สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1579 เคลื่อนทัพ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1579 เคลื่อนทัพ

……….

ไป๋ชิงเหยียนชี้นิ้วไปยังเมืองในเขตการปกครองของต้าโจวอวิ๋นจงและซู่อันซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจิ่วเจียงมากนัก “สั่งให้ทหารคุ้มกันเมืองอวิ๋นจงและซู่อันแบ่งทัพเป็นสองกลุ่มไปดักซุ่มโจมตีเส้นทางเชื่อมระหว่างเมืองจิ่วเจียงและเมืองซีผิงเอาไว้ กลุ่มแรกที่ดักซุ่มโจมจงสังหารศัตรูให้ได้มากที่สุด หากกองทัพจิ่วเจียงบุกเข้ามาเมื่อใดให้แสร้งทำเป็นถอยทัพหนีไปยังเมืองซีผิง จิ่วเจียงอ๋องเป็นคนรอบคอบ เมื่อเห็นพวกเราถอยหนีเขาต้องส่งทหารไปสำรวจเส้นทางก่อนแน่นอน หากเขาเห็นว่าทางข้างหน้ายังมีกับดักอีกเขาต้องเข้าใจว่าพวกเราจงใจล่อพวกเขาไปที่นั่น ดังนั้นเขาจะไม่กล้าไล่ตามพวกเราไป ขอเพียงเราถ่วงเวลากองทัพของจิ่วเจียงอ๋องได้อีกสักวัน เมื่อกองทัพผิงหยางของพวกเรามาถึง…”

ไป๋ชิงเหยียนวงกลมลงบนเมืองจิ่วเจียง “พวกเราจะบุกไปทำลายกองทัพจิ่วเจียงทางตะวันตก!”

“เช่นนั้นก็หมายความว่าการดักซุ่มโจมตีกองทัพจิ่วเจียงคือส่วนสำคัญ” ไป๋ชิงเจวี๋ยหันไปทางไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถิดขอรับ”

“พี่หญิงใหญ่ ให้ข้าทำเถิดเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อเดินแหวกม่านเข้ามาด้านใน จากนั้นยกหมัดคารวะเพื่อขอรับหน้าที่นี้เอง

“ข้าคือเกาอี้อ๋องของต้าโจว ข้าพอมีชื่อเสียงในการทำสงครามแล้ว หากข้าเป็นคนพาทหารไปดักซุ่มโจมตีและถอยทัพหนี จิ่วเจียงอ๋องน่าจะยิ่งเชื่อว่ามีกับดักของต้าโจวรอเขาอยู่เบื้องหน้าอีกเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อกล่าว

เซียวรั่วเจียงค่อนข้างประหลาดใจที่ไป๋จิ่นจื้ออาสารับหน้าที่นี้อย่างมุ่งมั่นเช่นนี้ เดิมทีเมื่อได้ยินไป๋ชิงเจวี๋ยอาสารับหน้าที่นี้เซียวรั่วเจียงเตรียมขออาสาทำแทนชายหนุ่มเช่นกัน

ไป๋ชิงเหยียนกวักมือเรียกไป๋จิ่นจื้อ เมื่อเห็นน้องสาวเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น “สถานที่ดักซุ่มโจมตีที่ดีที่สุดสองแห่งคือบริเวณนี้…กับตรงนี้ จงจำไว้ว่าหากจิ่วเจียงอ๋องไม่ยกทัพบุกมา เจ้าห้ามยกทัพไปยั่วยุเขาก่อนเด็ดขาด! ให้ดักซุ่มอยู่ที่เดิมอย่างสงบ หากพบกองทัพของจิ่วเจียงอ๋องดักซุ่มอยู่ห้ามคะนองศึกเด็ดขาด เจ้าขึ้นชื่อเรื่องความดุดันในการทำสงคราม ยิ่งเจ้าถอยทัพหนีเร็วเท่าใดก็จะยิ่งทำให้จิ่วเจียงอ๋องสงสัยมากเท่านั้น”

“เสี่ยวซื่อเข้าใจเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นจื้อรับคำ

ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้กองทัพดักซุ่มโจมตีบนเส้นทางเชื่อมระหว่างเมืองจิ่วเจียงกับซีผิงเผื่อป้องกันกองทัพจิ่วเจียงยกทัพบุกมาช่วยเหลือซีผิงซื่อจื่อเท่านั้น หากจิ่วเจียงอ๋องอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำสิ่งใดระหว่างที่นางโจมตีเมืองซีผิงก็ถือเป็นเรื่องดี

“หรู่ซยง รบกวนท่านไปกับเสี่ยวซื่อที…” ไป๋ชิงเหยียนไม่วางใจปล่อยให้ไป๋จิ่นจื้อทำศึกเพียงคนเดียว นางอยากให้เซียวรั่วเจียงไปช่วยคุ้มครองความปลอดภัยของไป๋จิ่นจื้อ

“ขอรับ” เซียวรั่วเจียงรับคำ

เมื่อวางแผนเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้วไป๋ชิงเหยียนและคนอื่นๆ จึงรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน เมื่อทานเสร็จไป๋ชิงเหยียนจึงให้เซียวรั่วเจียงและไป๋ชิงเจวี๋ยไปพักผ่อนเอาแรง จากนั้นรั้งไป๋จิ่นจื้อไว้สนทนาตามลำพัง

“พี่ได้ยินว่าเมื่อวานเจ้าบอกกับหลู่หยวนเผิงว่าหากเขาฟื้นขึ้นมา…เจ้าจะแต่งงานกับเขา” ไป๋ชิงเหยียนขมวดคิ้วแน่น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลู่หยวนเผิงหมั้นหมายกับคุณหนูตระกูลเว่ยแล้ว”

“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นจื้อก้มหน้าต่ำ “ก่อนออกเดินทางมาจากเมืองหลวงข้าได้ยินถ้อยคำที่หลู่หยวนเผิงกล่าวกับซือหม่าผิงเจ้าค่ะ”

หลู่หยวนเผิงบอกกับซือหม่าผิงว่าเขาให้ซือหม่าผิงได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของตัวเอง ทว่า เขาจะไม่มีวันยกนางให้ซือหม่าผิงเด็ดขาด!

ไป๋จิ่นจื้อยืนแอบฟังบทสนทนาของคนทั้งสองอยู่หลังกำแพง นางเห็นใบหน้าของซือหม่าผิงซีดเผือดลงทันทีที่หลู่หยวนเผิงกล่าวว่าจะตัดสัมพันธ์กับเขา เมื่อเห็นแววตาที่เยือกเย็นของซือหม่าผิงนางแทบอยากออกไปชกหลู่หยวนเผิงให้น่วมจนท่านปู่ของเขาจำเขาไม่ได้

เหตุใดหลู่หยวนเผิงต้องให้ซือหม่าผิงยอมเขาตลอดเวลา เหตุใดต้องกล่าววาจาทำร้ายจิตใจซือหม่าผิงถึงเพียงนั้น! ที่สำคัญนางคือคนตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับผู้ใด นางไม่ใช่สิ่งของที่ผู้ใดคิดจะแย่งชิงไปก็ได้!

ทว่า เมื่อได้ยินท่านหมอบอกว่าหลู่หยวนเผิงกำลังจะตาย นางไม่รู้จะทำเช่นไรดี

หากหลู่หยวนเผิงเสียชีวิต อย่าว่าแต่นางซึ่งเห็นเขาเป็นสหายจะเสียใจเลย ซือหม่าผิงก็คงรู้สึกผิดกับเรื่องนี้ไปตลอดชีวิตเช่นกัน

ซือหม่าผิงกับหลู่หยวนเผิงเป็นสหายรักกัน ทว่า ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบหน้ากันกลับเป็นเหตุการณ์ที่ทะเลาะกันจนจะตัดความสัมพันธ์กัน

แม้ซือหม่าผิงจะไม่เคยกล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า ไป๋จิ่นจื้อรู้ดีว่าแม้ซือหม่าผิงจะเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นเดียวกับหลู่หยวนเผิง ทว่า เขาเป็นคนใส่ใจและไม่เคยคิดแย่งชิงสิ่งใดกับหลู่หยวนเผิงแม้แต่น้อย

มิเช่นนั้นตอนที่รู้ข่าวว่าหลู่หยวนเผิงกำลังจะหมั้นหมายเขาคงไม่รีบร้อนมาหานางและถามความรู้สึกที่นางมีต่อหลู่หยวนเผิงเช่นนั้น

ไป๋ชิงเหยียนเห็นสีหน้าปวดใจของไป๋จิ่นจื้อก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างทันที

“ดังนั้นเจ้าจึงอยากใช้ถ้อยคำนี้กระตุ้นให้เขาฟื้นขึ้นมาใช่หรือไม่…” ไป๋ชิงเหยียนลูบศีรษะของน้องสาวอย่างปลอบโยน จากนั้นถอนหายใจยาวออกมา “เสี่ยวซื่อ เจ้าให้ความสัมพันธ์กับมิตรภาพ การที่เจ้าพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยหลู่หยวนเผิงไม่ใช่เรื่องผิด ทว่า เจ้าไม่ควรหลอกเขาเรื่องนี้”

ไป๋จิ่นจื้อนั่งอยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียน น้ำตาของนางไหลพรากออกมาไม่ขาดสาย

แม้จะเป็นแม่ทัพหญิงที่ดุดันสักเพียงใด ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องของความรู้สึกนางก็ทำสิ่งใดไม่ถูกอยู่ดี

ไป๋ชิงเหยียนมองออกแล้ว แม้นางจะไม่มั่นใจว่าไป๋จิ่นจื้อชอบซือหม่าผิงหรือไม่ ทว่า ไป๋จิ่นจื้อเห็นหลู่หยวนเผิงเป็นเพียงสหายที่มีค่าของนาง มิเช่นนั้นด้วยนิสัยของไป๋จิ่นจื้อ น้องสาวของนางคงรีบเอ่ยคัดค้านประโยคเมื่อครู่ของนางแล้ว

“บนโลกนี้มีเพียงเรื่องของความรู้สึกเท่านั้นที่ไร้เหตุผล” ไป๋ชิงเหยียนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาให้น้องสาว “ช่างเถิด พี่จะให้คนเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ถือเสียว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น…”

แสงแดดสว่างจ้าขึ้นกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่เมฆ ลานศึกเต็มไปด้วยธงกองทัพและอาวุธสำหรับสงคราม

แสงอาทิตย์ส่องกระทบลงบนอาวุธเหล็กและเกราะเงินของเหล่าทหารจนสว่างเรืองรอง หากมองจากที่ไกลๆ ช่างดูเหมือนเหล่าทหารเทพจากสรวงสวรรค์

ทหารทุกคนนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยแววตามุ่งมั่น ไอสังหารแผ่ไปรอบบริเวณ ทุกคนพร้อมรบด้วยใจที่ฮึกเหิม

ไป๋ชิงเหยียนสวมชุดเกราะเหล็กยืนอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สว่างจ้า นางมองไปทางเหล่าทหารที่แข็งแกร่งและมุ่งมั่นของตัวเอง จากนั้นกล่าวด้วยเสียงทรงพลังและดังกังวาน “เราเคยกล่าวว่าพวกเราไม่ทำได้สงครามเพื่อล้างเผ่าพันธุ์ พวกเราทำไปเพื่อความสงบสุขของใต้หล้า! เราไม่อยากให้ใต้หล้าแห่งนี้มีแต่สงคราม ไม่อยากให้เหล่าทหารต้องเสียสละชีวิตของตัวเอง ไม่อยากให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนและทนทุกข์เพราะสงคราม ดังนั้นทั้งๆ ที่ต้าโจวมีความสามารถมากพอที่จะทำลายล้างต้าเยี่ยนได้ ทว่า เรากลับเลือกวิธีเดิมพันด้วยระบอบการปกครองกับต้าเยี่ยนแทน!”

“ทว่า บัดนี้ต้าเยี่ยนตระบัดสัตย์ที่มีต่อพวกเราอีกครั้ง เชื้อพระวงศ์ของต้าเยี่ยนหันดาบมาทางต้าโจวในระหว่างที่สองแคว้นกำลังเดิมพันแคว้นกัน! นี่ทำให้เราเข้าใจว่าการต้องการใช้สันติวิธีในการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเป็นเพียงความต้องการของเราฝ่ายเดียวเท่านั้น ตอนนี้วิธีที่จะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้มีเพียงสงครามเท่านั้น!” ไป๋ชิงเหยียนค่อยๆ ข่มความเจ็บปวดที่ขาก้าวไปด้านหน้าอีกเล็กน้อย “ในเมื่อการรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งด้วยสันติวิธีเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ วันนี้ต้าโจวของพวกเราก็จะใช้สงครามทำลายล้างต้าเยี่ยน! ให้ใต้หล้าแห่งนี้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง! ให้ชาวบ้านไม่ต้องทนทุกข์เพราะสงคราม ให้ลูกหลานของพวกเราไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในยุคที่มีแต่การต่อสู้อีกต่อไป! เคลื่อนทัพ สร้างสันติสุขให้ใต้หล้า!”

“สงครามในวันนี้คือสงครามทำลายล้างต้าเยี่ยน คือสงครามสร้างความสงบสุขให้ใต้หล้า!” ไป๋ชิงเหยียนชักดาบออกมาแล้วชี้ไปทางทิศเหนือ “สังหารเชื้อพระวงศ์ ทำลายต้าเยี่ยน!”

“ทำลายต้าเยี่ยน!”

“ทำลายต้าเยี่ยน!”

“ทำลายต้าเยี่ยน!”

เหล่าทหารต่างชูหอกและดาบของตัวเองขึ้นสูงพลางโห่ร้องออกมาสามครั้ง

เสียงแตรศึกดังขึ้น ไป๋ชิงเจวี๋ยซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าศึกตะโกนสั่งให้เคลื่อนทัพ

พริบตาเดียวฝุ่นในลานศึกฟุ้งตลบทั่วบริเวณ ธงศึกโบกสะบัดไปมาตามสายลม

ไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าศึกนำทัพออกไปเป็นคนแรก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท