หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 204 ข้าไม่รู้สึกถึงเจ้าเลย

บทที่ 204 ข้าไม่รู้สึกถึงเจ้าเลย

บทที่ 204 ข้าไม่รู้สึกถึงเจ้าเลย

“ที่ทำไปก็เพื่อปกป้องเจ้า และก็เพื่อปกป้องอาฝูกับโม่ซางด้วย

มองในมุมของผู้อาวุโสทั้งสาม โม่ซางแทบจะไม่ได้ออกจากชนเผ่า ส่วนอาฝูนั้นก็ไม่เคยได้ออกไปไหนเลยด้วยซ้ำ หนทางเดียวที่พวกเขาจะหลบหนีไปได้ ก็คือไปหาเจ้า

และเจ้านั้นก็ได้กลับมาแล้ว เป็นเหตุที่ข้าให้เจ้าร้องไห้ เพียงเพื่อทำให้ผู้อาวุโสทั้งสามคิดว่า เจ้าไม่ได้พบเจออาฝูและโม่ซางเลยตั้งแต่ตอนที่ออกไปจนถึงตอนที่กลับมา แล้วเพลานี้ก็ได้มารู้ว่าอาฝูกับโม่ซางถูกสังเวยไป เจ้าก็เลยร้องไห้อย่างสิ้นหวัง

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เจ้านั้นจักต้องทำความเข้าใจ แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะปลอดภัยแล้ว แต่พวกเขาก็คงไม่ปล่อยอาฝูและโม่ซางให้รอดตัวไปเป็นแน่”

ฮัวหยู่อันมองนางอยู่ชั่วครู่ ร้องไห้เงียบๆอยู่สักพัก

จากนั้นก็สะอึกสะอื้นถามขึ้นว่า:

“ข้าควรทำเช่นไร? ในเพลานี้ข้าควรทำเช่นไร?”

ฝั่งหนึ่งก็เคยคิดว่าเป็นญาติสนิทกัน อีกฝั่งก็เป็นก็เพื่อนรักที่เที่ยวเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต แต่ในเพลานี้ นางกลับไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย

“เจ้าสงบสติอารมณ์ก่อนเถิด จัดการความรู้สึกนึกคิดของเจ้าให้ดี จากนั้นค่อยมาคิดกันว่าพวกเราจักทำเช่นไรต่อไป”

หลังจากที่เห็นฮัวหยู่อันพยักหน้าเงียบๆ หลานเยาเยาจึงจะหันไปทางเย่แจ๋หยิ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกล แต่กลับพบว่า ผู้ที่นั่งอยู่ตรงนั้นก่อนหน้านี้ ได้หายไปแล้ว

แล้วเขาล่ะ?

ไปที่ใดแล้ว?

นางรีบเดินไปยังที่ที่เย่แจ๋หยิ่งเคยนั่ง แต่ก็ได้เห็นเขายืนอยู่ข้างนอกหน้าต่างเสียแล้ว มองภาพป่าไผ่อันเขียวชอุ่มอย่างใจจดใจจ่อ ไม่รู้เลยว่ากำลังนึกคิดสิ่งใดอยู่

“มีเหตุใดรึ?”

ผู้ใดจะรู้ได้ ว่าเย่แจ๋หยิ่งไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น แต่เขายังหันหน้ามาทางนางด้วย จากนั้นก็ค่อยๆยื่นมือมาหานาง หน้าที่ซีดขาวราวกับน้ำแข็ง ดวงตานั้นล้ำลึกเกินกว่าที่จะมีผู้ใดสามารถเข้าใจได้

“เกิดสิ่งใดขึ้นกับเจ้างั้นรึ?”

อยู่ๆเย่แจ๋หยิ่งก็แสดงออกเช่นนี้ ทำให้ใจของนางนั้นเป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูก

“มาเถิด”

เขาพูดคำสองคำนี้ออกมาอย่างทันท่วงที เงาสะท้อนเล็กๆของนางปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

“ได้ ออกไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ”

นางข้ามหน้าต่างมาอยู่ข้างหน้าเย่แจ๋หยิ่ง ยื่นมือจับมือของเขาที่ยกขึ้นไว้ จนสัมผัสได้ถึงชีพจรของเขา หลังจากไม่พบสิ่งผิดปกติ ความกังวลในใจก็เลือนหายไป

แต่ผู้ใดจะรู้ได้………

ว่าเย่แจ๋หยิ่งจะยกมือของนางขึ้นพลางสัมผัสอย่างแผ่วเบา เห็นได้ชัดว่ากำลังฉวยโอกาสจากนาง แต่นางกลับต้องประหลาดใจเมื่อเห็นท่าทีที่น่าเหลือเชื่อของเย่แจ๋หยิ่ง ถึงแม้ว่าจะเจ็บอยู่บ้างก็ตามที

“มีส่งใดเกิดขึ้นกับเจ้างั้นรึ? บอกข้ามาเถิด”

นับตั้งแต่หนีออกมาจากเรือแห่งความสิ้นหวัง ก็พูดได้เลยว่า จากการที่หนอนพิษกู่เข้าไปในร่างกายของเขา นางก็รับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่ผิดแผกแปลกไป

แต่ว่า……

หนอนพิษกู่ก็ได้ออกมาแล้ว และนางยังคงใช้เครื่องมือในการตรวจร่างกายเขาอยู่ทุกวัน ก็หาได้พบเจอสิ่งใดไม่

แต่ที่น่าสงสัยยิ่งไปกว่านั้นคือ ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บในหัวของนางไม่ส่งสัญญาณใดๆ ทั้งยังไม่มีการรายงานสิ่งใดเพิ่มเติมอีกด้วย

มันทำให้นางสงสัยว่าระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บในหัวของนางอาจจะเลือนหายไปเสียแล้ว

แต่ว่า!

นางก็สามารถดูแผนการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และเครื่องมือต่างๆของวิชาการรักษาในระบบได้ จากนั้นก็นำพวกมันมาใช้งาน

นี่แหล่ะใช่เลย หมดปัญหา!

แต่ว่า จะหมดปัญหาจริงๆรึ? คำตอบในใจของนางนั้นก็คือ……ไม่แน่ไม่นอน

“เยาเยา ข้านั้นไม่รู้สึกถึงเจ้าเลย” พูดจบ เย่แจ๋หยิ่งก็สัมผัสแก้มของนางด้วยความนุ่มนวลอีกครั้ง ค่อยๆลูบไป แต่ยิ่งสัมผัสมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งดูหมองหม่นมากขึ้นเท่านั้น

และครั้งนี้ หลานเยาเยาก็ต้องประหลาดใจ

ประสานมือของเขา จากนั้นก็รีบหยิบเข็มเงินออกมาทิ่มลงไปที่จุดฝังเข็มบนแขนข้างหนึ่งของเขา แล้วถามว่า:

“รู้สึกเช่นไรบ้าง?”

“ชาๆนิดหน่อย”

“แค่ชาเท่านั้นเองรึ?” หลานเยาเยาใจไม่ดี

เป็นไปไม่ได้

นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

นางใช้เข็มทิ่มไปยังจุดฝังเข็ม ที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งสามารถล้มพับได้ในพริบตา แต่เย่แจ๋หยิ่งนั้น เขาเพียงรู้สึกชาๆเท่านั้นเอง……

เพื่อพิสูจน์สิ่งที่นางคาดเดา หลานเยาเยาพูดอย่างจริงจังว่า:

“ส่งแขนอีกข้างมาให้ข้า”

“เยาเยา……”

“ส่งมาให้ข้า”

“ก็ได้!”

แต่ในขณะที่เย่แจ๋หยิ่งยื่นแขนอีกข้างให้นาง ทันใดนั้นดวงใจของหลานเยาเยาก็เจ็บปวดทรมานเหลือเกิน

ฝ่ามือของเขามีบาดแผล เป็นบาดแผลที่ละเลงยาเอาไว้ แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย กลับกลายเป็นเน่าเปื่อยไปแทน สีก็แปรเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ

นางหาได้จำเป็นต้องพิสูจน์สิ่งใดอีกไม่ แค่ได้มองก็ตาพร่าขึ้นมาแล้ว

นางปาดน้ำตาที่จะหยดลงมา จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของเย่แจ๋หยิ่งออกโดยไม่คำนึงถึงความสมัครใจ ก็ได้เห็นผ้าพันแผลที่พันอยู่รอบอกของเขา จึงค่อยๆแกะผ้าพันแผลออก

ในขณะนั้น มือทั้งสองข้างของหลานเยาเยาที่ทั้งรักษาและสังหารผู้คน ตราบชั่วชีวิตที่ผ่านมาจนถึงเพลานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ถึงความสั่นกลัว

จนกระทั่งผ้าพันแผลหลุดออกหมด นางก็เห็นว่าด้านในของแผลได้ตกสะเก็ดแล้ว ซึ่งดูเหมือนจะติดเชื้อ อีกทั้งยังมีสีที่ดำคล้ำ

“นี่ นี่……มันตั้งแต่เมื่อใดกัน?”

อยู่ๆน้ำเสียงของนางก็กระเส่าเล็กน้อย ทั้งยังได้ยินเสียงสะอึกสะอื้น

ผ้าพันแผลเพิ่งเปลี่ยนเมื่อรุ่งสางวันนี้ แต่ในตอนนั้นมันยังไม่เป็นเช่นนี้ งั้นนี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วล่ะ……

“ระหว่างทางที่มายังชนเผ่า แต่ก็ไม่เจ็บอะไร”

น้ำเสียงเรียบนิ่งของเย่แจ๋หยิ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ถึงความรุนแรงที่ร่างกายเผชิญ และก็ดูเหมือนจะไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกี่ยวข้องกัน

“มากับข้า ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเป็นอะไรไป”

หลานเยาเยาดึงมือเขาขึ้นมา กะว่าจะเดินเข้าไปยังที่พำนัก

ทว่า!

นางไม่สามารถดึงเขาขึ้นมาได้ และมันก็ทำให้นางประหลาดใจ จึงได้หันกลับไปมองเขาด้วยความงุนงง นางยังไม่ทันได้ถามเขาก็ชิ่งตอบมาซะก่อน

“ไม่มีประโยชน์หรอก”

เมื่อพูดคำนี้ออกมา หยดน้ำตาของหลานเยาเยาก็พรั่งพรูออกมาในพริบตา จ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา และพูดติดๆขัดๆว่า:

“เจ้ารู้มาตั้งนานแล้วใช่หรือไม่? มันเป็นเพราะหนอนพิษกู่ใช่ไหม? แม้ว่าหนอนพิษกู่จะออกไปแล้วมันก็ไร้ประโยชน์ใช่หรือไม่?”

เมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลรินของนาง เย่แจ๋หยิ่งก็เอื้อมมือมาเช็ดให้นางอย่างเบามือ แม้จะไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิของหยาดน้ำตา แต่ท่าทีที่โศกเศร้าของนางก็จะตราตรึงอยู่ในใจของเขา

เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

“อื้อ!”

เขาพยักหน้า จากนั้นก็พูดเรียบๆว่า: “หนอนพิษกู่ชนิดนี้เป็นดั่งหางเสือของยิงจวนผู้ครองนรกที่เลี้ยงหนอนพิษกู่จิ้นเอาไว้ เมื่อโดนพิษกู่เข้าไป ก็จะเป็นเหมือนศพที่เดินได้ มีบาดแผลเน่าเปื่อยไปทั่วร่างกาย สิ้นเสียซึ่งสติ ทั้งยังกัดกินเลือดเนื้อของคนดั่งปีศาจร้าย

เยาเยา อย่าโทษตัวเองเลย วิชาการรักษาของเจ้านั้นช่างล้ำค่า มิเช่นนั้นข้าก็คงเป็นดั่งผีดิบกินคนไปตั้งแต่โดนหนอนพิษกู่จิ้นแล้ว

จนกระทั่งเพลานี้ก็ได้ผ่านมาหลายชั่วยามแล้ว ข้าเองก็เพิ่งเริ่มจะมีอาการ เช่นนั้นอย่าได้โทษตัวเองเลย ทำให้ดีที่สุดก็เป็นพอ”

เขานั้นรู้อยู่เต็มอก แต่ก็เก็บเงียบเพื่อให้นางได้ดูแลรักษาเขามาตลอด นางให้คำสัตย์ไว้อย่างมุ่งมั่นที่จะรักษาเขาให้ดีขึ้น และเขาก็ไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง

เย่แจ๋หยิ่ง เหตุใดถึงมาพูดเอาป่านนี้?

เขาบอกว่าอย่าโทษตัวเอง แต่ว่า……

โทษตัวเองงั้นรึ?

หลานเยาเยาถามตัวเองอยู่ในใจ ไม่ใช่ว่านางโทษตัวเอง แต่นางนั้นทั้งทุกข์ทรมานและเกลียดชังต่างหาก

เหตุใดผู้ที่โดนหนอนพิษกู่จิ้นถึงไม่เป็นนางกันนะ?

หากเป็นเช่นนั้น จิตใจของนางในตอนนี้ก็คงไม่ทุกข์ทรมานถึงเพียงนี้……

แต่นางก็รู้ว่า ขณะที่นางกำลังโทษตัวเองและรังเกียจเดียดฉันท์ ความทุกข์นี้หาได้ช่วยสิ่งใดไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การคิดหาทางแก้ไข

แม้จะเป็นความหวังอันน้อยนิด นางก็จะหาหนทางให้จงได้ จะลองทำมันทุกวิถีทาง

“จะไม่มีวิถีทางที่จะแก้พิษกู่ชนิดนี้ได้เชียวรึ?”

“ไม่มี!”

เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ต่างเกื้อกูลและยับยั้งซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับยาพิษที่บางครั้งก็สามารถใช้เป็นยาแก้พิษได้ และยาแก้พิษนั้นก็สามารถเป็นพิษที่ร้ายแรงได้เช่นกัน

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน