกัน

“แค่เมาเท่านั้น แต่ถึงจะเมาก็เกินพอที่จะรับมือกับท่าน”

พูดเสร็จ หลานเยาเยาก็หมุนตัวเดินไปยังเตียง

ตอนนี้ สีหน้าของเทพไป๋อู่ฉางผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ทว่าเขายังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับแม้แต่น้อย

เมื่อตอนที่เขาแน่ใจแล้วว่าอ๋องเย่ไม่ได้เมาแต่หมดสติ กำลังจะใช้กำลังภายใน……

ทันใดนั้น!

เย่แจ๋หยิ่งก็ผุดนั่งขึ้นมาอย่างกะทันหันและเทพไป๋อู่ฉางก็หายไปทันที

เอ่อ?

เทพไป๋อู่ฉางกลัวขนาดนั้นเลยหรือ?

เมื่อครู่ไม่ใช่ยังดูสดใสอยู่หรือ?

นางขี้เกียจจะสนใจแล้วว่าเทพไป๋อู่ฉางจากไปจริงๆหรือไม่ นางจึงรีบเดินไปยังข้างเตียง

“เจ้าตื่นแล้ว พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่”

“อื้ม!”

เย่แจ๋หยิ่งกุมอก สีหน้าหมองหม่น ขมวดคิ้ว

หลานเยาเยารู้ว่าหนอนพิษกู่นั่นพยายามจะเจาะเข้าหัวใจเขาอยู่ตลอด ถ้าไม่รีบกำจัดออกมา สำหรับเย่แจ๋หยิ่งแล้ว มันก็จะเป็นการทรมานอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นนางต้องหาสถานที่ปลอดภัยแล้วทำการผ่าตัดให้เขา บังคับมันออกมา

ตอนที่พวกเขาไปหาหานแสที่อยู่ห้องข้างๆ หานแสกำลังมีไข้สูง

และไข้สูงนั้นเกิดจากโดนลมหนาว

ไม่มีเหตุผล!

เมื่อวานนางพันแผลให้เขา ให้ยาที่ดีที่สุด เป็นไม่ได้เลยที่จะเป็นหวัด นอกเสียจากว่าเขาจะชอบนอนถีบผ้าห่มหรือเดินออกไปนอกห้องยามค่ำคืน ดังนั้นจึงได้รับลมหนาว

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ตอนนี้นางก็ต้องพาเขาไปด้วยกัน

นางไม่สามารถฆ่าคนดีที่ไม่รู้เรื่องได้ และก็ไม่สามารถปล่อยคนเลวไปได้

พอพวกเขามาถึงในเมือง หลานเยาเยาก็รีบซื้อรถม้ามาหนึ่งคัน หลังจากที่ขี่ด้วยความเร็วมาตลอดครึ่งค่อนวัน รถม้าก็มาหยุดอยู่ที่แนวป่ารกร้าง

หลังจากซ่อนรถม้าดีแล้วก็เข้าไปในถ้ำที่ไม่ลึกนัก

หลานเยาเยาเก็บกวาดวัชพืชภายในถ้ำพอเดินไปยังปากถ้ำก็เห็นหานแสกำลังนั่งอยู่ตรงปากถ้ำ

สายตาเขาเงียบสงบ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“เจ้าดีขึ้นหรือยัง?”

“ขอบคุณมาก” หานแสมองบาดแผลของตนเองแล้วคำนับนางเล็กน้อย

ตั้งแต่เย่แจ๋หยิ่งช่วยหานแสออกมาจากเรือแห่งความสิ้นหวัง เขาก็พูดน้อยมาตลอด

เย่แจ๋หยิ่งก็พูดน้อย แต่พวกเขาก็มีนิสัยที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เย่แจ๋หยิ่งโอหังเย็นชา ส่วนเขานิ่งเงียบ เหมือนกับว่าถ้าไม่มีอะไรจำเป็นต้องพูด เขาก็จะไม่พูดสักคำเหมือนเก็บเรื่องราวไว้ในใจมากมาย

“อีกเดี๋ยวข้าจะแก้พิษให้เย่แจ๋หยิ่งที่นี่ ขั้นตอนค่อนข้างอันตราย ถ้าไม่ระวัง เขาอาจตายได้ เจ้า……”

หลานเยาเยาไม่ได้บอกให้หานแสรู้ว่าในร่างกายของเย่แจ๋หยิ่งเป็นอะไร เพียงแต่บอกว่าเขาโดนพิษ

หานแสพยักหน้า

“วางใจเถอะ ข้าจะป้องกันปากถ้ำ”

ที่จริง!

เขารู้ว่าหลานเยาเยาไม่ได้จะให้เขาไปป้องกันปากถ้ำ แต่เพราะไม่อยากให้เขารู้ความลับบางอย่าง

หลังจากหลานเยาเยากล่าวขอบคุณก็เดินเข้าไปในถ้ำ จากนั้นก็เอาวัชพืชมาขวางปากถ้ำไว้

ถึงอย่างนั้นนางก็ยังไม่วางใจ ดังนั้นจะเอายาผงมาโรยไว้บนพื้นที่ใกล้ปากถ้ำ

หลังจากที่เดินเข้าไปด้านใน นางก็หยิบของทั้งหมดที่ต้องใช้ในการผ่าตัดออกมา

แม้เย่แจ๋หยิ่งที่รู้ความลับของนางแล้วก็ตาม แต่หลังจากที่เห็นสิ่งแปลกๆและละเอียดอ่อนขนาดนี้

แววตาก็ประกายความตกตะลึง

“ถอดเสื้อผ้าออกแล้วนอนไป”

ดูสิ!

ของพวกนี้ก็ให้เขาดูหมดแล้ว ถ้าวันหลังเขายังพูดอีกว่านางไม่เชื่อใจเขาอีกหล่ะก็ นางก็จะจัดการเขา

เย่แจ๋หยิ่งที่ใบหน้าซีดเซียวยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ถอดเสื้อ

ตอนที่นอนลงไปบนเตียงผ่าตัดอันเย็นเยือก เขาเอาแต่มองนางนิ่งๆ ในนัยน์ตานุ่มลึกของเขามีแต่เงาสะท้อนใบหน้าของนาง

ตอนที่เห็นนางหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา เขาก็เอ่ยปากเงียบๆ

“ข้าอยากดูเจ้าเอาหนอนพิษกู่ออก”

ที่จริง!

เขาเพียงแค่อยากมองนางมากกว่านี้……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน