หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 213 ชนเผ่าและราชครู

บทที่ 213 ชนเผ่าและราชครู

บทที่ 213 ชนเผ่าและราชครู

หานแสหลับตาลงช้าๆ ลูบหน้าตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองรอบๆอย่างรวดเร็ว และแล้วสายตาของเขาก็ไปหยุดยังเตียงนอนของผู้อาวุโสใหญ่ ทันใดนั้นมุมปากก็ยกขึ้นมาทันที

” หึ! จิ้งจอกเฒ่า”

หลังจากพึมพำกับตัวเองเสร็จ หานแสก็เปลี่ยนเป้าหมายเดินพุ่งไปยังเตียงของผู้อาวุโสใหญ่ ดวงตาของหลานเยาเยาก็เปร่งประกาย แล้วรีบเดินตามไปทันที

เมื่อเดินมาถึงเตียง หานแสก็สำรวจอย่างเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง แล้วสุดท้ายเขาก็กล่าวออกมาอย่างมั่นใจว่า

” ใต้เตียงมีช่องลับอยู่ ! ”

“หลักแหลมยิ่งนัก ! ”

หลานเยาเยาชื่นชมเขาอย่างไม่ลังเลใดๆ

ที่แท้ !

การรูปสถาปัตยกรรมของชาวหยินไห่และสถาปัติย์กรรมในวังหลวงนั้นต่างกันมากยิ่งนัก ขนาดการออกแบบขนาดของเตียงยังไม่เหมือนกันเลย

หานแสเคยอยู่ในชนเผ่านี้มาก่อน เคยนอนบนเตียงในแบบเดียวกัน เขาจึงคุ้นชินว่ามีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมาหรือน้อยกว่าปกติ จึงทำให้รู้สึกถึงความไม่ปกติ

ดังนั้น !

นางจึงไม่ได้แปลกใจสิ่งใด ที่หานแสสามารถหาว่าช่องลับนั้นอยู่แห่งใดได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าหาห้องลับพบแล้ว หานแสก็เอื้อมมือไปหวังจะเปิดเตียงออก แต่ก็ถูกหลานเยาเยาห้ามเอาไว้เสียก่อน

“หนังสือบรรพชนถูกผู้อาวุโสใหญ่ซ่อนไว้ลึกถึงเพียงนี้ จากสิ่งที่ข้าเคยประสบมา ภายในช่องลับนี้จะต้องมีกับดักหรือควันพิษเป็นแน่ ต้องระวังตัวด้วย ”

หลานเยาเยาดูเข้าใจเรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี

แล้วยิ่งหลายวันที่ผ่านมานี้หลานเยาเยาทำให้เขาต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่อีกครั้ง หานแสจึงเกิดความสงสัยขึ้นมา

ในขณะที่เขาค่อยๆเปิดช่องลับอย่างระมัดระวัง ภายในไม่มีกับดักอาวุธใดๆทั้งสิ้น มีเพียงแต่หนังสือทำเนียบบรรพชนเล่มเก่าๆเท่านั้น

“ประสบการณ์ของเจ้าช่างน่าเชื่อถือจริงๆ!”

หานแสที่กำลังหยิบหนังสือทำเนียบบรรพชนออกมา ก็พลันกล่าวเย้ยหยันนางไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูก

“……”

หลานเยาเยารู้สึกถึงความน่าอับอายขึ้นมาทันที

ชิ !

ในโทรทัศน์ส่วนมากก็ฉายมาแบบนี้ไม่ใช่หรือไง?

มีช่องลับก็ต้องมีกับดัก หากมีเด็กน้อยก็มักจะมีสัตว์มีพิษอันตรายนี่หน่า !

สายตาที่หันไปเห็นหานแสหาเก้าอี้นั่งแล้วนั่งลงไป นางก็รีบตามไปทันที พร้อมกับหยิบมุกเย่หมิงขึ้นมาส่องให้แสงสว่าง แล้วหนังสือทำเนียบบรรพชนค่อยๆถูกเปิดทีละแผ่นๆ

และสิ่งที่ทำให้หลานเยาเยาประหลาดใจนั่นก็คือเดิมทีแล้วชาวหยินไห่ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงมาก่อน ที่นี่เคยเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆเท่านั้น

แล้วในเวลาต่อมา

ในหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆแห่งนี้ก็มีราชครูท่านหนึ่งเกิดมีชื่อเสียงขึ้นมา แต่เดิมทีราชครูท่านนี้กลับไม่ใช่คนในกลุ่มชาวประมงมาโดยกำเนิด ในหนังสือทำเนียบบรรพชนได้บันทึกไว้ว่าเขาเป็นผู้ที่มาจากต่างถิ่นแล้วมาตั้งรกรากในหมู่บ้านประมงแห่งนี้

นับตั้งแต่ที่เขาได้ขึ้นตำแหน่งราชครู หมู่บ้านประมงแห่งนี้ก็เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ค่อยๆพัฒนาเป็นกลุ่มชนเผ่า แล้วก็ค่อยๆโด่งดังขึ้นมา แล้วการสังเวยเด็กชายและเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ของชนเผ่าก็ได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ราชครูได้จากที่นี่ไปเพื่อขึ้นตำแหน่ง

ซึ่งในทุกๆสามถึงห้าปีราชครูจะกลับมาที่นี่ครั้งหนึ่ง แล้วทุกครั้งที่กลับมาเขาจะป่วยหนักอยู่ตลอด

ด้วยชื่อเสียงที่โดดเด่นของราชครูจึงทำให้ราชวงศ์เก่าเกิดการพัฒนาจนกลายเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดในเวลานั้น แต่เพราะเหตุนี้ด้วยเช่นกันจึงเป็นการสร้างศัตรูให้กับเขาเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นในทุกครั้งที่เขากลับมา จะมีผู้ที่มาลอบสังหารเขาอยู่เนืองๆ ในเวลาเช่นนี้ทุกคนในชนเผ่าต่างก็มาช่วยปกป้องเขาอย่างเต็มที่

แต่จากนั้นไม่นานไม่รู้เพราะเหตุอะไร ราชครูก็กลับมาที่นี่น้อยลง ในเวลานั้นชาวชนเผ่าต่างก็คิดว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้ว

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ

เมื่อสิบห้าปีก่อน ราชครูได้กลับมาที่ชนเผ่านี้อีกครั้ง ในครั้งนั้นที่เขากลับมาทำให้ในชนเผ่าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวง สมาชิกในชนเผ่าเสียชีวิตไปเกือบครึ่งอย่างลึกลับ พร้อมทั้งศพก็หายไปด้วย

พออ่านถึงตอนนี้

หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองหานแส

การเปลี่ยนอันใหญ่หลวงครั้งนั้น คาดว่าคงจะเป็นช่วงเวลาที่หานแสถูกพิษกู่จิ้นในครั้งยังเยาว์วัย ซึ่งในเวลานั้นคนในชนเผ่าก็ถูกสังหารไปถึงครึ่งหนึ่ง

แต่พอมองเห็นสีหน้าที่นิ่งเฉยของหานแส ดวงตากำลังอ่านหนังสือทำเนียบบรรพชนอย่างจดจ่อ

หลานเยาเยาก็ยักไหล่อย่างไม่สนใจ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือทำเนียบบรรพชนต่อ

หลังจากนั้นราชวงศ์เก่าก็ถูกโค่นล้ม ราชครูเองก็หายสาบสูญ เรื่องราวของชาวหยินไห่ก็เงียบลง แต่ในตอนนี้เป็นเพราะตราหยกของราชวงศ์เก่าจึงทำให้ชาวหยินไห่ได้กลับมาปรากฏตัวต่อสายตาชาวโลกอีกครั้ง

พอไปๆมาๆในชนเผ่าก็มีประมุขเผ่ารวมกันทั้งสามคน แล้วคนสุดท้ายก็คือท่านพ่อของฮัวหยู่อัน โดยที่ประมุขเผ่าทั้งสามคนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆทางสายเลือดกันเลย

นับตั้งแต่หลังจากที่ท่านพ่อของฮัวหยู่อันเสียชีวิตอย่างแปลกประหลาด สิบกว่าปีมานี้ก็ไม่มีประมุขเผ่าอีกเลย โดยเหตุผลของมันคือสิ่งใดก็ไม่มีผู้ใดทราบถึง

แต่ในหนังสือทำเนียบบรรพชนมีกระดาษหลายแผ่นถูกฉีกออกไป ในกระดาษที่ขาดหายไปนั้นคงจะเป็นเรื่องการบันทึกในช่วงเวลาที่ท่านพ่อของฮัวหยู่อันดำรงตำแหน่งประมุขเผ่า

หลังจากที่ทั้งสองอ่านจบ ก็พากันนิ่งเงียบไปชั่วขณะ

สิ่งที่พวกเขาอยากรู้ ในหนังสือทำเนียบบรรพชนกลับไม่ได้ถูกบันทึกไว้เลยแม้แต่น้อย

แต่ในทางตรงกันข้าม ราชครูในราชวงศ์เก่ามักปรากฏอยู่ในหนังสือนี้ตลอด โดยที่เขาได้รับทั้งการเคารพบูชาและปกป้องดั่งเทพเจ้าจากทุกคนในชนเผ่า

สิ่งนี้จึงทำให้หลานเยาเยารู้สึกอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับราชครูในราชวงศ์เก่าท่านนี้เป็นอย่างยิ่ง

เพียงแต่ว่า !สิ่งที่ใจนางอยากรู้มากที่สุดก็คือยาถอนพิษกู่จิ้น จึงทำให้ในใจนางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

” น่าแปลกยิ่งนัก เหตุใดในหนังสือทำเนียบบรรพชนถึงไม่มีการบันทึกเรื่องการมีอยู่ของคนโดนมนต์ดำกัน? ”

ถ้าหากจะกล่าวว่าเมื่อคราก่อนไม่มีคนโดนมนต์ดำ ดังนั้นในหนังสือทำเนียบบรรพชนจึงไม่ได้มีการบันทึกไว้ เช่นนั้นก็ยังพอสมเหตุสมผล แต่ในระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้มีคนโดนมนต์ดำปรากฏให้เห็นโดยที่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงครั้งสองครั้ง แต่กลับไม่มีการบันทึกไว้ สิ่งนี้ถือว่าไม่สมเหตุสมผลนัก

“หึ! เรื่องสกปรกเช่นนั้นจะถูกบันทึกลงในหนังสือทำเนียบบรรพชนได้อย่างไรกัน ? ”

สำหรับการบันทึกในหนังสือทำเนียบบรรพชน หานแสรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงขนาดรู้สึกรังเกียจเลยก็ว่าได้

” ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าวันนี้พวกเราไม่ใช่ว่าจะเสียเวลาเปล่าโดยมิได้สิ่งใดเลย”

” สิ่งที่เจ้าหมายถึงคือ ? ” หานแสหันไปมองนางในทันที

” การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงเมื่อสิบห้าปีก่อน เหตุใดจึงมีการบันทึกเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเล่า? ไร้ซึ่งต้นเหตุ มีเพียงบทสรุป ดังเช่นศพจำนวนมากที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยแต่ไม่มีผู้ใดไปค้นหาหรือบันทึกไว้เลย และยิ่งทำให้รู้สึกประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ เหตุใดถึงได้มีผู้ที่จงใจฉีกหน้าบันทึกเรื่องราวของท่านพ่อฮัวหยู่อันในหนังสือทำเนียบบรรพชนด้วย? ”

แท้จริงแล้ว!

การสังหารหมู่ครั้งใหญ่เมื่อสิบห้าปีก่อนนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งประมุขเผ่า

แต่สิ่งนี้ก็เป็นเพียงสิ่งที่ผู้คนภายหลังได้บันทึกไว้ ทั้งยังเป็นการบันทึกในช่วงเวลาจังหวะหนึ่งเท่านั้น

สามารถพูดได้หรือไม่ว่า ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นแท้จริงแล้วมีการบันทึกสาเหตุและบทสรุปเอาไว้ เพียงแต่มีผู้ที่ไม่อยากให้เรื่องราวที่แท้จริงปรากฏ

” ที่เจ้าพูดก็คือ กระดาษไม่กี่แผ่นที่ถูกฉีกไป มีการลงบันทึกเกี่ยวกับยาถอนพิษ ”

“นี่คือสิ่งที่เป็นไปได้มากยิ่ง อีกทั้งในเวลานั้นเจ้าได้รับน้ำปรโลก แล้วยังผ่านการสังหารหมู่ครั้งใหญ่อีกด้วย ”

ทันทีที่กล่าวถึงเรื่องการสังหารหมู่ สีหน้าของหานแสก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หึ ! ตอนนี้กล่าวถึงเรื่องพวกนี้แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่า? ”

ในเมื่อมีผู้ที่จงใจฉีกทิ้งไป เช่นนั้นก็พูดได้เลยว่ากระดาษไม่กี่แผ่นนั้นคงจะถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว

” ผู้ใดว่าไร้ประโยชน์กันเล่า? ” หลานเยาเยาตอบกลับ พร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้า

“หืม? ” หานแสไม่เข้าใจ

หลานเยาเยาไม่ได้ไขข้อข้องใจของเขาในทันที แต่กลับเดินไปยังเตียงนอนมองดูผู้อาวุโสใหญ่

ก่อนหน้านี้เพียงมอบธูปหลับใหลให้ผู้อาวุโสใหญ่เท่านั้น แต่ดูจากตอนนี้แล้วคงจะต้องทำให้เขาสลบไปเลยถึงจะได้

แล้ว ! หลานเยาเยาก็กำมือขึ้นมาราวกับตีไปยังท้ายทอยของผู้อาวุโสใหญ่ หลังจากรอจนเขาสลบไป นางถึงค่อยหันไปยังหานแสพลางค่อยๆอธิบาย

“ในหนังสือทำเนียบบรรพชน นับตั้งแต่หลังจากที่ท่านพ่อของเสี่ยวฮัวสิ้นไป สิ่งที่บันทึกในหนังสือนั้นคงจะเป็นเหล่าผู้อาวุโสเป็นผู้ลงบันทึก ส่วนเรื่องคนที่โดนมนต์ดำก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเห็น เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพวกเขานั้นมีความหวาดกลัวต่อคนโดนมนต์ดำเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่ได้บันทึกเรื่องเหล่านี้ในหนังสือทำเนียบบรรพชน เช่นนี้ก็สามารถทราบได้เลยว่าพวกเขารู้ความจริงบางอย่างอยู่เป็นแน่ พวกเราเพียงพาตัวของผู้อาวุโสใหญ่ไป จากนั้นก็ทรมานเค้นให้เขาสารภาพออกมา คิดว่าเขาจะไม่ยอมเอ่ยสิ่งใดออกมาบ้างรึ? ”

สำหรับเรื่องการทรมานเค้นความจริงนั้น ถึงแม้หลานเยาเยาจะไม่ชำนาญนัก แต่นางก็ยังคงมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก

ยาพิษที่ตัวนางเองคิดค้นขึ้นมา รับรองได้เลยว่าไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้แน่นอน !

“นับว่าเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม!”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท