ตอนที่ 1586 ไม่มีอาวุธ
……….
ทหารรักษาพระองค์ด้านนอกตำหนักที่เชื้อพระวงศ์สามารถสั่งการได้ถูกองครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนใช้ดาบจ่อคอไว้หมดจนไม่กล้าขยับเขยื้อนแล้ว
เยว่สือซึ่งเป็นองครักษ์ข้างกายของเซียวหรงเหยี่ยนนำทหารสวมชุดเกราะสีดำยืนเรียงรายอยู่หน้าประตูตำหนักราวกับเทพรักษาประตู ภาพสยดสยองนอกตำหนักถูกกลุ่มคนเหล่านี้ยืนบังจนผู้คนด้านในตำหนักได้ยินเพียงเสียงสู้รบเท่านั้น ไม่ได้เห็นเลือดสดที่นองกระจายอยู่ด้านนอก
“ท่านอาเก้า…”
มู่หรงลี่เอ่ยเรียก เขาคิดไม่ถึงว่าท่านอาเก้าจะกลับมาทัน
แม้มู่หรงลี่จะเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว ทว่า เขาก็ยังรู้สึกไม่มั่นคงอยู่ดี ตอนนี้เมื่อเห็นท่านอาเก้าของตัวเองปรากฏกายขึ้นมู่หรงลี่ใจชื้นขึ้นทันที
“เจ้า…”
ไทเฮาที่ใกล้จะสิ้นลมหายใจเบิกตาโพลง ไทเฮาใช้แรงเฮือกสุดท้ายชีนิ้วที่สั่นเทาไปยังร่างของเซียวหรงเหยี่ยน ทว่า นางกล่าวได้เพียงคำว่า “เจ้า” เท่านั้นก็สิ้นใจลงทันที วินาทีที่สิ้นใจสายตาของนางยังคงจับจ้องไปที่ร่างของเซียวหรงเหยี่ยน
“ท่านแม่!”
มู่หรงลี่เรียกมารดาตัวเองเสียงสะอื้น น้ำตาของเขาไหลพราก เขากอดร่างของมารดาตัวเองไว้แน่น ตอนนี้มู่หรงลี่ไม่ใช่จักรพรรดิของต้าเยี่ยน เขาเป็นเพียงเด็กที่สูญเสียแม่ของตัวเองไปเท่านั้น
“ท่านแม่!”
ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่ได้สติอย่างรวดเร็ว เขาผุดลุกขึ้นยืน จากนั้นตะโกนขึ้นเสียงดังราวกับอยากปกป้องมู่หรงลี่
“รีบจับตัวคนทรยศมู่หรงเหยี่ยน คุ้มกันฝ่าบาท!”
ทว่า ทหารรักษาพระองค์ที่เป็นพวกของเชื้อพระวงศ์ถูกจับกุมตัวไว้หมดแล้ว ไม่มีผู้ใดบุกเข้ามาในตำหนักทั้งสิ้น
ขุนนางต้าเยี่ยนยืนนิ่งอยู่ทางสองข้างของตำหนัก ไม่มีผู้ใดกล้าขยับตัวแม้แต่น้อย
คำตรัสของจักรพรรดิต้าเยี่ยนทำให้พวกเขารับรู้ว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนยังคงเชื่อใจผู้สำเร็จราชการไม่เสื่อมคลาย
ทว่า คำตรัสก่อนสิ้นพระชมน์ของไทเฮาทำให้ทุกคนเริ่มสับสน ไม่ว่าอย่างใดไทเฮาก็เป็นมารดาแท้ๆ ของจักรพรรดิต้าเยี่ยน คำสั่งเสียก่อนสิ้นลมของนางอาจมีผลต่อจักรพรรดิองค์น้อยก็ได้
เหล่าขุนนางไม่รู้ว่าควรช่วยคุ้มกันฝ่าบาทจากผู้สำเร็จราชการดั่งที่เชื้อพระวงศ์กล่าวหรือควรติดตามผู้สำเร็จราชการต่อไปกันแน่
ขณะที่เหล่าขุนนางยังตัดสินใจไม่ได้ มู่หรงลี่ใช้มือปิดตาทั้งสองข้างของไทเฮาให้หลับสนิท จากนั้นอุ้มร่างของมารดาลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก
หวังจิ่วโจวก้าวเข้าไปคุ้มกันข้างกายมู่หรงลี่
เริ่นซื่อเจี๋ยพาทหารสวมเกราะดำบุกขึ้นไปบนแท่นสูงของบัลลังก์จากทางด้านหลังตำหนัก
เชื้อพระวงศ์เหล่านี้ไม่ใช่องครักษ์ของฝ่าบาท ดังนั้นพวกเขาจึงต้องปลดอาวุธของตัวเองออกก่อนเข้ามาในตำหนัก ตอนนี้เมื่อเห็นทหารเกราะดำบุกขึ้นไปบนแท่นสูงพวกเขาจึงไม่รู้จะทำเช่นใดดี ปู่ของมู่หรงลี่ที่ได้สติก่อนผู้ใดรีบเอื้อมมือไปกระชากร่างของมู่หรงลี่พลางตะโกนขึ้น
“ระวังพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!”
หวังจิ่วโจวซึ่งคุ้มกันอยู่ข้างกายมู่หรงลี่ถีบผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่กระเด็นไปก่อนที่มือของคนผู้นั้นจะแตะโดนร่างของมู่หรงลี่
เชื้อพระวงศ์คนอื่นๆ ที่เดินขึ้นไปบนแท่นสูงกับผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่ถูกดาบคมชี้มาทางตนจนได้แต่ยืนนิ่งอย่างสงบเสงี่ยม
ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่รู้ดีว่าหากดึงมู่หรงลี่มาอยู่ข้างตนไม่ได้ผู้สำเร็จราชการก็ไม่มีสิ่งใดต้องเกรงกลัวอีก ตอนนี้พวกเขาถูกล้อมอยู่ในตำหนักใหญ่ราวกับแกะที่ไร้อาวุธ พวกเขาไม่มีทางสู้แม้แต่น้อย
“ฝ่าบาท!”
เชื้อพระวงศ์ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่ตะโกนขึ้นเสียงดัง
“รีบเสด็จมาทางนี้พ่ะย่ะค่ะ ไทเฮาทรงตรัสก่อนสิ้นพระทัยว่าห้ามเชื่อคำกล่าวของคนทรยศมู่หรงเหยี่ยนนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ รีบเสด็จมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ อย่าทำให้ไทเฮาตายตาไม่หลับเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท ไทเฮาสิ้นพระชนม์แล้ว เชื้อพระวงศ์อย่างพวกกระหม่อมจะไม่ยอมให้ฝ่าบาทตกเป็นหุ่นเชิดของมู่หรงเหยี่ยนแน่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ไทเฮาคือพระมารดาแท้ๆ ของพระองค์ นางไม่มีทางทำร้ายพระองค์ ก่อนจากไปนางฝากฝ่าบาทไว้กับพวกเรา พวกเราจะปกป้องฝ่าบาทด้วยชีวิตพ่ะย่ะค่ะ!”
เหล่าเชื้อพระวงศ์ตะโกนเรียกมู่หรงลี่ด้วยความหวาดกลัว
ทว่า มู่หรงลี่ที่ได้รับการคุ้มกันจากทหารเกราะดำและหวังจิ่วโจวยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าบัลลังก์มังกร
“ท่านลุง จะทำเช่นใดต่อไปดีขอรับ”
บุรุษที่อยู่ใกล้เชื้อพระวงศ์ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่มากที่สุดเอ่ยขึ้น
“ทหารรักษาพระองค์ของพวกเราคงถูกผู้สำเร็จราชการจับตัวได้หมดแล้ว”
“ผู้สำเร็จรราชการรู้เรื่องที่พวกเราร่วมมือกับอ๋องเมืองต่างๆ แล้ว เขาต้องสังหารพวกเราแน่”
“ท่านลุงรีบหาวิธีเถิดขอรับ!”
“ฝ่าบาทจะทรงเชื่อคำหลอกลวงของผู้สำเร็จราชการไปถึงเมื่อใดพ่ะย่ะค่ะ”
เชื้อพระวงศ์ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่ตะโกนขึ้น
“ทรงลืมคำของไทเฮาไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ มู่หรงเหยี่ยนผู้นี้คือสามีของจักรพรรดินีต้าโจว เขามีทายาทกับจักรพรรดินีต้าโจวแล้ว เขาไม่มีทางทำเพื่อฝ่าบาทอย่างสุดความสามารถอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทรงไม่เชื่อคำสั่งเสียก่อนสิ้นใจของไทเฮาหรือพ่ะย่ะค่ะ นางคือพระมารดาแท้ๆ ของพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ”
เชื้อพระวงศ์คนอื่นต่างสนับสนุน พวกเขาแค่หาทางรอดให้ตัวเองให้ได้
“ฝ่าบาท หากมู่หรงเหยี่ยนผู้นี้ไม่ใช่สามีของจักรพรรดินีต้าโจว เหตุใดเขาจึงไม่เผชิญหน้ากับทุกคนด้วยใบหน้าที่แท้จริงของตัวเองพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทอย่าทรงถูกคนทรยศหลอกอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ เขาคิดแย่งต้าเยี่ยนไปจากพวกเรานะพ่ะย่ะค่ะ!”
ทว่า แววตาของมู่หรงลี่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขามองเหล่าเชื้อพระวงศ์ด้วยสายตาเยือกเย็น
“จับตัวไว้ให้หมด ผู้ใดขัดขืนจงสังหารทิ้งทันที!”
สิ้นคำสั่งของมู่หรงลี่ทหารชุดเกราะดำก้าวเข้าไปจับกุมตัวเหล่าเชื้อพระวงศ์ไว้ทันที บางคนถูกดาบจ่อที่ลำคอ บางคนคิดวิ่งหนีจึงถูกทหารตัดศีรษะทิ้งจนเลือดสดกระจายเต็มบริเวณทันที
ใบหน้าของศีรษะที่ถูกตัดยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง ศีรษะของเขากลิ้งไปตามไปบันไดของแท่นสูง รองเท้าสีขาวเปื้อนเลือดของเซียวหรงเหยี่ยนเหยียบศีรษะนั้นเอาไว้
ชายหนุ่มเงยหน้ามองไปทางเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่ยืนอยู่บนแท่นสูง
ทุกคนมองไม่เห็นสีหน้าที่แท้จริงของผู้สำเร็จราชการ ทว่า แค่ดวงตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารคู่นั้นก็ทำให้พวกเขาขนลุกชันไปทั้งร่างแล้ว
เซียวหรงเหยี่ยนที่เหยียบศีรษะของเชื้อพระวงศ์อยู่ราวกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก
“ฝ่าบาท กระหม่อมคือปู่ของพระองค์ กระหม่อมทำเพื่อฝ่าบาทจริงๆ นะพ่ะย่ะค่ะ!”
เชื้อพระวงศ์ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่กล่าวเสียงสะอื้น
“พวกเราจะยกแผ่นดินของบรรพบุรุษมู่หรงให้ต้าโจวไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงถูกคนทรยศเป่าหู วันหน้าจะมีหน้าไปพบบรรพบุรุษตระกูลมู่หรงได้เช่นใดพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงได้สติเสียทีเถิด ตอนนี้เขามิใช่ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน ทว่า คือสามีของจักรพรรดินีต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ”
เชื้อพระวงศ์ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่กล่าวจบก็ถูกทหารเกราะดำลากตัวออกไปจากตำหนัก
เมื่อเห็นมู่หรงลี่ยังคงอุ้มร่างของไทเฮาไว้ด้วยสีหน้าแน่วแน่ ไม่มีท่าทีจะฟังคำกล่าวของเขาแม้แต่น้อยตอนเชื้อพระวงศ์ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ของมู่หรงลี่ถูกลากผ่านเซียวหรงเหยี่ยนเขาจึงตะโกนขึ้นด้วยความโมโห
“มู่หรงเหยี่ยน เจ้าแต่งงานเข้าราชวงศ์ต้าโจว เจ้าทอดทิ้งต้าเยี่ยน ยังคิดยกแผ่นดินของบรรพบุรุษให้แก่ต้าโจวอีก! เมื่อตายไปเจ้าจะมีหน้าไปพบบรพบุรุษเช่นใด ไทเฮาทรงเปิดโปงเจ้าก่อนสิ้นพระทัยแล้ว แน่จริงเจ้าก็กล่าวความจริงกับฝ่าบาท เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของตัวเองให้ผู้อื่นเห็นสิ! มู่หรงเหยี่ยน…เจ้าทรยศบรรพบุรุษของพวกเรา เจ้าไม่ตายดีแน่!”