หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่189 ศพที่ลอยน้ำนั่น เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ?

บทที่189 ศพที่ลอยน้ำนั่น เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ?

บทที่189 ศพที่ลอยน้ำนั่น เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ?

ถ้าเป็นเช่นนั้นมันไม่เพียงแต่ขจัดความไม่พึงใจออกไปจากใจได้ แต่ยังได้เหรียญเงินมากมายอีกด้วย

ดังนั้น!

เขาจึงขยิบตาสั่งสมุนข้างตัว แววตาเต็มไปด้วยความละโมบ ด้านคนข้างตัวนั้นก็เคยชินกับเรื่องอะไรแบบนี้อยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่พี่ใหญ่ขยิบตาเท่านั้น เขาก็รู้ความหมายได้ในทันที

ในสถานการณ์ปกติ

หากเป็นหญิงสวย พี่ใหญ่ก็จะใช้หล่อนเพลิดเพลินเสียก่อนถึงจะเอาไปขาย และหากเป็นชายก็จะจัดการเสียก่อนถึงจะเอาไปขาย

ครั้งก่อนพี่ใหญ่พึงใจกับเด็กต่างถิ่นที่มาพักที่ร้านคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าเด็กคนนั้นดันยากที่จะรับมือ อีกทั้งยังมีศิลปะป้องกันตัวที่แก่กล้า จับไล่ไม่ทัน ทั้งตัวพวกเขาเองยังโดนซ้อมมาเสียอ่วม

ต่อให้ในวันนั้นเด็กนั่นจะไม่รู้ตัวว่าโดนวางยาที่ไหนก็ตาม พวกเขาก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ หากไม่ได้ใช้เล่ห์ คาดว่าพวกเขาเองคงไม่อาจมายืนอยู่ดีได้เหมือนทุกวันนี้

ร่างกายของคุณชายที่อยู่ตรงหน้านั้นบอบบางมาก มองดูง่ายต่อการจัดการ

ลูกน้องข้างตัวต่างคิดไปในทางเดียวกัน ก่อนจะถลกแขนเสื้อขึ้นรุดเข้าไปจับตัวของหลานเยาเยา แต่จับได้เพียงแค่อากาศ

“เห เจ้าเด็กนี่ยังคิดจะหลบอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ? ”

ได้ยินแบบนั้น!

หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะสบถออกมาอย่างเย็นชา

ล้อเล่นรึไง ไม่หลบ? แล้วจะให้ยืนโง่ๆ ปล่อยให้พวกเจ้าจับอย่างนั้นเหรอ?

เดิมทีนางเองก็ไม่อยากจะเปลืองแรงอะไรกับพวกเขามากมาย ก่อนหน้านี้ก็เพียงแค่ลองทดสอบพวกเขาดูเฉยๆ ตอนนี้ก็มั่นใจแล้วว่าพวกนี้เป็นเพียงแค่งูพิษเท่านั้น จึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับพวกเขา

ยังไม่ทันจะดื่มชาหมดแก้ว พวกเขาแต่ละคนก็ทำได้เพียงก้มกราบขออ้อนวอนในขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำก็เท่านั้น

“ไว้ชีวิตข้าด้วย มันเป็นข้าเองที่มีตาหามีแววไม่ไปสร้างความไม่พึงใจให้แก่ท่าน ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด แล้วจะให้ข้าเป็นวัวเป็นควายหรือทำอะไรข้าก็ยอม”

พี่ใหญ่ถึงขั้นอ้อนวอนขอชีวิต สำหรับหน้าที่ของการเป็นสมุนข้างตัวแล้ว พวกเขาเองก็จึงต้องส่งเสียงร้องอ้อนวอนขอชีวิตไปด้วย

ไม่ว่าจะถูกบังคับให้ทำแบบที่ไม่ทำก็ไม่ได้ ไม่ว่าข้างบนจะมีผู้สูงอายุข้างล่างจะมีเด็กไม่กี่เดือน สิ่งที่ล้าสมัยพวกนี้ก็ต้องพูดให้หมด

เห็นพวกเขาพูดจาโป้ปด อีกทั้งยังจะมาคุกเข่านั่งสะอื้นกันเป็นกลุ่มนั้น มันน่ารำคาญชะมัด ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนเลวทรามจนหลานเยาเยายังรู้สึกรังเกียจที่จะเสวนาด้วย ทั้งยังรู้สึกว่าหากฆ่าพวกเขาไปก็จะเป็นเพียงเสนียดที่ติดมือนางเสียเท่านั้น

นางคาดว่าพวกองครักษ์ลับที่ถูกจับโยนลงทะเลเองก็คิดแบบนั้น และนั่นก็ถือเป็นอะไรที่สาสมแก่พวกเขาแล้ว

ดังนั้น!

มุมปากของหลานเยาเยายกขึ้น ดวงตาฉายแววอาฆาต นางเอื้อมไปหยิบป้ายชื่อที่บนตัวของพี่ใหญ่ ก่อนจะเอามาโบกเล่นตรงหน้าของพวกเขา

“พูดมาซิ ว่าเจ้านายของป้ายนี่อยู่ที่ไหน? ”

“หา? ท่านรู้จักของสิ่งนี้หรือ ของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าน้อยเก็บได้ แต่หารู้ไม่ว่าคนอยู่ที่ไหน หากท่านอยากได้ก็เอาไปได้เลย! ”

ท้ายสุดพี่ใหญ่ก็เข้าใจ ว่าเหตุใดองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ถึงได้มาทำกับเขาอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้ ที่แท้ก็เพราะป้ายนี่ รู้แบบนี้ขายไปเสียตั้งแต่ทีแรกแล้ว จะได้ไม่ต้องมาพบเจออะไรแบบวันนี้

“เก็บได้อย่างนั้นรึ? ” หลานเยาเยาหรี่ตา

“ใช่ขอรับ เก็บได้ ที่ ที่ ถนนใหญ่”พี่พูดอย่างจริงใจ อีกทั้งยังมีเสียงตอบรับของพวกลูกสมุนอย่างพร้อมเพรียง

คนที่ไม่รู้อะไร ก็คงจะคิดว่าพวกเขาพูดความจริง

แต่ในเวลานี้!

เสียงบางเบาราวกับลมของเถ้าแก่โรงชาพูดขึ้น “ชายทะ······ท่านนั้น ถูกพวกเขาทำร้าย ทำร้ายจนเจียนตาย จากนั้นก็เอาไปทิ้งลง······ทะเล”

เมื่อเห็นเถ้าแก่โรงชาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก หลานเยาเยาก็รู้สึกประทับใจขึ้นมาเล็กๆ โดนตีจนเจ็บหนักขนาดนี้ยังพูดความจริงออกมาอีก อาจจะเพราะความจงเกลียดจงชังเกินกว่าจะช่วยพวกงูพิษพวกนี้ หรืออาจจะเพราะองครักษ์ลับได้ช่วยเหลือเขาจากการถูกทำร้ายเอาไว้

ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นช้าๆ :“ท่านวางใจได้ ข้ารู้ว่าจะทำอะไร”

พูดจบนางก็หันหน้าไป สีหน้าไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ มองราวกับว่านางไม่ได้เอาคำพูดของเถ้าแก่โรงน้ำชามาใส่ใจเลย

พี่ใหญ่หัวเราะเงียบๆ อยู่ในใจ เตรียมปั้นหน้าเหยเกร้องไห้ และในตอนที่เขาจะพูดขึ้นมานั้น

“อ๊า………”

“อ๊า………”

“อ๊า………”

······

ลูกสมุนที่คุกเข่าอยู่ข้างตัวเขาค่อยๆกลิ้งไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวดทีละคนๆ อีกทั้งยังลูบตัวไปมาราวกับว่าตัวพวกเขาโดนมดเป็นกองทัพกัดอย่างไรอย่างนั้น

จากนั้นเสียงก็ค่อยๆ ลดลงๆ จนกระทั่งร่างกายแน่นิ่งไป ตอนนั้นเองพี่ใหญ่ที่เพิ่งเรียกสติตัวเองจากความตกใจกลับมาได้

“พะ……พวกเขาเป็นอะไรไป? ท่าน ท่านทำอะไร? ”

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า พี่ใหญ่ก็กลัวจนหน้าซีดเผือด ร่างสั่นทั้งกาย ไม่ได้มีสีหน้าแสร้งร้องไห้เหมือนก่อนหน้านี้

“ตายแล้วไง ชัดเจนขนาดนี้เจ้าดูไม่ออกอย่างงั้นเหรอ? หน้าซีดหมอง ปากม่วงคล้ำนั่นก็เพราะโดนพิษของข้ายังไงหล่ะ อีกอย่างพิษนั่นก็เอาไว้เพื่อทรมานคนดีโดยเฉพาะ

ไม่เช่นนั้นเจ้าก็ลองไปพิสูจน์ดูสิว่าพวกเขาตายจริงหรือไม่ ข้าจะไปซ้อมดาบพอดี”

“ท่าน ท่าน ท่าน······”

“ท่านอะไรของเจ้านัก รีบบอกมาว่าเขาอยู่ที่ไหน? ”

เมื่อเห็นหลานเยาเยาฆ่าคนได้อย่างไร้ซึ่งความปรานี อีกทั้งยังรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้เพียงแกล้งเล่น ถ้าหากไม่บอกหล่ะก็ เขาถึงชีวิตแน่นอน

——

พี่ใหญ่จึงพาหลานเยาเยามาที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง เขาชี้ไปที่โขดหินริมทะเลก่อนจะพูด

“พวกข้าเอาเขาโยนไปตรงนี้นี่หล่ะ”

พี่ใหญ่พูดอย่างอ่อนแรง พูดจบก็หันไปมองหลานเยาเยาอย่างระมัดระวัง เกรงว่านางจะโกรธและฆ่าเขาไปเสีย

หลานเยาเยามองไปที่ผิวน้ำ สายตาล้ำลึก

นางรู้ว่าครั้งนี้พี่ใหญ่ไม่ได้หลอกนาง ด้วยเพราะนางเห็นเลือดที่เปื้อนอยู่ที่โขดหิน

ทันใดนั้นเอง!

ก็มีนกนางนวลตัวหนึ่งบินผ่านฟากฟ้า ทิ้งไว้เพียงเสียงในขณะที่บินไปไกลแสนไกล ก่อนจะปรี่ลงมาโฉบเอาปลาตัวหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้บินโฉบไปเลย แต่ใช้เท้าเกาะลงบนวัตถุอย่างหนึ่งก่อนจะกินปลาและบินจากไป

หืม?

สิ่งที่ลอยอยู่นั่นดูไม่เหมือนเป็นแผ่นกระดานเอาเสียเลย มันดูเหมือนคน นั่นคือศพลอยน้ำอย่างนั้นเหรอ?

หลานเยาเยาก้าวเท้าเตรียมจะกระโดดลงไปในทะเล แต่เมื่อรู้ว่าด้านหลังดูเงียบไป จึงรีบหันตัวกลับไปพร้อมกับเข็มเงินที่ปรากฏในมือ

พี่ใหญ่นั้นถือก้อนหินหมายจะทำร้ายนาง แต่ยังไม่ทันจะได้โยนทุ่มใส่ ตัวเขาก็ร่วงลงไปกับพื้นเสียแล้ว

เอ๋?

เขาไม่ได้ถูกตัวนางทำ แต่เป็นเถ้าแก่โรงน้ำชาที่อยู่ด้านหลังของพี่ใหญ่นั่นเอง มือเขาใช้ไม้ค้ำเอาไว้ มือนั้นยังคงสั่นเทาไปหมด

ดูเหมือนนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้!

“ท่านมาได้ยังไง? ” หลานเยาเยาเก็บเข็มเงิน พลางมองไปที่เขา

“คนคนนี้มีชื่อเรื่องความร้ายกาจ ไม่ว่าเล่ห์หรือกลเขาก็เอามาใช้ทั้งสิ้น ข้าเกรงว่าท่านจะพ่ายท่าเสียที จึงตามมา ดูท่าข้าจะคิดมากไปเอง”

เขามองออกว่าคนผู้นี้ดูมีเชาว์กว่าชายก่อนหน้านี้มากนัก หากว่าเขาไม่จัดการให้ คนคนนี้ก็สามารถที่จะจัดการได้อย่างง่ายดาย เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ดูเหมือนตัวเขาจะเข้ามายุ่งมากไป

“ดูบาดแผลเจ้าท่าจะเจ็บไม่น้อย ยังจะตามมาอีก ความตั้งใจสูงนัก”

“คุณชายก่อนหน้านี้ได้ช่วยชีวิตพวกข้าไว้ที่โรงน้ำชา ตอนนี้ท่านยังมาช่วยพวกข้าอีก มันเป็นเรื่องที่สมควรแล้วแต่ข้าเองก็ไม่มีกำลังมากพอที่จะช่วยอะไรท่านได้อยู่ดี” เถ้าแก่โรงน้ำชาพูดอย่างรู้สึกละอายใจ

“ข้าเองก็กำลังกังวลว่าไม่มีใครช่วย แต่เจ้ามาได้ทันเวลาพอดี” เดิมทีคิดจะว่ายน้ำไป แต่ตอนนี้ดูท่าจะไม่ต้องเสียแล้ว “ช่วยข้าทำเรือทีสิ”

“บ้านข้ามีเรือ”

เขารีบพูดขึ้นพลางเดินกะโผลกกะเผลกไป ไม่นานก็ได้พาคนนำเรือมา

หลานเยาเยาขึ้นเรือแล้ว ก็รีบตรงดิ่งไปที่ศพลอยน้ำนั่น เมื่อเอาตัวขึ้นมาดูก็ต้องตกตะลึงไป

ที่แท้ก็คือจื่อเฟิง องครักษ์ลับผู้รับผิดชอบในด้านการทหารนี่เอง

เขามาที่นี่ได้ยังไง?

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท