บทที่ 923 รวบรวม (1)

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ตำหนัก​หงส์​เพลิง​

แสงไฟสาย​หนึ่ง​พุ่ง​มาจาก​ฟ้า ทิ้งตัว​ลง​หน้า​กลุ่ม​ตำหนัก​อย่าง​มั่นคง​

แสงไฟกลายเป็น​บุรุษ​รูปงาม​สวม​เสื้อคลุม​สีแดง​ ใน​มือถือ​เกาทัณฑ์​โบราณ​หยาบ​ยา​วสี​ขาว​เล่ม​หนึ่ง​

สายลม​อ่อน​ไร้​รูปร่าง​ห่อหุ้ม​ร่าง​เขา​ มาถึงโลก​ใบ​นี้​ได้​นาน​พอประมาณ​แล้ว​ จึงสามารถ​ใช้ความสามารถ​ระดับสูง​ส่วนหนึ่ง​จาก​โลก​เทพ​นอกรีต​ได้​บ้าง​ การอาศัย​ลม​อำพราง​ตัวเอง​เป็น​สิ่งที่​ทำได้​ง่ายดาย​ยิ่ง​

ลู่​เซิ่งที่​ถือ​เกาทัณฑ์​โฮ่ว​อี้​เร่งฝีเท้า​เดิน​เข้าไป​ใน​ลาน​ตำหนัก​ โดย​สายลม​อ่อน​ประหลาด​อำพราง​ร่างกาย​เขา​ ไม่ว่า​จะเป็น​กลิ่นอาย​หรือ​เสียง​ คน​รอบข้าง​ก็​ไม่อาจ​สัมผัส​ได้​

ใน​ลาน​มีหญิงสาว​สวม​กระโปรง​เขียว​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​ แม้จะอ่านหนังสือ​อย่าง​จริงจัง​ แต่กลับ​ไม่สังเกตเห็น​เลย​ว่า​ลู่​เซิ่งเดิน​เข้ามา​แล้ว​

ลู่​เซิ่งเดิน​ตัดผ่าน​ทะลุ​ลาน​มาถึงห้อง​ตัวเอง​ สะบัดมือ​เล็กน้อย​ พลัง​ไร้​รูปร่าง​หลาย​สาย​พลัน​กระ​จา ตัดขาด​ทั้ง​ห้อง​จาก​โลก​ภายนอก​อย่าง​สมบูรณ์​

เขา​นั่งขัดสมาธิ​ สอง​มือ​กำ​สาย​เกาทัณฑ์​แน่น​ บน​ผิว​ที่​คน​ทั่วไป​มองไม่เห็น​ พลัง​อาวรณ์​จำนวน​เหลือ​คณานับ​จาก​เกาทัณฑ์​เทพ​โฮ่ว​อี้​ไหล​ทะลัก​เข้า​ร่าง​เขา​อย่าง​บ้าคลั่ง​

เขา​ดูดซับ​อยู่​กว่า​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ เกาทัณฑ์​เทพ​เริ่ม​แตก​เป็น​ผุยผง​

ลู่​เซิ่งคลาย​มือ​ พลังงาน​กับ​ความแค้น​ผืนดิน​นับไม่ถ้วน​บน​เกาทัณฑ์​เทพ​กระจาย​ตัว​ออก​ แต่​เป็น​เพราะ​การกลืน​กิน​ของ​เขา​ พลังงาน​และ​ความแค้น​ที่​เหลืออยู่​จึงมีไม่มาก​แล้ว​ เพียง​กระจาย​ออก​ไปเช่นนี้​ ไม่นาน​ก็​กลับ​สู่ผืนดิน​ด้วย​เส้นทาง​ลี้ลับ​

“ดี​ปบลู​” ลู่​เซิ่งเรียก​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ทันที​

มองดู​จำนวน​พลัง​อาวรณ์​ที่​แสดง​บน​ดี​ปบลู​อยู่​ที่​ 246,000,000

“ไม่เลว​ๆ!” ลู่​เซิ่งผ่อนคลาย​ ใบหน้า​เผย​รอยยิ้ม​

“ไม่เสียที​ที่​ลำบากลำบน​”

เขา​ยืด​ตัวตรง​ หวน​นึกถึง​ตอน​ลงมือ​ ใบหน้า​ฉายแวว​ใคร่ครวญ​

“หาก​เป็น​แบบนี้​ ใน​ตำนาน​เทพนิยาย​พวก​นี้​ ถ้าเรา​ชิงสมบัติ​มาได้​สัก​สอง​สามอย่าง​ เกรง​ว่า​จะได้​อะไร​ๆ เยอะ​กว่า​ของ​วิเศษ​อย่าง​อื่น​อีก​ ใน​ยุค​บรรพกาล​ ยิ่ง​เป็น​ของ​วิเศษ​เลื่องชื่อ​ พลัง​อาวรณ์​ที่​มีอยู่​ก็​น่าจะ​ยิ่ง​มีมาก​ บางที​อาจจะ​ลงมือ​จาก​ทาง​นี้​ได้​”

เขา​นั่ง​อยู่​สักพัก​ ก็​สลาย​การป้องกัน​ห้อง​ ก่อน​จะเดิน​ออก​ไป

หญิงสาว​ใน​ตัว​ลาน​ลุกขึ้น​เตรียม​จะกลับ​ห้อง​ เจอ​กับ​เขา​ตรง​ปาก​ระเบียง​พอดี​

ทั้งสอง​ไม่ได้​รู้จัก​กัน​ หญิงสาว​มีใบหน้า​เย็นชา​สง่างาม บุคลิก​เหมือน​น้ำแข็ง​ รูปร่าง​บอบบาง​สะโอดสะอง​ เปลือกตา​สีเขียว​เหมือนกับ​ทา​อายแชโดว์​

ลู่​เซิ่งเดิน​เฉียด​ผ่าน​นาง​ รู้สึก​ได้​เบาบาง​ถึงความรู้สึก​ร้อนแรง​แตกต่าง​ไปจาก​คน​เผ่า​หงส์​เพลิง​คนอื่น​ แต่​เขา​เพียง​เฉลียวใจ​เท่านั้น​ แต่​ไม่ได้​ให้ความสำคัญ​อะไร​นัก​ ใน​ฐานะ​ทายาท​หงส์​เพลิง​ บางที​อาจ​เกิด​การกลายพันธุ์​อะไร​ก็​ไม่แน่​

“ปี้ฟาง เหตุใด​เจ้ายังอยู่​ที่นี่​ หัวหน้า​เผ่า​เชิญเจ้าไปรวมตัว​ที่​ตำ​หนักหน้า​ เร็ว​สิ จะไม่ทัน​กาล​แล้ว​นะ​”

ทันใดนั้น​ก็​มีไฟสาย​หนึ่ง​ทิ้งตัว​ลงมา​ หญิงสาว​คน​หนึ่ง​จาก​หงส์​เพลิง​ผลุนผลัน​เดิน​ออกจาก​ไฟ จับ​แขน​หญิงสาว​อย่าง​เย็นชา​ ก่อน​จะวิ่ง​ไปด้านนอก​

ตอนที่​วิ่ง​ผ่าน​ลู่​เซิ่งไป หญิงสาว​ทักทาย​เขา​อย่าง​รีบเร่ง​ ไม่ทัน​พูด​อะไร​ ก็​ฉุด​ดึง​หญิงสาว​อีก​คน​ลอย​ขึ้น​ฟ้า กลายเป็น​เปลวไฟ​สลาย​หาย​ไปแล้ว​

“ปี้ฟางหรือ​” ลู่​เซิ่งทวน​อย่าง​แปลกใจ​

นี่​เป็น​จอม​เทพ​ปีศาจที่​มีชื่อเสียง​หลัง​กำเนิด​ ได้ยิน​ได้​จาก​ตำนาน​เทพนิยาย​มากมาย​ เพียงแต่​นึกไม่ถึง​ว่า​ตอนนี้​จะเป็น​เพียง​หญิงสาว​ธรรมดา​ไม่สะดุดตา​คน​หนึ่ง​

เขา​ไม่คิด​สนใจ​ ใน​เมื่อ​อวี่​ซวน​ไม่ตามตัว​เขา​ อย่างนั้น​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ของ​เขา​

เดินตาม​ทาง​ระเบียง​ออกจาก​ตำหนัก​ ลู่​เซิ่งเล็ง​ทิศทาง​ ก่อน​จะลอยตัว​ขึ้น​บิน​ออก​ไปทาง​ตำหนัก​เทพ​ปีศาจอวิ๋น​เห​มิง

อุทยาน​ปีศาจ ตำหนัก​ร้อย​ทิวทัศน์​

เทพ​ปีศาจไป๋จิ่งเป็น​ยักษ์​อ้วน​สูงใหญ่​ตา​หก​ข้าง​ เวลานี้​เพิ่ง​จับ​หญิงสาว​เผ่า​มนุษย์​มาสอง​คน​ นั่ง​บน​บัลลังก์​ศิลา​ขาว​สูงร้อย​หมี่​ ก้ม​มอง​สหาย​สนิท​อวิ๋น​เห​มิงเดิน​เข้ามา​

“น้อง​อวิ๋น​เห​มิง เหตุใด​วันนี้​ถึงมาเป็น​แขก​ที่​ตำหนัก​ไป๋จิ่งได้​เล่า​ มาๆๆ รีบ​มานั่ง​สิ เด็ก​ๆ รีบ​ยก​สุรา​กับ​อาหาร​มาเร็ว​!” ยักษ์​ไป๋จิ่งดูเหมือน​มีอัธยาศัย​ดี​ แต่​ชอบ​กิน​หญิงสาว​ชาว​มนุษย์​เป็น​ที่สุด​

อวิ๋น​เห​มิงยิ้ม​พลาง​ส่ายหน้า​ เดิน​ไปนั่งลง​บน​ที่นั่ง​ศิลา​ที่​ถูก​ยก​มา

“ขอ​ไม่ปิดบัง​ ผู้​น้อง​มาขอความช่วยเหลือ​”

“โอ้ว​? ช่วยเหลือ​หรือ​” ไป๋จิ่งขยำ​หญิงสาว​มนุษย์​ใน​มือ​ จิ้มกับ​น้ำจิ้ม​บน​โต๊ะ​ ก่อน​จะยัด​เข้า​ปาก​

“น้องชาย​เจ้าเชี่ยวชาญ​พิษ​ แม้แต่​ข้า​ก็​ยัง​ไม่แน่​ว่า​จะเป็น​คู่ต่อสู้​ได้​ ยัง​มีปัญหา​อะไร​ได้​อีก​” ไป๋จิ่งพ่น​ผม​หย่อม​หนึ่ง​ออกมา​ จากนั้น​ก็​หยิบ​หญิงสาว​อีก​คน​ออกมา​จากใน​ตะกร้า​

“คือ​เป็น​เช่นนี้​ ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​ผู้​น้อง​ได้​ของล้ำค่า​อย่างหนึ่ง​มา” อวิ๋น​เห​มิงทำ​สีหน้า​มีเลศนัย​

“เพียงแต่​หลาย​วัน​มานี้​ ก็​ยัง​ไม่อาจ​ควบคุม​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​ ท่าน​ผู้​น้อง​ถนัด​ทะลวง​ของ​วิเศษ​ คว้า​จุดอ่อน​ ที่มา​วันนี้​ก็​เพื่อให้​เจ้าช่วย​สัก​ครา​”

ไป๋จิ่งจับ​สอง​ขา​หญิงสาว​ กำลังจะ​ยัด​เข้า​ปาก​ พลัน​รู้สึก​มือ​เปียก​ หญิงสาว​ตกใจ​หวาดกลัว​จน​ปัสสาวะ​ราด​ ดิ้นรน​ร้องไห้​ใน​มือ​เขา​

“ของล้ำค่า​หรือ​ ของล้ำค่า​อะไร​ที่​ทำให้​เจ้าให้ความสำคัญ​ขนาด​นี้​” เขา​สะบัด​ปัสสาวะ​บน​มือ​ หยิบ​ผ้าขนหนู​ผืน​หนึ่ง​จาก​ผู้รับใช้​ด้าน​ข้าง​มาเช็ด​อย่าง​ไม่อนาทร​ร้อนใจ​

“เป็น​โอสถ​วิเศษ​ที่​เมื่อ​กิน​แล้​วจะ​ช่วย​เพิ่ม​ความสามารถ​ใน​การควบคุม​วารี​ได้​” อวิ๋น​หมิง​กด​เสียง​กล่าว​

“หือ​? โอสถ​หรือ​” ไป๋จิ่งพลัน​ตาลุ​กวาว​ เริ่ม​สนใจ​ขึ้น​มา

ช่วงนี้​เขา​ฝึกฝน​อิทธิฤทธิ์​หนึ่ง​ จำเป็นต้อง​ยกระดับ​ความสามารถ​ควบคุม​น้ำ​พอดี​ ไม่นึก​มาก่อน​เลย​ว่า​อ​วิ่น​เห​มิงจะได้​โอสถ​ที่​เพิ่ม​ความสามารถ​ใน​การควบคุม​น้ำ​มา

“ก็ได้​ พวกเรา​สนิทสนม​กัน​ ลอง​เอา​มาดู​สิ” เขา​เหลียว​มอง​รอบข้าง​แล้วก็​โยน​หญิงสาว​ใน​มือ​กลับ​ไปใน​ตะกร้า​

อวิ๋น​เห​มิงพยักหน้า​ ลุกขึ้น​เดิน​เข้ามา​ใกล้​เล็กน้อย​ แล้ว​หยิบ​กล่อง​แพร​สีดำ​ใบ​หนึ่ง​ออก​มาจาก​แขน​เสื้อ​

“จะปล่อย​ให้​ปราณ​โอสถ​ไหล​ออกมา​ด้านนอก​มากเกินไป​ไม่ได้​ ไม่อย่างนั้น​ผล​ของ​โอสถ​จะอ่อน​ลง​…” อวิ๋น​เห​มิงก​ล่า​ว​เสียง​แผ่ว​

ไป๋จิ่งเข้าใจ​ สอง​ฝ่าย​ยื่น​ศีรษะ​เข้าใกล้​กัน​มากขึ้น​ สายตา​จับจ้อง​กล่อง​แพร​สีดำ​

อวิ๋น​เห​มิงยื่นมือ​ไปกด​ขอบ​กล่อง​แพร​ช้าๆ ค่อยๆ​ เปิด​แง้มออก​ แสงสีม่วง​เล็ก​สาย​หนึ่ง​สาด​ออก​มาจาก​ใน​กล่อง​ ก่อน​ตามมา​ด้วย​กลิ่น​โอสถ​เจือจาง​

“ดู​ให้​ดี​เล่า​” อวิ๋น​เห​มิงเปิด​ฝาออก​ทันที​

ฟู่!

ชั่วพริบตา​นั้น​หนวด​สีดำ​อม​ม่วง​มากมาย​ทะลัก​ออก​มาจาก​ตา​ หู​ จมูก​ ปากขอ​งอ​วิ๋น​เห​มิง หนวด​นับไม่ถ้วน​มุด​เข้า​ปาก​และ​จมูก​ของ​ไป๋จิ่งอย่าง​บ้าคลั่ง​

เนื่องจาก​อยู่​ใกล้​กัน​เกินไป​ ไป๋จิ่งจึงรับมือ​ไม่ทัน​ ถูก​หนวด​มากมาย​มุด​เข้าไป​

ร่าง​ยักษ์​ชน​บัลลังก์​เบื้องหลัง​อย่าง​แรง​จน​แตก​เป็น​เสี่ยง​ๆ

“เจ้า!?”

ไป๋จิ่งกำลังจะ​ลงมือ​ แต่ว่า​แขนขวา​ที่​เพิ่ง​ยกขึ้น​กลับ​ตกลง​

“อวิ๋น​เห​มิง! เจ้าทำร้าย​ข้า​!” เขา​อยาก​ร้องไห้​แต่​ไร้​น้ำตา​ กด​เสียง​กล่าว​ หนวด​กาฝาก​ที่​มุด​เข้าไป​ทำให้​เขา​เข้าใจ​ทันที​ว่า​ จิต​ปฐมกาย​ปีศาจของ​ตน​ได้​ถูก​พลังงาน​ชั่วร้าย​บางอย่าง​ควบคุม​แล้ว​ แม้แต่​ความคิด​ต่อต้าน​ก็​ถูก​ทำให้​อ่อนแอ​ลง​

การเคลื่อนไหว​ที่​เพิ่งจะ​ยก​มือขึ้น​จึงเป็น​เช่นนี้​ ตอนแรก​เขา​คิด​จะร่าย​อาคม​กำจัด​อวิ๋น​เห​มิง แต่​หนวด​กาฝาก​กลับ​ควบคุม​พลัง​ทั้งหมด​ของ​เขา​ พริบตาเดียว​ก็​ดึง​พลัง​ปีศาจกลับ​ไป

อวิ๋น​เห​มิงเผย​สีหน้า​จนปัญญา​เช่นกัน​

“ขออภัย​ ข้า​ก็​ไม่เป็นตัวของตัวเอง​เช่นกัน​”

การเคลื่อนไหว​ของ​อวิ๋น​เห​มิงรวดเร็ว​มาก​ หลังจาก​ใช้ประโยชน์​จาก​หนวด​แพร่พันธุ์​ใน​ร่าง​ตัวเอง​ฝังกาฝาก​บน​ตัว​สหาย​สนิท​สอง​คน​ สหาย​สนิท​สอง​คน​นี้​ก็​ฝังกาฝาก​ใส่เทพ​ปีศาจอีก​สามคน​แบบ​ขยายพันธุ์​ใน​สังคม​ของ​ตัวเอง​

เทพ​ปีศาจที่​ถูก​ฝังกาฝาก​ก็​มีเส้นสาย​แวดวง​ของ​ตัวเอง​อีก​ ดังนั้น​พอ​เป็น​แบบนี้​ซ้ำๆ กัน​ หนวด​เทพ​นอกรีต​ก็​ฝังบน​ตัว​เทพ​ปีศาจจำนวน​มากกว่า​เดิม​ ขยายพันธุ์​อย่าง​ต่อเนื่อง​

แต่ว่า​ตามคำแนะนำ​ของ​ลู่​เซิ่งเทพ​ปีศาจพวก​นี้​ส่วนใหญ่​ต่าง​เป็น​เทพ​ปีศาจขั้นต่ำ​ที่​ไม่มีความสามารถพิเศษ​อย่าง​ลางสังหรณ์​

และ​เป็น​ระดับ​เซียน​ทองคำ​ขั้น​กลาง​ที่​แข็งแกร่ง​กว่า​หัวหน้า​เผ่า​หงส์​เพ​ลิ​งอ​วี่​ซวน​หนึ่ง​ขั้น​

ระดับ​เซียน​ทองคำ​ขั้นสูง​ถึงเทพ​ปีศาจขอบเขต​เซียน​ทอง​ขั้น​สมบูรณ์​ พวก​อวิ๋น​เห​มิงไม่กล้า​ลงมือ​บุ่มบ่าม​

ขอบเขต​เซียน​ทองคำ​ หนึ่ง​ขั้น​เท่ากับ​สวรรค์​หนึ่ง​ชั้น​ พลัง​แตก​ต่างกัน​มหาศาล​ อย่า​ว่าแต่​เซียน​ทองคำ​ขั้นสูง​ยัง​หลอม​สร้าง​เกราะ​เปลือก​หรือ​ร่างกาย​บางส่วน​ของ​ตัวเอง​เป็น​ของ​วิเศษ​คุ้มกัน​ ของ​วิเศษ​คุ้มกัน​เหล่านี้​ส่วนใหญ่​สามารถ​เตือนภัย​และ​คุ้มกัน​ได้​ จึงลอบ​เล่นงาน​ได้​ยาก​

ใน​เวลา​กว่า​สามเดือน​กว่า​ เทพ​ปีศาจมากกว่า​ร้อย​ของ​อุทยาน​ปีศาจ ครึ่งหนึ่ง​ถูกลู่​เซิ่งฝังกาฝาก​สำเร็จ​แล้ว​

พวก​เทพ​ปีศาจที่​เหลือ​ลงมือ​ไม่ง่าย​นัก​

ลู่​เซิ่งผลาญ​พลัง​เทพ​นอกรีต​มหาศาล​ ทำให้​ไม่สะดวก​แก่​การ​ลงมือ​ จึงควบคุม​ไม่ให้​ร่าง​กาฝาก​หรือ​พวก​เทพ​ปีศาจลงมือ​อีก​

ในเวลาเดียวกัน​เขา​ก็​ลอบ​ให้​ร่าง​กาฝาก​มากมาย​ นำ​ของ​วิเศษ​อาวุธ​เวท​ที่​ตนเอง​เก็บ​รวบรวม​ออกมา​ เพื่อให้​เขา​ดูดกลืน​พลัง​อาวรณ์​

ทั้ง​ยัง​แต่งตั้ง​เทพ​ปีศาจสามตน​ที่​มีพลัง​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ เป็น​ผู้นำ​ใน​การนำ​เทพ​ปีศาจตน​อื่นๆ​ ชั่วคราว​

ในเวลาเดียวกัน​ เผ่า​เวท​กับ​เผ่า​ปีศาจก็​เข่นฆ่า​กัน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ เขา​ปู้โจว​ซาน​เอียง​ล้ม​ จมลง​ทุกวัน​ๆ ช่องว่าง​ระหว่าง​ฟ้าดิน​ต่ำ​ลง​เรื่อยๆ​

ถ้าหาก​ฟ้าดิน​สมาน​ตัว​ โลก​จะเข้าสู่​กาล​โกลาหล​ ทุกอย่าง​กลับคืน​สู่ความขมุกขมัว​ วายุ​สวรรค์​กับ​แสงพิษ​จาก​สามสิบ​สามชั้น​ฟ้าทำลาย​สิ่งมีชีวิต​บน​ผืนดิน​ได้​แทบ​ทั้งหมด​ภายใน​พริบตาเดียว​

ภัยพิบัติ​ฟ้าดิน​เช่นนี้​ ผู้วิเศษ​คนอื่น​ไม่นำพา​ แต่ว่า​หนี่ว์​วา​ซึ่งเป็น​มารดา​แห่ง​เผ่า​มนุษย์​และ​เผ่า​ปีศาจไม่อาจ​นั่ง​ดูดาย​ได้​

ณ ตำหนัก​เทพ​ปีศาจอวิ๋น​เห​มิง

ลู่​เซิ่งหลับตา​นั่ง​นิ่ง​บน​บัลลังก์​ด้าน​ข้าง​

ไม่นาน​นัก​ อวิ๋น​เห​มิงกับ​เทพ​ปีศาจอีก​สอง​ตน​ก็​มาถึง ยืน​อยู่​ด้านหน้า​เขา​ด้วย​สีหน้า​นอบน้อม​

“นาย​ท่าน​”

เทพ​ปีศาจสามตน​ทักทาย​ลู่​เซิ่งอย่าง​กริ่งเกรง​

ลู่​เซิ่งลืมตา​ขึ้น​

“เอา​ของ​วิเศษ​มาหรือยัง​”

“เอา​มาแล้ว​ขอรับ​!” พวก​อ​วิ่น​เห​มิงพยักหน้า​

ลู่​เซิ่งพยักหน้า​เล็กน้อย​ “วันนี้​ที่​เรียก​พวก​เจ้ามา นอกจาก​เรื่อง​ของ​วิเศษ​แล้ว​ ก็​คือ​การตัดสินใจ​แผนการ​ขั้น​ต่อไป​”

“นาย​ท่าน​โปรด​ชี้แนะ​!” เทพ​ปีศาจเฝย​อี๋​ที่อยู่​ทางขวา​ขอ​งอ​วิ๋น​เห​มิงก​ล่า​วอ​ย่าง​ระมัดระวัง​

เฝย​อี๋​เป็น​นก​ชนิด​หนึ่ง​ ร่างกาย​ไม่ใหญ่โต​อะไร​ สามารถ​บำเพ็ญ​ถึงขอบเขต​เทพ​ปีศาจได้​ เรียก​ได้​ว่า​ไม่ธรรมดา​แล้ว​ แต่​เป็น​เพราะ​สายเลือด​ของ​เผ่าพันธุ์​ไม่แข็งแกร่ง​ ทำให้​อิทธิฤทธิ์​อ่อนแอ​ จึงถูก​ฝังกาฝาก​อย่าง​ง่ายดาย​

แต่ว่า​เฝย​อี๋​เป็น​ผู้​ที่​มีพลัง​ฝึกปรือ​ล้ำลึก​ที่สุด​ใน​หมู่​เทพ​ปีศาจสามตน​ อีก​นิดเดียว​ก็​จะทะลวง​สู่ขอบเขต​เซียน​ทองคำ​ขั้นสูง​ได้​ ฝึกฝน​มาหลาย​แสน​ปี ดังนั้น​แม้สายเลือด​จะอ่อนแอ​ แต่​ก็​เป็น​ผู้นำ​ใน​หมู่​เทพ​ปีศาจทั้ง​สาม

“เอา​ของ​วิเศษ​มาก่อน​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ราบเรียบ​

สามเทพ​ปีศาจไม่กล้า​ชักช้า​ รีบ​เอา​ของ​วิเศษ​ที่​รวบรวม​มาจาก​เทพ​ปีศาจตน​อื่น​ออกมา​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​ด้านหน้า​ลู่​เซิ่ง

รอ​จน​วาง​หมด​แล้ว​ ลู่​เซิ่งก็​เอื้อมมือ​หยิบ​ของ​วิเศษ​ขึ้น​มาตรวจสอบ​แตะต้อง​แผ่วเบา​ ราวกับ​พิเคราะห์​ เปลือกนอก​เหมือน​ตรวจดู​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กำลัง​ดูดซับ​พลัง​อาวรณ์​อยู่​

ของ​วิเศษ​ทั้งหมด​แปด​ชิ้น​ ทุก​ชิ้น​ต่าง​เหนือกว่า​อาวุธ​เวท​ที่​เขา​ได้มา​ตอนแรก​ทั้งสิ้น​ บรรจุ​พลัง​อาวรณ์​ไว้​อย่าง​น้อย​มากกว่า​สิบ​ล้าน​หน่วย​

แม้จะสู้เกาทัณฑ์​เทพ​โฮ่ว​อี้​ไม่ได้​ แต่​ค่อนข้าง​ยอดเยี่ยม​แล้ว​

เพียงแต่​จำนวน​นี้​ ออกจะ​น้อย​ไปหน่อย​…

ลู่​เซิ่งขมวดคิ้ว​กวาดตา​มอง​ของ​วิเศษ​บน​โต๊ะ​ เขา​ฝังกาฝาก​ใส่เทพ​ปีศาจอย่าง​น้อย​ยี่สิบ​กว่า​ตน​ แต่​ของ​วิเศษ​ที่​รวบรวม​มาได้​กลับ​มีแค่​แปด​ชิ้น​เท่านั้น​

……………………………………….

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Status: Ongoing

โปรแกรมปรับแต่งเกมในโลกเดิมกลายเป็นความสามารถพิเศษในหัวเขา และเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยภูตผีมารปีศาจนี้ ผู้ใดขวางเขา มันผู้นั้นเป็นมารปีศาจ เมื่อเป็นมารปีศาจ ก็ต้องตาย!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท