หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่223 ที่นี่คือสวรรค์บนดิน?

บทที่223 ที่นี่คือสวรรค์บนดิน?

บทที่223 ที่นี่คือสวรรค์บนดิน?

แม้เย่แจ๋หยิ่งจะส่งสองคนที่เขาไว้ใจมากที่สุดมาปกป้องหลานเยาเยาแล้วเป็นยังไง?

ถ้าไม่มีเขา หลานเยาเยาตอนนี้ก็เหลือแต่กระดูกแล้ว

อ้อไม่

ถูกงูเหลือมยักษ์กลืนไปทั้งเป็น สุดท้ายแม้แต่กระดูกก็อาจไม่เหลือ

“ช่างทุ่มเทจริงๆ!”

เขาพูดประโยคนี้นิ่งๆ

เห็นได้ชัดว่าประโยคนี้มันก็เป็นคำชม แต่เมื่อออกจากปากของหานแส มันกลับมีความรู้สึกเย้ยหยัน

“เจ้าพูดอะไร?”

มีคนบอกว่าเจ้านายไม่ดี นั่นมันได้หรือ จื่อซีจึงโกรธทันที

ไม่ว่าจะใครหน้าไหน ก็ไม่สามารถมาพูดได้ว่าเจ้านายไม่ดี

“เฮอะ ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าเขาทอดทิ้งหลานเยาเยา และยังแสร้งทำเป็นส่งคนไร้ประโยชน์สองคนมาปกป้อง กำลังทำอะไรอยู่?

คงไม่ได้คิดว่านางยังมีค่าอยู่บ้างใช่ไหม ถึงต้องให้นางไม่คิดถึงเขาตลอด?”

หานแสยกมุมปาก พูดต่อว่า:

“ดูตอนนี้ เจ้าคิดว่าจะพึ่งพวกเจ้าให้มาปกป้องนางที่ไม่มีอะไรเลยได้หรือ?

น่าขัน ถ้าไม่ใช่เพราะข้ายื่นมือไปช่วย ตอนนี้นางคงไปรอย่อยอยู่ในท้องของงูเหลือมยักษ์แล้ว

แล้วเย่แจ๋หยิ่งหล่ะ? ไม่รู้ว่าไปมีความสุขที่ไหน!”

พูดจบ!

หานแสก็ชายตามองจื่อซี ส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ย

“นั่นไม่ใช่ เจ้านายเขา……”จื่อซีต้องการแก้ต่าง

“จื่อซี”

จื่อเฟิงที่อยู่ข้างๆตัดบทจื่อซีที่ต้องการจะพูด “อย่าตกกับดักเขา”

“เฮอะ!”

จื่อซีสะบัดแขนเสื้อ หันหัวไปข้างๆ

เขาคิดว่าหานแสต้องการจะยุยงความสัมพันธ์ของเจ้านายกับพระชายา ดังนั้นถึงได้แค้นเคือง ต้องการออกหน้าแทนเจ้านาย

คิดไม่ถึงว่า ที่หานแสยุยงนั้น ก็เป็นการแอบหยั่งเชิงเจตนาที่แท้จริงของเจ้านายด้วย

เขาเกือบจะถูกหลอกแล้ว!

เมื่อแผนการไม่สำเร็จ หานแสก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางจัดแจงเสื้อผมที่ยุ่งเหยิง

“หลอกไม่ง่ายเลย น่าเบื่อจริงๆ”

จากนั้นเขาก็มองไปทางหลานเยาเยา แต่กลับพบว่าหลานเยาเยาไม่ได้สนใจพวกเขาเลย

หลานเยาเยาตอนนี้ได้สังเกตสถานการณ์ภายในถ้ำแล้ว

ในถ้ำนั้นไม่ได้มืดสลัวนัก ดูเหมือนกับยังมีแสงสว่างอ่อนๆ อีกทั้งยังมีลม

นี่ก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่า ถ้ำนี้ยังมีทางออกอื่นอีก

หลานเยาเยามั่นใจในข้อนี้

แต่ว่า……

ทางออกมันจะนำไปสู่ที่ไหน?

แต่สถานที่อันตรายนี้ต้องไม่ใช่ดินแดนในฝันแน่ สถานที่ที่สามารถทำให้สัตว์กลายพันธุ์หวาดกลัวได้ จะต้องน่ากลัวกว่าสัตว์กลายพันธุ์แน่

“ทำไมหล่ะ? ไม่พักก่อนเสียหน่อยหรอแล้วค่อยไปรนหาที่ตาย?”

เมื่อเห็นหลานเยาเยาจะยกเท้า หานแสก็พูดเสียงเย็น

เอ่อ······

หลานเยาเยาแทบจะลืมไปว่าพวกเขาเพิ่งหนีมาในถ้ำ ยังไม่ได้พักเลย

นางไม่เหนื่อยเพราะหานแสพานางบินตลอด คนที่เหนื่อยก็คือหานแสกับจื่อซีจื่อเฟิง นางแค่รับหน้าที่ตกใจ กับขยับสมองเล็กน้อยเท่านั้น

“ไอหยา!ข้าเหนื่อย! พักเสียครู่แล้วค่อยไปเถอะ!”

ก็ได้!

หานแสเป็นคนที่จะตายแล้วก็ต้องรักษาหน้าตา คาดว่าเขาน่าจะต้องเหนื่อยจนแทบสำลักถึงได้พูดแบบนี้ออกมา อีกอย่างเขาไม่ลงรอยกับจื่อซีจื่อเฟิงมาก แน่นอนว่าเขาต้องไม่อยากให้พวกเขาสบประมาทเขา

แล้วทำไมหลานเยาเยาต้องช่วยเขาหล่ะ?

มีหลายเหตุผล ประการแรก หานแสช่วยชีวิตเขา นี่เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้

ประการสอง คนเยอะก็มีกำลังเยอะ อีกทั้งหานแสเป็นคนที่เก่งที่สุด กล่าวอีกนัยคือ ในเวลาแบบนี้หานแสไม่สามารถขัดใจได้เด็ดขาด

ถ้าเพราะมีเวลาพักไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เขาไม่พอใจนาง และถ้าครั้งหน้าเจออันตรายจะต้องบินอีก คาดว่าเขาจะไม่ใจดีอีก

“พระชายา ท่านเหนื่อยแล้วรีบพักเสียหน่อยเถอะ ข้าน้อยจะคุ้มกันท่านเอง”

จื่อซีที่กระตือรือร้นกับนางมาตลอด ไม่สนว่าจะด้วยสาเหตุใด ไม่สนว่าตนเองจะเหนื่อยจนแทบสำลัก ก็เป็นคนแรกที่ยืนขึ้นระมัดระวังมองนอกถ้ำ แล้วบอกให้นางพักผ่อนดีๆ

“ข้าแค่ต้องการโรยผงยารอบๆพวกเรา ไม่ว่าแมลงตัวใหญ่หรือตัวเล็กก็จะไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้ง่ายๆ เจ้าก็พักผ่อนดีๆเถอะ!”

สำหรับความปลอดภัย

หลานเยาเยาเอาใจใส่มากกว่าใครๆ

พูดถึงอันตราย นางรู้สึกว่าในถ้ำอันตรายกว่าข้างนอกเยอะ ดังนั้นนางจึงให้ความสนใจกับอันตรายในถ้ำมากกว่า

หลังจากโรยผงยาแล้ว นางยังตั้งใจเพิ่มยาที่มีกลิ่นฉุนเข้าไปอีกหน่อย

ทำให้สัตว์ที่อยู่ข้างในและข้างนอกถ้ำเข้ามาใกล้ไม่ได้

หลังจากหยุดพักไปครู่นึง

เมื่อเห็นหานแสลุกขึ้น นางก็รู้ว่าเขาพักผ่อนได้ที่แล้ว ดังนั้นจึงรีบลุกขึ้น

“ที่นี่มีผงยาอยู่มาก พวกเจ้าโรยเอาไว้บนตัวเพื่อกันไม่ให้งู มด แมลง หนู เข้าใกล้”

หลังจากส่งให้จื่อซีกับจื่อเฟิง

หลานเยาเยาก็มาตรงหน้าหานแส แล้วเอาผงยาให้เขา แต่หานแสกลับชายตามองนาง

“เจ้าต้องการให้ข้าเอาผงยากลิ่นเหม็นนี่มาโรยไว้บนตัว เจ้าคิดว่ามันได้หรือ?”

พูดจบ

เขาก็หยิบผงยาไปแล้วโรยกระจายๆบนตัว

“······”

เอาเถอะ!

จะทำเป็นไม่ได้ยินแล้วกัน

หลังจากจิบชาแล้ว พวกเขาสี่คนก็เดินไปทางส่วนลึกของถ้ำ

ในถ้ำมีแสงสว่างอ่อนๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะมองเห็นสภาพแวดล้อมรอบๆ ถ้าเหยียบไปโดนอะไรน่ากลัวเข้า นั่นก็อันตรายแล้ว

ไม่รู้ว่าจื่อเฟิงเก็บกิ่งไม้มาจากไหน เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วพันไว้ที่หัวของกิ่งไม้แล้วจุดไฟ ทำเป็นคบเพลิงแบบง่าย

เขากับจื่อซีเดินข้างหน้าสำรวจทาง หลานเยาเยากับหานแสเดินตามหลังมา

เมื่อมีคบเพลิง พวกเขาสามารถเห็นสัตว์กลายพันธุ์ขนาดเล็กจำนวนมากอย่างเลือนราง สัตว์เล็กพวกนั้นอาศัยอยู่ในที่มืดและชื้น

อย่างเช่นค้างคาวที่ผอมอย่างแปลกประหลาด แมงมุมที่บาดตาทำคนตกใจ มดหลากหลายสีสัน······

หลังจากที่เห็นแสง

พวกมันไม่เพียงแต่จะไม่หลบ ยังคิดจะโจมตีพวกเขาอีก

แต่พอหลังจากได้กลิ่นฉุน ก็หนีแตกออกไป

เมื่อเห็นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่แอบด่าตัวเองว่าโง่

ถ้าได้โรยผงยาไว้บนตัวแต่แรก ก่อนหน้านี้จะได้ไม่ถูกเหล่าสัตว์กลายพันธุ์ไล่อย่างน่าเวทนา

หานแสที่ดูเหมือนรู้ว่านางคิดอะไรอยู่

หลังจากที่มองนางอย่างดูถูก ก็เอาผงยาที่เหลืออยู่ในมือนิดหน่อยเช็ดๆไปบนตัวอีกครั้ง

หลานเยาเยาอดกระตุกมุมปากไม่ได้

คนนี้นี่นับวันยิ่งดูบ้าคลั่ง นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี

ถ้ำนี้จะว่ายาวก็ยาว จะว่าสั้นก็สั้น เดินไปสักพักก็เดินมาถึงทางออกอีกทางหนึ่ง

ทันทีที่เดินออกจากถ้ำ

ก็มีความรู้สึกเหมือนเห็นแสงอาทิตย์อีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนมีภาพลวงตาที่หลงเข้าไปในแดนสวรรค์

สิ่งที่สะท้อนเข้าไปในม่านตาของพวกเขา มันเหมือนดินแดนในฝันในสวรรค์

เนินเขาเขียวขจี ทะเลสาบเล็กๆที่น้ำใสแจ๋ว ดอกไม้เล็กๆหลากหลายสี และยังมีท้องฟ้าเมฆขาว หมอกบางๆ······

เมื่อเห็นทิวทัศน์สวยงามเช่นนี้ หลานเยาเยาแทบจะหลงทาง

ว้าว!

สวยมาก

เป็นสวรรค์บนดินจริงๆหรือ?

แต่ประโยคแรกที่นางพูดกลับเป็น······

“ที่นี่ยังมีอุกกาบาตอีกไหม?”

สภาพแวดล้อมสวยงามเกินไป จนทำให้หลานเยาเยารู้สึกว่ามันเหลือเชื่อ

ดังนั้นความคิดแรกของนางก็คือนึกว่ามีอุกกาบาตทำให้เขาเห็นภาพหลอนอีก

“ผีพุ่งไต้ถูกเจ้าทำลายไปแล้ว”

อุกกาบาต?

มักจะได้ยินคำว่าอุกกาบาตสามคำนี้จากปากหลานเยาเยา แม้เขาจะไม่รู้ความหมายของชื่อ แต่กลับรู้ว่าสิ่งที่หลานเยาเยาพูดก็คือผีพุ่งไต้

“งั้นสถานที่นี้ของจริงหรือ?”

ตอนแรกนางคิดว่าที่นี่จะเป็นเขาแห้งแล้ง พุ่มไม้เตี้ยมีหนามหนาแน่น มีดินดำแนวหินโสโครก แม้แต่โทนสีก็จะเป็นสีเข้มๆ

แต่คิดไม่ถึงเลยสักนิด··

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท