หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 201 ต่างก็ไม่ง่ายต่อการจัดการ

บทที่ 201 ต่างก็ไม่ง่ายต่อการจัดการ

บทที่ 201 ต่างก็ไม่ง่ายต่อการจัดการ

เมื่อได้ยินเสียงของฮัวหยู่อัน ทุกคนก็รีบหันกลับมามองในทันที

“คุณหนูกลับมาแล้ว”

“มิใช่ว่าคุณหนูไม่ชอบที่จะมายังแท่นบูชายัญแห่งนี้หรอกรึ? เหตุใดจึงได้รีบมาทันทีที่กลับมาถึง?”

“ก็เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่อาฝูและโม่ซางถูกเผาเพื่อสังเวย คุณหนูเลยมาเพื่ออำลาโดยเฉพาะน่ะสิ!”

“……”

ทุกๆคนต่างซุบซิบกัน เหล่าผู้อาวุโสเหลือบมองฮัวหยู่อัน และรีบพูดกับคนที่กำลังจะจุดไฟว่า: “จุดไฟ!”

ในชั่วพริบตา เชื้อเพลิงก็ถูกโยนเข้าไปในกองฟืน ไฟลุกลามทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจ เปลวไฟเล็กๆก็ปะทุเป็นไฟอันใหญ่หลวงที่โหมกระหน่ำ

ในกองเพลิงกึกก้องด้วยเสียงร้องโหยหวน ของชายหญิงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอันขื่นขม……

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง หลังได้เห็นชายหญิงที่ถูกห้อยด้วยเชือกกำลังโดนเผาไหม้ ดิ้นทุรนทุรายอยู่ในกองเพลิง

ขณะที่ได้ยินเสียงโหยหวน ชาวเผ่าเหล่านั้นในชนเผ่า บางคนก็ดูไม่ใส่ใจเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาเพียงเฝ้ามองอยู่เงียบๆ ส่วนบางคนก็ดูมีความสุขเพลิดเพลินใจ

หลังจาก*เด็กชายเเละเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์แน่นิ่งไป ทุกคนในชนเผ่าก็เผยใบหน้ายิ้มปริ่มออกมา

“อาฝู โม่ซาง หลังจากได้เข้าไปยังหุบเขาจิ้นแล้ว ก็ให้พวกเจ้าควบคุมความอัปยศในที่แห่งนั้นไว้ด้วยเถิด หวังว่าพวกเจ้าสามารถนำความสงบมาแก่เผ่าของข้า”

“เหล่าผู้อาวุโสจะสลักชื่อของพวกเจ้าลงบนหินผา เฉกเช่น*เด็กชายเเละเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆอีกมากมายรวมไว้ด้วยกัน”

“อาฝูและโม่ซางช่างน่าสงสาร อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เป็นเพื่อนรักของคุณหนู ไม่คิดว่าจะมาโชคร้าย กลับกลายมาเป็น*เด็กชายเเละเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ไปเสีย แม้จะเห็นหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย คุณหนูก็ไม่ได้เห็น”

ทุกๆคนก็ยังคงซุบซิบกัน

หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พลางครุ่นคิดข้อสงสัยอยู่ในใจ

ไม่ใช่ว่าอาฝูและโม่ซางได้รับการช่วยเหลือจากนางไปแล้วหรอกรึ?

ในเพลานี้ก็ได้เปลี่ยนผ้าผ่อน และได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีอยู่ที่โรงเตี๊ยม แล้วจะมาถูกสังเวยได้อย่างไรกัน?

หรือว่า……

การที่พวกเขาหนีไป เหล่าผู้อาวุโสจึงต้องเก็บเป็นความลับ จากนั้นก็หาคนอื่นมาแทนเขาทั้งสองเพื่อเป็นเครื่องสังเวย ดังนั้นชาวเผ่าจะได้คิดว่าคนที่กำลังถูกสังเวยนั้นคืออาฝูและโม่ซาง

เมื่อเป็นเช่นนี้……

แววตาของหลานเยาเยาก็เป็นประกาย เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแผ่นหลังที่แข็งทื่อ แล้วหยุดอยู่ด้านข้างของฮัวหยู่อันที่ดูโศกเศร้า จากนั้นก็สัมผัสแผ่นหลังของนาง

“เสี่ยวฮัว รีบร้องเรียกชื่อของอาฝูและโม่ซางเร็วเข้า แล้วก็ร้องไห้ประหนึ่งใจจะขาดดิ้นออกมา”

แน่นอนว่าฮัวหยู่อันมีท่าทีงุนงง ทำเอาหลานเยาเยาอยากจะขุดหลุมฝังคนเสียเหลือเกิน

“ก่อนที่เจ้าจะตกอยู่ในความสนใจของพวกเขา เร็วๆเข้า!” ร้อนใจจะเป็นจะตาย

แม้ว่าฮัวหยู่อันจะยังสับสน แต่นางก็รู้สึกว่าการที่หลานเยาเยาพูดเช่นนี้ จักต้องมีจุดประสงค์ของนาง จึงจะทำตามที่นางบอกมา

แต่ด้วยความที่นางได้อดกลั้นมาเนิ่นนาน จะร้องยังไงก็ร้องไม่ออก

“น้ำตามันไม่ยอมไหล!”

“มองมาที่ข้านี่ เจ้าเพียงแค่แกล้งร้องไห้ ร้องอย่างเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจ”

เมื่อพูดจบ หลานเยาเยาก็แอบหยิบขวดยาหลั่งน้ำตาออกมาจากในระบบอย่างรวดเร็ว พร้อมหยดลงบนฝ่ามือ แล้วรีบป้ายตาฮัวหยู่อันในทันที

ดวงตาของฮัวหยู่อันเบิกกว้าง มันให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด พลางขยี้ตาตัวเองเบาๆ มันเหมือนกับน้ำที่ไหลเอื่อยๆอยู่ในลำธาร ไม่ยอมพรั่งพรูออกมา

“ไอ๊ย๊า ไอ๊ย๊า นี่ นี่มันมากไปแล้ว!”

“นี่ที่ว่า มันหมายถึงสิ่งใด หากยังไม่ร้องออกมาก็จะไม่มีเวลาแล้ว ช่างเถอะ ดูท่าแล้วเจ้าคงจะร้องไห้ไม่ได้ ข้าจะขุดหลุมฝังเจ้าเสีย ไม่ต้องกังวล”

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กัน ที่หลานเยาเยามีจอบอยู่ในมือ อีกทั้งเพลานี้ก็กำลังจะขุดดิน ทำเอาฮัวหยู่อันถึงกับเหงื่อตก

“ไม่เอาไม่เอาไม่เอา ข้าจะร้องไห้ จะร้องแล้ว”

ว่าแต่จอบมาจากแห่งหนใดกัน?

คงไม่ได้เอามาจากพื้นหรอกกระมัง

ใครจะไปรู้ ว่าหลานเยาเยาจะเหวี่ยงจอบลงไปบนพื้น และกระซิบว่า: “ใครผิดคำพูด ก็คงจะรู้ว่าเหวี่ยงจอบไว้ตรงนี้เพื่อเหตุใด หากไม่ใช่เพราะว่าข้าจะฝังใครสักคน”

ฮัวหยู่อัน: “……” ก็จะยังหยิบมันขึ้นมาอีกจริงๆด้วย!

ทันใดนั้น ฮัวหยู่อันก็ “ตุ๊บ” คุกเข่าลงบนพื้นและร้องไห้อย่างสิ้นหวัง

“กรี๊ด ฮึกฮึกฮึก……”

“อาฝู โม่ซาง ขอโทษ ข้ากลับมาช้าไป หากข้ากลับมาเร็วเสียกว่านี้เสียหน่อยก็คงดี จะได้เห็นหน้าพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ฮึกฮึกฮึก……” หลานเยาเยาก็ยังอยากจะขุดหลุมฝังนางอยู่ดี นางจะต้องร้องไห้อย่างสุดซึ้ง หลังจากนั้นก็ขอพรจากฟ้า ซึ่งตอนนี้มันเหมือนกับทำให้ฟ้าผ่าลงที่หลานเยาเยาจนไหม้เกรียม

พอมองเห็นฮัวหยู่อันที่ร้องห่มร้องไห้อย่างเศร้าโศก หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้แก่นาง!

เสี่ยวฮัวก็ยังมีทักษะการแสดงอยู่บ้าง! ร้องไห้ออกมาได้อย่างแนบเนียน

เมื่อทุกคนได้ยินเสียงร้องของฮัวหยู่อัน ก็มีคนรีบเข้ามาปลอบนาง แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสามก็ยังมาตบไหล่ของนางด้วยความรักความเอ็นดู เพื่อที่นางจะได้ไม่โศกเศร้าจนเกินไป

แต่ทว่า!

ยิ่งพวกเขาปลอบโยน ฮัวหยู่อันก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้อง หลานเยาเยาเห็นว่ามีเวลาเหลือไม่มาก แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีนางก็โดนเบียดออกมาไกลมากแล้ว ส่วนฮัวหยู่อันนั้น ก็ถูกพยุงขึ้นและกลับเข้าในเผ่าไป

นางเห็นท่าทีของฮัวหยู่อันที่กำลังขอความช่วยเหลือจากที่ไกลๆ

หลานเยาเยาอยากที่จะช่วยแต่ก็ทำไม่ได้!

เพลานี้อยู่ในพื้นที่ของชนเผ่า พวกเขาไม่สามารถที่จะเผยตัวตนได้ ดังนั้นจึงต้องไม่ทำตัวให้เป็นที่สนใจ หากนางฟันฝ่าทุกสิ่งอย่าง เบียดตัวเข้าไปหาเสี่ยวฮัวเพื่อเอายาถอนพิษให้แก่นาง เช่นนั้นก็คงจะเป็นจุดสนใจจนเกินไป

ดูเหมือนว่า จะทำได้เพียงรู้สึกผิดต่อนางไปทั้งคืนทั้งวัน……

“หยู่อันพาเพื่อนมากันกี่คนรึ?”

เสียงของผู้มีอายุที่ดังขึ้น ได้ดึงสายตาของหลานเยาเยากลับมา

ปรากฏว่าเป็นผู้อาวุโสทั้งสาม พวกเขาไม่ได้กลับไปพร้อมกับคนอื่นๆ จึงได้เดินไปทางพวกเขา สีหน้าเดิมที่ไม่พึงประจักษ์ ก็ผ่อนคลายขึ้นมา

แต่อย่างไรก็ตาม!

ด้วยการถามทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจของพวกเขา สายตาของเย่แจ๋หยิ่งจึงมองไกลออกไปเหมือนไม่สนใจสิ่งใด

หานแสก็หันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว พลางเดินตามคนอื่นๆไป

เป็นเหตุให้ผู้อาวุโสทั้งสามลำบากใจไปชั่วขณะ หลานเยาเยาจึงรีบชี้แจง:

“ผู้อาวุโสทั้งสามอย่าได้ใส่ใจ พวกเขานั้น เป็นพวกไม่ค่อยชอบพูดชอบจา ทั้งยังมีทักษะอันน้อยนิดและคิดว่าตนนั้นยิ่งใหญ่ แต่จริงๆแล้วก็เป็นเพียงแค่เสือกระดาษไร้ซึ่งอำนาจ”

เมื่อนางชักแม่น้ำทั้งห้า

“ตู้ม…”

เสียงระเบิดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั้น ทำให้หลานเยาเยารีบหันไปมอง และตกตะลึงไปชั่วขณะ คนที่ทำให้เสียงนั้นดังขึ้นมาก็คือหานแส

เขาใช้กำลังภายในตีก้อนหินขนาดใหญ่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อพวกเขาหันไปมอง เขาก็ตบฝุ่นบนเสื้อคลุมของตน แล้วจากไป

ผู้อาวุโสทั้งสาม: “……”

แบบนี้เรียกว่ามีทักษะอันน้อยนิดรึ? พวกเขาทั้งสามทำได้เพียงขยับเข้ามาหากันให้มากที่สุด

เอ่อ……

ชายผู้นี้เป็นบ้าอะไร?

หลานเยาเยาหมดคำจะพูด แต่ก็แอบดีใจ ที่โชคดียังมีเย่แจ๋หยิ่งอยู่ข้างๆ ทั้งยังไม่ฉีกหน้านาง แต่นางหารู้ไม่ว่าในช่วงที่ผู้อาวุโสทั้งสามมองไปทางเย่แจ๋หยิ่ง ต่างก็รู้สึกเหมือนถูกครอบงำด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น

สีหน้าของพวกเขาเเปรเปลี่ยนในทันใด แววตาสว่างวาบอย่างหวาดหวั่น

เพราะจริงๆแล้วคนที่น่าเกรงกลัวที่สุดก็คือเขา

ดูเหมือนจะไม่มีพิษไม่มีภัย แต่แววตานั้นล้ำลึกดั่งกระแสน้ำวน เหมือนกับว่าสามารถมองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง และหมิ่นชังในทุกสรรพสิ่ง เป็นกำลังภายในที่มิอาจหยั่งรู้ได้ ซึ่งทำให้คนต่างหวั่นเกรงเมื่อได้พบเจอ

“ที่จริงแล้วมีผู้ทรงเกียรติมาเยี่ยมเยียน เป็นเหตุให้ก่อนหน้านี้มิได้ออกมาพบ ต้องขออภัยด้วย” ผู้อาวุโสใหญ่แสดงความรู้สึกผิด

ระหว่างทางก่อนที่จะเข้ามายังชนเผ่า ยามลับที่อยู่บนหอคอยของชนเผ่า ก็ได้เห็นฮัวหยู่อันพาคนจำนวนหนึ่งมาทางประตูใหญ่ของชนเผ่า

พวกเขาต่างนึกว่าเป็นเพียงคนทั่วๆไปที่ฮัวหยู่อันได้ผูกมิตรด้วย เช่นนั้นจึงกลับมาจัดการพิธีสังเวยต่อ ไม่ได้ส่งคนมาต้อนรับ

ไม่คิดเลยว่าคนเหล่านี้ จะไม่ใช่พวกที่ง่ายต่อการจัดการ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท