ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน – บทที่ 335 ความคิดช่างชั่วร้ายยิ่งนัก

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

บทที่ 335 ความคิดช่างชั่วร้ายยิ่งนัก

เมื่อได้ยินหลิงเยว่เอ่ยปากขอเช่นนั้น ดวงตาของปุโรหิตน้อยก็เต็มไปด้วยความสับสน

“เจ้า… เจ้ายินดีมอบตำรามีค่าเช่นนั้น เพื่อแลกกับอิสรภาพของพวกมันจริงหรือ?”

หากนางต้องการล่อลวงเหล่าลูกปลาหมัวอิน เหตุใดจึงเลือกพวกมันที่บาดเจ็บเช่นนั้น แทนที่จะเป็นนักรบผู้แข็งแกร่งเล่า?

หรือว่า… นางคิดจะนำพวกมันไปเคี่ยวน้ำแกง!?

มันไม่มีวันยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!

ถึงแม้พวกมันจะเป็นเพียงแค่กลุ่มกบฏ แต่โทษทัณฑ์ไม่ร้ายแรงถึงขั้นถูกแล่เนื้อ เอาไปเคี่ยวจนเหลือแต่น้ำเช่นนั้นหรอก!

“ปุโรหิตน้อย ท่านหมายความว่าอย่างไร!”

“หรือคิดว่าข้าไม่คู่ควร?”

“ปล่อยพวกข้าออกไปเดี๋ยวนี้!” น้ำในบ่อลงทัณฑ์กระจายไปทั่ว ปลาผู้ทำผิดแม้ดูเหมือนมิรู้สึกรู้สา แต่พวกมันกลับร้องครวญครางอย่างน่าเวทนา ขณะดิ้นรนด้วยร่างกายเว้าแหว่ง

“เผ่าปลาหมัวอินไม่ยอมตกเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารเด็ดขาด!” ปุโรหิตน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ท่านคิดว่าข้าจะจับพวกมันไปต้มกินรึ?”

ใช่ หลิงเยว่หมายตาเนื้อของพวกมันจริงอยู่ แต่นางเพียง… คิดจะเลี้ยงไว้ เก็บเกี่ยวผลประโยชน์เช่นเดียวกับต้นหอม ไม่ได้คิดทำร้ายพวกมันสักหน่อย

แม้น้ำแกงที่เคี่ยวจากหัวและก้างปลาสดใหม่จะให้รสชาติโอชะยิ่งขึ้น แต่มิใช่ว่าสุสานก็มีของแบบนั้นอยู่แล้วหรือ? แม้จะไม่สดใหม่ และหมดอายุขัยไปนานแล้ว แต่รสชาติที่ได้ นอกจากจะเลิศรสบาดจิตแล้วยังมีพลังวิญญาณบรรพบุรุษแฝงเร้นอยู่ด้วย นับว่าดียิ่งกว่าของสดใหม่เสียอีกมิใช่หรือ?

เพียงแต่… ความคิดเช่นนี้ของนางคงโหดร้ายเกินไปกระมัง?

ช่างเถอะ! ถึงเวลาค่อยลองถามดู หากพวกมันไม่ยินยอม… ก็คงต้องล้มเลิกความคิดไป

“มิเช่นนั้น เจ้าอยากทำอันใดเล่า?”

เผ่าอื่น ๆ ต่างจ้องจะจับพวกมันกินทั้งนั้น! แม้แต่ปลาหมัวอินส่วนน้อยยังคิดร้ายต่อเผ่าพันธุ์เดียวกัน พวกมันจึงนึกไม่ออกว่านอกจากการนำพวกมันไปทำอาหารแล้ว ร่างกายของพวกมันจะช่วยเหลือมนุษย์ผู้นี้ได้อย่างไร?

หรือนางจะใช้เผ่าของพวกมันไปสร้างความวุ่นวายในเขตแดนปีศาจ?

เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด!

“เลือกเอาแล้วกันว่าท่านจะยอมแลกเปลี่ยนหรือไม่?”

แน่นอนว่ามหาปุโรหิตน้อยปรารถนาจะแลกเปลี่ยน เพียงแต่ไม่อาจตัดสินใจเพียงลำพัง จึงเอ่ยขึ้นว่า “รอผู้นำและมหาปุโรหิตตัดสินใจได้หรือไม่?”

ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วหลิงเยว่สั่งให้โม่จวินเจ๋อล่อปลาสองตัวนั่นไปเพื่อสิ่งใด?

ก็เพื่อช่วงชิงอำนาจยังไงเล่า!

แม้ชั่วคราวจะแย่งชิงมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก่อนปลาสองตัวนั้นกลับมา นางจะมีอิสระในการไปไหนมาไหนและมีอิสระในการใช้ความอร่อยล่อลวงเหล่าปลาทั้งหลายให้อยู่หมัด!

หากพวกมันกลับมา แม้ว่าอาจจะยินยอมในการแลกเปลี่ยน แต่ข้อเรียกร้องอื่น ๆ คงไม่ได้รับการยินยอมอย่างแน่นอน

ปุโรหิตน้อยนั้นค่อนข้างรับมือได้ง่าย อย่างน้อยสมองก็ไม่ได้หัวโบราณเช่นสองตัวนั้น

หลิงเยว่เอ่ยปากปฏิเสธอย่างหนักแน่น

หากไม่เห็นว่ามนุษย์ผู้นี้ได้ปล่อยให้พวกพ้องมาทำร้ายเจ้าปลาตัวน้อย มันคงสั่งให้ปลานักรบจับตัวนางไว้แล้วเค้นเอาสูตรลับออกมาแล้ว! แต่เป็นเพราะมันยังเกรงมนุษย์ผู้นี้ ที่มีหัวใจมังกรอยู่ในมือ มันจึงทำอะไรมากไม่ได้

เห็นนางทำท่าทางนิ่งเฉยเช่นนี้ คงมั่นใจว่าต่อให้ผู้นำเผ่าและมหาปุโรหิตร่วมมือกัน ก็ไม่อาจทำอะไรสหายมังกรของนางได้ หากรวบตัวนางไว้ แล้วสหายมังกรของนางมาอาละวาดถึงถิ่น พวกเขาย่อมสู้ไม่ได้อยู่แล้ว

เพื่อความปลอดภัยของเผ่าพันธุ์ ปุโรหิตน้อยจึงยอมตกลงแลกเปลี่ยน “ตกลง ข้าตกลงแลกเปลี่ยน แต่ก่อนที่ท่านผู้นำเผ่าและมหาปุโรหิตจะกลับมา เจ้าห้ามออกจากสุสานบรรพบุรุษแม้แต่ก้าวเดียว”

หึ! เจ้าเด็กนี่ฉลาดนักนะ

“ตกลง”

หลิงเยว่ตอบรับ หากออกจากสุสานมิได้ เหล่าปลานับร้อยในบ่อลงทัณฑ์ยังคอยเป็นหูเป็นตาหรือพูดแทนนางได้ การรับมือกับเจ้าพวกตะกละเหล่านี้ นางถนัดนัก!

ขณะนั้น ปลาหนึ่งตัวก็หนีรอดจากบ่อลงทัณฑ์ได้สำเร็จ

“ข้า… ออกมาได้แล้วจริงหรือ!”

ปลาทำผิดกฎซึ่งถูกตัดสินโทษจำคุกเจ็ดร้อยปีพลันน้ำตาคลอเบ้า มองหลิงเยว่ด้วยแววตายกย่อง

“จะไม่จริงได้อย่างไร?” กล่าวจบ ปลาพี่ใหญ่ผู้มีบาดแผลฉกรรจ์ก็ปรากฏกายออกมาจากบ่อลงทัณฑ์ มันกำลังมีความสุขกับการได้ขยับขาและขยับครีบอย่างอิสระ

“ฮ่า ๆ ๆ! ข้าเป็นอิสระแล้ว!” ปลาตัวที่สามที่ถูกปล่อยออกมาไม่สนใจบาดแผลบนตัว มันกางแขนทั้งสองข้าง เงยหน้าขึ้นสูงแล้ววิ่งวนรอบตัวหลิงเยว่

“ต่อไปนี้ข้าจะยอมติดตามเจ้า!”

“นางเป็นมนุษย์”

ปลาตัวอื่นยังไม่ทันได้ปฏิญาณตน จู่ ๆ ปุโรหิตน้อยก็เอ่ยเตือนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“มนุษย์หรือ!”

“เจ้าหนู เจ้าเป็นมนุษย์จริง ๆ หรือ!”

“รีบกลายร่างเป็นมนุษย์ให้พวกข้าดูหน่อยสิ ตั้งแต่เกิดมาพวกข้ายังไม่เคยเห็นมนุษย์ตัวเป็น ๆ เลย!”

เป็นปุโรหิตน้อยได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ

หรือว่าที่เผ่าพันธุ์ปลาหมัวอินไม่รู้จักมนุษย์ เป็นเพราะพวกมันเอาแต่กินหญ้าหมัวอินตั้งแต่เด็กจนโตกันแน่!

หลิงเยว่คิดว่าพวกปลาที่ทำผิดจะรังเกียจมนุษย์อย่างนาง แต่กลับดูเหมือนพวกมันจะตื่นเต้นมาก?

แต่ก็ควรให้เผ่าปลาหมัวอินได้ปรับตัวกับรูปลักษณ์มนุษย์ล่วงหน้า เพราะในอนาคตเมื่อเขตแดนปีศาจเปิดออก ที่นี่จะเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นของมนุษย์ และจะมีผู้คนมาพักอาศัยมากมาย…

หลิงเยว่จึงแสดงร่างที่แท้จริงออกมา

หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีดำ ผมยาวสยาย นางกำลังยิ้มให้กับเหล่าปลาที่ล้อมรอบ รอยยิ้มของนางอบอุ่น ไม่เหมือนกับที่มหาปุโรหิตบรรยายว่าน่าเกลียดน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย

ความจริงแล้ว… นางดูดีมาก! โดยเฉพาะตอนที่ยิ้ม ในชั่วขณะนั้นพวกมันพลันรู้สึกว่าบาดแผลกลับไม่เจ็บปวดอีกต่อไป

หลิงเยว่วางมือลงบนบาดแผลของปลาพี่ใหญ่ที่กำลังตกตะลึง แสงสีเขียวอ่อนลอยออกจากฝ่ามือของนางไปยังเปลือกไม้บนตัวอีกฝ่าย แล้วค่อย ๆ ซึมเข้าไปในบาดแผลที่เว้าแหว่ง

“เจ้า… รู้วิชารักษาหรือ?”

ปลาปุโรหิตน้อยผู้รอบรู้เบิกตากว้าง ส่วนที่เว้าแหว่งดูเหมือนกำลังถูกเติมเต็มด้วยเนื้อใหม่แล้ว

“ข้าเป็นนักกลั่นโอสถ”

“นักกลั่นโอสถ!?”

“นักกลั่นโอสถที่สามารถทำโอสถเพื่อรักษาโรคได้หรือ?”

“ไม่ใช่นักกลั่นโอสถที่คร่าชีวิตเพื่อนำมาทำโอสถใช่หรือไม่?”

เมื่อเผชิญกับคำถามมากมายของปลานักรบและปลาที่ทำผิด หลิงเยว่เพียงแค่ค่อย ๆ เปิดเปลือกไม้ห้ามเลือดของพี่ใหญ่ที่ทำผิด เผยให้เห็นเนื้อใหม่ที่เริ่มฟื้นตัวแล้ว เกล็ดสีดำด้านบนดูนุ่มนิ่มเหมือนกับเกล็ดบนลูกปลาตัวน้อย

“เกล็ดจะต้องใช้เวลาอีกสามวันจึงจะแข็งแรงเหมือนเดิม”

“เจ้าบอกว่าอีกกี่วันนะ?!”

ปุโรหิตน้อยที่ตื่นเต้นอยู่แล้วยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีก การรักษาของพวกมนุษย์สามารถย่นเวลาจากหนึ่งปีให้เหลือเพียงสามวันได้หรือ?

มันต้องฟังผิดไปแน่ ๆ!

ปุโรหิตน้อยรีบปฏิเสธความคิดของตัวเอง บางทีที่นางพูดอาจเป็นความจริง เพราะเนื้อส่วนที่หายไปนั้น ปกติต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีในการฟื้นฟู แต่ตอนนี้เพียงชั่วพริบตาก็มีเนื้อใหม่งอกออกมาแล้ว

การรักษาของมนุษย์ช่างน่าทึ่งยิ่งกว่าที่มันคิดเสียอีก

ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าการรักษาของหลิงเยว่ต่างหากที่น่าทึ่ง หากไม่ใช่นักกลั่นโอสถระดับชิงยวนหรือมหาปุโรหิต ก็มิอาจรักษาได้เร็วถึงเพียงนี้หรอก

“จริงด้วย สามวันก็นับว่ารวดเร็ว หรือจะให้หายภายในพริบตาก็ย่อมได้ แต่เสียดายที่เขตแดนปีศาจแห่งนี้มีเพียงพลังปีศาจ ไร้ซึ่งพลังวิญญาณให้ข้าดูดซับ ข้าจึงได้แต่ใช้มันอย่างประหยัด” หลิงเยว่กล่าวพลางหันไปมองปลาพี่ใหญ่ด้วยแววตาขออภัย

ปลาพี่ใหญ่ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ มันยังคงครุ่นคิดกับความรู้สึกซับซ้อนที่เนื้อของมันงอกกลับมาในพริบตา

“พวกมนุษย์ต้องการสิ่งนี้หรือไม่?”

ปุโรหิตน้อยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบหินสีแดงเพลิงออกมาหนึ่งก้อน

หินวิญญาณเพลิงระดับสูง!

“!!!”

หลิงเยว่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้พบกับหินวิญญาณเพลิงระดับสูงในเขตแดนปีศาจแห่งนี้

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน

Status: Ongoing
‘หลิงเยว่’ ผู้ฝึกตนสำนักฝ่ายนอกแสนอ่อนหัด ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก ทว่ายังโชคดีได้ระบบนี้มาช่วยชีวิต มอบหมายภารกิจให้นางสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารให้เกิดประโยชน์ แม้เส้นทางการเป็นยอดเซียนจะหริบหรี่ ทว่าโชคชะตาของยอดแม่ครัวได้เปิดทางให้ ‘หลิงเยว่’ ได้พบหนทางที่จะช่วยให้ตนรอดจากวิกฤติในครั้งนี้ไปได้‘ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ตะหลิว เอ้ย! มานะตน หากนางไม่ยอมแพ้ ย่อมต้องมีหนทางสดใสรออยู่ข้างหน้าแน่’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท